ReadyPlanet.com


หุ้นไทย เม.ย. 'ไซด์เวย์' ไร้ข่าวบวก
avatar
Nancy Lu


ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (1เม.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงทำจุดสูงสุดที่ 1,600.60 จุด แต่ย่อตัวในช่วงท้ายตลาดกลับมาปิดที่ 1,595.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด หรือ 0.50% มูลค่าซื้อขาย 76,941.15 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,047.51 ล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 593.70 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 289 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศขายสุทะ 1,930.21 ล้านบาท

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชาผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี เปิดเผยว่า หุ้นไทยปรับตัวขึ้น เนื่องจากขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลดีจีพีดีโลกปรับตัวดีขึ้นซึ่งหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกระจายหลายกลุ่มที่ราคาหุ้นปรับฐานไปก่อนหน้า และหุ้นที่ราคาขึ้นไม่มาก เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ

ทั้งนี้บริษัทประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือน เม.ย.2564 คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ (ไซด์เวย์) ในกรอบ 1,550-1,620 จุด เนื่องจากแวลูเอชันหุ้นไทยที่ตึงตัว, มีวันหยุดหลายวัน, เป็นช่วงของการขึ้นเครื่องหมาย XD, สถิติ10 ปีที่ผ่านมา พบว่าหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นได้เฉลี่ย 1% รวมถึงไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น

เพราะปัจจัยเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจที่เตรียมจะออกมาอีกนั้น ได้สะท้อนในราคาหุ้นไปแล้ว เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ และมาตรการยิ่งใช้ยิ่งได้คืน ฯลฯ แต่หากมีปัจจัยบวกใหม่ เช่น ราคาน้ำมันขึ้นแรงหนุนกลุ่มพลังงาน ก็จะส่งให้ดัชนีมีโอกาสปรับตัวเกินแนวต้านที่บริษัทประเมินไว้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกลงทุนในหุ้นที่ปรับฐานลงมาในช่วงก่อนหน้า และหุ้นที่ราคายังปรับตัวขึ้นไม่มาก ในกลุ่มดังนี้ คือ กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว (สตอรี่) เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เตรียมจะประกาศงบไตรมาส 1 ปี 2564 ซึ่งคาดว่ากำไรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน และบอนด์ยิลด์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้นก็จะส่งดีกับกลุ่มแบงก์, กลุ่มพลังงาน ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้ที่สูงขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศดีขึ้น เช่น ยุโรป และไทย โอเปกคงกำลังการผลิต

และกลุ่มค้าปลีก ที่จะได้ประโยชน์หากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคหากมีการประกาศออกมา “ยิ่งใช้ยิ่งได้” และยอดขายเดือน เม.ย.นี้จะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จากมาตรการล็อกดาวน์

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า หุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งตอบรับความชัดเจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์มากขึ้น ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้บอนด์ยิลด์สหรัฐยังคงปรับตัวสูงขึ้น และเรื่องการขึ้นภาษีนิติบุคคลของสหรัฐ คาดว่าจะยังไม่ขึ้น เพราะหากจะมีการจัดเก็บนั้นหุ้นสหรัฐต้องปรับตัวลงแรงแต่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐไม่ได้ปรับตัวลงแรง แต่ถือเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา

ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยเดือน เม.ย.คาดว่าจะไซด์เวย์ เนื่องจากแวลูเอชันตลาดหุ้นไทยขณะนี้ถือว่าสูงแล้วทำให้โอกาสปรับตัวขึ้นยาก แต่ก็จะไม่ลงแรง เพราะเม็ดเงินสภาพคล่องของนักลงทุนนั้นมีสูง ทำให้หุ้นที่ปรับตัวขึ้นกระจุกตัวในหุ้นขนาดกลางและขนาด และจะเปลี่ยนกลุ่ม หรือ ตัว เล่นวนไป

โดยมองกรอบดัชนี ที่ 1,500 -1,620 จุด เน้นลงทุนหุ้นแวลู 5 กลุ่ม คือแบงก์ รถยนต์ เกษตร รับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง และประกัน, กลุ่มส่งออกอาหาร รวมถึงหุ้นที่จะเข้าดัชนี MSCI และ SET50

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ยังเป็นขาขึ้นได้และมีโอกาสไปแตะจุดสูงสุดของทั้งปีได้เช่นกัน จากปัจจัยหนุนภายในประเทศเป็นหลัก ทั้งเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตต่อ สถานการณ์โควิดคลี่คลายมีการกระจายวัคซีน ภาครัฐผลักดันการลงทุนมากขึ้น

รวมถึงปัจจัยภายนอกต่างประเทศ ทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐของโจ ไบเดน วงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ กระตุ้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐและโลกฟื้นตัวอย่างมั่นคง และยังเสริมให้ฟันด์โฟลว์ไหลออกจากสหรัฐมายังเอเชีย แต่ปัจจัยเสี่ยงที่มีโอกาสทำให้ตลาดหุ้นแกว่งตัว ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 จะกลับมาอีกหรือไม่ ภาวะภัยแล้งสงครามการค้า

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า จากผลการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์และผู้จัดการการลงทุนถึงแนวโน้มการลงทุนไตรมาส 2 ปี 2564 ทิศทางปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีราคาหุ้นไทย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,580 จุด และเพิ่มเป้าดัชนีสิ้นปี ปี 2564 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,629 จุด ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์ไว้ ณ สิ้นไตรมาส 1 ซึ่งอยู่ที่ 1,559 จุด เพราะคลายกังวล เรื่องโควิด-19ระบาด และปัจจัยทางการเมืองในประเทศ

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ Nancy Lu (lucasjojo20-at-outlook-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2021-04-02 09:24:06


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.