ReadyPlanet.com


การเรียนรู้ ที่เน้นให้เด็กได้เรียนจนเกิดความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่แค่สอบให้ผ่าน
avatar
mii


 

การเรียนรู้แบบเดิม

ระบบการสอนในปัจจุบันที่ให้ความรู้กับเด็ก โดยที่ไม่สนใจว่าเด็กจะรู้และเข้าใจแนวคิดได้ดีพอ และคาดหวังว่าเด็กทุกคนจะเรียนรู้ได้เหมือนกัน เรียนรู้ในอัตราเร็วที่เท่ากัน จากนั้นก็วัดผลด้วยแบบทดสอบเดียวกัน เด็กบางคนทำคะแนนได้ 75% บางคนอาจจะได้ 90% หรือ 95%

สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันจะมีช่องว่างของความรู้ เมื่อเด็กที่สอบได้ 75% เลื่อนชั้นขึ้นไปเรียนวิชาที่ยากขึ้นกว่าเดิม เค้าก็จะขาดพื้นฐานที่จำเป็นไป 25% ทำให้เด็กเรียนไม่เข้าใจ และจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ยิ่งเลื่อนชั้นขึ้นไปเท่าไหร่ ช่องว่างของความรู้มันก็จะยิ่งเยอะขึ้น

ตลอดช่วงเวลาที่เด็กเลื่อนชั้น มันจะเกิดช่องว่างของความรู้ ทำให้เด็กหลายคนเรียนไม่ทัน และในที่สุดก็จะคิดว่าตัวเองไม่ถนัดและทำให้เด็กเลิกสนใจวิชานั้นๆ ไป

การเรียนรู้แบบใหม่

การเรียนรู้เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญ เป็นทางเลือกที่เด็กๆ จะได้เรียนวิชานั้นๆ จนกว่าจะเชี่ยวชาญ จนกว่าจะพร้อม แล้วค่อยขยับขึ้นไปเรียนวิชาหรือเนื้อหาที่มันยากขึ้น

แนวคิดใหม่นี้จะช่วยให้เด็กเกิดความคิดที่ว่า เค้าสามารถเรียนรู้และเก่งได้ทุกวิชา ทำให้เด็กมีความมั่นใจในความสามารถของตัวเอง ความสามารถที่จะเรียนรู้และเชี่ยวชาญได้ในทุกเรื่อง เปลี่ยนทัศนคติเป็นแบบเติบโต

แนวคิดนี้มันไม่ใช่แค่ดูดี แต่มันจำเป็นสำหรับสังคมในปัจจุบัน เพราะในอีกไม่กี่ปีหลังจากนี้ งานหลายๆ อย่างมันจะถูกทดแทนด้วยเครื่องจักรที่ทำงานอัตโนมัติ โดยเฉพาะงานที่ไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานที่ไม่ต้องให้คนใช้เหตุผลและอารมณ์เพื่อตัดสินใจ แต่ถ้าเราพัฒนาเด็กให้มีความเชี่ยวชาญ เครื่องจักรก็จะไม่สามารถมาทดแทนได้ เด็กทุกคนก็จะมีส่วนร่วมในการทำงานในอนาคต

รูปแบบการศึกษาในปัจจุบันจะแยกกลุ่มนักเรียนตามอายุ และสอนความรู้ให้เด็กด้วยความเร็วเท่ากันทุกคน หลังจากเรียนเนื้อหาบางส่วน ก็จะมีการบ้านให้ทำ อาจจะมีการบ้านทุกวัน แลังจากนั้นก็จะมีการสอบ ซึ่งการสอบมันทำให้เราเห็นช่องว่างความรู้ของเด็กแต่ละคน แต่แทนที่เราจะปิดช่องว่างนั้น เรากลับปล่อยให้เด็กเลื่อนชั้นขึ้นไปเรียนเนื้อหาที่มันยากขึ้น แล้วมันก็จะเกิดช่องว่างสะสมมากขึ้น เด็กก็จะเรียนไม่ทัน ทำให้เด็กเลิกสนใจ และคิดว่าตัวเองไม่ถนัดวิชานั้น สล็อต

ต่างจากนักกีฬา ที่จะต้องฝึกฝนร่างกาย เรียนรู้เทคนิคพื้นฐาน ซ้อมแล้วซ้อมอีก จนร่างกายพร้อม ถึงจะไปเรียนเทคนิคที่ซับซ้อนมากขึ้น การเรียนรู้ในชั้นเรียนก็ควรจะเป็นเดียวกัน เด็กควรจะเรียนจนรู้ให้เชี่ยวชาญ ให้พร้อมก่อนแล้วค่อยขยับไปเรียนเนื้อหาอื่นที่ยากขึ้น

เราควรจะปล่อยให้เด็กได้ใช้เวลาเต็มที่เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจเนื้อหา เมื่อก่อนการทำแบบนี้มันเป็นเรื่องยุ่งยากเกินไป มันไม่สะดวกที่จะให้ครูเตรียมการสอนที่ต่างกันสำหรับเด็กแต่ละคน

แต่อย่าลืมว่าเราอยู่ในยุค Information ยุคที่ข้อมูลข่าวสาร สื่อการเรียนรู้มีมากมาย เด็กจะเรียนตอนไหนก็ได้ ถ้าเค้าต้องการเวลาเพื่อฝึกฝนทำแบบฝึกหัด เค้าก็สามารถทำได้ การเรียนรู้เพื่อให้เชี่ยวชาญ ตอนนี้มันทำได้แล้ว

ถ้าเด็กทำข้อสอบผิดไป 20% มันไม่ได้หมายความว่าเกรด C จะติดตัวเค้าไปตลอดชีวิต แต่มันหมายถึงเด็กต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ไม่ควรหยุดอยู่แค่นั้น เรียนจนกว่าจะเชี่ยวชาญ และเด็กควรจะรับผิดชอบและกำหนดการเรียนของเค้าได้เอง

ตอนนี้ในสังคมเราอาจจะมีคนที่อ่านออกเขียนได้เยอะแล้ว คงยากที่จะหาคนอ่านเขียนหนังสือไม่ได้ แต่ถ้าถามว่ามีกี่คนที่เชี่ยวชาญแคลคูลัส มีกี่คนที่เชี่ยวชาญด้านเคมี หรือมีกี่คนที่มีความสามารถในระดับทำวิจัยโรคมะเร็งได้ คงจะตอบว่ามีน้อยคน



ผู้ตั้งกระทู้ mii (lelemimi888-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2023-07-15 11:57:34


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.