|
รวมเทคนิคการใช้กาพ่นสี | |
sornid | ส่วนใหญ่แล้วมือสมัครเล่นอย่างผมมือทำชิ้นงานเสร็จแล้วก็มักจะใช้วิธีการทำสีด้วยแปรงเพราะจำนวนงานมันน้อย แค่ชิ้นสองชิ้น จะใช้วิธีการพ่นก็เปลือง และต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่าง แต่ที่สำคัญคือไอ้ตอนล้างอุปกรณ์การพ่นสีนี่ละครับยุ่งยากไปซักนิด ยิ่งถ้าใช้สีน้ำมัน หรือสีแห้งช้าละก็เหนื่อยหน่อยกับชิ้นงานแค่ชิ้นเดียว แต่ถ้าเราจับงานไม้และชอบมันเข้าแล้ว การพ่นสีจึงเป็นเรื่องจำเป็นเสียแล้ว ประมาณว่าไม่รู้ไม่ได้แล้ว หรือจะรู้แบบงูงูปลาปลา ก็คงไม่ดีนัก งานนี้ผมจึงต้องทำการศึกษาหาความรู้มันสักหน่อย จำได้ว่าเมื่อก่อนเคยลองพ่นสีฝากระโปรงรถเอง และเคยเรียนรู้ด้วยตัวเองบ้างนิดหน่อย และคิดว่าหลักการน่าจะเหมือนกัน จึงกลับไปเอาตำราเก่า และรวบรวมจากเรื่องราวต่างๆและตำราต่างๆที่พอมี รวมถึงเรื่องราวที่พวกพี่ๆมืออาชีพทั้งหลายพูดคุย แชร์กันในเวปนี้มาประติดประต่อกัน ตามแต่จะพอเข้าใจได้ ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดหรือการเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ ก็ขอให้พี่ๆมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่น ที่มีความรู้ทั้งหลายคอยมาชี้แนะ และติเตียนได้น่ะครับ พอดีว่าจะต้องพ่นสีบานประตูและหน้าต่าง และคิดว่าจะเอาสีพ่นอุตสาหกรรมมาพ่นซะกะหน่อย เนื่องจากมันแห้งเร็วและน่าจะทำงานสีได้เร็วกว่าเลยจำเป็นต้องศึกษาหลักการและวิธีการพ่นกันซักหน่อย ตามประสามือสมัครเล่น ก่อนลงมือจริง และอีกอย่างนึง ผมก็ลองดูกระทู้เก่าๆ กับข้อมูลที่พอจะหาได้มารวบรวมไว้ตรงกระทู้นี้จะได้หาง่ายนิดนึง และเพื่อว่ามือสมัครเล่นท่านใดจะได้ความรู้ไปด้วยและที่สำคัญเผื่อว่ามืออาชีพในที่นี้หลายๆท่านจะได้เพิ่มเติมเสริมความรู้ให้อีกครับ ข้อมูลอ้างอิงและความรู้หลายอย่างได้จาก หนังสือเคาะพ่นสีรถยนต์ของอาจารย์พงษ์ศักดิ์ บุญธรรมกุล, คู่มือช่างไม้ในบ้าน(ทำสีให้เครื่องเรือน)ของอาจารย์ศิระ จันทร์สวาสดิ์และพวก, คุณเอ๋เพาะช่าง คุณเดชา คุณดมแต่ฝุ่น คุณ Jack และอีกหลายๆท่านที่แลกเปลียนความคิดเห็นเท่าที่ผมรวบรวมได้ครับ ค่อยๆมาเรียนรู้พร้อมๆกันไปกับผมเลยนะครับ |
ผู้ตั้งกระทู้ sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2013-07-04 09:27:05 |
1 |
ความคิดเห็นที่ 1 (2972505) | |
sornid | เริ่มเรื่องกันด้วย เครื่องมือที่ไช้ในการพ่นสี 1.ปั้มลม(ขนาด50 ลิตรขึ้นไป) Air Compressor 2.ตัวปรับแรงดันลมและดักน้ำ Air Control Unit 3.ปินพ่นสี Spay Gun 1. ปั้มลม มีคนถามกันมากว่า ควรใช้ปั้มลมแบบไหนในการพ่นสีถึงจะพอ เท่าที่ทราบคือ มันอยู่ที่การใช้งานของแต่ละท่าน -ถ้าทำงาน DIY แบบผม เรื่อยๆ ไม่รีบร้อนและงบประมาณพอดีพอดี ก็ต้อง ปั้มลมโรตารี่ ขนาด 50 ลิตร ซึ่งเพียงพอต่องานน้อยชิ้น เพราะมันปั้มลมได้เร็ว เช่น ตู้ หรือชั้นวางของ หรือถ้ามากชิ้นหน่อยก็ยังไหว แต่เราต้องพักเครื่องให้มัน มิเช่นนั้นเครื่องทำงานหนัก (ก็บอกแล้วว่าเหมาะสำหรับงานเรื่อยๆใช้งานไม่หนักมาก) สำหรับปั้มลมแบบสายพาน อาจจะปั้มลมได้ช้ากว่า แต่ก็พอไหวราคาแพงกว่าหน่อยขอแนะนำว่าควรเป็น 90 ลิตร จะเหมาะกว่า ต่อด้วยปั้มลม oil free ของ puma ยังไงเสียก็ต้อง ใช้อย่างน้อยเป็น รุ่น os 50 ถึงพอจะพ่นสีได้แต่ผมใช้แล้วไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่เพราะปั้มลมช้า แม้มันจะเงียบดีแต่เวลามันตัดลมมีเสียงดังฟี้ ซึ่งจริงๆก็ดังทุกรุ่นเวลามันตัด แต่เพราะตอนมันปั้มลมมันเงียบไงพอมันตัดแล้วตกใจประจำเลยกว่าจะชินกับมัน สรุปครับ งานDIY, งานอดิเรก,งานพ่นเล็กน้อย ราคาประหยัด ปั้มโรตารี่ ถ้าชอบเงียบมีตังค์หน่อย ก็ puma os 50 ชอบทนมีตังค์หน่อยใจเย็นก็ ปั้มสายพาน 50 หรือ 60 ลิตร -ถ้าเริ่มจะงานเยอะแล้ว ทำทีละมากๆ งานพ่นสีต้องใช้ปั้มขนาด 90 หรือ 160 ลิตร แล้วครับ จะชอบ oil free เสียงเงียบหรือสายพายจอมทนก็ตามชอบ หรือไม่ก็ มีถังพ่นสีโดยเฉพาะไปเลย งานนี้มืออาชีพรู้ดีอยู่แล้วมิกล้าแนะนำ 2.ตัวดักน้ำมีที่ปรับแรงดันลม อันนี้สำคัญมากต้องมีเพราะมิเช่นนั้นงานของท่านอาจเป็นฝ้าได้ ต้องหาครีมมาทามาขัดกันมันละท่าน ส่วนใหญ่ที่ตั้งแรงดันลมกันก็ประมาณ 4 บาร์ (60 psi) หรือ ปืนพ่นสีบางตัวดีมากใช้ลมน้อยแค่ 2 บาร์(25-30 psi) ก็ใช้ได้แล้ว และเรื่องสายลมที่ต่อออกจากตัวดักน้ำนั้นไม่ควรยาวมากเพราะอาจเกิดละอองน้ำในสายลมได้ถ้าสายลมยาวมากเนื่องจากอุณหภูมิภายนอกไม่แน่นอนอาจมีความชื้นในอากาศสุงหรืออากาศเย็นเกิดควบแน่นในสายลมก็เป็นได้ขอให้ท่านๆพิจารณาเรื่องนี้ด้วย และอีกอย่างคือสายยาวมากๆระวังสะดุดล้ม สายพันไม่รู้ด้วย 3.ปืนพ่นสี เป็นหนังเรื่องยาวขอกล่าวตอนต่อไป |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-04 09:35:16 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2972517) | |
