ReadyPlanet.com


สมมตินะครับ สมุติว่า ...
avatar
อยากเล่า


- ผมทำงานระดับริหารในองค์ใหญ่มาก การคำนวนวางแผนทุกอย่างละเอียด Tasks Timeline ต่างๆ เปะๆ

- แต่ผมเบื่องาน ผมชอบงานบิ๊ว งานก่อสร้าง เรียกว่างานอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องเป็นพนักงานบริษัท (จริงๆ แล้วชอบจริงๆ เรื่องงานบิ๊วงานแต่งบ้าน งานแต่งสวน .... คือ มีรถสองคัน ไม่เคยแต่งรถ ล้างปีละครั้ง 555 เรียกว่าเฉยๆๆๆ โครตๆ เพื่อนมันแต่งนั่นแน่ตลอกแต่ผมเฉยตลอด แต่กับบ้าน กับสวน ไม่เคยหยุด เรียกว่าถึงขั้นขุดดิน แบกปูด ปาดปูน ทุกอย่าง)

- ผมศึกษาเรื่องบิ๊วอินวัศดุต่างๆ ตลอดเวลาตั้งแต่งานขึ้นรูปไม้ ขัด โป๊ว สี ทุกขั้นตอน ช่วยช่างทำด้วย

- เคยจะรับงานและจะสนับสนุนเงินทุน เครื่องมือ ดิวงานให้ ทำตลาดให้ แต่เห็นความรับผิดชอบแล้ว ไม่เสี่ยงดีกว่า (โครงการหมู่บ้านเพิ่งขึ้นไม่กี่หลัง ได้รับนะรวยเละ (หรือเปล่า 555) 

- เคยรับเหมาไฟฟ้า ออกรถให้ลูกน้องเพื่อนเลย ลูกน้องจ่าย น้ำไฟ ค่าน้ำมัน อาหาร เงินเบิกได้ ปรากฎ ไม่เวิร์ค มันสบายไป คนเรามันชอบ ลำบาก ตอนนี้ไปรับค่าแรง สามสี่ร้อยก็เอา

...... เห็นมีแต่คนมาบ่น เพื่อนโกง หุ้นส่วนโกง มีงานมีฝีมือแต่ขาดหุ้นส่วนที่ซีอตรง คิดเป็น

 คุณคิดว่าถ้าผมออกจาก แล้วหาหุ่นส่วนในนี้ หรือหรือหาช่างเก่งๆ ให้โกอาศก้าวหน้าเติบโต จะมีโอกาสที่ ช่างดีๆ หรือหุ้นส่วนดีๆ จะมีดวงสมพงษ์กันกับผมใหม .... ผมว่าผมมีทุกอย่างนะ แต่ขาดแค่คนที่มองเห็นโอกาสแค่นั้นเอง บ้านมีให้อยู่ รถมี เงินมีให้เบิก ลูกน้องมีให้พร้อม กำไรแรกๆ ไม่ขอแบ่ง สร้างคนสร้างทีให้ได้ ค่อยแบ่ง แบกภาระเองหมดเงินทำงานประจำเป็นสายป่านให้ ... มาแต่หำ แล้วมันยังไม่เอากันอีก เฮ้อ

เห็นบ่นกันเหลือเกิน ทุนไม่มี ไม่มีเงิน ไม่มีโอกาส มันหลายครั้งหลายคราแล้วสำหรับผม ผมว่านี่แหละทำมันคนที่มันจนๆๆๆๆ แล้วก็จนๆๆๆๆ ถึงจนๆๆๆ ต่อไป (ไม่ได้ว่าใครนะ ขนาดพี่น้องเองยังเป็นเลย)

 

..... ที่พิมพ์มานี่ ไม่ใช่อะไร เห็นมาทุกคนทุกวงการ เหมือน คนส่วนพวกนี้จะไม่เคยโคจรมาพบกันเลย หรือคนมัน เลวทั้งสองแล้วมากมาหาว่าอีกคนเลว  หรือว่ามันมีคนที่ดี กับ คนที่เล้วจริงๆ ได้ตายเถอะ

(ผมใจกว้าง ใจดีมาก ขนาดช่างมาทำงานมันคำนวนค่าเดินทางค่านู่นนี้ แล้วเถียงกันผมยังเพิ่มให้เลยหมื่นบาทฟรีๆ  หรือผมใจดีไป ช่างไม่ไลค์ ไม่ท้าทาย)



