ประกันรถยนต์ เป็นรูปแบบหนึ่งของประกันภัยที่มุ่งเน้นการคุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ของเขาหรือของคู่กรณีท่านั้น ๆ โดยรายละเอียดของความคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่ผู้เอาประกันภัยเลือกทำประกันไว้ แต่โดยทั่วไปแล้ว ประกันรถยนต์สามารถครอบคลุมความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิต รวมถึงความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกและความรับผิดชอบต่อคู่กรณีได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการเพิ่มเติมความคุ้มครองต่าง ๆ อย่างเช่น การคุ้มครองรถยนต์จากรถแต่ละคันในกรณีที่มีมากกว่าหนึ่งรถ, คุ้มครองอุปกรณ์เสริม, การคุ้มครองน้ำมันเครื่อง, และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละบริษัทประกัน.

สิ่งที่คุ้มครองในกรณีเสียหายส่วนแต่ละจะแตกต่างกันไปตามแผนประกัน ซึ่งส่วนมากจะมีคุ้มครองเบ็ดเสร็จภายในประเภทดังนี้:

1. ความเสียหายทรัพย์สินของรถ (Own Damage): คุ้มครองความเสียหายทรัพย์สินของรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยเอง.

2. ความเสียหายต่อรถยนต์ของบุคคลที่สาม (Third Party Property Damage): คุ้มครองความเสียหายทรัพย์สินของบุคคลที่สามที่เกิดขึ้นจากการขับขี่รถยนต์ของผู้เอาประกันภัย.

3. ความรับผิดชอบต่อชีวิต (Personal Accident Coverage): คุ้มครองความรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารในรถยนต์.

4. ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก (Third Party Bodily Injury): คุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บหรือถูกฆ่าหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย.

5. ความคุ้มครองต่อการล้ม (Collision Coverage): คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการล้มหรือชนกับวัตถุกีดขวาง.

6. ความคุ้มครองต่อการขโมย (Theft Coverage): คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการขโมยรถยนต์.

การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมควรพิจารณาความต้องการส่วนบุคคลและรถยนต์ของคุณ รวมถึงงบประมาณที่สามารถใช้ได้.