sornid | 3. ปืนพ่นสี ที่นิยมใช้กันมีห้าแบบ 3.1แบบไหลลง(Gravity Feed Type) 3.2แบบดูด(Suction Feed Type) 3.3แบบอัด(Air Compression Type) 3.4แบบลมไหลผ่านตลอด/ไม่ไหลผ่านตลอด (Bleeder and Non-Bleeder Type) 3.5แบบพ่นสีล้วน(Airless Spray Type) เห็นแล้วอึ้งเยอะนะนี่ เอาแบบที่ผมคนเดินดินกินข้าวแกงมีปัญญาใช้ดีกว่าครับ คือ แบบไหลลงกับแบบดูด เห็นไม๊เหลือสองแบบแล้ว คราวนี้เลือกใหม่ งานผมมันงานน้อยแน้นประหยัดขอแบบไหลลง เพราะ -มันสามารถพ่นได้หลายท่า มุมเงยมุมตะแคงได้หมดโดยปรับกาตามองศาที่เราจะพ่น -มันประหยัดสี เพราะ สีไหลลงโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลกทำให้ใช้สีได้หมดจนหยดสุดท้าย ไม่เหมือนแบบดูดมันจะเหลือสีอยู่ก้นกา ซึ่งการทำงานของปืนพ่นสีแบบดูดและแบบไหลลงจะเหมือนกันมาก จะต่างกันตรงกาใส่สีที่แบบดูดจะใส่สีได้เยอะกว่าตามขนาดกาที่ใหญ่ เมื่อเลือกชนิดกาแล้ว ต่อมาก็ต้องเลือกขนาดของรูพ่นกัน -ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางของรูพ่นสีที่มีส่วนใหญ่จะมีขนาด 0.8-3.0 มม.แน่นอนการใช้งานย่อมแตกต่างกัน งานละเอียดจุดเล็กๆก็มักจะใช้กันที่ 0.8-1.3 มม. งานที่ ใช้ละเอียดปานกลางหรืองานทั่วๆไป จะใช้กันที่ 1.3-1.8 มม. และงานพ่นสีที่มีความเข้มข้นสูงก็จะใช้กันที่ประมาณ 2-2.5 มม. แล้วเราจะใช้ขนาดไหนดีละ อันนี้อยู่ที่งานของท่านล่ะ งานของผมขอเน้นว่าเป็นงานDIY ชนิดทำคนเดียว ผมเลือกขนาดรูพ่นที่ 1.5 มม.เพราะคิดว่ามันกลางๆที่สุดแล้ว พ่นจุดแคบก็พอได้ พ่นพื้นที่กว้างก็ใช้ได้อยู่ แต่ตอนนี้กำลังจะซื้ออีกขนาดคือ 1.8 มม.เิพิ่มอีก ว่าจะเอาไว้พ่นสีรองพื้น หรือสีพื้นบริเวณกว้างหน่อย และด้วยเหตุผลของการใช้งานเฉพาะอย่างรวมถึงการล้างและการดูแลด้วยเพราะ ตัวรูพ่น 1.5 มม.จะเป็นตัวราคาแพง และตัว 1.8 มม.จะเป็นตัวราคาถูกครับ
หมายเหตุ****** ห้ามทำปืนพ่นสีตกเด็ดขาด เพราะมันจะมีอะไรชำรุดอย่างนึงแน่นอน ของผมตกครั้งนีงได้ซ่อมทุกที แบบว่าซวยอ่ะ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-04 11:09:19 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2972546) | |
sornid | ว่าต่อด้วยเรื่อง หัวลม (Air Cap) หัวลม เป็นตัวจ่ายแรงดันอากาศซึ่งผสมกับสีออกมาเป็นละอองละเอียดเป็นรูปร่างตามที่เราปรับ ซึ่งประกอบด้วย รูตรงกลาง, รูอากาศช่วย และรูด้านข้าง ตามรูปผมถอดออกมาเฉพาะฝาครอบหัวลมมาครับ ส่วนการเลือกหัวลมนั้น แล้วแต่งานและความชอบของท่านครับ ส่วนผมเลือกแบบในรูปครับ คิดว่าทุกอย่างลงตัวสำหรับผม คือ มีรูช่วย 4 รูกำลังดีครับ แต่อันที่จะซื้อที่เป็นขนาด 1.8 นี่ว่าจะหาที่มีรูช่วย 2 รู สำหรับท่านที่อยากได้ละอองออกมาฝอยมากๆควรเลือกที่มีรูช่วยเยอะๆครับ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-04 16:38:43 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2972552) | |
นัทคุง | เยี่ยมเลยคุณนิด |
ผู้แสดงความคิดเห็น นัทคุง (nattbanphe-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-04 16:58:31 |
ความคิดเห็นที่ 5 (2972560) | |
sornid | มาต่อด้วยวิธีการพ่นสีกัน ระยะห่างของการพ่นสีมีความสำคัญ โดยทั่วไป ปืนพ่นสีขนาดเล็ก เช่น w-88, w-71 ระยะห่างการพ่นสีประมาณ 15-25 ซม. ส่วนปืนพ่นสีขนาดใหญ่เช่น w-87, w-77, w-89, w-70 หรือ w-90 จะมีระยะพ่นสีประมาณ 20-30 ซม. ซึ่งเมือเราปรับการพ่นของการฟุ้งกระจายของสีได้ตามต้องการแล้วการรักษาระยะพ่นจึงจำเป็นมากหากฝึกฝนบ่อยๆก็จะชำนาญเองครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-04 17:54:23 |
ความคิดเห็นที่ 6 (2972569) | |
ประภาส | ขอบคุณมากๆครับที่นำความรู้ดีๆมาถ่ายทอดให้มือสมัครเล่นอย่างผมผลงานจะได้ออกมาดูดีซะทีผบ.จะได้เลิกเหน็บแนม |
ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาส วันที่ตอบ 2013-07-04 19:01:29 |
