By : thaicarpenter.com
ที่มารูป : ร้านพี เค ไม้-ฟิตติ้ง
การจะเริ่มทำงานไม้ สักงานก็เหมือนการทำงานช่างที่อยู่ในกระบวนการผลิตทั่วไป อยากจะแนะนำทั้งวิชาการ และประสบการณ์ ผสมผสานเข้าด้วยกัน เริ่มด้วยนำหลักวิชาการเข้ามาช่วยที่จะบอกถึงปัจจัยในการผลิตหลักๆนั้น มีด้วยกัน 4M
- Man ก็คือผู้ที่จะทำการผลิต ซึ่งจะเป็นผู้จับทุกปัจจัยการผลิตมาผสมผสานเข้ากัน และเป็นคนที่ทำให้เกิดชิ้นงานนี้ขึ้น โดยชิ้นงานจะดีมากน้อยอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับทักษะของผู้ปฎิบัติงานนั่นเอง ทักษะนั้นได้มาจากการหาความรู้จากแหล่งต่างๆ และทดลองมานำจริง อาจจะไปอบรมหรือดูช่างทำแล้วก็มาลองทำด้วยตัวเอง การได้รู้ได้เห็นและนำมาลองปฏิบัติก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติมีทักษะเพิ่มขึ้นตามลำดับ
- Machine เครื่องจักร งานไม้นั้นมีเครื่องมือ ที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นจำนวนมาก งานไม้ชิ้นใดจำเป็นต้องใช้เครื่องมือใดบ้าง ที่จะผลิตงานนั้นๆให้ได้ตามความต้องการ เครื่องมือทันสมัยก็สามารถทำงานได้เร็วกว่า คุณภาพดีกว่า แต่ก็ต้องควบคู่กับทักษะของเราด้วยเช่นกัน อาจจะใช้เครื่องมือขั้นพื้นฐาน แต่ก็จะเสียเวลามากขึ้น ก็ต้องพิจารณากันตามความเหมาะสม หากได้รู้จักเครื่องมือในงานไม้และรู้วิธีการทำงานของเครื่องมือนั้นๆ ก็จะเป็นประโยชน์ที่จะเลือกใช้ต่อไป
- Materail วัตถุดิบ ที่ต้องใช้เหมาะสมกับที่เราจะเสาะหามาได้เพียงใด เหมาะกับการใช้งานมากน้อยอย่างไร เช่นไม้ที่อยู่ Out Door ก็ควรอยู่ในตระกูลเนื้อแข็ง ที่สามารถทนต่อสภาพอากาศ แดด ฝนได้ดี หรือการเลือกใช้อุปกรณ์ก็มีหลายแบบที่เราจะเลือกใช้ เช่นบานพับ ก็มีให้เลือกใช้ตั้งหลายแบบ มีทั้ง บานพับผีเสื้อ บานพับถ้วย บานพับซ่อน ฯ การใช้ติดตั้งกันต่างกันไป ถ้าเรารู้ถึงคุณสมบัติของวัสดุ-อุปกรณ์นั้นๆแล้ว เราก็สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับงานที่เราต้องการเช่นกัน
- Method วิธีการ เทียบกับศักยภาพที่เรามี ประสบการณ์ และการเลือกใช้ เช่นแค่รูปแบบการยึด จะเลือกเข้าเดือย จะอัดเกลียวปล่อย หรือแค่ตอกตะปู ก็ย่อมได้ทั้งนั้น วิธีการนั้นสามารถหาได้จากแหล่งความรู้ทั่วไป หนังสือ เว็บไซต์ ฯลฯ แต่ที่สำคัญคือจะต้องถูกถ่ายทอดออกมาในลักษณะที่สามารถนำไปทำงานได้จริง วิธีการควรเน้นให้เหมาะสมกับความต้องการและคำนึงถึงความเป็นไปได้ให้มากที่สุด
ต่อไปนี้เป็นการตั้งโจทย์แบบง่ายๆ ขอยกตัวอย่าง Model งานสักชิ้น เช่นโต๊ะไม้ ที่เห็นมาจากรูปในนิตยสารฉบับหนึ่ง ถูกใจเลยอยากจะเอามาทำใช้เองสักตัว ก่อนอื่น เราต้องถอดแบบง่ายๆด้วยลายเส้น เป็น Drawing ของเราเอง เป็นรูปง่ายๆที่เราเข้าใจ เสียก่อนกำหนดขนาด กว้างยาว และสูง ตามที่เราต้องการหรือให้เข้ากับพื้นที่ที่เรามีอยู่(แต่อย่างน้อยควรรู้หลักการออกแบบเครื่องเรือนเบื้องต้นเสียก่อน เช่น ความสูงโต๊ะโดยทั่วไปนั้น มาตรฐานอยู่ที่ 75 ซม. หรือถ้าเป็นพวกไม้อัด ตัดขนาดเท่าไรดีจึงไม่เหลือเศษ เป็นต้น) เมื่อได้รูปแบบและขนาดมาแล้ว จึงมาสู่ลำดับต่อไป
มาสู่ขั้นตอนการลงมือทำ