ผู้ตั้งกระทู้ อยากเล่า :: วันที่ลงประกาศ 2014-09-05 13:54:53


1

ความคิดเห็นที่ 1 (3008065)
avatar
จอมโกง

 ฮ่า.... จริงปล่าครับ

ผมมีงาน หรือ คอนแทคลูกค้าเยอะ ส่วนมากเป็นบริษัทระดับ ๆ ต้นๆ ของไทย ไม่โม้

แต่หาแหล่งทุนไม่ค่อยได้  น่าสนใจ คุณอยากเล่า มาก ๆเยย

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จอมโกง วันที่ตอบ 2014-09-05 16:02:37


ความคิดเห็นที่ 2 (3008071)
avatar
อยากเล่า

....  คุณจอมโกง ครับ หวังว่าคงมีโอกาสได้ร่วมงานกันเด้อ 555 .... ปัญหาหลักเลยแหละ เบื้องต้นความเชื่อใจกัน เริ่มแรกเอาแบบตรงๆ มันเชื่อใจกันยากมาก ไม่เรื่องเงินทองก็เรื่องงานว่าจะตั้งใจให้มุ่งมั่นมั้ย .

.. เพื่อนผมโครตเก่งเทพทั้งนั้น สายใกล้ๆ กันนี่แหละ สื่อสาร ก่อสร้าง ไฟฟ้า ตกแต่งพวกอินทีเรีย นี่โดนเสนอเป็นประจำ เขียนแบบ แกะแบบกันเทพๆ รับจ๊อบกันมา เจ้งบ้งทุกราย .... งานพวกนี้ต้องเต็มตัว ต้องออกมาลุยให้รู้หมู่หรือจ่า แต่ที่เห็นรวยๆ ไปซื้อไร่หลายสิบไร่ที่ปากช่อง เลี้ยงหมาฝรั่งตัวใหญ่ๆ เป็นสิบๆ ตัว บ้านเบ่อเริ่ม ก็พวกออกไปทำเองทั้งนั้น หรือไม่งั้นก็เพื่อนที่จบ ปวช หรือไม่จบห่าไป ทั้งนั้น ....

- ดังนั้นผู้รับเหมาที่ทำกันนานๆ จนสามารถ Sub ไปให้รายย่อยที่ไว้ใจจนวัวเคยขาม้าเคยขี่นี่น้อยมาก คนที่ได้ก็โชคดีไปเลย

- ส่วนกรณีผมนี่เริ่มจากเพื่อน เพื่อนของเพื่อน คนรู้จัก หาดีไม่ได้ซักคน ประเภทอยากตื่นมารวยเลย มันต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

 

... ผมพูดจริงๆ นะจากที่เล่ามาผมพยายามเยียบเรือสองแคม พยายามบอกแผนการเหตุผล ว่าผมจะทำงาน Support ขอให้ทำกันดีๆ บริหารคนดีๆ สร้าง skills คนดีๆ ปีหนึ่งอยู่ตัวผมจะออกมาก แต่ที่ผ่านมาไม่เกิน สามเดือนซักที ... ผมถึงไม่กล้าออกจากงานมาทำเต็มตัวซักที .... บางครั้งคิดเล่นๆ อยากลาออกมาลุยเต็มตัวดื้อ ตายเป็นตายเจ้งเป็นเจ้ง 555 ไม่ติด คุณแฟนกับญาติๆ ละก็ฮึ่ม

....  คุณจอมโกง ... งานมี คอนเน็คชั่นมี  ทุนน่ะเรื่องรองเลย ไม่ได้ว่ามีเงินสดมากมาย แต่ว่าพอหาได้ไม่ติดขัดแน่นอน ผมว่าทุกท่านก็รู้เรื่องนี้ดี เงินนี่โครตเรื่องรองเลย แต่เรื่องใหญ่คือ

.... คน ลูกน้อง ก็คือ Skill กับความรับผิดชอบ คุณมีสองอย่างนี้ จบ (ถ้างานไม่ระดับ ร้อยล้านพันล้านนะ นี่ก็โปรเจ๊คใหญ่เกินตัวไป)

ปล. คุณอาจจะมีทุกอย่าง แต่ได้ทำงานใหญ่ไม่มีวิธีหรือหลักบริหาร ไม่ว่าเรื่องเวลา คน เงิน เจ้งไม่เป็นท่าก็เจอมาเยอะแล้ว ขนาดเงินเข้าหลายล้านต่อเดือนนะ  .......

