ReadyPlanet.com


ยุทธจักรมังกรไม้
avatar
yun lefty


 เกริ่นนำ

สวัสดีครับ หลังจากที่ผมได้นำเสนอเครื่องมือในกระทู้หัวข้อ "รวมร่างเพื่อความสะดวก+ประหยัด" แล้ว ก็ไม่ได้มีการเปิดกระทู้ใหม่มาเป็นเวลาปีกว่า ครั้งนี้ผมมีผลงานการสร้างเครื่องไม้เครื่องมือมาให้เพื่อนๆได้ชมกันคือ โต๊ะเลื่อยวงเดือน+เราเตอร์ ของคุณเย้าครับ

รักที่จะทำงานไม้งานช่าง จินตนาการในการทำการสร้างก็เป็นสิ่งสำคัญ ฉนั้นการเล่าเรื่องราวการสร้างโต๊ะฯตัวนี้ผมจึงอยากลองในสิ่งใหม่สำหรับผม คือเล่าเรื่องออกไปในแนวหนังสือนิยายที่ผมชอบ ซึ่งอาจจะถูกใจและไม่ถูกใจทุกท่านที่เปิดอ่าน ท่านที่อ่านแล้วถูกใจผมย่อมยินดี(เป็นธรรมดา  ) แต่ถ้าท่านใดไม่ชอบขอโปรดให้อภัยกันด้วยนะครับ  

เรื่องของเนื้อเรื่องและตัวละครของผมนั้นสร้างขึ้นจากจินตนาการตามอารมณ์ ส่วนที่ต้องจริงจังผมจะจริงจังให้มีสาระ ในส่วนที่ไม่ต้องจริงจังผมก็จะพยายามทำให้อ่านสนุกครับ 

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก :: วันที่ลงประกาศ 2014-05-16 09:15:07


1

ความคิดเห็นที่ 1 (3002622)
avatar
yun lefty

 อีกสักนิดก่อนเข้าเรื่อง

เรื่องความชอบส่วนตัวของผมนั้นมีอยู่หลายเรื่องนอกจากทำงานไม้,สร้างเครื่องมือ,ดูหนัง,ฟังเพลงแล้ว อีกเรื่องคืออ่านหนังสือครับ หนังสือที่ผมอ่านนั้นผมอ่านทุกประเภท แต่ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษคือนวนิยายจีนกำลังภายในของกิมย้งโดยการแปลในนามปากกา น.นพรัตน์ แถมยังอ่านซ้ำหลายรอบมาก ถ้าเพื่อนๆท่านใดอ่านแล้วรู้สึกว่าสำนวนการเขียนมันคลับคล้ายคลับครากับลีลาการแต่ง,การแปลของทั้งสองท่านนี้ โปรดจงรู้ไว้เถิดว่านั่นน่ะใช่เลย เพราะสำนวน,ลีลานั้นมันฝังอยู่ในสมองผมมานานแล้วครับ 

 

ผมขอเริ่มเรื่องเลยนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 10:14:59


ความคิดเห็นที่ 2 (3002623)
avatar
i3ird

ณ ยอดขุนเขาอันสูงทะมึนเทียมฟ้าได้กำเนิดชายผู้อันมีวรยุทธที่ล้ำลึกพิศดาร รูปร่างเขาสูงประมาณสองเชี๊ยะ........

ผู้แสดงความคิดเห็น i3ird (bird-togo-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 10:47:10


ความคิดเห็นที่ 3 (3002625)
avatar
yun lefty

 ในแวดวงของผู้ทำงานไม้ทั้งเพื่อหาเลี้ยงชีพหรือผู้ที่ชื่นชอบลงมือกระทำในยามว่างนั้น มิมีผู้ใดมิเคยกล่าวถึงท่าน หัตถ์เทวะ ผู้เป็นเจ้าสำนัก หมื่นวิถี ด้วยความชื่นชมยกย่อง  ความนิยมชมชอบที่ท่านหัตถ์เทวะได้รับนั้น เกิดจากผลงานที่ท่านได้บรรจงประดิษฐ์ขึ้นเองหรือทำตามแบบแผนที่มีมาแต่โบราณกาลหรือบางครั้งคราก็ผสมผสานกันที่เมื่อเสร็จสิ้นลงแล้วล้วนแล้วแต่ประณีตพิศดารสูงส่งยิ่ง จนทุกครั้งคราที่เมื่อผู้ใดก็ตามได้พบเห็นผลงานท่าน ผู้ที่มีฐานะร่ำรวยจะรีบจับจองไว้เป็นสมบัติ ส่วนผู้ยังมีเงินทองไม่พอก็ใฝ่ฝันอยากได้ผลงานของท่านหัตถ์เทวะไว้ในครอบครองในอนาคต และยังมีอีกมากหลายที่อยากเข้าสำนักเป็นลูกศิษย์ท่าน เพียงแต่ทุกเรื่องราวในโลกมิอาจเป็นไปตามที่วาดหวังของผู้คน ผลงานของท่านหัตถ์เทวะก็เช่นกัน แม้จะทำมาจำนวนเพียงน้อยนิดหลายๆครั้งถึงกับมีเพียงชิ้นเดียวและทุกชิ้นล้วนมีราคาสูงลิ่ว แต่ก็มิเคยมีเหลือให้เปลืองที่เก็บสักชิ้น ที่มีเก็บไว้ก็จะเป็นชิ้นที่ตั้งใจทำไว้เพื่อหวนรำลึกและให้ผู้อื่นได้ศึกษากัน  ส่วนผู้ที่ตั้งความหวังที่จะเข้าสำนักเป็นลูกศิษย์ท่านหัตถ์เทวะนั้น ถ้าให้ยืนเข้าแถวสมัครเป็นศิษย์คงมีแถวยาวหลายลี้ เพราะนอกจากท่านจะทำผลงานน้อยชิ้นแล้ว ลูกศิษย์ท่านก็ยังจำกัดจำนวนด้วยเช่นกัน