ความคิดเห็นที่ 7 (2972590) | |
จักรยุทธ | ขอบคุณครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น จักรยุทธ (jakkayut-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-04 20:59:38 |
ความคิดเห็นที่ 8 (2972592) | |
deojohe | ขอบคุณ มากเลยกำลังอยากรู้เรื่อง รู ของหัวกา และขนาดรูหัวกา |
ผู้แสดงความคิดเห็น deojohe ( deojohe19-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-07-04 21:40:17 |
ความคิดเห็นที่ 9 (2972602) | |
jk_007 | ขอบคุณมากครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น jk_007 วันที่ตอบ 2013-07-04 23:00:09 |
ความคิดเห็นที่ 10 (2972606) | |
เอ๋ เพาะช่าง | ดีมากเลยครับ ผมว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-04 23:41:03 |
ความคิดเห็นที่ 11 (2972608) | |
sornid | คุณนัทคุง, คุณประภาส, คุณจักรยุทธ, คุณdeojohe, คุณjk_007 ครับผม เรียนรู้กันครับแบ่งปันกัน แนะนำกันบ้างได้ครับ ครับผม คุณเอ๋ เพาะช่าง จะฝึกให้ชำนาญเลยครับ การพ่นชิ้นงาน ควรเริ่มกดไกปืนพ่นสีก่อนถึงขอบชิ้นงานประมาณ 4 นิ้ว และเดินปืนให้ขนานและตั้งฉากกับชิ้นงานจนเลยขอบชิ้นงานไปประมาณ 4นิ้วจึงจะปล่อยไกปืนพ่นสี จากนั้นเคลื่อนลงต่ำระยะประมาณ 1/3-1/2 ของความกว้างรูปร่างสี และกดไกปืนให้สุด เดินปืนให้ตั้งฉากกับชิ้นงานแล้วย้อนกลับกลับทางแรกจากขวามือไปซ้ายมือ และให้ความกว้างของรูปร่างสีซ้อนทับกัน 50% ของแต่ละเที่ยว (ปืนพ่นสีต้องตั้งฉากกับชิ้นงานเสมอ) ตำราว่าไว้ มาตรฐานความเร็วในการเคลื่อนที่ปืนพ่นสี คือ 600 มม./วินาที (11.81-23.62 นิ้ว/วินาที) *** เดินปืนพ่นสีช้า สีจะย้อย *** *** เดินปืนพ่นสีเร็ว สีจะบาง *** |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-04 23:52:14 |
ความคิดเห็นที่ 12 (2972611) | |
sornid | ปกติก่อนจะพ่นชิ้นงานเราจะต้องปรับลมปืนพ่นสีและทดลองพ่นสี เพื่อดูฝอยสีก่อนที่จะพ่นสีลงบนชิ้นงาน เราจึงต้องตรวจสอบฝอยสีเพื่อแก้ไขต่อไป ดูได้จากรูปภาพ หากลักษณะฝอยสีเป็นรูปพระจันทร์เสียวเราจำเป็นต้องล้างและแปรงตรงบริเวณปลายหัวลม บ้างครั้งอาจต้องเอาเข็มเขี่ยรอบๆรูกลาง พร้อมทั้งล้างด้วยทินเนอร์ หากหัวลมตันเราอาจต้องเอาเข็มเขี่ยรูทุกรู้พร้อมทั้งล้างด้วยทินเนอร์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-05 00:18:38 |
ความคิดเห็นที่ 13 (2972614) | |
เอ๋ เพาะช่าง | น่าจะเปลี่ยนกระทู้เป็นว่า รวมเทคนิคการใช้กาพ่นสี |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-05 06:53:37 |
ความคิดเห็นที่ 14 (2972656) | |
i3ird | สุดยอดเลยครับคุณนิดสงสัยต้องให้มาเป็นผู้อบรมพิเศษเฉพาะกับกาพ่นสีเมื่อวันที่ผมเปิดอบรมซะแล้วนี่ ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่แบ่งปันครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น i3ird (bird-togo-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-05 10:46:16 |
ความคิดเห็นที่ 15 (2972659) | |
ต้อม ชาเย็น | พี่เอ๋ มาดเท่ห์ตลอดเลยครับ . พี่เบิร์ดอบรมเมื่อไหร่ครับ สนใจมากครับ ผมทำงานที่นิคมบางปูใกล้ๆนี่เองครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ต้อม ชาเย็น (phaitoon-dot-y-at-delta-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-07-05 11:04:58 |
ความคิดเห็นที่ 16 (2972747) | |
yun lefty | กระทู้ดีมีสาระ รอชมต่อครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-05 17:08:37 |
ความคิดเห็นที่ 17 (2972759) | |
sornid | รับทราบครับคุณเอ๋ จะเปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่ครับ ตอนแรกกะว่าจะลองรวมเรื่องการทำสีอุตสาหกรรมดู แต่ลองค้นกระทู้เก่าแล้วเหมือนรายละเอียดตั้งแต่เริ่มยังไม่ค่อยมี เลยลองอ่านและค้นคว้าดู เผื่อไม่เข้าใจตรงไหนจะได้ถามได้ เหมือนทำรายงานเล็กๆ โดยมีครูมืออาชีพคอยดูอยู่ใกล้ๆ ทำให้รู้สึกปลอดภัยหน่อยนึงครับ คุณเบิร์ดครับ คงไม่กล้าหรอกครับ ผมเพิ่งเรียนรู้เองครับ ยังขั้นปฐมอยู่เลย (ดีกว่าอนุบาลนิดนึง) ครับผม คุณยุ่น ผมเองก็เอาไว้ทบทวนหน่อยนึงครับ แถมนิดนึงเอารูปล้างกาพ่นสี คร่าวๆมาดูกันก่อนครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-05 18:41:23 |
ความคิดเห็นที่ 18 (2972792) | |
