ผมเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์ตรง  เคยแต่งานเฟอร์ งานเลื่อยแปรรูปนี่ไม่เคยหน้างาน ได้แต่เดินผ่านๆ

แต่รู้มาคร่าวๆว่า(บวกกับทฤษฎี) สาเหตุที่แตกก็คือไม้เสียความชื้นอย่างรวดเร็ว การนำไปแช่น้ำ(อาบน้ำอย่างว่า) ก็จะทำให้ไม้ค่อยๆคืนตัว

จากการขาดน้ำเลี้ยง และไม้ที่เลื่อยแล้วมักจะแตกที่หัวไม้ เขาจะเอาสีมาทา ก็เพราะหัวไม้มีการระบายความชื้นได้ง่ายกว่าด้านอื่น

เคยเห็นตามโรงงานเขาช่วย สเปรย์ไม้ ให้รักษาความชื้น    ตามบ้านเราแต่ถ้าจะเลื่อยเลยเห็นแตกกันทุกราย คือเลื่อยเสร็จผมว่าน่าจะแช่น้ำไว้ก่อน หรือหุ้มพลาสติกไว้น่าจะช่วยได้

แล้วทาสีที่หัวไม้ช่วยอีกทาง 

ไม้สดๆ หนุ่มๆสาวๆ  เอาไปทำอะไรสักพัก เดี๋ยวก็หด...ตัว  ยังว่าแหละ ยังไม่เข้าที่เข้าทาง  ต้องใช้เวลาคร๊าบบบ

ขอบคุณ คุณอนุชิต ที่ช่วยอธิบาย ขอถามเพิ่มอีกนิด ถ้าไม่แช่น้ำแล้วจะเลื่อยแปรรูปเลยได้ไหม

เมื่อเป็นแผ่นแล้วจะแตกหมดทุกแผ่นเลยหรือไม่แล้วจะเหลือที่พอใช้งานได้บ้างหรือป่าว

เพราะว่าตอนนี้ตัดไปแล้วประมาณ 500 ท่อนยาวท่อนล่ะ 6 เมตรจะเลื่อยขนาด ไม้หน้า 3 x 1 " 4 X 1 "

ส่วนปีกไม้จะทำเป็นฝาบ้านความยาวคงต้องขึ้นอยู่กับสภาพไม้ว่าแต่ล่ะแผ่นจะยาวได้ซักเท่าใด

เคยติดต่อโรงเลื่อยค่าแรงแพงมากๆเลยต้องดิ้นรน (ไม่รู้ว่าจะดิ้นทุรนทุลายหรือป่าว)

ที่จะแปรรูปเอง แล้วลงทุนเครื่องมือพอจะแนะนำได้ไหมว่าควรจะเลือกเลื่อยแบบใดที่ราคาพอลงทุนไหว

แล้วที่ร้านมีเครื่องเลื่อยประเภทแบบนี้หรือไม่ ขอบคุณค่ะ