แต่ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมานั้นยังไม่เพียงพอต่อการยกย่องนับถือ เพราะแม้ท่านหัตถ์เทวะต้องการจะส่งเสริมทุกผู้คนด้วยความรู้ที่ท่านมีอย่างลึกล้ำกว้างขวาง แต่ท่านก็สำนึกได้ว่าท่านมิอาจจะรับศิษย์ขึ้นมามากเกินจะควบคุมดูแลได้ จึงใช้วิธีเขียนตำราวิชางานของท่านให้ทุกผู้คนได้ศึกษา อีกทั้งเมื่อมีผู้ใดถามถึงปัญหาหรือแนวทางการทำงานไม้ ท่านหัตถ์เทวะก็ยินดีที่จะอธิบายไขข้อคับข้องในงานนั้นตลอดมา

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 10:48:57


ความคิดเห็นที่ 4 (3002627)
avatar
yun lefty

 555 พี่เบิร์ด มีแซวนะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 11:45:38


ความคิดเห็นที่ 5 (3002634)
avatar
yun lefty

 อันสำนักหมื่นวิถีนั้นแม้จะก่อตั้งขึ้นจากน้ำมือของท่านหัตถ์เทวะเอง แต่ก็ใช้สถานที่จากบรรพบุรุษตกทอดมา  เมื่อ 30 กว่าปีก่อนยังเป็นสถานที่ที่ห่างไกลจากผู้คน ปัจจุบันกลับถูกล้อมรอบไปด้วยบ้านเรือนผู้คนมากมาย แต่ก็ยังรักษาระยะห่างไว้ได้ด้วยไม้ยืนต้นที่ปลูกแทนการตั้งรั้ว ในบริเวณสำนักมีการก่อสร้างอาคารให้เหมาะสมกับเป็นที่อยู่อาศัยและทำงานไปด้วยกัน เพราะมีอาณาบริเวณกว้างขวางจนสามารถแยกส่วนการใช้งาน กล่าวคือมีอาคารทั้งสิ้น 4 หลัง อาคารแรกเป็นตึกไม้ 3 ชั้นมีชื่อว่า ตึกอิงพนา ทั้งภายนอกและภายในตกแต่งอย่างเรียบง่าย ใช้สำหรับเป็นที่พำนักของอาจารย์,ภรรยาและลูกศิษย์ทั้งสี่ตั้ง อยู่ด้านในสุดของพื้นที่ มีการปลูกเพาะด้วยพฤกษานานาพรรณรายรอบ และตามจุดต่างๆทั่วอาคารชวนสบายตายิ่งนัก ถัดมาเป็นเรือนสำหรับเก็บไม้เรียกว่า ตึกสู่วิถี ใช้เป็นที่เก็บไม้โดยแยกหมวดหมู่ทั้งไม้เนื้อดีราคาแพงซึ่งเป็นไม้สำหรับจัดสร้างสินค้า และเก็บไม้ราคาถูกสำหรับให้เหล่าลูกศิษย์ฝึกปรือฝีมือ ไม้ผ่านการใช้งานมาแล้วก็แยกกับไม้ใหม่ที่เก็บรอให้แห้งตามธรรมชาติมิได้ปะปนกัน และไม้ที่สำคัญที่สุดคือไม้ที่ยากยิ่งจะพบพานทั้งหลายที่ท่านหัตถ์เทวะได้เพียรเสาะหามาสะสมไว้ตั้งแต่วัยฉกรรจ์ เรือนต่อมาเป็นตัวอาคารขนาดใหญ่โตกว่าทุกๆหลัง ภายในแบ่งเป็นพื้นที่นั่งออกแบบงานไว้ในสุด ถัดมาสำหรับตระเตรียมวัตถุดิบทำชิ้นงานและเก็บวัสดุของใช้สิ้นเปลือง ถัดมาเป็นพื้นที่สร้างสรรค์และตกแต่งรายละเอียดงานมีเครื่องมืออุปกรณ์มากมายรายล้อมอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และสุดท้ายเป็นพื้นที่ประกอบงานอยู่คู่กับพื้นที่สำหรับเพิ่มสีสันให้ชิ้นงาน เรือนต่อมาเป็นเก๋งจีนเรียกว่า เรือนมัจฉา เป็นเรือนที่แทบจะไม่มีการตกแต่งใดๆทั่วทั้งศาลามีเพียงโต๊ะกลางตัวเตี้ยเล็กสำหรับตั้งของว่างผลไม้ ตั้งอยู่กลางสระน้ำสีเขียวขจีขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝูงปลานานาชนิดและยังร่มรื่นไปด้วยหมู่ไม้หลากสายพันธุ์ที่รายล้อมหอมเย็นระรื่นทุกฤดูกาล เป็นที่ใช้สำหรับพักผ่อนคลายอารมณ์ของทุกคนในสำนัก เพียงแต่การจะใช้พักผ่อนนั้นกลับมิได้สร้างสะพานไว้ เกือบทุกคนในสำนักจะมีเรือที่สร้างกันเองสำหรับข้ามน้ำไปมา อาคารสุดท้ายตั้งอยู่หน้าสุดจากทางเข้า มีชื่อว่า ตึกอาคันตุกะ เป็นอาคารที่ใช้ตั้งแสดงผลงานตัวอย่างของท่านหัตถ์เทวะและของลูกศิษย์ที่ท่านได้ผ่านตาแล้วเห็นสมควรแก่การตั้งแสดง ซึ่งผู้มาเยี่ยมคารวะมิสามารถชมได้ทั่วถึงในวันเดียวเพราะทั้งอาคาร การตกแต่ง และผลงานที่ตั้งแสดงนั้น ล้วนมีความลึกล้ำพิศดารให้ตื่นตาตื่นใจทั้งสิ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 13:28:40


