ReadyPlanet.com


งานไม้... ที่เป็นเรื่องราวมาจากแรงบันดาลใจ +++ ช็อปงานไม้ในฝันของผม เริ่มแล้วที่หน้า 4
avatar
เทอดศักดิ์(M)


user image

Season 1

  Episode I:  กำเนิดงานไม้ (ของผม)

       ย้อนไปประมาณกลางเดือน มีนาคม 2553 เมื่อชีพจรลงเท้า ต้องย้ายที่อยู่ใหม่ มีเงินเก็บเล็กน้อย จึงมีความตั้งใจว่าจะสร้างโรงรถเชื่อมต่อกับบ้าน ที่สามารถเก็บของต่างๆไว้ในโรงรถและมีประตูโรงรถที่สามารถเปิดปิดให้รถเข้าออกได้ทั้งบาน (Garage Door) เมื่อเวลาทำงานในโรงรถจะได้เปิดให้แสงเข้า และลมสามารถผ่านสะดวกเพื่อลดความร้อน เวลาเลิกใช้ก็สามารถจอดรถแล้วปิดโรงรถเพื่อกันขโมยได้ด้วย
        เนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศบ่อยและช่วงที่ไปเยี่ยมลูกสาวที่เรียนอยู่ที่อเมริกาได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากเอากลับมาทำที่บ้านเราบ้าง และ
เป็นแรงบันดาลใจให้มาสนใจงานไม้ จึงได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับ DIY งานไม้  จากที่ได้ลดเวลาการเล่นกอล์ฟให้น้อยลงบ้างเพราะสังขารไม่ค่อยให้เนื่องจากเป็นโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม จึงเริ่มจากการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับ Woodworking ทางอินเตอร์เน็ต เนื่องจากอินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งความรู้ที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในยุคนี้ ค้นไปค้นมาก็ได้ข้อมูลมามากมาย ทั้งหนังสือ แมกกาซีน และวิดิโอ ให้อ่านและดู

        
*** ช็อปงานไม้ในฝันของผม (My dream works wood shop) เริ่มแล้วที่หน้า 4 ครับ ***



ผู้ตั้งกระทู้ เทอดศักดิ์(M) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-30 16:07:11


« 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 »

ความคิดเห็นที่ 601 (2983012)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

น้องฮาร์วี่ย์ 98:

         หน้าตาน้องเขาเมื่อทำแผ่น ZCI เสร็จล้วครับ เหลือแผ่น ZCI สำหรับใบ Dado ตัดไม้อัด 20 มม. อีกอันสร็จเมื่อไดก็จะทดลองตัดให้ดูทุกแบบเลยครับ

        ช่วงนี้ผมได้ทดลองตัดแผ่นไม้เพื่อดูประสิทธิภาพของงานตัดเมื่อตัดด้วยการใช้แผ่น ZCI แทน Insert Plate เดิมที่มาจากโรงงานแล้ว ผลงานที่ได้ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจมาก เพราะไม่มีรอยฉีกขาดของไม้เลย สมกับที่เหน็ดเหนื่อยทำขึ้นมาครับ นี่ขนาดที่ใบเลื่อยที่ใช้ยังเป็นใบที่แถมมากับเครื่อง ยังไม่ได้ใส่ใบเลื่อยเทพของ Forrest รุ่น Woodworker II นะครับ

        เดี๋ยวเอาไว้เสร็จงานหมดแล้วจะลองเปลี่ยนทดสอบดูซิว่ามันดีสมกับที่เขาคุยกันนักหนาว่า ขั้นเทพเลยจริงหรือเปล่า

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-06 22:08:13


ความคิดเห็นที่ 602 (2983015)
avatar
จรินทร์ (สาต์น)

ผมนับถือในการหาข้อมูลของพี่ M มาก ละเอียดยิบ ชื้อชิ้นไหนมารับรองว่าดี และ คุ้มราคาแน่ ปรกติผมจะอยู่บอร์ด IT ตอนนี้ มาอ่านบอร์ดนี้เป็นส่วนใหญ่เลย 555 สนุก ได้ความรู้ และอีกหน่อยคงได้อาชีพด้วย 

 

ว่าแต่พี่ M อยู่แถวไหนครับ ผมอยู่บางพลี ถ้ามีโอกาสจะได้แวะไปเยี่ยมชมช็อปพี่ M มั้ง อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (สาต์น) (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-06 22:53:04


ความคิดเห็นที่ 603 (2983055)
avatar
i3ird

รอพี่เอ็มกำหนดวันทัวร์ช็อปเลยครับคุณจรินทร์....ผมก็อยู่บางนาจะได้ไปด้วยกันได้.....ฝีมือพี่เอ็มนับวันยิ่งเหมือนมืออาชีพเข้าไปทุกที

ผู้แสดงความคิดเห็น i3ird (bird-togo-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 13:23:26


ความคิดเห็นที่ 604 (2983074)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณจรินทร์

        โน่นเลยครับ ขอเป็นปีใหม่ไปแล้ว รอให้ผมทำช็อปให้เสร็จก่อนอ่ะนะ เพราะตอนนี้รกกว่าเดิมอีกน่ะครับ เดินไม่ได้แล้วจริงๆ ช็อปผมน่ะอยู่ทางเข้าสนามกอล์ฟ เลกาซี (The Legacy Golf Club) ซอยเดียวกันกับ ซาฟารีเวิล์ด

คุง i3ird

       ก็พูดเกิ้นไป๋ เดี๋ยว อ.เอ๋ แกหัวเราะเยาะะเอาได้นา ถ้าจะทำอาชีพสงสัยต้องไปสมัครเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิแกก่อนละครับ เห็นว่าปีหน้าจะเริ่มรับแค่ 3-4 คน งั้นผมขอจองก่อนเลยนะ อ.เอ๋ เผื่อจะเปลี่ยนอาชีพไปทำงานไม้บ้างได้ป่าว ผมน่ะฝีมือยังห่างไกลมาก อาศัยเครื่องมือช่วยมากกว่าครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 15:58:11


ความคิดเห็นที่ 605 (2983075)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

น้องฮาร์วี่ย์ 99:

       ผมนึกสนุกเลยจับเอาแผ่น ZCI ที่ทำเสร็จแล้ว ไปพ่นสีซะหน่อยตามขอบไม้ และส่วนที่ใช้เร้าเตอร์กัดเพิ่มด้วยสีแดง เลยเอามาให้ดูกันน่ะครับ (แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าอันต่อๆไปผมจะไม่ลงสีแล้วละครับ จะลงแลคเกอร์เพื่อกันความชื้นเข้าตามขอบไม้ที่ไม่ได้ปิดแผ่นลามิเนตแทนดีกว่า)

      จากที่ได้ทำชิ้นแรกไป ทีนี้ผมก็เริ่มมีประสบการณ์แล้วครับ จึงจัดการทำแผ่น ZCI อีกอันเป็นอันที่ 2 สำหรับใบเลื่อย Dado ที่จะใช้ในการตัดไม้อัด 20 มม. โดยเที่เอาแผ่น ZCI แผ่นแรกที่ทำไว้เป็นต้นแบบ ไม่รอช้า(เดี๋ยวไฟมอด) ผมเอาปากกาเมจิคแบบลบไม่ได้ นี่แหละครับลากตามแบบไปเลย (เพราะแผ่นลามิเนตมีพิล์มพลาสติคเคลือบอยู่ เสร็จแล้วค่อยลอกฟิล์มพลาสติคออกก็ไม่มีรอยปากกาแล้ว) เสร็จแล้วนำไปเจาะรูด้วยดอก Forstner ตามขนาดของรูต้นแบบก่อน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมากครับในการเจาะก่อน เพราะผมเห็นว่ามันยังเป็นไม้แผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่จะทำให้ยึดจับและเจาะบนสว่านแท่นได้ง่ายกว่าเท่านั้นเอง (แต่ผมก็ลืมที่จะคิดถึงปัญหาส่วนอื่นๆไป ที่จะเกิดขึ้นจากการเจาะรูก่อนเหมือนกัน)

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 16:06:17


ความคิดเห็นที่ 606 (2983076)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

น้องฮาร์วี่ย์ 100:

       หลังจากที่เจาะรูขนาดใหญ่ที่มีอยู่ทั้งหมดแล้ว ผมเอาแผ่น ZCI ไปตัดตามเส้นขอบที่วาดไว้ ด้วยเลื่อยสายพานที่ใส่ใบเลื่อยขนาด 1/4 นิ้ว ไว้สำหรับการตัดโค้งโดยเฉพาะ (จริงๆแล้วหลังจากที่ผมทำแผ่น ZCI มา 2 อันแล้วผมกลับพบว่าการเจาะรูทีหลังสุดเลยน่าจะดีกว่าที่เจาะก่อน เพราะแผ่นไม้จะแข็งแรงกว่าโดยเฉพาะบริเวณที่รูอยูใกล้ขอบไม้ เมื่อต้องใช้เร้าเตอร์กัดขอบตามแบบ มีแตกบิ่นๆได้บ้าง ต้องเอาชิ้นส่วนมาติดกาว)

       ส่วนขั้นตอนอื่นๆ ก็จะเหมือนกับอันแรกที่ผมทำให้ดูนะครับ ดังนั้นเพื่อประหยัดเวลา เลยขอข้ามไปเลยนะครับ มาถึงตอนนี้ผมก็ทำแผ่น ZCI เสร็จเรียบร้อยอีกอัน เร็วเหมือนเวทย์มนต์หนังฮอลลีวู๊ดเลย

       เริ่มขั้นตอนการทำร่อง Dado บนแผ่น ZCI โดยใส่เข้าที่ใน Insert Slot บนโต๊ะเลื่อยกันเลยครับ หลังจากที่ยึดสกรูเพื่อล็อกแผ่น ZCI กับโต๊ะเลื่อยเรียบร้อยแล้ว จึงเดินเครื่องและทำการหมุนยกใบเลื่อย Dado ที่ผมติดตั้งไว้ให้มีขนาดที่ซ้อนกันแล้ว เท่ากับความหนาของแผ่นไม้อัด 20 มม. พอดี อย่างช้าๆขึ้นทีละน้อยๆจนกระทั่งใบเลื่อยค่อยๆทะลุเหนือแผ่น ZCI ขึ้นไปจนมีความสูงของใบเลื่อยเหนือโต๊ะ เท่ากับ 3/4 นิ้ว ตามเส้นที่ผมทำไว้บน Sacrificial Fence ที่ผมทำไว้ก่อนหน้านี้ เป็นเส้นอ้างอิง

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 16:13:53


ความคิดเห็นที่ 607 (2983082)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

น้องฮาร์วี่ย์ 101:

        ทิปที่ผมใช้ในการหาใบเลื่อยและแผ่น shim ที่จะนำมาซ้อนกันเพื่อให้ได้ขนาดเท่ากันกับความหนาของไม้อัดไทย 20 มม. นั้นผมก็เอามาจากที่เคยดูในวิดิโอ ถ้าจำไม่ผิดจากรายการ The Wood Whisperer โดย Marc J. Spagnuolo ละครับ

        วิธีการของเขาคือเอาแผ่นไม้ขนาดที่จะใช้จริงมาวางเป็นต้นแบบ บนพื้นที่ๆเรียบๆที่สุด แล้วเอาใบเลื่อยชุด Dado มาซ้อนกันไปเรื่อยๆ ตามที่โรงงานแนะนำไว้ (ไม่ใช่เรียงกันมั่วๆนะครับ) พร้อมกับใส่แผ่น shim ที่จำเป็นเพื่อให้ได้ขนาดความสูงเท่ากันกับแผ่นไม้อัดที่เอามาเป็นต้นแบบพอดี หรือ เตี้ยกว่านิดเดียวไม่เกิน 1/64 นิ้ว

        ชุดใบเลื่อย Dado ที่ผมใช้จะเป็นขนาด 8 นิ้ว ของ Freud รุ่น SD-508 Super Dado ผมใช้ทิปในการหาจำนวนใบเลื่อยที่นำมาซ้อนกันเพื่อให้ได้ขนาดความหนาที่พอดีกับร่อง Dado ที่จะทำด้วยวิธีที่ง่ายๆแต่มีประสิทธิภาพมาก โดยไม่ต้องไปวัดขนาดจริงของแผ่นไม้ แล้วค่อยไปเปิดตารางที่ผู้ผลิตให้มาเพื่อเลือกจำนวนใบเลื่อยและ/หรือ Shim ที่จะต้องใช้เอามาซ้อนกัน

        ผมว่าทิปนี้เป็นทิปที่เยี่ยมยอดมาก ง่ายและทำให้ร่อง Dado หรือ Groove ที่ตัดออกมาก็มีขนาดฟิตพอดีกับไม้ที่จะเอามาใส่ร่อง Dado จริงๆเลยครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 16:26:58


ความคิดเห็นที่ 608 (2983083)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

น้องฮาร์วี่ย์ 102:

       เหตุที่ผมยกให้ใบเลื่อย Dado กัด ที่แผ่น ZCI ให้เป็นร่องด้วยความสูงของใบแค่ 3/4 นิ้วเท่านั้น ก็เพราะว่าความลึกของร่อง Dado ใช้งานจริงๆ จะมีขนาดลึกไม่เกิน 3/4 นิ้วครับ (โดยปกติแล้วจะทำร่อง Dado ลึกแค่ 1/4 นิ้ว กับแผ่นไม้ที่มีความหนา 3/4 นิ้ว หรือ 20 มม.เท่านั้น)

       เมื่อทำแผ่น ZCI สำหรับใบเลื่อยแบบ Dado ที่จะใช้สำหรับเซาะร่องไม้อัดขนาด 20 มม. (ของบ้านเราแล้ว) ผมก็ทำร่องที่ Sacrificial Fance ที่ได้ทำไว้ก่อนหน้านี้ไปพร้อมๆกันด้วยเลย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะเอาไว้ใช้ในการทำบังใบ (Rabbet) ในอนาคต แล้วก็เป็นการทดสอบไปด้วยในตัวในครั้งนี้เลย

       จากนั้นก็เตรียมแผ่นไม้อัด 20 มม. มาทดสอบการทำร่่อง Dado โดยผมใช้ ตัวพาไม้ (Push Block) 2 อัน ที่ทำไว้มาช่วยในการตัดครั้งนี้ เพราะจะช่วยให้ผมสามารถกด และพาไม้ผ่านใบเลื่อย Dado ไปพร้อมๆกัน และจะทำให้แผ่นไม้แนบสนิทไปกับพื้นโต๊ะ ทำให้ได้ร่อง Dado ที่ทั้งเรียบและลึกเสมอกันตลอดทั้งแนวที่ทำ รวมถึงจะให้ความปลอดภัยในการใช้งานด้วยที่ต้องไม่ลืม เพราะผมขี้กลัวเรื่องของมีคม ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 16:41:07


ความคิดเห็นที่ 609 (2983084)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

น้องฮาร์วี่ย์ 103:

      ผมทดลองตัดร่อง Dado ก่อนเลย เพื่อทดสอบขนาดว่าพอดีหรือไม่ และร่อง Dado ที่ได้จากการตัดของใบ Freud Super Dado จะมีคุณภาพเป็นอย่างไรบ้าง สมราคาหรือเปล่า ($199)

      จากการทดสอบตัดร่องด้วยใบ Dado ของ Freud ด้วยน้องฮาร์วี่ย์ดูแล้ว ความคิดที่เคยกลัวๆอยู่เหมือนกันว่ามันจะมี Kickback สูง แต่จากการทลองตัดด้วยตัวเองแล้ว ความที่เคยกลัวหายไปหมดเลย ผมว่ามันตัดได้นิ่มมาก ระหว่างตัดไม่มีอาการดื้อที่ต้องออกแรงกด หรือดันไม้ด้วยกำลังมากขึ้นแต่อย่างใด รวมถึงไม่มีอาการของการดีดกลับของไม้(Kickback) ให้เห็นเลย การตัดก็สามารถตัดได้รวดเร็วมาก โดยผมยกใบเลื่อยตัดร่องให้มีขนาดความลึกเท่ากับ 1/4 นิ้ว

      เหตุผลที่ตัดได้ง่ายก็น่าจะเป็นเพราะคุณภาพใบเลื่อย Dado ของ Freud  โต๊ะเลื่อยที่เป็นแบบ Cabinet saw และกำลังมอเตอร์ LEESON ของน้องฮาร์วี่ย์ ที่มีประสิทธิภาพสูงขนาด 3 แรงม้าทีมากเพียงพอ ต่อการใช้งานกับใบ Dado รวมถึงการปรับแต่งส่วนต่างๆของโต๊ะเลื่อยให้ขนานกันจริงๆ ด้วย Digital Dial Gauge ไม่ว่าจะเป็นใบเลื่อย ร่อง Miter และรั้วตัด ที่ผมได้ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว

     อีกเหตุผลหนึ่งก็คงเป็นเพราะความที่มันเป็นไม้อัด ไม่ใช่ไม้จริงหรือเป็นไม้เนื้อแข็ง มันจึงไม่แข็งมากนัก ดังนั้นหากทำร่องบนไม้จริงหรือไม้ที่แข็งกว่านี้ หรือต้องการที่จะทำร่องให้ลึกกว่านี้เช่นขนาด 3/4 นิ้ว อาจจะต้องตัดผ่านหลายครั้ง ที่ความลึกครั้งละน้อยๆ แทนที่จะตัดเพียงครั้งเดียวเหมือนเช่นตัดกับไม้อัด

      ผลงานจากการตัดที่ได้ออกมานั้น ร่องที่ได้ฟิตพอดีจริงๆเลย สามารถเสียบแผ่นไม้อัด 20 มม. ลงร่องได้เป๊ะไม่คับหรือหลวมเลย และร่อง Dado ที่ได้ก็เรียบสนิทดีจริงๆครับ ไม่ผิดหวังเลย ทั้งน้องฮาร์วี่ย์ และใบเลื่อย Dado ของ Freud

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 17:00:57


ความคิดเห็นที่ 610 (2983086)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

น้องฮาร์วี่ย์ 104:

        หลังจากทดลองตัดร่อง Dado ซึ่งเป็นการตัดขวางไม้เสร็จแล้ว ผมก็มาทดสอบการตัดร่องตามเนวยาวของไม้ด้วยการตัดบังใบ (Rabbet) ซึ่งผลที่ได้จากการตัดก็ดีเยี่ยมอีกเช่นกัน ร่องที่ตัดได้ก็เรียบดีและไม่มีรอยฉีกของไม้ให้เห็นเลย พื้นร่องบังใบก็เรียบและได้ฉากดีมาก สมกับที่ผู้ที่เคยใช้ให้คำรับรองกันว่าคุณภาพดีเท่าเทียมกับของ Forrest รุ่น Dado King ในราคาที่ถูกกว่า $100 เลยทีเดียว

        ผมเองก็ยังไม่มี Forrest Dado King เหมือนกัน เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง $299 (นำเข้ามาราคาก็เกิน 10K ) เอาไว้จังหวะดีๆที่มี Sales เยอะๆอาจจะลองสั่งเข้ามาใช้ดูบ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 17:07:48


ความคิดเห็นที่ 611 (2983087)
avatar
จรินทร์

 พี่ เบิร์ด

วันไหนช็อปพี่ M เสร็จก็จัดเลยครับ อิอิ พร้อมเสมอครับพี่

 

พี่ M

เครื่องมือแทบจะครบแล้วนะครับพี่ จัดพื้นที่ผมไปช่วยได้นะครับ วันนี้ได้ไปเยี่ยม อ.ดนัย มา ได้กบ ติดมือมา 2 ตัว ทั้งๆที่ยังใช้ไม่เป็นเลย 5555 อยากจะเป็นมันก็ต้องฝึกๆๆๆๆ เจ็บๆๆๆ แล้วเดียวมันจะด้านเอง 

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-07 17:07:56


ความคิดเห็นที่ 612 (2983090)
avatar
จรินทร์

 ร่องที่ได้สวยมากครับ พี่ M เรียบดีจริงๆ อย่างนี้ทำงานง่ายขึ้นมามากทีเดียว 

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-07 17:13:05


ความคิดเห็นที่ 613 (2983092)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

น้องฮาร์วี่ย์ 105:

       ทำให้ผมได้แผ่น ZCI สำหรับใบ Dado เพื่อใช้กับการตัดไม้อัด 20 มม และการตัดบังใบ (Rabbet) ไปพร้อมๆกันเลย ซึ่งตอนนี้ก็พร้อมที่จะใช้งานน้องฮาร์วี่ย์ได้อย่างเต็มที่แล้วครับ ส่วนพวก Sled หรือ Jig ค่อยทำเพิ่มเอาทีหลังเมื่อมีเวลาว่างๆ หรือเมื่อต้องการใช้งานเป็นตัวๆไป เพราะมีสิ่งที่อยากจะทำอีกเยอะมาก

       ผมคงจะได้กลับไปทำตู้ในช็อปให้เสร็จเสียที ค้างไว้นานแล้วตั้งแต่น้องฮาร์วี่ย์มาถึงช็อปผม ทำให้ผมต้องให้เวลาทั้งหมดแก่น้องเขาก่อน แต่ก็ทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากน้องเขามากมายด้วยการใช้งานจริงๆ จากเดิมที่มีความรู้แค่ทฤษฎีจากการอ่านหนังสือ หรือดูวิดีโอเท่านั้น ซึ่งทั้งความรู้และประสบการณ์ต่างๆที่ได้ตั้งแต่การติดตั้ง การปรับแต่ง และการทำอุปกรณ์ประกอบ (Accessories) จนถึงการได้ใช้งานจริงๆ จะเป็นส่วนที่เพิ่มพูนทักษะให้ผมสามารถพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ จากที่ไม่มีความรู้อะไรเลยจริงๆกับงานไม้