tu | คุณเบิร์ดจะเปิดอบรมสีอีกเมื่อไรครับ สนใจมาก ไฮกรอสคราวที่แล้วไม่มีเวลาเลย |
ผู้แสดงความคิดเห็น tu วันที่ตอบ 2013-07-05 21:47:56 |
ความคิดเห็นที่ 19 (2972878) | |
sornid | วันนี้ซื้อรองพื้นมาใหม่เราใช้เพียงนิดหน่อยก็ต้องเก็บไว้ก่อน ยังไงกระป๋องนี้คงไม่หมดเร็วแน่ๆ ผมใช้วิธีนี้เมื่อซื้อสีหรือรองพื้นทุกครั้งเลย ไม่เคยเจอกรณีสีแห้ง หรือปัญหาสีหกย้อยตอนปิดกระป๋องลงมาเลอะเทอะเลย หรือถ้าเจอก็น้อยมากๆ |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-07 00:40:58 |
ความคิดเห็นที่ 20 (2972884) | |
mangcapoon | ขอบคุณมากครับๆๆ ชอบๆ กำลังหาความรู้อยู่พอดีเลยครับ ติดตามมครับ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น mangcapoon (Orange_ginal-at-hotmail-dot-co-dot-th) วันที่ตอบ 2013-07-07 06:50:20 |
ความคิดเห็นที่ 21 (2972887) | |
หมู | ขอถามคุณ sornid มีวิธีการเลือกซื้อกรองดักน้ำอย่างไหน เห็นมีขายราคาต่่างกันมาก สายลมเท่าที่เห็นมี 2 ขนาด ควรใช้แบบไหนต่างกันอย่างไร ขอบคุณครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น หมู วันที่ตอบ 2013-07-07 07:18:36 |
ความคิดเห็นที่ 22 (2972912) | |
Sale Dreams | ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น Sale Dreams (gp_design-at-hotmail-dot-co-dot-th) วันที่ตอบ 2013-07-07 14:35:34 |
ความคิดเห็นที่ 23 (2972976) | |
sornid | ครับผม คุณmangapoon, คุณSale Dreams.. คุณหมูครับ ผมเองก็แค่มือสมัครเล่นยังมีความรู้ไม่มากนักหรอกครับ แต่ขอตอบเท่าที่รู้น่ะครับ เรื่องตัวตักน้ำนี่ผมว่ามันเยอะอยู่เหมือนกันน่ะ แต่เอาที่ผมพอรู้นิดหน่อยน่ะครับ ส่วนใหญ่ตัวที่เป็นที่นิยมและมีชื่อเสียง จะเป็นยี่ห้อ SMC ซึ่งมี Regulator ที่นิ่งและ ตัวกรองของเค้าละเอียด อย่างตัวกรองลมปกติของเค้าละเอียดที่ประมาณ 5 ไมครอน (ไม่รู้เหมือนกันว่าเล็กแค่ไหน) ส่วนตัวละเอียดมากๆของเค้าน่าจะประมาณ 0.01 ไมครอน ซึ่งเอาไว้ใช้ในงานที่สะอาดมากๆๆๆ แต่ในท้องตลาดมักจะเป็นตัวเลียนแบบ เป็นของจีนบ้าง ของใต้หวันบ้าง ถ้าเป็นของใต้หวันจะมีคุณภาพมากกว่าของจีนหน่อย ก็ุคุณภาพตามราคาครับ แต่ละรุ่นจะต่างกันตรงรายละเอียด ตามภาพครับ และให้เราดูว่า ขนาดเกลียวที่จะต่อข้อต่อสายลมขนาดเท่าไหร่ เช่น รุ่นAWM 40(ที่เก็บน้ำทิ้งประมาณ45 cc.) ข้อต่อ 1/4,3/8 หรือ 1/2 นิ้ว ถ้าของเลียนแบบก็จะประมาณ BFR 2000 (ที่เก็บน้ำทิ้งประมาณ60cc.)ขนาดรูต่อ 1/4 นิ้ว หรือ 2 หุน, หรือ BFR 3000 มีขนาดรูต่อ 3/8 นิ้ว หรือ 3 หุน ก็ให้เราดูรายละเอียดนะครับว่า ปั้มลมเรา รูเกลียวขนาดเท่าไหร่ ซึ่งปกติจะขนาด 1/4 นิ้ว เวลาซื้อ ข้อต่อก็เลือกขนาด 1/4 ให้หมด สายลมก็ด้วยครับ เวลาซื้อก็ดูว่าขนาดเท่าไหร่เช่น สายลมขนาด 5x8 มม. ข้อต่อก็ต้องสวมได้กับสายลม 5x8 มม.ด้วย และบางรุ่นก็มีที่ทิ้งน้ำอัตโนมัติ อันนี้ต้องดูที่ข้างกล่องครับหลายยี่ห้อก็เรียกรหัสไม่เหมือนกันแค่คล้ายๆ ผมว่าดูที่ข้างกล่องดีกว่าครับหรือ รายละเอียดของอันที่จะซื้อครับ ตัวที่ผมอยากได้น่ะครับ หาซื้อที่สุราษฎร์ไม่ได้เลย ไม่รู้ซื้อที่ไหน คือ ตัวกรองลมดักน้ำ ของ SMC รุ่น AWM 40 ครับ เพราะ มันดักไอน้ำได้แน่นอนครับ และเก็บน้ำทิ้งได้เยอะหน่อย(ที่บ้านความชื้นสูง) แต่เอาเข้าจริงๆ ใช้ของเลียนแบบรุ่นธรรมดาทั่วไป BFR 2000 ตัวละ 850 บาทก็เอาแล้ว ใช้งานทั่วไป ส่วนเรื่องสายลม ผมคิืดว่าน่าจะเป็นขนาด 5X8 (ขนาดรูใน 5 มม. ขนาดสายลม 8 มม.) กับ 8x12 มม.ที่คุณหมูถาม เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจมากหรอกครับ แต่คิดว่่าสายเล็กน่าจะเหมาะกับเครื่องมือที่ใช้ลมไม่มาก เช่น ปืนพ่นสี และพวกปืนยิงตะปู เครื่องขัดอะไรพวกนี้น่ะครับ ส่วนขนาด 8x12 มม.น่าจะใช้กับพวก บล๊อคลม ตัวกระแทก อะไรพวกนี้น่ะครับ และอีกอย่างนึง สาย 8x12 มม.ก็หนาน่าจะทนกว่าและให้ทางเดินลมเยอะด้วย ผมว่าถ้าใช้กับปืนยิงตะปู หรือเครื่องขัดน่าจะดี แต่ถ้าใช้กับที่เป่าลม ลมน่าจะหมดเร็วน่าดู ยิ่งถ้าปัิมลมเล็กแล้วคงแป๊ปเดียวหมด สรุปว่าสำหรับผมคงยังใช้สายลมแค่ขนาด 5x8 อยู่นะครับเพราะปั้มลมผมเล็กครับ และไม่ค่อยชอบสายอันใหญ่ไปทำให้เทอะทะเวลาพ่นสีครับ และเวลาต่อที่เป่าลมผมว่าปั้มทำงานไม่ทันแน่ๆ ลมน่าจะออกเยอะ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-07 20:34:19 |