ความคิดเห็นที่ 6 (3002646)
avatar
yun lefty

 ในตึกสู่วิถี

บุรุษผู้หนึ่งผิวกายเข้มคล้ำแต่งกายด้วยชุดทำงานช่างสีอ่อนตาที่แม้จะดูอย่างไรก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นสีใดระหว่างขาวกับน้ำตาลเนื่องทั้วทั้งเนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่นไม้เกาะอยู่ นั่งหันหลังให้ประตูท่าทางกำลังพิจารณาอย่างจดจ่อกับไม้ลักษณะพิกลในมือที่เบื้องหน้าส่งเสียงพึมพำครุ่นคิด

"เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เหตุใด" เป็นระยะๆ 

พลันเกิดเสียงขึ้นที่เบื้องหลังบุรุษมอมแมม"พี่รองแย่แล้ว"พร้อมกับเสียงหัวเราะสดใสแผ่วเบา เนื่องเพราะบุรษมอมแมมนี้จิตใจจอจ่อกับชิ้นงานเบื้องหน้ามิทันได้สังเกตุเหตุการณ์รอบข้างจึงสะดุ้งสุดตัวทำไม้หลุดมือตกพื้นหักไป หันมามองเด็กสาวที่ทำให้ตื่นตระหนกอย่างขุ่นเคืองแว่บหนึ่งพลางก้มลงเก็บไม้ เด็กสาวผู้นี้อายุสิบแปดสิบเก้าปี เป็นบุตรีของท่านหัตถ์เทวะและเป็นศิษย์คนล่าสุดที่ท่านได้รับไว้ถ่ายทอดวิชาเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา มีรูปร่างสูงโปร่งหน้าตางดงามผิวขาวสะอาดตัดกับเส้นผมดำสนิทยาวเสมอติ่งหู นิสัยขี้เล่น ไร้เดียงสา พูดจาฉะฉาน  บิดาตั้งชื่อให้เรียกหาว่า หนูหริ่ง

บุรุษมอมแมมกล่าวเสียงเย็นชาว่า"มีอันใดแย่หรือ? หนูหิ่น"พูดพลางมองหน้าศิษย์ผู้น้องคนเล็กแล้วก้มมองไม้ที่หักเสียหาย 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 15:28:21


ความคิดเห็นที่ 7 (3002658)
avatar
yun lefty

 "อีกแล้ว พี่รองกลับกล้าเปลี่ยนชื่อล้อเลียน ข้าพเจ้าจะฟ้องให้มารดาลงโทษท่าน" พูดพลางทำท่าจะเดินจากไป

"ช้าก่อน" บุรุษมอมแมมรีบกล่าวระร่ำระลักต่อเสียยืดยาวว่า  "เอาเถิด ถือว่าพี่รองกล่าวผิดไป หนูหริ่งอย่าได้ถือสานำความไปฟ้องอาจารย์หญิง(มารดาของหนูหริ่งและเป็นภรรยาของท่านหัตถ์เทวะ) เกิดเรื่องราวไปถึงหูท่านอาจารย์ พี่รองคงไม่อาจรับการลงโทษไว้ได้ อย่าว่าแต่ หนูหริ่งกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ตื่นตระหนกระหว่างทำงานนี่นับว่าผิดกฏการทำงานของสำนักอย่างมหันต์ ลำพังงานเสียหายนับเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าลุกลามเลยเถิดถึงขั้นได้รับบาดเจ็บล้มตายขึ้นมา ท่านต้องถูกท่านอาจารย์ลงโทษอย่างหนักแน่" 

หนูหริ่งกำลังจับจ้องที่บุรุษมอมแมมเบื้องหน้าที่เพิ่งลุกขึ้นยืน บุรุษผู้นี้มีรูปร่างเตี้ยเล็กผิวกายหน้าตาเข้มคล้ำฟันขาวสะอาดตัดกับผิวพรรณ ไว้ผมยาวประบ่าแต่ดูเรียบร้อยไม่ให้ความรู้สึกว่ารกรุงรัง นิสัยสัตย์ซื่อเมื่อยามแย้มยิ้มกลับรู้สึกน่าสนิทสนมไร้พิษภัยต่อทุกผู้คน ท่านหัตถ์เทวะไปพบพานเมื่อครั้งมันยังเป็นทารกถูกทอดทิ้งไว้ข้างทางจึงเก็บมาชุบเลี้ยงตั้งชื่อให้เรียกขานกว่า เจ้าชาย เมื่อถึงวัยที่เหมาะสมจึงรับเป็นลูกศิษย์สืบทอดวิชา