    

      

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 17:18:42


ความคิดเห็นที่ 614 (2983111)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 คุณจรินทร์

       ท่าทางจะเอาจริงนะ ยินดีต้อนรับสู่ Thaicarpenter.com Webboard นะครับ ยังไม่ได้รับน้องกันเลย กบธรรมศักดิ์การช่าง ของ อ.ดนัย นี่สวยงามมากนะครับซื้อมาไม่ผิดหวัง ขนาดผมสั่งแกไป 3 ตัวตอนไปรับจริงๆ ได้มา 6 เลย

      เครื่องมือผมเองก็เริ่มมีเพิ่มขึ้น พอสมควร แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ผมยังไม่มีเลยคือ กบ Veritas ผมน่ะอิจฉาคุณ i3ird ทุกทีที่แกมาโพสข้อความเพราะจะต้องเห็นรูปประจำตัว ที่เป็นฝูงกบ Veritas ที่ผมอิจฉาไงครับ 555

     คุณจรินทร์สามารถหาความรู้งานไม้ได้จาก บอร์ดนี้เลยครับ ผมเองก็พยายามมาแนะนำ พวกหนังสือ และแมกกาซีน งานไม้ของต่างประเทศไว้ ก็ไปหาโหลดเอาได้อีกกระทู้ของผมน่ะครับ และก็ขอให้ติดงอมแงมเหมือนพวกเรานะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-07 21:27:45


ความคิดเห็นที่ 615 (2983185)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

น้องฮาร์วี่ย์ 106:

        ทำการทดสอบน้องฮาร์วี่ย์เพิ่มเติม ด้วยการตัดแผ่นไม้อัดหนา 20 มม.ด้วยใบเลื่อย Forrest รุ่น Woodworker II ที่ผมติดตั้งเข้าไปใหม่ให้ดูด้วยครับ ใบเลื่อยรุ่นนี้ได้รับการทดสอบและเป็นที่ยอมรับจากหลายสำนัก รวมถึงผู้ที่ได้ซื้อไปใช้งานแล้วว่า เป็นหนึ่งในใบเลื่อยที่ดีที่สุดที่สามารถซื้อได้ ($120) เรียกว่าขั้นเทพเลย

       เรื่องใบเลื่อย Forrest กับ Freud นั้นผมน่ะศึกษาไว้นานแล้วเพียงแต่รออยู่ว่าจะสามารถหาโต๊ะเลื่อยที่อยากได้ๆหรือเปล่า หลังจากที่ผมแน่ใจว่าจะได้น้องฮาร์วี่ย์มาเข้าสังกัดแน่นอน พอมีเทศกาลลดราคา 20% ผมก็เลยไม่รอช้ารีบสั่งซื้อมาพร้อมกับใบเลื่อยของ Freud รุ่น LU82M ที่เป็นแบบ Industrial Heavy Duty Multi Purpose Saw Blade อีกใบ เพื่อมาใช้กับน้องฮาร์วี่ย์ทันที

       ใบเลื่อยของ Forrest รุ่น Woodworker II นี้เป็นใบเลื่อยชนิดร่องใบเลื่อยมาตรฐาน (Standard Kerf) ที่จัดอยู่ในประเภทใบเลื่อยสำหรับโต๊ะเลื่อยชนิดใช้งานทั่วไป สารพัดประโยชน์ (General Purpose) มีรายละเอียดคร่าวๆคือ 40T, 20d Face Hook, 15d Alternate Top Bevel (ATB), 5/8" Arbor

       ผมลองส่องดูที่ฟันคาร์ไบด์แล้ว โรงงานเขาลับมาคมกริบจริงๆ รวมถึงด้านข้างของฟันคาร์ไบด์แต่ละฟันด้วย ก็ลับจนเรียบเนี้ยบทั้ง 2 ด้าน และเท่ากันเป๊ะ น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัดได้นิ่มและเร็วมากๆ ไม่มีรอยใบเลื่อยหรือรอยฉีกขาดให้เห็นแม้จะเอาไปตัดไม้อัด (เมื่อใช้กับ Zero Clearance Insert Plate ที่ผมทำขึ้นมา) ทำให้ตอนนี้ผมคงจะใช้ใบเลื่อย Forrest Woodworker II ใบนี้แทนใบเลื่อยที่แถมมากับเครื่องอย่างถาวรแล้วละครับ ส่วนใบเลื่อย Freud LU82M กับใบเลื่อยอีกหลายแบบของ FREUD ทีผมไปซื้อมาตั้งแต่รู้ว่าจะได้น้องฮาร์วี่ย์แน่แล้วอีกฝูงหนึ่งเลยครับ แต่ก็ยังไม่ได้ลองสักใบนะครับ เอาไว้ว่างๆค่อยลองอีกที 

       จากนั้นก็ทำการตัดไม้อัดเพื่อทดสอบไปด้วย และผลพลอยได้เมื่อตัดเสร็จก็จะเอาไปทำ Mini Mobile Cyclone Dust Collector ที่ใช้กับเครื่องดูดฝุ่นก่อนน่ะครับ เพราะทนกับฝุ่นไม่ไหวจริงๆ ที่จะต้องกวาดและดูดมัน รวมถึงมันจะติดจะตามตัวผมทุกครั้งเมื่อต้องใช้เร้าเตอร์ทำงานในช็อป  เครื่อง Dust Collector แบบถุงขนาด 1 แรงม้าท่อดูด 4 นิ้วดูดไม่ทันเอาเลย เลยต้องขอแซงคิวทำก่อน เพราะดูแบบเล้วน่าจะไม่ยุ่งยากมากนัก ปรับนิดหน่อยก็สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่ผมมีอยู่ได้ และน่าที่จะใช้เวลาในการทำไม่มากนัก  

      ส่วนหน้าตารูปแบบของ Cyclone ที่จะทำ ก็จะมีหน้าตา ตามความเห็นที่ 417 หน้าที่ 5 ของกระทู้นี้แหละครับ เลยขอแซงคิวทำก่อนที่จะกลับไปทำตู้ต่อ หากคืบหน้าอย่างไรแล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังกันต่อครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-08 16:48:04


ความคิดเห็นที่ 616 (2983193)
avatar
จรินทร์

 ขอบคุณครับพี่ M ผมก็ยินดีมากที่ได้มาเจอบอร์ดนี้ และได้รู้จักพี่ๆหลายคนที่แบ่งปันความรู้ที่ตนเองมีให้ผู้อื่น ยิ่งอ่านยิ่งมีความรู้จริงๆครับ 

วันนี้ได้ลองใสกบรู้สึกติดใจมาก สนุกกว่าใช้ Power Tool อีก ได้ของแถมคือการออกกำลังอีกแบบนี้มีดีได้กับได้ อิอิ ส่วนหนังสือผมก็ตามเก็บจากของพี่ M เหมือนกันครับ ยังไม่ได้อ่านเลย (ภาษาไม่ค่อยดีนัก อิอิ) เพราะกำลังจัดบ้านอยู่เหมือนกันครับ เครื่องมือก็อยู่ไม่เป็นที่เป็นทางเท่าไหร่ ทำให้ดูแลรักษายาก แถมเวลาจะใช้ดันหาไม่เจออีก 555  

งานไม้ที่ผมคิดไว้ในใจตอนนี้คืองานประเภท Secret Compartment ถ้ามี M มีแหล่งข้อมูลบอกด้วยนะครับพี่ หายากมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-08 19:41:19


ความคิดเห็นที่ 617 (2983495)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 คุณจรินทร์

     เคยเห็นอยู่อันหนึ่ง เป็นตู้เก็บดอกเร้าเตอร์แบบมีช่องลับด้วย เอาไว้ ..... (เซ็นเซอร์ ..พูดไม่ได้ครับ) ... 555

www.youtube.com/watch

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-11 06:07:16


ความคิดเห็นที่ 618 (2983501)
avatar
จรินทร์ (สาต์น)

 ขอบคุณครับ พี่ M ถ้าโจรขึ้นเห็นดอกเร้่าเตอร์เต็มตู้มันคงยกไปทั้งตู้เลย 55555

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (สาต์น) (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-11 07:56:16


ความคิดเห็นที่ 619 (2983524)
avatar
spk2004

ผมยังคงติดตามอ่านอยู่เรื่อยๆครับ ชอบสไตน์การศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเอง และก็ลงมือทำจริงครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น spk2004 (supachai_kk-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-11 12:04:57


ความคิดเห็นที่ 620 (2983699)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 คุณจรินทร์/ คุณ spk2004,

       ขอบคุณที่แวะมาทักทายกัน ว่างๆก็แวะมาติดตามกันต่อไปนะครับ ช่วงนี้ผมจะต้องรีบทำงานที่ทำอยู่ให้เสร็จก่อนละครับ เพราะมีงานประจำเข้ามาที่จะต้องใช้เวลาศึกษารายละเอียดมาก จะทำให้ผมจะไม่สามารถเข้าช็อปทำงานต่อได้อีกช่วงหนึ่ง

       มาต่อกันเลยครับ คือช่วงนี้เองผมก็(บังเอิญอีกแล้ว)ได้ Tenon Jig ของ Delta รุ่น 34-183 มาจากห้องซื้อขายสินค้ามือ 2 ใน Thaicarpenter Webboard เรานี่เองแหละครับ ซึ่งเป็นของใหม่เก่าเก็บ ยังอยู่ในสภาพดีเพราะยังมีกระดาษชุบน้ำมันปิดเหล็กส่วนที่ไม่ได้เคลือบสีอยู่ทุกด้านเลย ทำให้ไม่มีส่วนที่เป็นสนิมสภาพจึงยังใหม่อยู่ ซึ่งเดิมทีกะว่าจะสั่งเข้ามาพร้อมกับน้องฮาร์วี่ย์เลย (โรงงาน Harvey ก็ผลิต Tenon jig ให้กับยี่ห้อต่างๆในอเมริกาด้วย) แต่ก็เลือกเอาอย่างเดียวเลย เพราะแค่นี้ก็เหนื่อยแล้วครับกว่าจะได้มา ที่จริงราคาของ Tenon Jig เฉพาะตัวมันเองก็ไม่ได้แพงอะไรประมาณ $60-120 แต่มันจะแพงค่าขนส่งเนื่องจาก น้ำหนักมันจะประมาณ 10 ปอนด์ แต่เห็นมีเพื่อนสมาชิกนำมาขาย ก็เลยช่วยอุดหนุนเพื่อนสมาชิกแทนการสั่งเข้ามาเองครับ