1.Break Down ชิ้นส่วนทั้งหมดเสียก่อน ว่ามีชี้นส่วนใด ขนาดเท่าใด ถ้าทำเป็นแบบที่เราเข้าใจได้ทุกชิ้นส่วนได้ยิ่งดี
2.ออกแบบโครงสร้าง ว่าเราจะประกอบอย่างไร มีขั้นตอนการทำอย่างไร แน่นอนว่ามักจะต้องมีการประกอบย่อย จากชิ้นส่วน(Part)ข้างต้นทั้งหมดแล้วค่อยประกอบไล่ขึ้นมา จนกระทั่งไม่มีชิ้นส่วนใดจะประกอบได้แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการประกอบทั้วตัว (Assembly) อันนี้ก็แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละท่าน หรือช่างแต่ละคนก็มีวิธีการทำที่แตกต่างกันไป แต่ตอนจบก็ได้งานออกมาหน้าตาเหมือนกัน เช่น บางท่านก็ประกอบแผงขาซ้าย-ขวา ขึ้นมาก่อน แล้วจึงค่อยประกอบเป็นแผงยาว ต่อด้วยการประกอบหน้าโต๊ะ บางท่านเลือกที่จะประกอบพนังเข้ากับหน้าโต๊ะก่อน แล้วจึงเลือกประกอบขาในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งก็จะต้องมีการไล่ประกอบชิ้นส่วนเล็กขึ้นมาเช่นกัน ในหัวข้อนี่คือการกำหนดโครงส้างงานทั้งตัว เป็นหัวใจของงานทั้งชิ้น อยากจะแนะนำหลักการคิดก็คือ พยายามมองงานหรือชิ้นส่วนให้เป็นกลุ่มๆ ประกอบกันขึ้นมาเป็นแผงหรือชุดเล็กๆก่อนเสมอ
![](https://www.thaicarpenter.com/images/column_1218032902/IMG_0296.JPG)
เมื่อสามารถเลือกวัตถุดิบ(Materail)ได้แล้ว ว่าจะใช้ไม้อะไร ที่ชิ้นส่วนไหน และการเลือกอุปกรณ์ตัวจับยึด(Fitting)อะไรได้แล้ว ก็จะมาสู่กระบวนการต่อไปคือ
3.การลงมือทำ คือการนำเอา 3M (Material - Machine&Method)มาผนวกเข้าด้วยกัน ตามประสบการณ์ ทักษะและเครื่องมือที่มีอยู่ของแต่ละบุคคล(Man) จะเห็นว่าทุกอย่างจะสอดคล้อง และเป็นเรื่องเดียวกัน ถ้าคุณรู้ว่าคุณจะทำอย่างไรกับขั้นตอนนี้ คุณก็จะเลือกใช้เครื่องมืออย่างถูกต้อง ดังนั้น การมองภาพรวมๆตั้งแต่เริ่มตัดไม้ชิ้นแรก จนขึ้นรูปชิ้นส่วนทุกชิ้น มาประกอบย่อย(Semi Assembly) และประกอบสุดท้าย เป็นสิ่งที่คุณควรจะวางแผนในใจมาแล้ว ถ้าไม่มีตรงนี้งานไม้ที่หวังไว้อาจจไม่เสร็จ หรือถ้าเสร็จก็อาจจะไม่ได้คุณภาพตามความที่ต้องการ
![](https://www.thaicarpenter.com/images/column_1218032902/IMG_0268.JPG)
ดังนั้น หากจะทำงานไม้สักชิ้น ถ้าเรามีความพร้อมทั้ง 4M กล่าวคือ รู้ศักยภาพตัวเรา (Man) รู้ว่าจะเลือกใช้ วัตถุดิบ(Materail) ไม้และอุปกรณ์ อะไร โดยศึกษา เห็นมามากพอ เพื่อที่จะนำมาเป็นข้อมูลในการเลือกใช้ อุกรณ์แต่ละตัว เช่นอยากทำบานเลื่อน บานเลื่อนมีให้เลือกหลายชนิด ทั้ง แบบแขวน แบบตั้งกับพื้น การรับน้ำหนักบานมีหลากหลายแบบ รางที่ใช้หลากหลายแบบ ทั้งรางอลูมิเนียม เหล็ก และพลาสติก แม้ล้อที่รับน้ำหนักเท่ากัน ก็มีคุณภาพและราคาต่างกันไปอีก ล้อมีแบบมีลูกปืนและไม่มีลูกปืน ทั้งหมดนี้คือการเลือกใช้ชนิดของอุปกรณ์ที่แล้วแต่จะเลือกให้เหมาะสม รวมถึงการเลือกใช้2M(Method&Machine)อย่างไรให้สอดคล้องกัน ถ้าหากยี่งเราได้รู้ได้เห็นและได้ลงมือปฎิบัติงานไม้มากๆ ยิ่งทำให้มีประสบการณ์ และจะสามารถทำงานไม้ได้อย่างมั่นใจ และต้องเน้นความปลอดภัยก่อนเสมอ
![](https://www.thaicarpenter.com/images/column_1218032902/IMG_0273_resize(1).jpg)