สายไฟ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งถ่ายพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบไฟฟ้า มีหลายประเภทสายไฟที่มีความแตกต่างกันตามการใช้งานและความต้องการของระบบ
1. สายไฟดั้น (Solid Wire): เป็นสายที่ผลิตจากเหล็กหรืออลูมิเนียมแข็งที่ไม่สามารถเคลื่อนที่หรือโค้งได้ ใช้สำหรับการติดตั้งที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหว เช่น การวางในผนัง
2. สายไฟด้าน (Stranded Wire): เป็นสายที่ผลิตจากเหล็กหรืออลูมิเนียมแบบแข็งแต่ถูกผู้ผลิตพับเพื่อให้สืบพันธุ์ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น การใช้ในสายไฟของรถยนต์
3. สายไฟเกลียว (Twisted Pair): เป็นสายที่ประกอบด้วยคู่สายที่มีการจับคู่และพันเพื่อลดการรบกวนที่เกิดขึ้น ใช้สำหรับการสื่อสารข้อมูลแบบแม่เหล็กซิงค์
4. สายไฟจั๊มพ์ (Coaxial Cable): เป็นสายที่ประกอบด้วยตัวกลางและเกราะภายนอก ใช้ในการถ่ายโอนสัญญาณ RF (Radio Frequency) เช่น การถ่ายทอดโทรทัศน์
5. สายไฟแบบไม่มีผิวหุ้ม (Bare Wire): เป็นสายไฟที่ไม่มีผิวหุ้มคุณลักษณะ เหมือนจับตำแหน่งข้อต่อข้างๆ ไมโครคอล
6. USE Wire: สาย USE (Underground Service Entrance Cable) มักใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าให้บ้านหรืออาคาร มีความทนทานและเหมาะสำหรับการฝังใต้ดิน.
7. XHHW Wire: สาย XHHW (Cross-Linked High-Heat Water-resistant) มีคุณสมบัติทนความร้อนสูงและทนต่อน้ำ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในสถานที่ที่ต้องการความทนทานและสามารถทนความร้อนสูง.
8. THW Wire: สาย THW (Thermoplastic Heat and Water-resistant) มักใช้ในการส่งไฟฟ้าในสถานที่ที่ไม่ต้องการการควบคุมที่เข้มงวดมากและทนต่อความร้อนและน้ำในระดับปานกลาง
9. MC Cable: สาย MC (Metal-Clad Cable) มีสายนั้นมีการคลุมด้วยชั้นโลหะที่ช่วยป้องกันการระเบิดและการไหลไฟฟ้า มักใช้ในงานที่ต้องการความปลอดภัยเพิ่มเติม.
10. BX Cable: สาย BX (or AC, Armored Cable) เป็นสายที่มีชั้นโลหะโครงสร้างภายนอก มักใช้ในงานที่ต้องการความทนทานและป้องกันการชำรุดจากสัตว์หรือสภาพแวดล้อม.