
 |
นี่คือลักษณะปกติก่อนใส่ดอกเร้าเตอร์ |
 |
หัวจับดอกเร้าเตอร์ จะเป็นเหมือนหัวน็อตตัวหนึ่ง ที่มีช่องสำหรับใส่แกนดอกเร้าเตอร์ ปกติคือขนาด 1/2 นิ้ว (12.7มม.)
ปกติถ้าหมุนเข้าจะยิ่งแน่น หมุนถอยออกมาจะหลวม เราจึงหมุนถอยออกมาจนสุด และถอดออกมาดูภายในกัน
|
 |
เมื่อถอดออกมา ดูที่ก้นของรู จะเป็นช่องอากาศ ลึกลงไปกว่า2นิ้ว นั่นหมายถึงแกนดอกที่ยาวก็จะยิ่งลงไปภายในได้มากพอ
และขอบในจะเอียงหรือมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กลง เป็น Taper เพื่อทำให้หัวจับ(ในภาพด้านล่าง) ถูกกดลงก็จะยิ่งถูกบีบให้เล็กลง ดังนั้นแกนของดอกเร้าเตอร์ก็จะถูกบีบจนแน่นนั่นเอง
|


|
แต่ แม้ว่าจะลึกไปมากเท่าใด ก็ไม่มีประโยชน์ ก็เพราะระยะของตัวหัวจับนั้น มีระยะเพียงไม่เกิน1นิ้ว หรือประมาณ 7หุน(22มม.) เป็นระยะจับที่เพียงพอแล้ว(อย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า18มม.)
เมื่อเราถอดตัวหัวจับภายในออกมา เป็นตัวที่จับสัมผัสโดนดอก มีลักษณะเอียง Taper ที่ภายนอก รอบๆมีชอ่งอากาศที่สามารถให้ก้านจับนี้ หดตัวได้เมื่อผ่าน Taper จากการอัดน็อตจากด้านบนลงมา สีกับขอบของรูในภาพด้านบนที่ถูกคว้านให้เอียงเป็น Taper ด้วยเช่นกัน
มาถึงตรงนี้ คงเข้าใจการทำงานของหัวจับดอกเร้าเตอร์กันแล้ว ว่าสาเหตุที่ทำให้ดอกยิ่งแน่น ก็เพราะตัวหัวจับมีลักษณะเอียง ยิ่งไขหัวจับเข้าในทิศทางตามเข็มนาฬิกา(เมื่อมองหันหน้าเข้าหาตัวเครื่อง) หรือจำง่ายๆว่าหมุนสวนกับทิศทางของคมดอกคาร์ไบด์ของดอกเร้าเตอร์ ก็จะทำให้ดอกแน่น หรือเมื่อจะคลายดอกออก ก็หมุนตามกับคมของดอกเร้าเตอร์ จะเป็นการทำความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
|


|
เทคนิคการตั้งระยะความลึกในการใส่ดอก
อาจใช้ แหวนยาง (O-ring ) ขนาด 1/2นิ้ว หรือเล็กกว่า เป็นตัวตั้งระยะ จากระยะที่เราหาได้จากภาพด้านบน เราก็นำมาเป็นระยะในการตั้งความลึก ในที่นี้เราใช้ประมาณ 20มม. (ระยะโคนดอกจนถึงบ่าแหวน)
ตามรูป

|
 |
จากนั้นจึงมาใส่เข้ากับหัวจับ ดันให้แหวนยางชนพอดีขอบหัวจับ |
 |
แล้วจึงไขให้แน่น พอตึงๆมือ
ปกติแล้วทิศทางการหมุนเมื่อเปิดเครื่องจะสวนทางกับการหมุนเข้า กล่าวคือจะทำให้หัวจับหมุนแน่นขึ้นเสมอ
เทคนิคการหมุนนี้ จำง่ายๆว่า เมื่อหมุนสวนกับทิศทางของคมดอกคาร์ไบด์ของดอกเร้าเตอร์ ก็จะทำให้ดอกแน่น หรือเมื่อจะคลายดอกออก ก็หมุนตามกับคมของดอกเร้าเตอร์ จะเป็นการทำความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
|
ภาพและบรรยายโดย : อนุชิต thaicarpenter.com