      อย่างไรก็ดี ผมก็ยังไม่ได้ทดลองใช้นะครับ แค่ทำความสะอาดคราบน้ำมันเดิม ประกอบและปรับแต่งเรียบร้อยแล้ว จัดการเคลือบน้ำมันใหม่อีกรอบ ใส่ถุงพลาสติค ปิดผนึกแล้วเก็บลงกล่องไว้ก่อน เอาไว้ว่างๆจะทดสอบกับน้องฮาร์วี่ย์ให้ดูกันต่อไปครับ ผมจัดหาจิ๊กตัวนี้มา ก็เพื่อที่จะเตรียมเอาไว้ใช้ทำเดือยเหลี่ยมด้วยโต๊ะเลื่อยในอนาคตน่ะครับ เพราะเครื่องเจาะรูเหลี่ยม (Mortiser) ผมก็มีแล้วเลยหา Tenon Jig มาเพิ่มให้ครบชุดเลย

      ผมกำลังจะเริ่ม ช็อปงานไม้ในฝันของผมใน Season 5 Episode 2 เร็วๆนี้ละครับ ด้วยโครงการ Mini Mobile Cyclone Dust Collector ซึ่งผมได้เริ่มทำไปแล้ว และก็ก้าวหน้าไปมากแล้ว จะเอามาเล่าให้ฟังเร็วๆนี้ละครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-13 22:48:54


ความคิดเห็นที่ 621 (2983858)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 5:

EPISODE 7: Mini Mobile Cyclone Dust Collector

        ผมตัดสินใจที่จะทำ Cyclone Dust Collector ขนาดเล็กๆก่อนที่จะไปทำตู้ในช็อปต่อ ก็เพราะว่าผมทนกับฝุ่นจากเครื่องเร้าเตอร์ไม่ไหวจริงๆ ทำให้ผมต้องแซงคิวทำมันก่อนเพื่อจะได้กำจัดฝุ่นที่ได้จากเครื่องเร้าเตอร์ให้ได้เสียที จึงเป็นที่มาของ SEASON 5/ EPISODE 7 สำหรับการทำ Mini Mobile Cyclone Dust Collector ที่ต่อไปผมจะเรียกว่าเครื่องดูดฝุ่นไซโคลนขนาดเล็ก ที่เป็นการรวมไซโคลนขนาดเล็กพร้อมถังกับเครื่องดูดฝุ่นไว้ด้วยกัน เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยสะดวกเวลาใช้งาน

       เครื่องดูดฝุ่นไซโคลนขนาดเล็กที่ผมทำขึ้นมานี้ มีความตั้งใจที่จะทดลองทำเครื่องเก็บฝุ่นแบบไซโคลน ที่ผมยังไม่มีประสบการณ์เลย มีแต่เคยอ่านจากหนังสือต่างๆและดูวิดิโอของต่างประเทศ รวมถึงของคุณตัง และนัทคุง ที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้นานมาแล้วมาเป็นข้อมูล

       ดังนั้นเครื่องที่ผมจะทำขึ้นมาเพื่อใช้งานในครั้งนี้ ผมตั้งใจจะทำเป็นแบบ Knock Down โดยจะไม่ติดยึดด้วยกาวเลย และการต่อชนไม้ก็จะใช้วิธีการต่อชนแบบตรงๆ (Butt Joint) แล้วยึดด้วยสกรูเท่านั้น ผมจะไม่ทำร่อง Dado หรือทำบังใบ (Rabbet) หรือใช้เดือยอะไรทั้งนั้น และก็เลือกที่จะใช้ไม้อัดเป็นหลัก เพื่อที่จะให้เสร็จพร้อมที่จะใช้งานได้โดยเร็ว

      ต้นแบบที่ผมใช้ก็เป็นแบบที่ผมดัดแปลงมาจากนิตยสาร ช็อปโน๊ตส์ เล่มที่ 109 ที่ผมเห็นว่าออกแบบไว้ดูดีเหมือนกัน โดยผมจะดัดแปลงให้สามารถใช้ได้กับเครื่องดูดฝุ่น BOSCH และถังที่ผมมีอยู่แล้ว ส่วนตัวกระบอกไซโคลนนั้นผมก็ยังไม่ได้ทำเอง แต่ผมสั่งให้เพื่อนหิ้วตัว Clone ของ Oneida Dust Deputy เข้ามาให้เพื่อใช้สำหรับงานนี้เนื่องจากราคาไม่ได้แพงอะไรมากมาย (เอาไว้ตอนทำตัวใหญ่สำหรับทั้งช็อปขนาด 3 แรงม้า ผมตั้งใจไว้ว่าจะทำตัวไซโคลนเองเลย ขอสะสมความรู้และประสบการณ์ก่อนนะครับ)

     (Update: ท่านที่ถามมาเรื่องกระบอกไซโคลนที่ผมใช้นั้นปัจจุบันสามารถหาซื้อได้จาก Online Shopping Store สำหรับการซื้อปลีกของจีนที่ www.aliexpress.com โดยไปที่ลิ้งค์นี้ครับ)

htthttp://www.aliexpress.com/premium/cyclone-dust-collector.html?ltype=wholesale&d=y&origin=y&SearchText=cyclone+dust+collector&initiative_id=AS_20150112203717&isViewCP=y&catId=0

        

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 20:29:43


ความคิดเห็นที่ 622 (2983879)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       เริ่มจากการตัดไม้อัดขนาด 20 มม. จำนวน 2 แผ่นเพื่อใช้ทำเป็นฐานก่อนด้วยโต๊ะเลื่อย แล้วจึงนำเอาไปเจาะรูขนาดใหญ่ให้เท่ากับก้นถัง ด้วยทริมเมอร์กับดอกกัดตรง โดยอาศัยแขนที่ทำขึ้นมาชั่วคราวเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

       เสร็จแล้วเจาะรูที่ 2 เพื่อใส่เครื่องดูดฝุ่นบนไม้อัดแผ่นเดียวกัน ทำให้ได้รูขนาดใหญ่ 2 รู เสร็จแล้วนำไม้อัดแผ่นที่เจาะรูเอาไปวางบนไม้อัดอีกแผ่นที่ไม่ได้เจาะรู เพราะจะเอามาทำเป็นฐานของ เครื่องดูดฝุ่นไซโคลนขนาดเล็กนั่นเอง

      เมื่อนำแผ่นไม้อัดทั้ง 2 แผ่นมาซ้อนกันแล้ว ผมก็ทดลองเอาทั้งถังและเครื่องดูดฝุ่นมาลองใส่ในรูที่เจาะไว้ เพื่อดูว่ามันพอดีกันหรือไม่

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 21:56:51


ความคิดเห็นที่ 623 (2983881)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      จากนั้นผมก็เอาทริมเมอร์ตัวเดิมตัดขอบด้านนอกของแผ่นบน เพื่อให้ขอบด้านนอกโค้งมนไม่เป็นเหลี่ยม สะดวกต่อการใช้งาน โดยผมจะทำทั้งด้านที่วางถังไซโคลน และด้านที่วางเครื่องดูดฝุ่น

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 22:05:20


ความคิดเห็นที่ 624 (2983882)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     เมื่อทำขอบด้านนอกให้โค้งมนด้วยทริมเมอร์และดอกกัดตรงแล้ว ผมก็เอาแผ่นที่เจาะรูและทำขอบแล้ว ไปวางบนไม้อัดอีกอัน เสร็จแล้วผมยิงตะปู 4 ตัวเพื่อทำการยึดทั้ง 2 แผ่นแข้าด้วยกัน

     จากนั้นผมเอา ไปตัดมุมด้วยเลื่อยสายพาน โดยตัดแผ่นไม้อัดแผ่นด้านล่างให้ใกล้กับเคียงกับรอยโค้งของแผ่นบน เมื่อเสร็จก็จับคว่ำด้านบนลงล่าง แล้วเอาทริมเมอร์ใส่ดอกกัดตรงปลายลูกปืนเดินตามรอยโค้งของแผ่นบนเพื่อให้ได้รูปร่างที่เหมือนกันทั้ง 2 แผ่น

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 22:14:22


ความคิดเห็นที่ 625 (2983883)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

        เมื่อได้พื้นโครงของฐานแล้ว ผมก็เริ่มขั้นตอนต่อไปคือการทำแผ่นฐานวงกลมสไว้สำหรับยึดไซโคลน เนื่องจากผมไม่ต้องการที่จะยึดไซโคลนติดกับฝาถังโดยตรงที่เป็นพลาสติค เพราะมันจะไม่แข็งแรง ผมทำแผ่นฐานวงกลมจากแผ่นไม้อัด 20 มม.โดยให้มีขนาดพอดีกับฝากด้านใน ด้วยเครื่องทริมเมอร์กับจิ๊กทำวงกลมที่ผมทำขึ้นมาใช้ชั่วคราวนั่นเอง

        จากนั้นผมจึงเริ่มเจาะรูฝาถังด้านบนทั้งฝานอกและฝาในด้วยสว่านแท่น (เนื่องจากถังที่ผมเลือกใช้จะมีฝา 2 ชั้น คือจะมีฝาด้านในที่จะปิดขอบซีลกันน้ำไหลได้ ซึ่งก็จะสามารถกันลมออกได้ด้วยไปในตัว) เพื่อติดตั้งตัวไซโคลน

        ผมเจาะด้วยดอกสว่านแบบปรับขนาดได้ของ Topman (เนื่องจากดอก Forstner ที่มีอยู่ขนาดใหญ่ที่สุดแค่ 2-1/4 นิ้วเท่านั้นทำให้ไม่สามารถนำมาใช้เจาะได้) โดยขนาดรูที่ผมเจาะจะมีขนาดเท่ากับรูที่ฐานของตัวไซโคลน ขนาด 60 มม. หรือประมาณ 2-3/8 นิ้ว โดยผมจะต้องเจาะทั้งฝาถังด้านอก ฝาใน รวมถึงแผ่นไม้อัดสำหรับยึดฐานไซโคลน เพื่อให้มีขนาดเดียวกันและตรงกันทั้งหมด 

       ขนาดของแผ่นไม้สำหรับยึดฐานไซโคลนนั้น จะมีขนาดที่พอดีกับฝาใน โดยจะอยู่ระหว่างฝาในกับฝานอก เมื่อปิดฝานอกแล้ว มันจะผนึกแน่นพอดี ซึ่งผมทำเอาไว้สำหรับเป็นตัวยึดฐานของตัวไซโคลน ทำให้ผมไม่ต้องยึดไซโคลนกับฝาถังพลาสติคโดยตรงซึีงจะไม่มั่นคงเท่ากับยึดติดกับฐานที่เป็นไม้

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 22:17:49


ความคิดเห็นที่ 626 (2983888)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