ความคิดเห็นที่ 24 (2973071) | |
หมู | ขอบคุณ คุณ sorsarid มากๆครับ เนี่องจาก ซื้อปั้มลม ขนาด 100 ลิตรมาตั้งที่บ้านได้สองอาทิตย์แล้ว ยังหาข้อมูลตัวดักน้ำไม่ได้ ขอบคุณครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น หมู วันที่ตอบ 2013-07-08 19:18:43 |
ความคิดเห็นที่ 25 (2974081) | |
โป่ง | ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น โป่ง วันที่ตอบ 2013-07-19 15:58:17 |
ความคิดเห็นที่ 26 (2974088) | |
เทอดศักดิ์(M) | คุณ sornid ได้ความรู้ดีครับ ผมน่ะซื้อตัวดักน้ำ/ ปรับแรงดัน/ จ่ายน้ำมัน มาตั้งนานแล้วยังไม่ได้ติดเลย เดี๋ยวว่าจะไปลองติดดูบ้างครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-19 16:38:37 |
ความคิดเห็นที่ 27 (2974349) | |
sornid | ครับผม ยินดีครับที่เป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย ช่วยๆกันเรียนรู้ครับ พอดีตอนนี้ทำห้องต่อเติมห้องให้ญาติอยู่ตามประสา บ้าน บ้าน DIY น่ะครับ เลยไม่ค่อยมีเวลามาอัพเดทข้อมูล และเพิ่งต่อเติมห้องทำขนมให้ ท่าน ผบ. เวลาส่วนใหญ่ก็เลยวุ่นอยู่กับพวกนี้แล้วค่อยมารวมรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อการเรียนรู้ไปด้วยกันครับ เอางาน แบบ บ้าน บ้าน DIY มาให้ชมก่อนแล้วกันครับ ยังไม่เสร็จเลยข้างในยังต้องเดินไฟเพิ่มอีก ดูมืออาชีพเยอะแล้ว ดูแบบ บ้าน บ้าน บ้างแล้วกันครับ โชว์รูปเดียวครับ เพราะถ่ายมารูปเดียว แบบอายๆ |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-07-22 20:54:07 |
ความคิดเห็นที่ 28 (2975780) | |
sornid(บ้าน บ้าน DIY) | พักงานพ่นสีต้องล้างกาพ่นสีเก็บก่อนนะครับ อันนี้ล้างจริงๆครับ 1.เมื่อพ่นสีเสร็จแล้วให้กดไกปืนพ่นสีที่ค้างในกาออกให้หมดและนำทินเนอร์ใส่ในกา แล้วกดไกปืนพ่นสีเพื่อล้างสีออก(ผมจะใส่ทินเนอร์นิดหน่อย ในครั้งแรก เพื่อพ่นล้างและนำผ้าชุบทินเนร์ล้างและเช็ดจนภายในกาสะอาด แล้วจึงนำทินเนอร์ใส่ในกาเพื่อพ่นล้างอีก ครึ่งกา 2.ถอดฝาครอบหัวพ่นสี 3.ถอดหัวพ่นสี(ใช้ประแจที่แถมมากับปืนพ่นสีให้หลวมก่อน) แล้วใช้มือกดไกปืนขณะหมุนถอดหัวพ่นสี(ทำเหมือนกันตอนใส่กลับ) 4.ถอดสกรูปรับเข็มจ่ายสี 5.ถอดสปริง และถอดเข็มจ่ายสี 6.ชิ้นส่วนที่ถอด |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid(บ้าน บ้าน DIY) (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-08-04 07:50:59 |
ความคิดเห็นที่ 29 (2975781) | |
sornid(บ้าน บ้าน DIY) | ถอดแล้วก็ล้างซะหน่อย
|
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid(บ้าน บ้าน DIY) (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-08-04 07:56:24 |
ความคิดเห็นที่ 30 (2981161) | |
บี 02 | w-71g (1.5) ผมพ่นแล้วสีฟุ้งไปหมดเกิดจากอะไรอะคับ ลองเล่นดูหลายรอบแล้วยัง งง - -* |
ผู้แสดงความคิดเห็น บี 02 วันที่ตอบ 2013-09-20 01:11:00 |
ความคิดเห็นที่ 31 (2982571) | |
ถาปัตหัดไม้ | รบกวนนิดนึงครับ มีคำถามเรื่องปั๊มลม ตอนนี้ลมมันตั้งไว้ที่ 100 (ความเข้าใจผมคือ 10 psi) ผมก็เลยถามเค้าว่ามันปรับได้มั้ย เพราะผมเห็นกาพ่นสีผมมันเขียนว่าให้ใช้ลม 6-8 psi
รุ่นนี้เลยคับที่ผมซื้อมา |
ผู้แสดงความคิดเห็น ถาปัตหัดไม้ (toad_planet-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-02 11:55:26 |
ความคิดเห็นที่ 32 (2982625) | |
sornid(บ้าน บ้าน DIY) | ขอตอบแบบพอรู้บางนิดหน่อยนะครับ ถ้าผิดแย้งมาเลยนะครับ ต้องออกตัวก่อนว่าผมแค่มือสมัครเล่นน่ะครับ - ตอนนี้ลมมันตั้งไว้ที่ 100 (ความเข้าใจผมคือ 10 psi) ผมก็เลยถามเค้าว่ามันปรับได้มั้ย เพราะผมเห็นกาพ่นสีผมมันเขียนว่าให้ใช้ลม 6-8 psi ผมเลย งงๆน่ะครับ ว่าสรุปผมควรปรับมันดีมั้ย ตอบ....... -ลม ที่ตั้งไว้ 100 น่าจะเป็น 100 psi หรือ ประมาณ 7 บาร์ ซึ่งปกติโรงงานจะตั้งมาให้ คือเมื่อปั้มลมทำงานจนความดันลมถึง 100 psi มันจะตัดการทำงาน และเมื่อเราใช้งานจนลมในถังเหลือประมาณ 60 psi หรือ 4 บาร์ ปั้มลมจะทำงานอีกครั้ง (คุ้นๆว่าประมาณนี้) ซึ่งเราสามารถตั้งให้มันทำงานที่ 6บาร์(90 psi) และตัดที่ 8 บาร์ (120 psi) ก็ได้(ใช้กับปืนลม) ในกรณีที่ถังเราทนแรงดันได้ 10 บาร์(145 psi) แนะนำให้ดูคู่มือในการตั้งครับ สรุปนะครับ ปรับได้ครับ แต่ถ้าพ่นสีบ่อยกว่าใช้ปืนลมไม่ต้องปรับก็ได้ครับ ส่วนของผมปรับครับเพราะผมมีสองตัว ตัวนึงพ่นสี ตัวนึงยิงปืนลมครับ(ตัวนี้ที่ผมปรับครับ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid(บ้าน บ้าน DIY) (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-10-02 23:51:40 |