หนูหริ่งกลั้นหัวเราะอย่างยากเย็นแล้วปั้นหน้ากล่าวขึงขังว่า

"น่าหัวร่อ พี่รองช่างขวัญอ่อนยิ่ง เราเพียงกล่าวข่มขู่เล่นท่านกลับถือเป็นจริงจัง หากขวัญไม่เข้มแข็งพอจะทำงานกับเครื่องกล(พาวเวอร์ทูล)ได้หรือ? อย่าว่าแต่ไม้ที่ท่านกำลังทำอยู่มิใช่ไม้มีค่าอันใดเสียหายก็ทำใหม่เกรงอันใด?" 

เจ้าชายทำหน้างุนงงแล้วกล่าวว่า 

"ไม้ไม่มีค่า? เป็นไปมิได้ ท่านอาจารย์มอบหมายงานให้เราทำก่อนออกเดินทางไปต่างแดน กำชับให้เราตั้งใจทำงานชิ้นนี้อย่างระมัดระวังไม้ที่ใช้ทำชิ้นงานล้วนแต่เป็นไม้สูงค่า เป็นไม้สักพันปี"

หนูหริ่งไม่สามารถกลั้นหัวร่อได้ หัวเราะจนเหยื่อยหอบก่อนกล่าวอย่างยากเย็นว่า

"ไม้สักพันปีผีสางใดตกพื้นหักชำรุดได้? ไปสักที่วัดใด?พระอาจารย์ท่องคาถาผิดหรือถึงไม่มีความเหนียวแม้แต่น้อย? ฮาฮาฮา"

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 17:47:12


ความคิดเห็นที่ 8 (3002662)
avatar
yun lefty

 เจ้าชายทำหน้านิ่วคิ้วขมวด "ที่แท้ท่านหลอกลวงล้อเล่นเรา เอาเถิดต่อให้มิใช่เป็นไม้สูงส่งใดแต่พี่รองเสียเวลาทำไม้ชิ้นนี้มาแล้วแปดวันแปดคืนโดยมิหยุด จะกินข้าวก็เอาไปดูจะปลดทุกข์ก็เอาไปด้วย แม้ยามนิทราก็ยังทำต่อไม่หยุดหย่อน  เมื่อมันเสียหายอย่างนี้เราคงไม่สามารถทำงานจนสำเร็จทันท่านอาจารย์กลับสำนัก"

หนูหริ่งหน้าแดงสดใสกล่าวเชิงตำหนิว่า "พี่รองวาจาช่างระคายหูยิ่งนัก เอาไปปลดทุกข์ด้วย มันช่วยปลดทุกข์ได้หรือ? ผู้น้องเป็นอิสตรีมิควรที่จะรับฟัง" จากนั้นหนูหริ่งเริ่มรู้สึกตัวว่าล้อเล่นมากเกิน และเห็นใจต้องการช่วยแก้ปัญหาที่ตัวเองเป็นผู้เริ่ม กล่าวเสียงอ่อนโยนลง

"แม้ใครจะสัพยอกเรียกข้าพเจ้าเป็นหนูหิ่น แต่ข้าพเจ้าก็มิได้ถือสามาเนิ่นนานแล้วทั่วทั้งสำนักก็เรียกข้าพเจ้าเช่นนี้ ทั้งแผ่นดินก็เรียกเช่นนี้ ข้าพเจ้าอับจนปัญญาที่จะไปห้ามปรามเพียงแต่รู้สึกคับข้องใจอยู่บ้างว่า ข้าพเจ้ารักชอบที่จะไว้ผมทรงนี้ (พูดพลางลูบผมไปพลาง) มาก่อนที่หนูหิ่นผู้โด่งดังในการ์ตูนจะถือกำเนิดเสียอีก เหตุใดกลับไม่มีผู้คนเรียกหาว่าทรงผมหนูหริ่ง"  ทอดถอนใจพลางยื่นมือออกมาแล้วจึงกล่าวสืบต่อ

"ให้ข้าพเจ้าชมดู แล้วบิดาสั่งท่านไว้เช่นไร?"