         เมื่อเจาะรูฝาใน กับแผ่นไม้ยึดไซโคลนแล้ว ก็มาเจาะฝานอกต่อให้รูมีขนาดเท่ากันโดยใข้ดอกเจาะแบบปรับได้ที่สว่านแท่นเช่นเดียวกัน โดยมีอุปกรณ์ช่วยจับยึดนิดหน่อย เนื่องจากผมยังไม่ได้ทำพื้นโต๊ะให้กับสว่านแท่น ที่จะมีที่จับยึดได้โดยตรง จะทำให้ไม่ต้องใช้แคล้มป์หรือตัวจับยึดภายนอกมาช่วยอีก

         พื้นโต๊ะสว่านแท่นก็เป็นหนึ่งในโครงการสร้างช็อปในฝันของผมเหมือนกัน เอาไว้ถึงเวลาจะได้ทำให้สำเร็จต่อไป ตอนนี้ก็เอาดิบๆ แบบนี้ไปก่อนละครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 23:10:34


ความคิดเห็นที่ 627 (2983890)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       เมื่อเจาะเสร็จทั้งหมดก็จะทำให้ได้ทั้งฝานอก ฝาใน และแผ่นไม้ยึดไซโคลนที่มีรูขนาดเดียวกันกับรูที่ฐานของไซโคลน แล้วนำฝาและไม้ที่ได้มาลองประกอบเข้าด้วยกัน แต่ช่วงนี้ผมจะยังไม่ได้ใส่ประเก็นยางระหว่างตัวไซโคลนกับฝานอกช่วงที่ประกบกัน เนื่องจากยังหาซื้อขนาดที่ต้องการไม่ได้ หรือไม่ผมอาจใช้กาวซิลิโคนแทน เอาไว้รอทำทีเดียวเมื่อเสร็จงานทั้งหมดก่อนก็แล้วกัน

      ฝาในของถังนั้นที่ขอบของมันจะมีร่องเพื่อที่จจสามารถสวมลงไปที่ปากขอบของถังได้ ซึ่งจะเป็นซีลกันรั่วได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเขาทำไว้เพื่อใส่สารเคมีที่เป็นของเหลว ซึ่งฝาในจะช่วยให้ สารเคมีไม่รั่วไหลออกมา และฝาในก็จะเป็นซีลอย่างดีในการกันลมไม่ให้รั่วไหลออกมาได้เช่นกัน เมื่อผมนำเอามาเป็นถังเก็บฝุ่นของไซโคลน

      แผ่นไม้กลมที่เป็นฐานสำหรับยึดไซโคลนที่ผมทำขึ้นมานั้น จะมีขนาดพอดีกับฝาใน ทั้งความหนาและขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ดังนั้นเมื่อปิดฝานอกซึ่งเป็นฝาแบบเกลียวทับลงไปแล้ว จะทำให้ถังถูกผนึกจนแน่น และปิดได้สนิทมากจริงๆทั้งๆที่ยังไม่ได้ซีลเพิ่มด้วยกาวซิลิโคนเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 23:15:29


ความคิดเห็นที่ 628 (2983891)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       ปิดผนึกส่วนฝาทั้งหมดลงไป แล้วหมุนฝานอกจนแน่นพอประมาณ ระดับที่แน่ใจว่าลมจะไม่รั่วไหลออกได้ จากนั้นจึงเอาฐานของตัวไซโคลน ทาบลงไปบนฝาบริเวณที่เจาะรูไว้ แล้วทำเครื่องหมายเพื่อเจาะรูยึดฐานไซโคลนเข้ากับฝาถังและแผ่นไม้ที่ทำเป็นฐาน

      เมื่อได้ตำแหน่งรูสำหรับยึดฐานไซโคลนเข้ากับฝาถังแล้ว ผมจึงเจาะรูด้วยดอกสว่านสำหรับเจาะติดสกรูเกลียวปล่อย #8 จากนั้นจึงทำการยึดไซโคลนเข้ากับฝาถังด้วยสกรูเกลียวปล่อยพร้อมแหวน เพื่อให้สามารถยึดได้ดีขึ้น โดยผมเลือกใช้ขนาดความยาวของสกรู ไม่ให้ทะลุไปถึงฝาใน เพราะจะทำให้ลมอาจรั่วออกจากถังได้

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 23:27:49


ความคิดเห็นที่ 629 (2983892)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     เมื่อทำการติดไซโคลนเข้ากับฝาถังเรียบร้อยแล้วก็ลองจับเอาทั้งถังที่ติดไซโคลน กับเครื่องดูดฝุ่นวางเข้าตำแหน่งบนฐานที่ทำไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะดูระยะต่างๆในการวาง และกำหนดขนาดของโครงที่จะทำต่อไป

     เนื่องจากรูปแบบและขนาดของถัง และเครื่องดูดฝุ่น จะแตกต่างจากที่เขาใช้ในแบบ ทำให้ไม่สามารถใช้ขนาดต่างๆตามแบบได้ ทำให้ต้องกะขนาดใหม่เอาเอง

      หลังจากที่ได้ขนาดของโครงแล้ว ผมจึงไปตัดไม้ ให้ได้ขนาดตามที่วัดไว้ แล้วก็นำมาประกอบกันชั่วคราวก่อน ด้วยการต่อชนธรรมดา (Butt Joint) และทำการเจาะรูเพื่อประกอบชิ้นส่วนต่างๆเข้าด้วยกันด้วยสกรูเกลียวปล่อยขนาด 1-1/4 นิ้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 23:36:14


ความคิดเห็นที่ 630 (2983893)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      เสร็จแล้วลองจับเอาโครงไม้ที่ประกอบขึ้นมาไปลองตั้งบนฐานไม้ดู เพื่อที่จะหาตำแหน่งที่จะยึดเข้ากับฐาน โดยผมตั้งใจว่าจะยึดโครงไม้อันนี้เข้ากับฐานด้วยสกรูเกลียวปล่อย #8 ขนาด 3 นิ้ว โดยจะไม่ใช้กาวเลย เผื่อเอาไว่ว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ผมก็ยังสามารถที่จะรื้อออกได้โดยง่าย เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ได้ยึดกันถาวรด้วยกาวหรือยิงด้วยตะปู

    โครงไม้ที่ประกอบกันขึ้นมานี้ ผมยังจะต้องนำไปเจาะช่อง และรูต่างๆอยู่อีกหลายที่ เพื่อทำให้มันสมบูรณ์พอที่จะใช้งานได้สะดวกขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 23:39:49


ความคิดเห็นที่ 631 (2983894)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     เมื่อเจาะรูด้านใต้ฐานเพื่อยึดขาเข้ากับแผ่นฐานด้วยสกรูเกลียวปล่อย #8 ขนาด 3 นิ้วแล้ว ผมก็นำเอาชิ้นส่วนต่างๆ ไปเจาะร่อง ตัดโค้ง และเจาะรูต่างๆ รวมถึงการตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกทั้งนี้ก็เพื่อที่จะลดน้ำหนักลงให้ได้มากที่สุด ส่วนช่องตรงกลางยังใช้เป็นช่องให้ท่อลมจากเครื่องดูดฝ่่นลอดมายังไซโคลนได้ และก็ยังคงความแข็งแรงของโครงไว้

     จากนั้นก็นำมาประกอบกันบนโต๊ะรับไม้ที่ผมได้ทำขึ้นมา โต๊ะรับไม้ที่ผมทำขึ้นมา กลับกลายเป็นผลพลอยได้ที่ทำให้ผมนำมาใช้เป็นโต๊ะประกอบงานไม้ได้เป็นอย่างดี (เพราะตอนนี้โต๊ะงานไม้ของผมยังถูกยึดครองไว้โดย เลื่อยตัดองศา กับโต๊ะเร้าเตอร์น่ะครับ เลยไม่มีโต๊ะสำหรับประกอบงานไม้)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 23:45:24


ความคิดเห็นที่ 632 (2983895)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      ขั้นตอนทำชิ้นส่วนของมือจับและจะเป็นตัวล็อคไซโคลนด้วย ผมทำขึ้นมาด้วยทริมเมอร์กับดอกกัดตรง ร่วมกับสว่านแท่นและ ดอกForstner เสร็จแล้วจึงทำการเจาะรูเพิ่มเพื่อทำที่เก็บท่อต่างๆของเครื่องดูดฝุ่น บนแผ่นไม้แผ่นบนและแผ่นกลาง (แต่ก็ยังเจาะไม่หมดทุกรู เพราะตั้งใจไว้ว่าจะเจาะอีกรอบสุดท้ายตอนที่จะทำช่องเสียบท่อของเครื่องดูดฝุ่น) 

      คือว่าระหว่างทำไปก็คิดไปว่า น่าที่จะทดลองดูก่อนว่า พลังในการดูดจะเป็นอย่างไร มีลมรั่วหรือเปล่าตามข้อต่อต่างๆที่ยังไม่ได้ซีลด้วยซิลิโคน หรือะมีอะไรที่จะต้องแก้ไขก่อนหรือไม่ ก่อนที่จะตัดไม้ส่วนต่างๆที่เหลือเพิ่มเติม  เพื่อนำมาประกอบจริงในขั้นสุดท้าย

       ผมทำการติดตั้งโครงชั่วคราวก่อน โดยยึดโครงเข้ากับฐานด้วยสกรูจำนวนแค่ 3 ตัวเอาแค่พออยู่เท่านั้น เพราะเดี๋ยวหากตัดไม้และประกอบจริงแล้ว เกิดมีปัญหาภายหลังจะทำให้ต้องกลับมารื้อแก้ไขกันใหม่หมดอีก

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-15 23:48:37


ความคิดเห็นที่ 633 (2983968)
avatar
จรินทร์ (สาต์น)

 รอต่ออยู่นะครับพี่ M อิอิ 

ขอถามหน่อยครับพี่ ปรกติพี่ M สั่งของจากเว็บไหนเป้นหลักครับ ทั้งของที่ไม่มีในไทย กับ มีในไทย (thaicarpenter คือ 1 ในนั้นแน่นอน) อยากได้หลายตัวเหมือนกัน กลัวแต่ ค่าส่ง+ภาษี อย่างเดียวเลย 5555

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (สาต์น) (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-16 13:39:35


ความคิดเห็นที่ 634 (2983974)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 คุณจรินทร์

      ผมซื้อของจากต่างประเทศหลายที่มากจากเอมริกา อังกฤษ และจีน เช่น Rockler, Woodcraft, Lee Valley, Ptreeusa, Tools Plus, Incrementaltool, MLCS, Precisionbits, Amazon, eBay Harvey ฯลฯ ขึ้นอยู่กับของที่ผมสนใจ ถ้าจากอังกฤษก็มี Axminster  ค่าขนส่งของจากอังกฤษมาไทยจะถูกกว่าส่งมาจากอเมรืกา ที่สำคัญในการซื้อของจากอังกฤษก็คือต้องเลือกที่เขามีราคาแบบที่ไม่ต้องเสีย VAT  เพราะ VAT ที่อังกฤษ 20% นะครับ