ผู้แสดงความคิดเห็น อยากเล่า วันที่ตอบ 2014-09-05 17:14:40


ความคิดเห็นที่ 3 (3008075)
avatar
จอมโกง

 ฮาา..  ฮาไอ้ตรงอยากตื่นมารวยนี่แหละครับ

 

ผมเข้าใจหลักการ รับเหมา ว่ากำไรมันต้องสะสมไปงานต่องานไปเรื่อย เหมือนระบบ บริษัท นั่นคือ แบ่งกำไรกันสิ้นปี ส่วนหนึ่ง อีก ส่วนหนึ่ง จับ

เป็นทุนร่วมกันต่อไป ง่ายคือ บริหารระบบบริษัทนั่นแหละครับ โตต่อเนื่องแบบค่อยๆมั่นคง ม่ายช่ายเสร็จ 1 งาน กะรวยทันที

บางคนอยากให้หางานกำไรทีต้องมากว่าเท่านั้นเท่านี้ งานที่แล้วคุยๆไว้ ผมบอก เหลือๆ 5 แสน ( งานประมาณ 3.8 ล้าน ) แกบอก ถ้าไม่ได้ 

กำไร 7.5 แสน ไม่ต้องทำ ฮ่วยๆๆ เสียดายอิบอ๋าย ต้องไปบอกลูกค้าว่าขอบาย ไม่วาง ( ทั้งที่นั่งตบยุงอยู่ที่บ้าน )

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จอมโกง วันที่ตอบ 2014-09-05 21:16:08


ความคิดเห็นที่ 4 (3008088)
avatar
dusit_thp

 มีคนแบบนี้ด้วย หรือ 555 แนวความคิดใช้ได้เลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น dusit_thp (dusit_thp-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-09-06 14:27:02


ความคิดเห็นที่ 5 (3008176)
avatar
เก่ง Worarit Furniture

ผมนั่งอ่านมา 2 รอบ  ขอเล่าบ้าง  จากใจช่างบ้าน ๆ ที่เน้นผลงานมากกว่ากำไร  แต่ถ้าขาดทุนก็ไม่ไหวนะ     

           ผมโตมากับไม้แต่เด็ก  บ้านเป็นช่างกันหมด  ทั้งงานไม้ชิ้นเล็ก ๆ บิ้วอิน ลอยตัว จนทำบ้านทั้งหลัง  ตอนเด็ก ๆ ผมถูกบังคับให้ทำงานไม้  ทำงานเหมือนคนงาน ทั้ง ๆ ที่เป็นลูกเจ้าของ  ทำงานตั้งแต่จำความได้  ตัดไม้ ไสไม้ ขัดไม้  ผมเรียนจากประสปกาณ์จริง  จากช่าง จริง ๆ  แม้ไม่ได้จบมาด้านนี้  ผมก็ทำทุกอย่างที่จนพูดได้ว่าสร้างบ้านเองได้โดยไม่ต้องจ้างช่าง     เอาแค่คนงานทำตามคำสั่งได้ก็พอ   วันหยุดไม่เคยมี  การบ้านไม่เคยได้เอามาทำที่บ้าน 