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 19:01:35


ความคิดเห็นที่ 9 (3002664)
avatar
yun lefty

 "ท่านอาจารย์สั่งให้พี่รองทำไม้เท้าจากไม้สักพันปีชิ้นเดียว เราดูแล้วมิอาจทำได้ แต่ตัวอย่างที่ท่านให้เราดูกลับเป็นไม้ชิ้นเดียวจริงๆ เราครุ่นคิดจนปวดเศียรเวียนเกล้าก็คิดไม่สำเร็จ แม้จะทดลองกับไม้ทั่วๆไปมาแล้วหลายชิ้นก็ยังไม่พบหนทาง นี่ถ้าถึงกำหนดท่านอาจารย์กลับมา เราคงไม่พ้นถูกท่านตำหนิอีกครา" พลางยื่นไม้หักคู่นั้นใส่มือหนูหิ่น หนูหิ่นชมดูไม้หักทั้งสองชั่วครู่แล้วยิ้มออกมาพร้อมกับกล่าวว่า

"มิน่าเล่าบิดาถึงเคยตำหนิท่านไว้ว่าท่านมีฝีมือที่ประณืตเรียบร้อยแต่ขาดซึ่งจินตนาการไหวพริบ ท่านจะใช้ไม้ที่แทบจะไม่มีความเหนียวยืดหยุ่นมาทำไม้เท้าด้วยไม้ชิ้นเดียวได้อย่างไรหากไม่รู้จักพลิกแพลง" หยุดชั่วครู่แล้วกล่าวต่ออีก

"ไม้แทบทั้งแผ่นล้วนมีลักษณะเสี้ยนไปในทิศทางเดียวกัน แต่ตัวไม้เท้ากลับต้องมีด้ามจับยื่นออกมาในลักษณะขวางแนวเสี้ยนอยู่ ไม้ที่บิดาให้ท่านไว้คงมีลักษณะเป็นแผ่นกว้างลวดลายต่อเนื่องงดงามกระมัง? เหตุใดท่านไม่รู้จักใช้วิชาซ่อนรูปเร้นรอย ที่บิดาถ่ายทอดให้?"

เจ้าชายตาเป็นประกายรู้สึกตื่นเต้นยินดีรีบกล่าวว่า

 

"นั่นก็ใช่แล้ว เราได้ลู่ทางแล้ว ขอบคุณน้องเรามากๆ เราผู้พี่กลับเลอะเลือนขาดการไตร่ตรอง เราจะลงมือในทันที"

 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 19:42:46


ความคิดเห็นที่ 10 (3002670)
avatar
yun lefty

"ช้าก่อนพี่รอง ข้าพเจ้ามัวแต่หยอกเล่นกับท่านจนลืมเลือนเรื่องสำคัญเร่งด่วนไป" หนูหิ่นรีบยั้งไว้แล้วกล่าวต่อว่า "เมื่อสักครู่มีผู้มาเยี่ยมเยือน ข้าพเจ้าเข้าไปรับหน้าไว้แล้วขอให้ท่านเหล่านั้นรอที่ตึกอาคันตุกะพร้อมให้ท่านพ่อบ้านคอยดูแล จากนั้นรีบเสาะหาศิษย์พี่ใหญ่ไปต้อนรับ พี่รองท่านพบเห็นพี่ใหญ่หรือไม่?" เจ้าชายรับฟังแล้วกล่าวอย่างครุ่นคิดว่า

"พี่ใหญ่เข้าเมืองไปจับจ่ายซื้อสิ่งของมาทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ นี่ก็เลยยามเที่ยงมามากแล้ว ถ้ารถราไม่ติดขัดมากนักคาดว่าคงพักให้หายเหนื่อยล้าอยู่ที่เรือนมัจฉา" จากนั้นทั้งสองก็ชักชวนกันไปเสาะหาศิษย์พี่ใหญ่

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 19:53:20


ความคิดเห็นที่ 11 (3002680)
avatar
yun lefty

 เข้าสู่ช่วงจริงจังกันก่อนครับ 

วิชาซ่อนรูปเร้นรอยที่อ้างถึงนี้ เป็นจินตนาการไปตามเนื้อเรื่อง ส่วนชีวิตจริงคือการเพลาะไม้โดยใช้เดือยไม่ว่าจะเป็นเดือยทรงกลม,โดมิโน ถ้าจะทำชิ้นงานลักษณะนี้จากไม้แผ่นชิ้นเดียวคงหนีไม่พ้นวิธีดังกล่าว เพียงแต่เดือยทรงกลมน่าจะง่ายสุด ง่ายทั้งการหาวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ การทำนั้นถ้าผมได้โจทย์มาอย่างนี้ผมจะตัดไม้ที่จะใช้ทำชิ้นงานเป็นรูปทรงฉาก จากนั้นทำจิ๊กให้รับกับไม้ที่ตัดทรงฉากไว้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เสร็จแล้วก็ตัดส่วนด้ามออกเจาะรูฝังเดือย ที่ปลายเดือยบากไว้สำหรับเสียบลิ่มที่ปลายเดือยด้านแนวดิ่งเพื่อให้ปลายเดือยขยายตัวออกเมื่อลิ่มชนกับก้นรูที่เจาะไว้ และที่รูนี้ผมจะควานรูให้ก้นรูกว้างกว่าปากรู จากนั้นก็เอาไม้แนวดิ่งมาขึ้นทรงด้วยเครื่องกลึง เสร็จแล้วก็ประกอบเข้ากับส่วนด้ามจับ ทากาวบีบแคล็มป์ทิ้งไว้จนแห้งค่อยแต่งทรงด้ามจับ ส่วนรอยต่อถ้าจะให้เนียนสังเกตุรอยต่อยาก คงต้องพึ่งเครื่องเลื่อยสายพาน,เลื่อยญี่ปุ่น,เลื่อยฉลุมือหรือเครื่องฉลุครับ

 

สำหรับวันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนครับ เพื่อนๆได้อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรบอกกล่าวกันเข้ามาได้ครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 20:49:23