      แนะนำให้ส่งของทาง USPS (ปณ.อเมริกา) ค่าขนส่งจะถูกกว่า FeDEX, DHL ฯลฯ (แต่ก็ไม่เสมอไปนะครับ) และอย่าสั่งของชิ้นใหญ่ๆ หรือน้ำหนักมาก (หากต้องการจะมีโชคที่ไม่ต้องเสียภาษี แต่ขนส่งทาง Courier เสียภาษีทั้งหมด 100% ครับ) เทคนิคมีเยอะที่ต้องเรียนรู้เอาน่ะครับ หรือไม่ก็หาสมัครพรรคพวก คอเดียวกันรวมกันสั่งของ สามารถนำค่าขนส่งมาเฉลี่ยกันได้

     ส่วนในประเทศทางเว็บ หลักๆก็ Thaicarpenter.com นี่แหละครับ (ที่อื่นมีอีก 2-3 ที่แต่เกรงใจเจ้าของเว็บนี้ครับ เลยไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน) ที่ Thaicarpenter ส่วนใหญ่ผมไปรับเองที่นครปฐม เพราะมีเหตุที่ต้องไปแถวนั้นทุกเดือนอยู่แล้ว นอกนั้นก็ บางโพ คลองถม วรจักร โฮมโปร โฮมเวิร์ค DooHome ฯลฯ

      

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-16 14:20:48


ความคิดเห็นที่ 635 (2983999)
avatar
ตั้มโคราช

 

เอาแบบนี้เลย...จ๊าบบบบบบบบบบ  http://www.youtube.com/watch?v=QGQ4Vzj_Ihc

ไม่ได้เข้ามาดูนานแล้ว มัวแต่ทำมาหากินไปวันๆๆครับ สุดยอดเครื่องมือใช้งาน 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตั้มโคราช วันที่ตอบ 2013-10-16 18:22:55


ความคิดเห็นที่ 636 (2984000)
avatar
ตั้มโคราช

 ชิ้นส่วนที่เ็ป็นโบลเวอร์ หาซื้อได้ทั่วไปครับ เอามอเตอร์ 3 แรง 3000 รอบใส่เข้าไป ก็แรงแล้วครับ อุปกรณ์ ทุกตัว พี่อนุชิตมีเกือบหมดแล้ว เครื่องดูดฝุ่นแบบนี้ ข้อดีคือมีฝุ่นออกมาที่ปล่อยอากาศออกน้อยครับ ไม่อุดตันด้วย แบบที่เห็นเป็นแบบที่ลงตัวและสวยงาม ทุกคนสามารถดัดแปลงทำเองก็ได้ มเป็นคนหนึ่งที่ต้องใช้เครื่องดูดฝุ่น เคยคิดมานานว่าว่างๆจะทำเครื่องแบบนี้ใช้บ้าง เพราะแบบที่เห็นทำใช้กัน มันไม่ลงตัว ดูแล้วมันแปลกๆ....แถมยุ่งยากในการประกอบใช้งาน..ราคาสำเร็จ ก็ 2900 เหรียญเอง จิ๊บๆๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตั้มโคราช วันที่ตอบ 2013-10-16 18:32:41


ความคิดเห็นที่ 637 (2984014)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 คุณตั้มโคราช

    ขอบคุณที่แวะมาทักทาย คงขายดีลูกค้าสั่งจองจนทำไม่ทันแน่เลย หากว่างๆก็แวะมาเยี่ยมกันบ้างนะครับ ส่วนเรื่องเครื่องดูดฝุ่นไซโคลน ชนิดตัวใหญ่ขนาด 3 แรงม้าที่เอามายั่วนั้นน่ะ ตัวในฝันเลย และผมก็มีโครงการที่จะทำแน่ๆในอนาคตครับ แต่ตอนนี้ลองเล่นตัวเล็กๆไปก่อน ก็เพื่อที่จะหาความรู้ก่อนขยับขึ้นไปทำตัวใหญ่ๆนะครับ เพราะดูแล้วน่าจะยากกว่า

      ขนาดตัวเล็กๆที่ผมทำขึ้นมา พลังดูดที่ทำให้เกิดสูญญากาศในถังรุนแรงมากขนาดถังพลาสติคที่นำมาใช้ทั้งหนาและแข็งพอสมควร ยังจะยุบตัวเลย หากคุณตั้มทำเมื่อไรอย่าลืมมาแบ่งปันความรู้กันบ้างนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-16 23:33:36


ความคิดเห็นที่ 638 (2984059)
avatar
i3ird

อิจฉาฝุดฝุด....เมื่อไรจะได้ไปเยี่ยมช็อปพี่เอ็มสักทีนะคงไม่เกินปีหน้ามั้ง....

ผู้แสดงความคิดเห็น i3ird (bird-togo-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-17 13:44:48


ความคิดเห็นที่ 639 (2984157)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณ i3ird, 

     ปีหน้าแน่นอนครับ เหลือเวลาอีก 2 เดือนแล้ว ไม่รู้จะเสร็จทันไหมนะ สงสัยท่าทางจะ  ยาว....ววววว แน่ๆเลย เพราะอัตราความเร็วในการทำงานขนาดนี้ของผม สงสัยจะต้องขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือนแล้วละครับ

     ผมก็อิจฉาคุง i3ird เหมืยนกัล ที่มาทีไรก็เห็นแต่ครอบครัวกบ Veritas มาหลอกมาหลอนอยู่ทุกวันๆ เหมียนกัลล์

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-18 14:37:14


ความคิดเห็นที่ 640 (2984197)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      จับเอาแผ่นล็อคไซโคลนกับถัง และเป็นมือจับสำหรับลากไปมาได้ด้วย ไปเจาะรูตรงกลางด้วยดอก Forstner เพื่อให้ข้อต่อท่อของไซโคลนด้านบนโผล่ออกมาจนเกือบสุดได้

      จากนั้นจึงใช้ดอกเร้าเตอร์ชนิดดอกบังใบ (Rabbet bit) ขนาด 1/2 นิ้ว ที่มีลูกบืนที่ปลาย มาทำบังใบหรือบ่าในวงกลม เผื่อไว้เพื่อให้สามารถเสียบท่อขนาดใหญ่ได้สะดวก แต่ก็ยังคงทำหน้าที่ล็อคไซโคลนไว้ให้อยู่กับที่ ไม่ขยับไปมาด้วยในตัว

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-18 20:22:01


ความคิดเห็นที่ 641 (2984206)
avatar
เอ๋ เพาะช่าง

ผมก็ว่าแบบพี่เบริด์อ่ะ ต้องทัวร์ช๊อปพี่เอ็มแล้ว อยากลองความเห็นที่ 608ครับพี่
เรื่องรับศิษย์ ไม่รับคนรวยครับพี่555

ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-18 20:51:57


ความคิดเห็นที่ 642 (2984207)
avatar
เอ๋ เพาะช่าง

พี่อาทิตย์ที่2ของมกราเป็นไง....เด่วเปิดให้จองที่นั่งก่อน555

ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-18 20:53:34


ความคิดเห็นที่ 643 (2984259)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณเอ๋

         หายหน้าหายตาไปนาน มาแต่ละทีมีเหน็บเจ็บๆทุกทีนะ  ช็อปผมน่ะมาได้เลยครับ มากันเยอะๆยิ่งดี มาแล้วจะได้ลองตัดทุกแบบ ตัดเสร็จแล้วให้ช่วยกันทำตู้ในช็อปให้ผมด้วยอีกใบนะครับ 555

        ส่วนเรื่องคนรวยน่ะ ผมรอดตัวไป ไม่เกี่ยวกับผมแน่นอน เพราะที่ว่ารวยน่ะ ต้องขับรถยี่ห้อที่มีดาว 3 แฉก เท่านั้น ถึงจะเรียกว่ารวยจริง ยิ่งดาวสามแฉกสปอร์ทด้วยแล้วของแท้แน่นอนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-19 08:54:07


ความคิดเห็นที่ 644 (2984537)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       ผมเจาะรูไปหลายรูด้วยสว่านแท่นกับ ดอก Forstner 16ตัว/ชุด ของ Marksman ที่ซื้อมาจากอังกฤษนานแล้ว (แต่ทำในจีน) ไปหลายรู ผลที่ได้ออกมาไม่ค่อยดี ทำให้ผมต้องตัดไม้ทำใหม่ถึง  3 อัน เพราะรูมันฉีกขาดไม่เรียบ คงเพราะมันเป็นไม้อัดน่ะครับ มันจะฉีกง่าย จนในที่สุดก็ทนไม่ไหวจึงต้องหาสาเหตุดูว่าเป็นเพราะอะไร จึงถอดดอก Forstner จากหัวจับสว่านแท่นออกมาดู ผลปรากฏว่าดอกมันไม่ค่อยคมเอาเลย โดยเฉพาะส่วนที่เป็นฟันรอบๆดอก น่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เจาะไม้อัดได้ไม่เรียบและฉีกขาดอีกต่างหาก

     ดอก Forstner ชุดแรกที่ผมซื้อมานั้น ผมซื้อมานานแล้วเพราะเห็นว่าราคามันไม่แพงประมาณ 2,000บาท ก่อนที่ผมจะซื้อใหม่อีกชุด เป็นของ Rockler ช่วงที่เขา Sales ผมจึงไม่รอช้ารีบไปหยิบเอาชุดของ Rockler ที่เป็น 22 ตัว/ชุด (ที่ยังไม่เคยใช้เลย) ออกมาเปรียบเทียบดู ปรากฏว่าต่างกันมากเลย ของ Rockler จับดูแล้วคมกว่ามาก ทั้งใบตัดตรงกลางและฟันรอบๆก็คมมาก

    ผมเลยเก็บดอก Forstner ชุดแรกไว้เลย เอาไว้คงต้องไปลับฟัน ใหม่หมดในภายหลัง (แต่ก็คงไม่ยากมากนักเพราะเป็นเหล็กคาร์บอนสูง ไม่ใช่ คาร์ไบด์) และหันมาใช้ของ Rockler แทนก่อน เมื่อลองเปลี่ยนไปใช้ดอกใหม่ ผลที่ได้ออกมาก็ค่อนข้างดีครับ เป็นที่น่าพอใจ  

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-22 10:06:59


ความคิดเห็นที่ 645 (2984538)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

        ผมจัดการลบมุมต่างๆออกด้วยดอก Round over ก็เพื่อที่จะไม่ให้ไม้มันฉีกขาดตอนที่นำไปใช้งานจริง โดยเฉพาะตรงบริเวณมือจับ ผมทำให้มันโค้งมากๆเพื่อจะได้จับได้สบายมือตอนใช้งาน