          จนผมโตผมเคยตั้งใจว่าผมจะไม่ทำงานไม้  งานเกี่ยวกับช่างแบบนี้อีก  ผมก็ไปทำงานเป็นพนักงานบริษัท  เปลี่ยนไปหลายที่  หลายอย่าง  ทำมาหมด  ตั้งแต่รากหญ้า จากเงินเดือนละสองพัน จนเงินเดือนเดือนละ หลายหมื่น  แล้วก็ไปสมัครเป็นทหาร  งานสุดท้ายที่ทำคือ เป็นเจ้าหน้าที่สำรวจข้อมูลภาคสนาม พูดง่าย ๆ คือทำแผนที่ gps ไปทั่วประเทศ  ทำแผนที่มาเกือบ 50 จังหวัด  นอนโรงแรมมานับไม่ถ้วน  ชีวิตเดินทางตลอด 2 ปี แต่ก็ลาออก  เพราะไม่ชอบรูปแบบการบริหาร  เหมือนเราเป็นแค่เบี้ยหรือหมากตัวนึง  ที่เค้าจะสั่งให้ไปไหน ทำอะไรก็ต้องไป  แต่พวกท่านบริหาร  ท่านเคยรู้ไหม  ว่าชีวิตจริง  มันไม่ได้ง่ายแบบที่คุณคิด  มันมีปัจจัยหลายอย่าง  ตัวแปรต่าง ๆ มีมากมาย  ถ้าเค้ารับฟังกันบ้างคงจะพาองค์กรพัฒนาไปได้เร็ว  แต่ถ้าผู้บริหารไม่ฟังเลย  คิดแต่วางแผน ให้ลูกน้องเดินตาม  ต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้  วันนี้ต้องเสร็จ  ต้องได้  ชีวิตมันคนไม่แน่นอน  ผมเลยลาออก  คิดอยู่เป็นเดือนก่อนลาออกว่าจะทำอะไร  ก็มาเจอเว็ปนี้  เป็นเว็ปที่จุดประกายผมขึ้นมาอีกครั้ง  โดยเฉพาะ อ.เอ๋ ช่างธง พี่เบิร์ด  ผมเข้ามานั่งอ่าน กระทู้  เข้ามาดูทุกวัน  บ่อย ๆ พอ ๆ กับเล่น facebook  ผมเลยกลับมาทำงานไม้อีกครั้ง  

        งานแรกผมก็ทำโต๊ะจิ๋ว เก้าอีกจิ๋ว  ทำเล่น ๆ ช่วงวันหยุด  แล้วเอาไปขายตามถนนคนเดิน  แล้วก็เริ่มรับงานสั่งทำ  รับงานดิบมาทำสี  รับทำเคาน์เตอร์  ทำโต๊ะ  ทำเตียง  ผมทำคนเดียว อยู่ 6 เดือน  จนงานเริ่มเยอะขึ้น  แรก ๆ บอกเลยว่าผมมีเครื่องมือแค่ไม่กี่ชิ้น  ลงทุนตอนนั้นจำได้ว่ายืมเงินพี่ชายมา 1 หมื่นสองพันบาท ได้ปั้มลม แม๊กเดี่ยว แม๊กคู่ เลื่อยวงเดือนและทริมเมอร์  รับงานราคาไม่ถึงหมื่น  ทำแล้วขาดทุนตลอด  เพราะผมไม่เคยรับงานเอง  เคยแต่ทำให้ฟรี ๆ ทำงานเป็นรายวัน   พอเหมาเองเลยตีราคาไม่ถูก  จะตีแพงก็สงารเค้าเกรงใจเค้า  กลัวเค้าไม่จ้าง และยังไม่มั่นใจในฝีมือตัวเองพอ  ผมรับงานราคาถูกมากแทบไม่มีกำไร  แต่ผมทำงานเน้นผลงานมาก่อนไม่ได้  เน้นกำไรเป็นหลัก  ก็ต้องหาหยิบหายืม จนตอนนี้ผมมีหนี้ อยู่ สามแสนกว่าบาทที่ยืมมาลงทุน  ซื้อเครื่องมือ  ทำงาน  รับงาน  ฝึกวิชาและฝีมือ  จากวันที่ผมเริ่มทำ มูลค่าของที่ผมรับ ราคาหลักร้อยต่อชิ้นรวมยอดขายเดือนนึงไม่ถึงหมื่น    จนตอนนี้ผมรับงานบิ้วอินด้วย  ยอดราคา หลังแสนปลายๆ   แต่ก็ยังไม่พอ 