ความคิดเห็นที่ 33 (2982642) | |
ถาปัตหัดไม้ | ครับขอบคุณมากเลยครับ ผมมือไหม่เหมือนกัน : ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น ถาปัตหัดไม้ (toad_planet-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-03 09:13:07 |
ความคิดเห็นที่ 34 (2983372) | |
ถาปัตหัดไม้ | มีคำถามเพิ่มเติมครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ถาปัตหัดไม้ (toad_planet-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-10 08:56:29 |
ความคิดเห็นที่ 35 (2983490) | |
นิด sorsarid | น้ำมันรั่วซึมย่อมไม่ดีแน่นอนครับ ต้องรีบแก้ไข ถามว่ายังไช้ได้ไหม ก็พอใช้ได้อยู่ แต่ต้องดูระดับน้ำมันตลอดเพราะถ้าน้ำมันเครื่องขาด ความร้อนเคร่องจะมากทำให้แหวนหรือลูกสูบเสียหายได้ หรือเสื้อสูบอาจร้าวได้ ทางที่ดีควรนำไปซ่อมครับ เช็คดูว่ารั่วจุดไหน ก็เปลี่ยนประเก็นจุดนั้นครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น นิด sorsarid วันที่ตอบ 2013-10-10 23:33:50 |
ความคิดเห็นที่ 36 (2985305) | |
พงษ์(บ้านงานไม้) | กระทู้นี้ อ่านแล้วได้ความรู้เยอะดีครับ.. |
ผู้แสดงความคิดเห็น พงษ์(บ้านงานไม้) (woodworkingcr8-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-10-30 10:12:18 |
ความคิดเห็นที่ 37 (2985476) | |
joe | ตอบคุณ ถาปัตหัดไม้ ครับ ปั๊มลมจากทางร้านมาไม่ต้องปรับแต่งอะไรครับ แต่ถ้าจะปรับแรงดันลมเพื่อใช้งานให้ไปซื้อตัวปรับแรงลม(regulator)มาต่อก่อนออกไปใช้งานครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น joe (savackapana-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-31 14:34:01 |
ความคิดเห็นที่ 38 (2985483) | |
sornid(บ้าน บ้าน DIY) | ผมเดาว่า อาจมีคนสับสนเรื่องแรงดันลมกับการใช้งาน เช่น แรงดันลมในถัง กับ ตัวปรับแรงดันลม ซึ่งถ้ามีผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตอบเพิ่มเติมน่าจะดีน่ะครับ อันนี้ขอเพิ่มเติมเรื่องนี้จากผู้พอจะรู้บ้างนะครับ (ออกตัวอีกแล้วครับท่านตามประสามือสมัครเล่น) เริ่มจากแรงดันลมในถังก่อนนะครับ ปกติ ทางโรงงานจะตั้งการทำงานไว้ให้เริ่มเดินเครื่องเมื่อแรงดันลมต่ำที่ประมาณ 4 บาร์ และตัดการทำงานที่ประมาณ 7 บาร์ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งได้ตามความเหมาะสม (ตามความเข้าใจผมนะครับ) ยกตัวอย่างเลยนะครับ - เช่น ปืนลม ซึ่งมีหลายขนาด ตามแต่ขนาดลูกแม๊กใช้ยิง ตัวที่กินลมและต้องการแรงดันมากสุดจะเป็นตัวที่ยิงคอนกรีตได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ปืนยิงตะปูต้องการแรงดันลมที่ 6 บาร์โดยประมาณ ถึงจะยิงตะปูจม และทนแรงดันลมได้ไม่เกิน 8 บาร์ (ถ้าใช้กับแรงดันเกินนานๆอาจทำให้ชิ้นส่วนกลไกภายในเสียหายได้ครับ) บางคนอาจเคยสังเกตว่าเมื่อใช้ปินยิงตะปูสักพัก ทำไมยิงตะปุไม่จม เพราะแรงดันลมในถังเหลือต่ำกว่า 6 บาร์มากจนปืนลมไม่มีแรงอัดพอจะยิงตะปูได้ เหตุนี้จึงต้องมีการปรับตั้งการตัดและเปิดการทำงานของปั้มลมครับ - ปืนพ่นสี ส่วนใหญ่ต้องการแรงดันลมต่ำกว่า 4 บาร์ การตั้งจากโรงงานจึงไม่ค่อยมีผลมากนัก ต่อมาเรื่อง ตัวปรังแรงดันลม(regulator) ตัวนี้ก็เอาไว้ปรับแรงดันลมไม่ได้เกินกว่าที่เรากำหนด เช่นเราตั้งไว้เมื่อต่อกับปืนพ่นสีที่ 4 บาร์ ถ้าลมในถังเราเพื่งปั้มและตัดที่ 7 บาร์ ตัวปรับแรงดันก็จะรักษาระดับแรงดันลมที่ 4 บาร์ตลอด มันก็จะใช้ได้พอดี แต่ถ้ากรณีเราใช้ตัวปรับแรงดันลมกับปืนลมซึ่งเราตั้งไว้ที่ 6 บาร์ แต่เมื่อเราใช้ลมในถังเหลือมาไม่ถึง 5 บาร์ ตัวปรับแรงดันลมก็ไม่สามารถจะรักษาระดับแรงดันที่ 6 บาร์ได้หรอกครับ ลมก็จะออกมาน้อยยิงตะปูไม่ได้จมไม้แน่นอน