        หลังจากที่ผมได่ใช้บานพับเปียโนกับโต๊ะรับไม้ของผมไปแล้ว ทำให้ผมติดใจประสิทธิภาพของมัน จึงทำให้ผมนำมันกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งกับ เครื่องดูดฝุ่นระบบไซโคลนของผม เพราะชอบที่มันสวยดี สามารถเอามาโชว์ได้อีกด้วย ผมนำมาเป็นบานพับของ แผ่นล็อคไซโคลนที่มีมือจับสำหรับลากเครื่องดูดฝุ่นไปมาได้ ซึ่งแผ่นนี้สามารถยกเปิดปิดได้ เมื่อต้องการเอาฝุ่นจากถังใต้ไซโคลนไปทิ้ง

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-22 10:17:17


ความคิดเห็นที่ 646 (2984542)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     ในที่สุดก็ติดบานพับเสร็จสามารถที่จะยกเปิดปิดได้แล้ว รวมถึงเก็บงานตามของเสร็จแล้ว รูต่างๆนั้นก็เอาไว้เป็นทางเดินของท่อ และเป็นที่เก็บท่อต่อแข็งของเครื่องดูดฝุ่นน่ะครับ แต่ยังไม่เสร็จดีเหลือตัวล็อกนิดหน่อยที่จะต้องไปทำเพิ่มต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-22 10:43:55


ความคิดเห็นที่ 647 (2984544)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

    งานขั้นต่อไปเป็นการทำที่แขวนสายท่อดูดฝุ่นโดยทำจากไม้อัดขนาด 20 มม. 6 แผ่นซ้อนกัน แล้วขีดเให้เป็นส้นโค้งด้วยวงเวียนจำเป็น ที่พันดินสอไว้ที่ปลายคาร์ลิเปอร์ที่ผมไม่ได้ซื้อสักทีทั้งที่เป็นเครื่องมือที่สำคัญชิ้นหนึ่ง และราคาก็ไม่กี่บาท (สงสัยว่าจะไม่ต้องซื้อแล้วใช้มันอันนี้แหละครับ)

    เมื่อขีดได้เส้นโค้งบนไม้แล้วจึงเอาไปตัดออกด้วยเลื่อยสายพานด้วยการตัดทีเดียวทั้ง 6 แผ่นเลยเพื่อให้มันจะได้เท่ากันทุกแผ่น โดยผมยิงด้วยปืนลมยิงตะปูเพื่อตรึงไว้ก่อนเพื่อกันเลื่อน

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-22 10:50:21


ความคิดเห็นที่ 648 (2984547)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

        ผมทดลองต่อเครื่องดูดฝุ่นไซโคลนที่ทำขึ้นชั่วคราว โดยใส่ท่อแล้วพันไว้ด้วยเทปกันลมรั่วไว้ก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะลองทดสอบการทำงานจริงด้วยการดูดจากครื่องขัดสายพานและจานแบบตั้งโต๊ะ ที่ก็ช่วยงานขัดได้ดีพอควร ไม่ต้องจับรถถังมานอนอีกแล้ว (สนนราคาก็ไม่ได้แพงมาก ประมาณ สามพันปลายๆ)  สำหรับท่อจริงที่จะใช้ตั้งใจว่าจะใช้ขนาด 2-1/2 นิ้ว เพราะหัวต่อท่อดูดฝุ่นโต๊ะเร้าเตอร์ และโต๊ะบนสว่านแท่นที่ใช้จะเป็นขนาดดังกล่าว เอาไว้มีเวลาคงจะต้องไปหาซื้อแถวๆคลองถมละครับ เพราะเคยไปซื้อขนาด 4 นิ้วมาจากที่นั่น ส่วนที่อื่นผมเคยเห็นก็อยู่แถวลำลูกกา แต่ก็ยังไม่เคยไปดูเอง ติดต่อแต่ทาง e-mail และได้ข้อมูลและราคามาพอสมควร หรือใครพอทราบแหล่งอื่นที่มีขายบอกกันด้วยนะครับ

       ผลที่ได้จากการทดลองก็ค่อนข้างดี เห็นฝุ่นหมุนวนอยู่ในไซโคลนเป็นสายเลย ก่อนดูดผมเอาถุงกรองที่เป็นกระดาษในเครื่องดูดฝุ่นออกก่อน และทำความสะอาดถังภายใน หลังจากที่ทดลองดูดจนเสร็จงานแล้ว จึงไปเปิดดูที่ถังเครื่องดูดฝุ่น แทบจะไม่มีฝุ่นในถังให้เห็นเลย แต่ฝุ่นเกือบทั้งหมดจะถูกดูดไปอยู่ในถังไซโคลนแทน 

      เมื่อขัดเสร็จก็นำไปติดตั้งเข้าที่ด้วยสกรู #8 ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 4 ตัวเป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับที่เอาไว้แขวนท่อเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน  ส่วนงานที่เหลือจะเป็นงานทำเสาเอาไว้สียบท่อแข็งเครื่องดูดฝุ่น งานเก็บรายละเอียดด้วยกระดาษทราย ก่อนลงซีลเลอร์และแลคเกอร์  สุดท้ายก็จะเป็นงานติดล้อขนาด 3 นิ้วเข้าไปก็น่าจะเสร็จแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-22 11:03:42


ความคิดเห็นที่ 649 (2984585)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      นำท่อนไม้แอชขนาด 1x1 นิ้ว มาทำเป็นท่อนไม้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7/8 นิ้ว ด้วยดอก Round Over และเจาะรูที่แผ่นยึดโครงอันกลางด้วยดอก Forstner ขนาด 7/8 นิ้ว ให้ลึก 1/4 นิ้ว เพื่อนำท่อนไม้กลมที่ทำได้เสียบลงไป แล้วยึดด้วยสกรู #8 ขนาด 3 นิ้ว จากด้านล่าง เพื่อเอาไว้เสียบท่อแข็ง ของเครื่องดูดฝุ่น

      จากนั้นก็นำเลื่อยญี่ปุ่นมาตัดไม้กลมให้เสมอกับพื้นไม้ที่ยึดโครงแผ่นบน โดยทำทั้งหมด 2 ชุดสำหรับขนาด 7/8 นิ้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-22 18:09:29


ความคิดเห็นที่ 650 (2984586)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      ที่เสียบท่อทำเสร็จแล้วจะได้หน้าตาออกมาเป็นแบบนี้แหละครับ เวลาใช้งานก็จะเสียบท่อลงไปในท่อนไม้กลม ทำให้เวลาเข็นจะได้ไม่เคลื่อนที่ไปมา หรือหลุดออกมาได้ครับ ทำให้สามารถเก็บท่อต่างๆที่ต้องใช้กับเครื่องดูดฝุ่นไว้ในที่เดียวกัน ไปไหนไปด้วยกันทั้งหมด ไม่ต้องไปควานหาเวลาจะใช้น่ะครับ

    ส่วนอีกชุดจะเป็นท่อนไม้กลมขนาด 1-1/4 นิ้ว สำหรับเสียบท่อที่มีขนาดใหญ่กว่า ที่ผมจะทำในลักษณะเดียวกันกับที่ทำขนาด 7/8 นิ้ว พอเวลาที่ทำท่อนไม้กลมทีไรทำให้ผมนึกถึงเครื่องกลึงไม้ทุกที เพราะถ้ามีจะทำให้ทำได้เร็วขึ้นกว่านี้มาก เอาไว้ช็อปเสร็จแล้วค่อยคิดดูใหม่อีกครั้ง ว่าจะตั้งไว้ที่ไหนหากพอมีที่เหลือ

    การที่ผมไม่ได้ใช้กาวเลย โดยทำเป็นแบบ Knock down สำหรับโครงการนี้ก็ถือเป็นข้อดีอีกอย่าง ที่ทำให้ผมสามารถใส่เข้า หรือถอดชิ้นส่วนออก เพื่อให้ผมสามารถทำงานได้สะดวกขึ้นในแต่ละขั้นตอน หากใช้กาวและตืดไปแล้วจะทำไม่ได้อย่างนี้ เนื่องจากคืดไปทำไป ทำผืดถอดออกมาแก้ใหม่ วนไปวนมาหลายๆรอบ บางทีทำไปแล้วเพิ่งจะคิดได้ ถอดแล้วถอดอีก 555

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-22 18:17:41


ความคิดเห็นที่ 651 (2984624)
avatar
จรินทร์ (สาต์น)

เป็นอุปกรณ์ดูดฝุ่นที่งามมากครับพี่ M ตอนนี้ผมไม่อยากจะใช้เจ้า Router เอาชะเลย ฝุ่นเยอะจิงๆ ถ้าใช้กบได้คล่องๆ แจ๋วกว่าเยอะเลย 555

ผมก็ว่าจะทำไว้ใช้เหมือนกันครับ เมียงๆมองๆของคนอื่นมาหลายท่านละ อิอิ 

ว่าแต่ดอก Forstner (ชื้อไทยว่า ดอกขูด หรือเปล่าครับ เห็น แวปๆ ) หาชื้อในไทยยากจัง 

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (สาต์น) (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-23 07:43:02


ความคิดเห็นที่ 652 (2984765)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 คุณจรินทร์

         ดอก Forstner เท่าที่ทราบภาษาไทยก็น่าจะเรียกดอกขูด เพราะผมก็ได้ยินว่าเขาเรียกกันแบบนั้นเหมือนกัน ถูกผิดไม่ทราบครับ บ้านเราเท่าที่เห็นจะมีแบบ 5 ตัวชุด 15, 20, 25, 30 และ, 35 มม. นอกนั้นจะเป็นดอกชนิดฟันคาร์ไบด์ เคยเห็น มีหลายขนาดอยู่เหมือนกันนะครับ ที่ Thaicarpenter.com ก็มีขายอยู่หลายขนาดเหมือนกันนะครับ ผมยังอุดหนุนมาใช้เลย (สงสัยเอามาเก็บมากกว่า เพราะยังไม่ได้ใช้เลยสักอัน) รวมถึงขนาดที่ใช้ เจาะบานพับถ้วยเช่น 35 มม. และ 40 มม.มีทั้งใช้กับ สว่าน และ เร้าเตอร์ เท่านี้แหละครับที่เคยเห็นและซื้อมาใช้อยู่ครับ ดอก Forstner ชุดใหญ่ประเภท 14 16 หรือ 22 ดอก/ชุด ยังไม่เคยเห็น ผมเลยต้องสั่งเข้ามาเอง แต่จะมีขนาดเป็น Imperial หรือ นิ้วนะครับ แต่ถ้าเป็นดอกเจาะทะลุเลยพวกดอกโฮลซอว์ (Hole saw) จะมีเยอะครับ

          สุดยอดดอก Forstner เป็นผลิตภัณฑ์จากเยอรมัน ยี่ห้อ COLT รุ่น MaxiCut ที่ได้รับคำชมจากการทดสอบและใช้งานมากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมาขนาด 5 ดาวเลยแหละ แต่ราคาก็ตามคุณภาพเหมือนกัน ตัวอย่างชุดเล็ก 5 ดอก 5/8″, 3/4″, 1″, 1-1/8″ และ 1-3/8″ ราคา $130 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-24 13:06:14