       งานมีเข้ามาเยอะมาก  เงินก็ไม่พอหมุน   อย่างที่บอกผมยืมมาตั้งแต่เริ่ม  ขายรถยนต์  ขายมอไซด์มาซื้่อเครื่องมือ มีลูกน้อง 5 คน  ทำงานตั้งแต่ 9 โมง จนถึง 4 ทุ่ม บางวันถึงตี 2-3 แต่ลูกน้องผม  ผมรับสมัครเอง เป็นงานไม่เป็นงานผมรับหมด  ผมสอนได้  แต่ต้องผ่านบททดสอบของผมก่อนผมถึงจะจ้าง  การทดสอบของผม  ไม่ยากนะใครจะยืมไปใช้ก็ได้  รับงาน ผมมีเรทให้ ไม่เป็นงานเลยเริ่มที่ วันละ 250 พอทำได้ 300 เป็นงาน 350 ปล่อยได้ 400 เข้างาน 9:00-18:00 ถ้าเกินถึง 21:00ให้โอที 100 บาท ถ้าถึงเที่ยงคืนเป็น 150   แต่ส่วนใหญ่เริ่มที่ 250  อาทิตย์แรกก็รู้แล้วว่าเค้าผ่านหรือไม่  คือ วันที่เราสัมภาษณ์  คำถามแรกผมจะถามว่าทำงานเพื่ออะไร  คนเราถ้ามาทพำงานมันต้องมีจุดหมาย  เพื่อเงิน  เพื่อวิชา  เพื่ออะไรก็แล้วแต่  ผมบอกหมดว่าผมทำงานยังไง  เน้นผลงงาน  มากกว่าเงิน  ขอให้ตั้งใจ  ไม่เป็นผมสอนให้  อยู่กับแบบพี่แบบน้อง  เรียนรู้ไปด้วยกัน  อยู่ที่ว่าจะรับได้แค่ไหน  แต่รับรองผมสอนหมดทุกอย่าง วันแรกของเด็กใหม่  ส่วนใหญ่จะเป็นงาน ขัดไม้  โป๊สี ทั้งวัน 2-3 วัน โดยให้เด็กเก่าที่เป็นงานทำคู่กัน  ดูจำนวนงานที่ได้  ต้องไม่ต่างกันเกินไป อาทิตย์แรก  จะเลิกงานเกินเวลา  เพราะผมจะบีบให้เด็กใหม่ทำงานให้ทันเด็กเก่า   และเป็นการทดสอบความอดทนและตั้งใจด้วย    ไม่จ่ายโอทีให้ด้วยเพราะเป็นเด็กใหม่   แต่ถ็ไม่ถึงขั้นบังคับนะ  แค่ผมจะบอกว่า  ในหนึ่งวัน ผมทำได้กี่ชิ้น  เด็กเก่าทำได้กี่ชิ้น  แล้วเด็กใหม่ต้องได้กี่ชิ้น  ผมไม่เน้นว่าจะเข้างานออกงานกี่โมง  จะพักตอนไหนก็ได้  แต่ตอนเย็นงานที่มอบหมายให้ไปต้องได้และผ่าน  ถ้าไม่ผ่าน  ก็ต้องมีเหตุผล มีคนมาสมัครทำกับผมหลายสิบคน  แต่ตอนนี้มีอยู่ แค่ 5 คน เพื่อนผม 1 น้องชาย 1 ที่เหลือเป็นลูกน้องที่รับสมัครเข้ามาและทำงานได้ตามที่ผมรับมอบหมาย 

       แต่ปัญหามันก็เยอะขึ้น  คนยิ่งเยอะ  ปัญหายิ่งเยอะ  งานยิ่งราคาสูง  ปัญหาก็จะเยอะสูงตาม  เพราะเราไม่ได้ทำเอง  ไม่ได้ทำคนเดียว ปัญหาหลักเลยสำหรับผม  คือ เงินหมุน วัสดุ  ลูกน้อง  และเวลา  เพราะงานสั่งทำหรืองานบิ้วอิน  มันเป็นงานที่เราไม่เคยทำ  หรือไม่ได้ทำทิ้งไว้และไม่เคยทำซ้างานเดิม  ทำให้ควบคุมได้ยากมาก  ทั้งต้นทุน  ค่าแรง  และเวลา  ปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ  ฝนฟ้าอากาศ  วัสดุขาดตลาด  แบบไม่เคลียร์  ลูกค้าไม่รู้เรื่องงาน  จะเอาดีและถูกอย่างเดียว  สุดท้ายคือลูกน้อง

เงินหมุน  ต้นทุน  - ผมไม่มีเลย  เพราะผมยืมมาตั้งแต่แรก  ตอนนี้ก็ติดลบ  ยังแก้ไม่ได้

วัสดุ  พื้นที่ที่ผมอยู่  ไม่ค่อยมีร้านขายอุปกรณืเกี่ยวกับงานไม้  จะซื้อต้องไปถึงบางโพ / ตอนนี้ผมแก้โดยพยายามหาเซลล์หรือร้านส่ง  สั่งของโอนเงิน  แล้วให้เค้าส่งมา