สรุป ในความคิดของผมนะครับ ถังลมสามารถทนแรงดันได้ประมาณ 10 บาร์ (น่าจะเกินกว่านี้ครับ) ถ้าเราจะตั้งให้มันตัดการทำงานปั้มลมที่ 9 บาร์กว่าๆ และเริ่มให้ปั้มทำงานที่ 6 บาร์ น่าจะดีที่สุด แล้วเราใช้ ตัวปรับแรงดันช่วยในการต่อกับอุปกรณ์ที่เราจะใช้งานครับ ซึ่งเราควรจะมีตัวปรับแรงดันลมสองชุดน่ะครับ เพื่อความสะดวก คือ 1.ตัวดักน้ำและปรับแรงดันลม เพื่อใช้กับกาพ่นสี (ตั้งแรงดันลมที่ 3-4 บาร์) 2.ตัวจ่ายน้ำมันหล่อลื่นและตัวดักน้ำและปรับแรงดันลม เพื่อใช้กับปืนยิงตะปู และอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ตัวขัดกระดาษทราย ไขควงลม ฯลฯ (ตั้งแรงดันลมที่ 6 บาร์) **************เป็นความเห็นส่วนตัวครับ จากข้อมูลที่รู้มาครับ ผิดถูกแนะนำด้วยครับ****************
หมายเหตู*** ที่ตัวปรับแรงดันลมส่วนใหญ่จะมีสองค่าให้อ่านนะครับ จะมีตัวเลขสีดำ กับ สีแดง (หรือสีอื่นแล้วแต่ละยี่ห้อ) ซึ่งจะบอกค่า ปอนด์ต่อตารางนิ้ว(PSI) และ บาร์(ฺBar) หรือ กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร(Kg/cm2) อาจมีคนสงสัยนิดหน่อยเพราะบางตัวมี PSI และ Bar บอกแต่บางอัน มี PSI และ Kg/cm2 บอก พอดีว่า ตัวค่าวัดของ Bar และ Kg/cm2 จะใกล้เคียงกันมากจึงสามารถเทียบเคียงกันได้ครับ เช่น 4 Bar เกือบเท่าหรือเท่ากับ 4 Kg/cm2 ครับ 1 bar = 1.02 kg/cm2 1 bar = 14.50377 psi เอาแค่นี้ก่อนนะครับเผื่อบางคนสับสน
|
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid(บ้าน บ้าน DIY) (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2013-10-31 15:58:02 |
ความคิดเห็นที่ 39 (2985522) | |
tu | เรื่องแรงดันลมนี่ บางท่านอาจจะไม่ทันสังเกตว่ากาพ่นสีใช้ไปได้ระยะหนึงมันจะมีอาการลมรั่วออกมา นั้นเป็นเพราะตัวกาพ่นสีมันรับแรงดันลมมากเกินไป ยิ่งถ้าต่อจากถังตรงๆเลย ยิ่งรั่วไว วีธีป้องกันก็ติดตัวกรองดักน้ำนั้นแหละ เพราะมันสามารถปรับแรงดันลมได้ เราก็ปรับแรงดันลมให้อยู่ในระดับที่กาพ่นสีรองรับได้ วิธีนี้จะช่วยยืดอายุกาพ่นสีเราไปได้อีกนาน แต่ยกเว้นพวกยี่ห้อเทพๆ อิวาต้า ทนมากๆ ผมพึ่งจัดมาอีกตัว ราคาประมาณ5xxx ถึงว่าไม่แพงถ้าเทียบกับคุณภาพ http://image.ohozaa.com/view2/xbsq3awGLWqYdrIR |
ผู้แสดงความคิดเห็น tu วันที่ตอบ 2013-10-31 22:06:33 |
ความคิดเห็นที่ 40 (2990574) | |
ep | 1 psi=0.0700kg/cm2 1psi=0.0690bar 1psi=6.895kpa 1kg/cm2=14.233psi 1kg/cm2=0.9810bar 1kg/cm2=98.066kpa 1kpa=0.145psi 1kpa=0.010bar 1kpa=0.100kg/cm2 1bar=100.00kpa อยากให้เพื่อนสมาชิกทำความเข้าใจกันใหม่ดีมั้ยครับ? คำว่า "แรงดัน"(Voltage) เราจะใช้กันในเรื่องไฟฟ้า เรื่องลมเราใช้คำว่า "ความดัน" (Pressure)
|
ผู้แสดงความคิดเห็น ep วันที่ตอบ 2014-01-09 14:11:26 |
ความคิดเห็นที่ 41 (2990594) | |
นิด | ขอบคุณครับคุณ ep แต่จะให้เปลี่ยนการเรียกนี่ยากหน่อยครับสำหรับคนแก่ดัดยากอย่างผมคงใช้เวลานานหน่อย แล้วจะให้ผมเรียกตัวปรับแรงดันลม เป็นตัวปรับความดันลมนี่ลิ้นยังไม่ไปเลยครับ แต่จะลองดู ถ้าทำได้ ก็คนมันไม้แก่ดัดยาก |
ผู้แสดงความคิดเห็น นิด วันที่ตอบ 2014-01-10 02:15:14 |
ความคิดเห็นที่ 42 (2993014) | |
เอ๋ เพาะช่าง | มั่วแต่ดันสาวนะซินิด555 |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2014-01-26 20:00:44 |
ความคิดเห็นที่ 43 (2993075) | |
สมชาย ส.ป | ขอบคุณครับอาจารย์เอ๋กับความรู้ดีๆๆ |
ผู้แสดงความคิดเห็น สมชาย ส.ป (pok250843-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-01-27 19:00:00 |
ความคิดเห็นที่ 44 (2999808) | |
Pcham | ขอบคุณ สำหรับความรู้ที่แชร์ให้มือใหม่อย่างผมได้รู้และเข้าใจ |
ผู้แสดงความคิดเห็น Pcham (pcham2502-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-04-11 11:27:59 |
ความคิดเห็นที่ 45 (2999865) | |
เสก ไม้สน | ละเอียดดีครับ...ขอบคุณมากๆสำหรับความรู้ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เสก ไม้สน วันที่ตอบ 2014-04-11 21:36:58 |
ความคิดเห็นที่ 46 (3005296) | |
ตั้มโตโยต้า | ผมมีปัญหาเรื่องกาอะคับลมมันออกตลอดเลยผสงใสว่าทำไมลมถึงได้ออกตลอดอ่ะคับ เราควรแกใขยังใงคับแต่มันพ่นได้เวลาเราหยุดพ่นแล้วลมยังออกจากกาพ่นอยุ่เลยอะคับแกใขยังใงดีคับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ตั้มโตโยต้า วันที่ตอบ 2014-07-07 01:02:03 |
ความคิดเห็นที่ 47 (3005410) | |
น้อง | สวัสดีครับ... ผมขออนุญาตยืมกระทู้ท่านsornid แล้วกันครับ เรื่องสี งานไม้ไม่ทราบว่าส่วนมากท่านอาจารย์และ สมช. ใช้สีประเภทไหนพ่นหรือทาลงบนไม้ ระหว่างสีน้ำกับสีน้ำมันครับ..ยี้ห้อจะบอกในกระทู้ได้ไหมครับ ผมก็เกรงจะผิดกฎ ขอบคุณมากครับ...