ความคิดเห็นที่ 12 (3002684)
avatar
peter o-ver

55555.....นวนิยาย กิมยุ่น...อ่านแล้วเพลินจนลืมกินข้าว อ้าปากค้าง น้ำตานอง ท้องเรียกร้อง อยากหาเศษไม้ลงกะเพาะสักมื้อ....เหอๆๆๆๆ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น peter o-ver (od_jung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 22:04:02


ความคิดเห็นที่ 13 (3002686)
avatar
เอ๋ เพาะช่าง

ช่วยอ่านแล้วอัดเป็นแผ่นcd ส่งมาให้ด้วยได้เปล่า......ขอร้อง

ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-16 23:07:00


ความคิดเห็นที่ 14 (3002752)
avatar
จ๊อด

ขอคาราวะ 3 จอก

ผู้แสดงความคิดเห็น จ๊อด วันที่ตอบ 2014-05-18 18:38:52


ความคิดเห็นที่ 15 (3002764)
avatar
yun lefty

 พี่ ปีเตอร์ พวกเรากินข้าวต่อไปเถอะครับ ไม้น่ะให้ปลวกกินจะถูกฝาถูกตัวกว่านะ แหะๆ ^_^"

 

พี่เอ๋ ถ้าอ่านอย่างน้อยก็ช่วยให้ค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของคนไทยสูงขึ้นอีกด้วยนาพี่เอ๋นา 

 

ขอโซดาด้วยครับ พี่จ็อด 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-19 05:38:58


ความคิดเห็นที่ 16 (3002800)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

อ่านไปอ่านมานึกว่าเข้าผิดบอร์ดซะอีก อ่านแค่ไตเติ้ลก็ต้องคารวะ 3 จอกแล้วครับศิษย์ผู้พี่

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-19 15:39:51


ความคิดเห็นที่ 17 (3002831)
avatar
pakae

เดี๋ยวกลับไปอ่านต่อที่บ้าน

อย่าหยุดน่ะ คุณยุ่น

ผู้แสดงความคิดเห็น pakae (iampakae-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-19 20:30:54


ความคิดเห็นที่ 18 (3002901)
avatar
yun lefty

 เข้าบอร์ดไม่ผิดหรอกครับ พี่เอ็ม ผมตะหากที่กำลังทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านน่ะครับ 

งั้นต่อเลยล่ะกัน คุณ pakae

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-21 06:40:03


ความคิดเห็นที่ 19 (3002903)
avatar
yun lefty

 มังกรไม้ปรากฎ

ทั้งสองเร่งรีบลัดเลาะมาตามเส้นทางที่ทอดสู่เรือนมัจฉา ชั่วครู่เรือนมัจฉาอันร่มรื่นกลางสระน้ำเขียวขจีก็ปรากฎแก่สายตา เมื่อทั้งสองเดินมาถึงท่าเทียบเรือมองเห็นศิษย์ผู้พี่คนโตนอนไขว่ห้างภายในเก๋งตามที่เจ้าชายคาดไว้ ศิษย์คนโตแห่งสำนักหมื่นวิถีผู้นี้มีนามว่าใหญ่ พื้นเพเป็นชาวเหนือ บิดามารดาได้พามาฝากฝังให้ท่านหัตถ์เทวะอบรมสั่งสอนตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยอายุเพียง 12 ปี มาถึงจวบปัจจุบันอายุ 26-27 แล้ว มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำสมชายชาตรี หน้าตาหล่อเหลางามสง่าประหนึ่งเทพยดาบรรงจงปั้นแต่งให้สะดุดตาต่อผู้คนโดยเฉพาะอิสตรียิ่งนัก  เพียงแต่หนึ่งในสิ่งที่หายากที่สุดคือความสมบูรณ์พร้อม ใหญ่ก็เช่นกัน

 เมื่อได้ยินเสียงเรียกหาจากศิษย์ผู้น้องทั้งสองจึงลงเรือพายมายังท่าเทียบเรือ เจ้าชายกุลีกุจอรับเชือกมาผูกเงื่อนไว้ ยังไม่ทันได้ขึ้นจากเรือได้ยินศิษย์ผู้น้องทั้งสองแย่งชิงกันพูดจาจนมิอาจจับใจความได้ จึงยกมือขึ้นห้ามปรามแล้วกล่าวว่า

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-21 07:01:56


ความคิดเห็นที่ 20 (3002904)
avatar
yun lefty

 "ห้าจ้าชาเปผู้พู่จาเถ่อ (ให้เจ้าชายเป็นผู้พูดจาเถิด)" ยิ้มกว้างพลางกล่าวต่อว่า

"จ้าชา โด่เด่มา มีอาดา (เจ้าชาย ด่วนเสด็จมา มีอันใด)"

หนูหิ่นแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน หันหน้าไปทางอื่นด้วยสีหน้าประหลาดพิกลยิ่ง แต่เจ้าชายกลับมีสภาพย่ำแย่ยิ่งกว่า กระอักกระอ่วนจนหน้าแดงคล้ำเข้ม รีบหนีบขาอย่างมิได้ตั้งใจกล่าวว่า

"พี่ใหญ่ ท่านโปรดใช้คำอื่นได้หรือไม่ ผู้น้องรู้สึกขัดเขินยิ่ง"