ลูกน้อง - หยุดบ้าง  ขาดบ้าง  ทำงานเสียหาย  ปล่อยไม่ได้  ทำงานช้ากว่าที่กำหนด  งานไม่ดีเท่าที่ควร / ต้องสั่งงานและหมั่นตรวจสอบ  ทวนคำสั่ง  ตรวจงาน เช้าเย็น  งานเสียต้องจ่ายค่าของเองโดยหักจากเงินเดือน  ทำงานช้าหรือแก้งาน  ก็เลิกดึกไม่มีโอที

เวลา - ส่วนใหญ่รับงาน ลูกค้าจะบอกว่าไม่เร่ง   พอจ่ายเงินเท่านั้นแหละ  เปลี่ยนคำพูดเลย  เมื่อไหร่จะเสร็จ  กี่วันเสร็จ  ผมเลยต้องเผื่อเวลาการทำงานเข้าไปเพิ่ม  จากปกติคำนวนใว่าใช้เวลาทำจริงๆ ทำ 10 วัน  บวกเผื่อ ฝนฟ้าอากาศ  ลูกน้อง วัสดุ ปัญหาอื่น เป็น 15 วัน  บวกอีก 5 วันเผื่อแก้งาน 

        แต่อย่างที่บอก  งานสั่งทำหรืองานบิ้วอิน  มันเป็นงานที่ไม่ค่อยได้ทำแบบเดิมกหรือทำซ้ำ  เป็นงานที่ทำทิ้งไว้ไม่ได้  ไม่มีอะไรแน่นอน  ช่างที่จะรับงานต้องมีฝีมือ  ประสปการณ์  มีความเข้าใจในงาน  มีความรู้มากพอ  แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้  ที่สำคัญ  ต้องเตือนตัวเองเสมอ  ว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้  งานแบบนี้ ไม่มีคำว่าถูกต้อง 100%  ไม่มีคำว่าแน่นอน  ไม่มีวิธีไหนที่จะถูกหรือใช่ทุกอย่าง  มันขึ้นอยู่กับงาน  กับวัสดุ  กับแบบ และกับลูกค้า  ช่างแต่ละคนวิธีก็ต่างกัน 10 คน 10 อย่าง  แต่ผลลัพท์ต้องเป็นแบบเดียวกัน  แต่สำหรับผม  ผมจะให้ลูกน้องทำตามวิธีของผมให้หมด  แม้เค้าจะเคยทำแบบไหนมาก็ตาม  เพราะผมคิดว่า ผมลองมาหลายแบบแล้ว  ผมเลือกจะเลือกวิธีที่ดีที่สุด  เร็วที่สุด  ปลอดภัยที่สุด  โอกาศเสียหายน้อยที่สุด และที่สำคัญคนอื่นสามารถสานต่องานกันได้  เพราะใช้รูปแบบเดียวกัน  แต่ผมก็รับฟังความคิดเห็นนะ  เอามาทดสอบเองก่อน  ถ้ามันดีกว่ารูปแบบเดิมผมก็จะเปลี่ยนทั้งหมด  แต่ถ้าไม่ดีก็ใช้รูปแบบ ขั้นตอนการทำงานแบบเดิม  ผมทำงานตั้งแต่เช้าจนดึก  เลิกงานมาผมก็มานั่งเขียนแบบเอง  ศึกษา หาความรู้  วิธีการใหม่ ๆ เครื่องมือใหม่ ๆ และแบ่งปันความรู้ให้ผู้อื่นด้วย   เพราะงานฝีมือแบบนี้  มันต้องตามสมัยให้ทันปรับปรุงรูปแบบ วิธีการ  วัสดุ  เครื่องมือ  ทำให้เร็ว  ให้ถูกใจลูกค้า  ด้วยวิธี  และอุปกรณ์สมัยใหม่  แต่ก็ยังคงต้องศึกษาแบบสมัยเก่าเพื่อเอาไว้แก้ปัญญางานที่แบบสมัยใหญ่แก้ไม่ได้  

    ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ  ถ้าใครที่คิดจะทำงานไม้หรือรับเหมางาน  คิดให้ดี  ถ้าคิดว่าชอบก็ทำเลย  ได้ไม่ได้มันอยู่ที่ตัวเรา  ว่าใจเราจะทนได้แค่ไหน  แก้ปัญหาได้กี่ครั้ง  ผมบอกเลยไม่มีงานไหนทำแล้วราบรื่นหรอก  มีปัญหาให้แก้ตลอด  บางทีแก้ไปแล้ว ก็ต้องแก้อีก  อย่าท้อถ้ายังไม่สุด ๆ จริง ๆ มันเป็นบททดสอบ  เหมือนแบบฝึกหัด  ถ้าเราผ่านมันไปได้  เราก็จะได้ skill ที่สูงขึ้น  เก่งขึ้น     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เก่ง Worarit Furniture (worarit2529-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-09 03:00:21