|
ผู้แสดงความคิดเห็น น้อง วันที่ตอบ 2014-07-09 17:26:03 |
ความคิดเห็นที่ 48 (3011481) | |
ann | มีวิธีคำนวนหาต้นทุนในการพ่นสีไม๊คะ เช่นชิ้นงานขนาด 13x24 cm. เราจะคำนวนยังไงคะว่าต้นทุนการใช้สีเท่าไร รบกวนผู้รู้ช่วยทีค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ann วันที่ตอบ 2014-11-14 17:30:24 |
ความคิดเห็นที่ 49 (3014973) | |
นายศรศักดิ์ ฤทธิ์มนตรี | รบกวนสอบถามหน่อย ครับ ผม คือ ผม ได้ กาพ่นสี ขนาด w101-134G มา ขนาด 1.3 mm มันเพียงพอต่อการพ่นสี รถยนต์ รถ หกล้อ หรือป่าวครับ ผม กลัวว่ามันจะรูเล็กไปป่าว ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น นายศรศักดิ์ ฤทธิ์มนตรี (sero2499-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2015-01-28 16:55:37 |
ความคิดเห็นที่ 50 (3015177) | |
mojo | รอคำตอบอยู่เหหมือนกัน ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น mojo วันที่ตอบ 2015-02-01 21:50:23 |
ความคิดเห็นที่ 51 (3015185) | |
นิด sornid | ครับ ปกติกาพ่นสีรถยนต์จะใช้กันอยู่ที่ ขนาดนมหนู 1.3 มม.นี่หละครับ เท่าที่พอรู้ w101-134G เหมาะสำหรับพ่นสีรถยนต์อยู่แล้ว โดยเฉพาะพวกสีเมลเทลลิก และพวกสีมุก และถ้าเป็น รุ่น w77-12G จะใช้กับงานไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้-เหล็ก ประมาณนั้น ผิดพลาดยังไงผู้เชี่ยวชาญแนะนำด้วยครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น นิด sornid วันที่ตอบ 2015-02-02 01:19:20 |
ความคิดเห็นที่ 52 (3015758) | |
suvit | ผมอยากทราบเกี่ยวกับอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ในการพ่นสีอุตสาหกรรมในงานไม้ครับผม เราต้องเตรียมอะไรบ้างอะครับก่อนการพ่นสีอะครับ ต้อง ใช่สีรองพื้นเพื่อใช้ทาก่อนพ่นสีด้วยป่าวครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น suvit วันที่ตอบ 2015-02-17 20:08:14 |
ความคิดเห็นที่ 53 (3017954) | |
supaporn pisitbenjapol | รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ อุปกรณ์ตัวนี้สามารถพ่นกากเพชรลงบนเคส มือถือได้ใช่มั้ยค่ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น supaporn pisitbenjapol (southpark_ry-at-hotmail-dot-com )วันที่ตอบ 2015-04-14 00:36:35 |
ความคิดเห็นที่ 54 (3027101) | |
prakit inord | สร้างมืออาชีพได้เลย ขอบคุณ. |
ผู้แสดงความคิดเห็น prakit inord วันที่ตอบ 2015-11-11 02:29:51 |
ความคิดเห็นที่ 55 (3027344) | |
teng yaya | ขอถามหน่อยครับ คือผมพ่นสีรองพื้นอีพ๊อกซี่ เสร็จแล้ว พ่นสีเหลืองจริง กลับสีไม่จับชิ้นงานหลุดร่อนออกหมด เป็นเพราะอะไรครับ(เป็นงานเหล็กนะครับ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น teng yaya (sanyk-dot-tle-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2015-11-20 00:21:30 |
ความคิดเห็นที่ 56 (3027354) | |
sornid | สีทับหน้าลอกหรือลอกตั้งแต่สีรองพื้นเลยครับ ขอสันนิษฐานก่อนนะครับ 1.งานเหล็กได้ทำการเช็ดน้ำมันที่เคลือบจนสะอาดและแห้งสนิทหรือยัง ถ้ายังสีรองพื้นจะลอกออกมาเป็นแผ่นนะจุดที่เราเช็ดไม่สะอาด 2.การผสมสีรองพื้น epoxy ถูกต้องตามสัดส่วนหรือไม่ ถ้าผสมตัว hard มากเกินไป หรือ ผสมทินเนอร์มากเกินไป ก็อาจจะลอกได้ครับ ที่เหลือต้องขอผู้รู้ช่วยตอบครับ ผมแค่มือ DIY ครับ sornid... |
ผู้แสดงความคิดเห็น sornid วันที่ตอบ 2015-11-20 09:39:41 |
ความคิดเห็นที่ 57 (3027415) | |
teng yaya | ขอบคุณครับ ได้ตรวจสอบแล้วว่าใส่ทินเนอร์น้อยเกินไปคือถามร้านที่จำหน่าย คือ เพือนร่วมงานผสม a=4ส่วน b=1ส่วน ทินเนอร์=2 ส่วน
ตอนนี้ใช่ทินเนอร์ =5 สีไม่ลอกแล้วครับ ขอบคุณคำแนะนำ |
ผู้แสดงความคิดเห็น teng yaya (sanuk-dot-tle-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2015-11-22 21:08:24 |
ความคิดเห็นที่ 58 (3037904) | |
ธีรยุทธ | เยี่ยมมากเลยคับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธีรยุทธ วันที่ตอบ 2016-08-11 21:35:48 |
ความคิดเห็นที่ 59 (3038430) | |
อยากรู้ | รบกวนด้วยครับ กาพ่นสี เวลาปล่อยลมเตรียมพ่น ลมดันมาออกทางถังเก็สีด้วย เป็นเพราะอะไรครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น อยากรู้ วันที่ตอบ 2016-08-25 10:36:18 |
ความคิดเห็นที่ 60 (4044559) | |
สีรุ้งพ่นยังงัยค่ะต้องพ่นสีอะไรก่อน | สีรุ้งต้องพ่นยังงัยค่ะต้องพ่นสีอะไรก่อนถ้าหากสีรุ้งมีแม่สีเป็นสีนำ้เงิน. แดง. เหลือง |
ผู้แสดงความคิดเห็น สีรุ้งพ่นยังงัยค่ะต้องพ่นสีอะไรก่อน วันที่ตอบ 2017-03-21 18:00:50 |
ความคิดเห็นที่ 61 (4053262) | |
ต้นอ้อ | กาพ่นสีใช้กับสีได้ทุกชนิดหรือป่าวคะ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น ต้นอ้อ วันที่ตอบ 2017-05-10 17:30:53 |
ความคิดเห็นที่ 62 (4053263) | |
ต้นอ้อ | กาพ่นสีใช้กับสีได้ทุกชนิดหรือป่าวคะ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น ต้นอ้อ วันที่ตอบ 2017-05-10 17:31:12 |
ความคิดเห็นที่ 63 (4061665) | |
นพดล | ผมใช้เครื่องพ่นสีแบบ อัตโนมัติ มีปัญหาสีเป็นเม็ด ทำอย่างไรดีครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น นพดล (ื์Noppadonk-at-citizen-dot-co-dot-jp)วันที่ตอบ 2017-06-26 10:44:37 |
ความคิดเห็นที่ 64 (4141582) | |
Sittvee | รบกวนขอถาม เรื่อง การพ่นสีคับ ผมพ่นสีแล้วเป็นเม็ดทรายและไม่เงา เป็นเพราะอะไรคับผม |
ผู้แสดงความคิดเห็น Sittvee วันที่ตอบ 2018-10-17 23:46:23 |
ความคิดเห็นที่ 65 (4142256) | |
karan | @Sittvee สีที่ว่าเป็นเม็ดทราย เป็นสีชนิดไหนครับ สีน้ำหรือสีทินเนอร์ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น karan (karanaun9574-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2018-10-22 14:52:22 |
ความคิดเห็นที่ 66 (4172370) | |
กู๋ | พ่นแลกเกอร์แล้วเวลาสีเริ่มแห้งเกิดผิวฟองอากาศยิบฯติดตัวดักนำ้แล้วลองเปลี่ยนแลกเกอร์แล้วก็ยังเป็นอยู่เกิดจากสาเหตุใดแก้ไม่ตกงานพ่นโลหะครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น กู๋ วันที่ตอบ 2019-05-21 12:50:29 |
1 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 9868751 |