ราเปพี่น้อกา(เราเป็นพี่น้องกัน) หย่อล้อกาเพเละน้อ จ่าเปรา(หยอกล้อกันเพียงเล็กน้อยจะเป็นไร)"

"หากท่านเปลี่ยนเป็นกล่าวคำอื่น แทนสัพยอกเราด้วยราชาศัพท์ ผู้น้องจะสำนึกขอบคุณท่านมิลืมเลือน" เจ้าชายอธิบาย พี่ใหญ่ทำหน้างุนงง เลิกคิ้วถาม

"ราช้าคาผี่ปาหรารา(เราใช้คำผิดไปหรือไร) เปจ้าชา วาลาเดอก็เร่เด่ (เป็นเจ้าชาย เวลาเดินก็เรียกเด็จ) เดอปาเดอมา ก็เร่เด่ปาเด่มา(เดินไปเดินมาก็เรียก เด็จไปเด็จมา) เด่ทู้ๆที่ๆปา(เด็จทุกๆที่ๆไป)" 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-21 07:12:20


ความคิดเห็นที่ 21 (3002944)
avatar
yun lefty

 ในที่สุดหนูหิ่นก็ไม่สามาถสะกดกลั้นไว้ ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างดังยาวนาน พี่ใหญ่จึงฉุกคิดขึ้นได้ด้วยปัญญาไว เฉไฉไปเรื่องอื่นทันทีว่า

"เมอเร่ออาดา เถอด้าเร่หารา(มีเรื่องอันใดถึงได้เรียกหาเรา)"

เจ้าชายเห็นหนูหิ่นแม้จะหยุดหัวเราะลงได้ แต่ท่าทางคงยังไม่พร้อมจะกล่าววาจาใดๆในทันที จึงรายงานแทนว่า

"มีแขกมาเยือน ขณะนี้รออยู่ที่ตึกอาคันตุกะ พี่ใหญ่ท่านควรรีบด่วนด้วย"

หนูหิ่นระงับสติแล้วกล่าวเสริมว่า

"มีแขกสองท่านมาเยือน บอกข้าพเจ้าว่าเป็นสหายเก่าของบิดา ข้าพเจ้ามิกล้าถามไถ่มากความ"

"เช่น้ารารี่ปาเถ่อ มิโคเสมาราย่า ป่อห้าแข่รอเน่อนาปา(เช่นนั้นเรารีบไปเถิด มิควรเสียมารยาท ปล่อยให้แขกรอเนิ่นนานไป)"

เมื่อทั้งสามมาถึงทางเข้าด้านหลังตึกอาคันตุกะก็พบเห็นศิษย์คนที่สามของสำนักเดินก้มหน้าลงบันไดสวนมาอย่างรีบเร่ง คนผู้นี้ชื่อเล้ง แต่ทั้งศิษย์ผู้พี่และผู้น้องมักจะเรียกซาเล้ง (ซาแปลว่าสาม) บ้าง สามล้อบ้าง เป็นลูกศิษย์ที่ท่านหัตถ์เทวะคัดเลือกขึ้นมาจากการเปิดรับสมัครเมื่อ 5 ปีก่อน มีรูปร่างผอมสูงหน้าตาฉลาดเฉลียว ยามนั้นได้ยินเสียงหนูหิ่นทักทายดังขึ้น

"พี่สาม.......ล้อ กลับจากส่งมอบสินค้าต่างจังหวัดแล้วหรือ"

ซาเล้งเงยหน้าขึ้นมองพบเห็นพี่น้องร่วมสำนักมากันพร้อมหน้า หลังจากทักทายศิษย์ร่วมสำนักแล้วกล่าวว่า

"เราขนสินค้าไปส่งมอบที่ต่างจังหวัดตามคำสั่งท่านอาจารย์เสียยี่สิบกว่าวัน กลับมาหวังว่าจะได้พบหน้าพูดคุยฉันท์พี่น้องกับพวกท่านให้หายคิดถึง มิคาดกลับพบพานตัวประหลาดสองตนเสียก่อน"

"สอตอปาหล่า?(สองตัวประหลาด?)"

พี่ใหญ่ทวนคำ อย่างงุนงง

"อาดาที่ปาหล่า?(อันใดที่ประหลาด?)"

 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-21 17:16:58


ความคิดเห็นที่ 22 (3002950)
avatar
yun lefty

 ซาเล้งรายงานว่า

"เราเพิ่งกลับเข้ามา เมื่อผ่านตึกอาคันตุกะก็พบเห็นสองตัวประหลาดนั่น ในฐานะผู้เหย้าที่ดีเราจึงแวะเข้าไปทักทายต้อนรับพร้อมกับแนะนำตัว มิคาดเพียงพูดจากันได้ไม่กี่คำพวกนั้นกลับพูดจาหว่านล้อมพร้อมๆกับพยายามยัดเยียดของให้เรา"

ศิษย์พี่น้องทั้งสามส่งเสียงอุทาน "สิบแปดมงกุฏเร่ขายของ" ออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ซาเล้งกลับปฏิเสธ

"มิใช่ มิใช่ พวกท่านเข้าใจผิดไปแล้ว ของที่ว่านั่นเป็นป้ายไม้ชิ้นหนึ่งที่แกะสลักไว้ด้วยรูปมังกร เพียงแต่ เพียงแต่ เพียงแต่"