ความคิดเห็นที่ 6 (3008222)
avatar
จขกท

จริงๆ แล้วก็ไม่โทษพวกลูกน้องนะ ถ้ามันคิดเป็นมันก็ไม่มาเป็นลูกน้อง คิดแบบเถ้าแก่มันก็คงรุ่งไปแล้ว ... ผมมีน้องคนหนึ่งตอนไปรับงานไฟฟ้า ทำอยู่สองเดือนกว่าดีมากมากขยันอดทน จบ ปวส ให้เพื่อนส่งลงมาให้จาก ตจว นิสัยใจคอได้ทุกอย่างเรียกว่าลูกน้องในฝันเลย เหล้าไม่กินบุหรี่ไม่ดูด ... ส่งไปทำงาน (ตอนนั้นผมทำงานประจำ วันไหนไม่มีงานวางท่อไฟฟ้า ผมก็ให้ไปทำกับน้าชายเพื่อน ... มันขุดดินวางท่อทางเข้าหมู่บ้านขยันมาก (ที่บ้านไถนาทำนาช่วยพ่อแม่) ... น้าชายเพื่อออกปากขอไปอยู่ด้วยเลย 5555 ผมบอก อย่าหวังเลย 555  ส่วนอีกคนที่ไปด้วยกัน ขุดไปด้วยนั่งเล่นไปด้วย เหนื่อยใจไม่สู้

.... ผมนี่กะปั้นเลยวางแผนสร้างคน สร้างทีมงาน เรื่องเงินทองแผนการรับเหมา คำนวนต้นทุนเวลา ต่างให้น้องมัน 

.... สุดท้ายคนมันมีหัวคิด มีหัวก้าวหน้า  มันไปสมัครไปญี่ปุ่นกับกรมแรงงาน แล้วเค้าเรียกตัวไปอบรม 3 เดือนก่อนไปมันมาขอโทษผมว่าไม่ได้ตั้งใจ ... ผมเลยบอกมันไปว่าโอกาสชีวิต***มาแล้ว กูไม่รั้ง***ไว้หรอก ไปได้ดีแบบนี้ก็โอเค ... แต่ก็เสียดาย

.... แล้วที่เค้าเรียกตัวไปอบรมไม่ว่าจะผ่านได้เลยนะ เค้ามีสอบทุกอาทิตย์แล้วคัดออก สอบไม่ได้ตอบเกณคัดออกเกือบ 50 % แต่มันได้ครับ ตอนนี้อยู่ญี่ปุ่น กลับมาเมืองไทยเงินเดือนขั้นตั้นคงไม่ต่ำกว่า 5 หมื่น

.... จะบอกว่า ลูกน้องดี ทีมงานดี มีประสิทธิภาพมีชัยไปกว่าครึ่งแถมเราไม่เหนือยด้วย ... ผมเคยบอกทุกคนตอนอยู่กับผมว่า พวก***ทำให้ดีทำให้เก่ง มีหัวคิดทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวกูส่งเสริมแยกทีมเลย รวยเองไปเลย แต่ต้องช่วยกูก่อนตามคิด หัวหน้าไม่อยู่ตัว พวก***จะรอดได้งัย มันเรื่องธรรมชาติ เป็นลูก มือ เป็นหัวหน้า แล้วเป็นเถ้าแก่

..... เชื่อเปล่าบางคนแม่มเดือนละแสนกว่า ผมโชว์ค่าแรงต้นทุนให้เลย พวกมันยังไม่เอา บอก***จะเอาเท่าไหร่ว่ามาเล่ย กูยังไม่ต้องแบ่งก็ได้ขอไม่ขาดทุน เบื้องต้นกูต้องการสร้างทีม สร้างความเสถียรก่อน มีทีมงานกูเยอะแยะปัญเดียวกูไม่มีคน ... คอนเน็คชั่นมี รถมี เครื่องมือมี บ้านมี เงินสำรองลูกน้องมี .... มันบ่น ไม่คุ้ม  โอ้ยงานเคี่ยว โอ้ย นั่นนี่ นู่น .... ตะกวดอะไรก็ไม่รู้ มาแต่หำเสื่อบ่นไม่คุ้ม ... กูนี่ต้องบ่นคำนี้กูตะหากเป็นคนหมดหลย สุดท้ายพวกมันก็มีชีวิตเหมือนเดิม

 

คนมีแววนะ มันมองภาพงานเป็นภาพรวมทั้งหมด แล้วจะมานั่งคิดวางแผนว่าจะทำยังงัยให้ทำได้เร็วได้สวย

... ตัวอย่างนะ งานไฟฟ้า เดินท่อ ร้อยสาย บ้าน 100 หลัง คิดว่าทำงัยจะให้เร็ว

- ตัดทอ่ วาง แล้วก็ย้ายไปอีกจุด ตัวท่อแล้วก็วาง ....

- งานร้อยสาย ตัดสาย ร้อยท่อ แล้วไปอีกจุด ร้อยท่อตัดสาย

..... ปล. คิดเอาเองแล้วกันว่าทำงัยจะให้เร็ว ต้องวางแผนเตรียมตัวแบบไหนสำหรับบ้านที่มี ระยะ จุด ต่างๆ เหมือนกันหมด  ที่จะต้องไม่ต้อง มานั่งตัดท่อ ร้อยสายอยู่ตลอดเวลาทำงาน ......... ผมทำมาแล้ว ..... เอาเป็นว่าเราเป็นหัวหน้าเป็นเจ้าของเงิน เราคิดต่างจากพวกมันมาก ..... แต่อย่างที่บอกผมไปได้แค่เสาร์ อาทิตย์ จัน - ศุกร์ ทำงานประจำ

    

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จขกท วันที่ตอบ 2014-09-09 14:41:27


ความคิดเห็นที่ 7 (3008225)
avatar
จขกท

คุณจอมโกงครับ

- งานประมาณ 3.8 ล้าน หมายถึงต้องใช้เงินเราทั้งหมด support เท่าไหร่ หรือเบิกเป็นงวดจากเข้าของงาน งวดละเท่าไหร่

- ถ้าเป็นเงินเราทั้งหมดจนงานจบ ... บอกได้เลยถ้าคนๆ นั้นไม่ไปนั่งกินนอนกินกับคุณและลูกน้องคุณจนรู้ใจคงน้อยคนที่จะกล้างลงทุนด้วยเงินขนาดนี้

- ถ้าคนอยากทำงานใหญ่ใช้ทุนขนาดนี้ คุณต้องเริ่มจากงานเล็กก่อน แล้วเก็บเงินเป็น 5 แสน 1 ล้าน 2 ล้าน 3 ล้านไปเรื่อย (เป้าหมายภายใจกี่ปีขึ้นอยู่กับคุณ) หลังจากนั้นงานใหญ่ตามงบประมาณหรือสายป่านที่คุณมีก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เงินใหญ่ก็ต้องเอาทุนใหญ่ต่อ .... ผมยังย้ำนะครับว่าเงินระดับหลายแสนหลายล้านถ้าไม่ทำความรู้จักจนสนิทจริงๆ มีคนร่วมทุนยากครับ (ยกเว้น contract เป็นชื่อเค้า)

 

หรือไม่งั้นก็ ... คนที่เค้าจะร่วมทุน ถ้าเค้าเป็นนักลงทุนมันจะมีคำว่า ROI คือความคุ้มจากการลงทุน เช่น ลงทุนแสนถ้ากำไร ห้าหมื่น ถือว่าได้กำไร 50 % ก็คุ้มหน่อย แต่ถ้าลงทุน 3.8 ล้านได้กำไร 5 แสน ในทางลงทุนเค้าถือว่าไม่คุ้มเสียง อีกอย่างขาดข้อมูลเรื่องเวลาด้วย เช่น 3.8 ล้าน ทำเดือนกว่า สองเดือนเสร็จ กำไร 5 แสนก็คุ้มเพราะใช้เวลาไม่นาน  (ไม่มีข้อมูลว่าคำนวนค่านุ่นนี่นั่นขาดยัง) ....

นี่พูดในแง่ของหาคนร่วมทุนนะ .... แต่ถ้าเป็นเงินเราเองคุมเองทำงานเอง 1- 2 แสน ก็โอเค แต่อย่างลืมนะถ้าจ้างลูกน้องรายวัน กำไรจะหดไปตามนั้น

.....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จขกท วันที่ตอบ 2014-09-09 15:13:13



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.