จากนั้นซาเล้งก็มิอาจกล่าววาจาสืบต่อ

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-21 19:23:30


ความคิดเห็นที่ 23 (3002955)
avatar
monalisa

 นอกจากทำงานไม้ อาจจะต้องเขียนนวนิยาย ด้วยนะครับพี่ยุ่น  ดูจากคำที่ใช้แล้วน่าจะอ่านมาเยอะ  +555

ผู้แสดงความคิดเห็น monalisa วันที่ตอบ 2014-05-21 20:31:33


ความคิดเห็นที่ 24 (3002962)
avatar
yun lefty

 ผมอ่านมาเยอะจริงอย่างที่ว่านั่นแหละครับคุณ monalisa นี่ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะน้ำท่วมเสียหายไป  ผมก็คงได้หยิบหนังสือทั้งหลายที่สะสมไว้กลับมาอ่านอีกหลายรอบแล้วครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-22 05:46:38


ความคิดเห็นที่ 25 (3002965)
avatar
yun lefty

 เจ้าชายรู้สึกสงสัยใคร่รู้เช่นคนอื่น รีบเร่งรัดให้ซาเล้งเล่าเรื่องราวออกมาให้กระจ่าง ซาเล้งกลับมีสีหน้าเลื่อนลอยกล่าววาจาราวกับรำพึงรำพันกับตัวเอง

"พวกท่านย่อมล่วงรู้ว่าเราชมชอบงานไม้ยิ่ง โดยเฉพาะงานฝีมือที่สร้างขึ้นมาด้วยมือ เพียงแต่ป้ายไม้นี้กลับทำให้เราตะลึงพรึงเพริดเกินไป" หยุดเล็กน้อยแล้วบรรยายต่อว่า

"ตอนที่เรารับป้ายนั่นมาชมดู แว่บแรกเรารู้สึกว่านี่คือผลงานที่วิจิตรงดงามอย่างที่ไม่เคยพบพานมาก่อนในชีวิต มิคาด มิคาด"

ทั้งสามรู้สึกหงุดหงิดรำคาญที่ซาเล้งซึ่งปกติเป็นผู้พูดจาแคล่วคล่อง กลับพูดจาติดๆขัดๆผิดวิสัย ซาเล้งระบายลมจากปากยาวๆแล้วกล่าวต่อ

"เมื่อเรารับป้ายมาชมดู ที่สัมผัสมือเรากลับรู้สึกป้ายนั้นเย็นเฉียบอย่างคาดไม่ถึงว่าทำสร้างขึ้นจากไม้ เราเริ่มพิจารณาจากด้านหลัง แม้ป้ายจะมีขนาดกว้างยาวเพียงคืบกว่า แต่เฉพาะความละเอียดอ่อนในฝีมือผู้สร้างป้ายนี้ทำเราแทบไม่สามารถพลิกไปชมดูอีกด้านได้ สุดท้ายเราก็พลิกไปชมด้านหน้า นั่นทำให้เราตื่นตะลึงถึงที่สุด"

ผู้ฟังทั้งสามพยักหน้ารับฟังจนอ้าปากค้าง ซาเล้งหยุดทอดถอนใจแล้วกล่าวราวกับอยู่ในภวังค์

"ที่รอบขอบไม้ด้านนี้ก็ประณีตงดงามเฉกเช่นด้านหลัง แต่ตัวมังกรกลับทำให้เราไม่สามารถถอนสายตาไปทางอื่นได้ ตัวมังกรประกอบด้วย หัว หาง เกล็ด เล็บ เขี้ยว เรามั่นใจว่าประกอบขึ้นจากไม้ห้าชนิด ห้าสีสัน พร่่างพรายตาร้อยเรียงกันดั่งมังกรมีชีวิตพร้อมที่จะทะยานออกมาใส่เรา"

เห็นทุกคนมีท่าทางเคลิบเคลิ้ม เงียบงันจนได้ยินเสียงใบไม้ไหวตัดสายลม ผ่านไปชั่วครู่พี่ใหญ่กลืนน้ำลายอย่างยากเย็นยื่นมือออกมาแล้วกล่าวเสียงแหบพร่าว่า

"ขอดูป้าม้า(ขอดูป้าไม้)"

ซาเล้งรีบโบกมือ  "ป้ายไม่ได้อยู่ที่เราแล้ว เราสำนึกตัวว่ามิอาจรับไว้เพราะมีเงื่อนไขให้ผู้รับไว้ครองต้องปฏิบัติตาม หากพวกท่านต้องการชมดูพวกเราเข้าไปชมดูพร้อมกันเถอะ"

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-22 06:59:41


ความคิดเห็นที่ 26 (3002966)
avatar
T

 อ่านแล้วมึนเดินเอียงไปข้างหนึง 5555

ผู้แสดงความคิดเห็น T วันที่ตอบ 2014-05-22 07:01:46


ความคิดเห็นที่ 27 (3002971)
avatar
jeng

 โหย...กะละมังเรย.รออ่าต่อ(กำลังมันส์เรย...รออ่านต่อ)

ผู้แสดงความคิดเห็น jeng (narongdedh-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-05-22 08:41:02



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.