ความคิดเห็นที่ 653 (2984795)
avatar
จรินทร์ (สาต์น)

 ราคาดุได้ใจจิงๆครับพี่ ​M สำหรับ 5 ดอก $130 คงต้องแอบใช้ของพอใช้งานได้ดีกว่าครับสำหรับผม 555 งบหมด 

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (สาต์น) (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-24 19:24:02


ความคิดเห็นที่ 654 (2984796)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

คุณจรินทร์

     ของ COLT ผมก็ดูแล้วว่ามันแพงเกินความจำเป็น เลยซื้อแค่ของ Rockler 22 ดอก/ชุด ซึ่งราคาปกติ $158.99 แต่ซื้อตอน Sales ลดราคาเหลือ $69.99 ได้เรตติ้ง 4 ดาว (ทำในไต้หวัน) หากได้ราคาที่ผมซื้อมาก็โอเคแล้ว แต่ถ้าเป็นราคาเต็มผมว่ามันก็แพงไปหน่อย ถ้าเงินถึงก็ไปเล่น COLT หรือไม่ก็ FREUD ไปเลยครับ

 http://www.rockler.com/product.cfm?page=17283&filter=36191

*** update: 19-12-2013 Rockler ลดราคาเหลือ $78.99 ***

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-24 19:57:48


ความคิดเห็นที่ 655 (2984806)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

        มาทำเครื่องดูดฝุ่นไซโคลนกันต่อครับ ใกล้จะเสร็จแล้ว เหลือขั้นตอนเก็บงานต่างๆให้เรียบร้อย ก่อนที่จะลงแล็คเคอร์

       ผมจับเอาพื้นส่วนฐานของเครื่องดูดฝุ่นไซโคลน มาใส่ล้อ PU ขนาด 3 นิ้วชนิดล้อเป็น และมีตัวล็อคล้อ 2 ลูก อีก 2 ลูกไม่มีตัวล็อค เสร็จแล้วจัดการแยกร่างอีกครั้ง เพื่อเอาไปขัด และติดวิเนียร์ไม้สักตามขอบเสียหน่อยในส่วนที่เป็นโครง ยกเว้นที่ฐานที่ไม่ได้ติด เมื่อติดวิเนียร์เสร็จ เอาไปลง Sanding Sealer ก่อน 2 รอบ แล้วจึงจับมาประกอบกันอีกครั้งก่อนที่จะลงแล็คเคอร์ในขั้นตอนต่อไป

       ส่วนอีกงานหนึ่งที่ผมทำค้างไว้คือ การทำแท่งไม้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1/4 นิ้ว แต่เนื่องจากไม่มีไม้ขนาดดังกล่าว ผมจึงเอาเศษไม้แอช ที่เหลือๆมายึดติดกาวเข้าด้วยกัน ตัดส่วนเกนอด้วยโต๊ะเลื่อย และหนีบด้วยแคล้มป์ไว้ก่อนเพื่อรอให้กาวแห้งสนิทดี ก่อนที่จะเอาไปทำแท่งไม้กลมขนาด 1-1/4 นิ้วที่โต๊ะเร้าเตอร์ต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-24 21:21:02


ความคิดเห็นที่ 656 (2984904)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      หลังจากลง Sanding Sealer ไป 3 รอบ ก็เริ่มลงแลคเกอร์ โดยลงแลคเกอร์เงาไป 2 รอบตามด้วยแลคเแกอร์ด้านอีก 2 รอบ ระหว่างรอบก็ลูบด้วยกระดาษทรายเบอร์ 280 ก็เป็นอันเสร็จแล้วละครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-25 16:20:42


ความคิดเห็นที่ 657 (2984906)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      หลังจากทิ้งไว้ให้แลคเกอร์แห้งก็จับอุปกรณ์มาเข้าที่ เสร็จแล้วครับ เครื่องดูดฝุ่นไซโคลนขนาดเล็ก เมื่อประกอบเสร็จก็ลองทดสอบดูดเศษขี้เลื่อยจำนวนมากๆเลย

     ผลปรากฏดังนี้ครับคือ สูญญากาศที่เกิดจากแรงดูดของเครื่องดูดฝุ่น  BOSCH ที่ผมซื้อมาใช้ในโรงรถ และนำมาใช้ในช็อปด้วยมีกำลังค่อนข้างสูง จึงทำให้เกิดสูญญากาศในถังสูงมากจนถังยุบได้เลย แม้ว่าถังที่ผมเลือกมาใช้ก็คิดว่าหนาและแข็งมากพอแล้ว เพราะเป็นถังใส่สารเคมีมาจากต่างประเทศ ที่ต้องแข็งแรงทนทานมากอยู่แล้ว สงสัยผมคงจะต้องทำไม้ยันไว้ในถังไม่ให้ถังยุบ หรือหาถังที่แข็งกว่านี้อีก หรือไม่ก็ต้องใช้ถังเหล็กแทนแล้วละครับ ถ้าเอาไม่อยู่จริงๆ และเวอร์ชั่นถัดไปอาจจะลองหาถังที่แข็งกว่าเละเล็กกว่านี้ เพื่อที่จะได้ทนแรงได้มากขึ้น และสามารถลดขนาดความยาวของทั้งฐานและความสูงลงได้อีก

      ส่วนฝุ่นก็ลงไปอยู่ในถังไซโคลนเกือบทั้งหมด มีเล็ดลอดไปน้อยมาก และจะเป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมากๆเท่านั้น น่าจะไม่ถึง 1%  นับเป็นประสบการณ์ที่ดีของผมสำหรับการทำไซโคลนขนาดเล็ก ที่จะเป็นประโยชน์ในการทำไซโคลนเครื่องใหญ่ ขนาด 3 แรงม้าในอนาคต และคงจะต้องใช้เหล็กอย่างหนาพอสมควรเลย รวมถึงถังก็คงต้องเป็นเหล็กอย่างเดียว วัสดุอื่นหมดสิทธิ์แน่นอนเลยละครับ

      สำหรับท่านที่สนใจเครื่องดักเก็บฝุ่นไซโคลนขนาดใหญ่และต้องการที่จะลองฝีมือทำไว้ใช้เอง ผมมีแบบที่ทำลิ้งค์ไว้ให้ในความเห็นที่ 38 ของกระทู้ข้างล่างนี้เลยครับ ตอนนี้เห็นคุณจ๊อดแห่งศูนย์ฝึกอบรม Woodworkingthai ทำขึ้นมาใช้ที่ศูนย์ฝึกอบรมแล้ว และคงจะได้เห็นรายละเอียดกันต่อไป ส่วนของผมรอไปก่อนครับเอาไว้หลังๆเลยครับ ต้องรอให้อย่างอื่นเสร็จเข้าที่ให้เรียบร้อยก่อนนะครับ

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=1&No=1392951

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-25 16:41:00


ความคิดเห็นที่ 658 (2984924)
avatar
จรินทร์ (สาต์น)

 แจ่มจริงๆครับพี่ M ขอสอบถามอีกนิดครับพี่ ชุดดอกขูด + ค่าส่งกับภาษีแล้วประมาณเท่าไหร่ครับ ถ้าไม่แพงมาจะสั่งมาชักชุด

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (สาต์น) (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-25 21:27:47


ความคิดเห็นที่ 659 (2984935)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     รูปของเครื่องดูดฝุ่นไซโคลนขนาดเล็ก (Mini Mobile Cyclone Dust Collector) ที่ผมทำเสร็จแล้ว หน้าตาออกมาดิบๆแบบนี้ละครับ เป็นแบบน็อคดาวน์ และม่ายได้โป๊วอะไรทั้งนั้นขัดแล้วลงซีลเลอร์กับแลคเกอร์เลย แต่ก็ทำให้ผมได้ความรู้และประสบการณ์กับ ไซโคลนพอสมควร ในการที่จะก้าวไปทำขนาดที่ใหญ่ขึ้นต่อไป

     และแล้วงานที่ผมทำและนำมาเล่าสู่กันฟังใน SEASON 5/  EPISODE ที่ 7 ก็จบลงไปแล้วครับ จะได้เอาไปต่อใช้งานกับโต๊ะเร้าเตอร์ สว่านแท่นและเลื่อยตัดองศาสไลด์แล้วละครับ แต่ว่าจริงๆแล้วเป็นงานรองน่ะครับ งานหลักคือเอาไว้ดูดฝุ่นในรถของ ผบ.ทบ ละครับ สามารถลากไปไหนมาไหนได้สะดวก

    มีหลายท่านถามว่าหาซื้อกระบอกไซโคลนได้ที่ไหน จากที่ผมนำเข้ามาจากจีนนานแล้วตอนนี้มีขายในเว็บ www.aliexpress.com แล้วสามารถสั่งได้ครับราคาไม่แพง แต่แพงค่าส่งถ้ารวมๆกันซื้อก็แชร์ค่าขนส่งกันได้ และจีนก็อปเขามาอีกทีน่ะครับ

     งานต่อไปคงจะต้องกลับไปทำตู้ตั้งพื้นที่ยังเหลือแผ่นไม้ปิดหน้าลิ้นชัก และพื้นโต๊ะก็จะเสร็จแล้ว จะได้เริ่มทำตู้แขวนผนังในช็อปเสียที เพราะไถลไปไหนมาไหนไกลแล้วครับ ตั้งแต่ได้น้องฮาร์วี่ย์เข้ามาในช็อปของผม 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-26 00:54:58


ความคิดเห็นที่ 660 (2984936)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 คุณจรินทร์

    1.  ตัวอย่างการซื้อจาก www.rockler.com ซึ่งเป็นดอก Forstner 22 ดอก/ชุด ราคาเต็มที่ $158.99 เสียค่าขนส่งให้ $60.50 ภาษีศุลกากรกับมูลค่าเพิ่มอีก 17% รวมเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 7,518 บาทครับ (ดังนั้นไม่ควรซื้อตอนที่ไม่ Sales เพราะแพง)

http://www.rockler.com/product.cfm?page=17283&filter=36191

   2.   อีกตัวอย่างเป็นการซื้อจาก Amazon.com เป็น Forstner bit set แบบ 14ดอก/ชุด ของ Porter- cable ราคา $49.97 =1,652บาท +ค่าขนส่ง 1,160 บาท +ภาษี 1,386 บาท รวม = 4,198 บาท ครับ สำหรับการซื้อจาก Amazon เขาจะคิดค่าภาษีนำเข้าไว้ล่วงหน้าก่อนตอนที่ทำรายการสั่งซื้อ ภาษีจริงเท่าไรค่อยมาหักกลบลบหนี้กันอีกครั้งนะครับ

      ปกติแล้วแนะนำว่าไม่ควรซื้อของชิ้นเดียว เพราะซื้อเพิ่มอีก 2-3 ชิ้นค่าขนส่งเพิ่มอีกไม่มาก มีอีกวิธีหนึ่งคือต้องหาเพื่อนๆ ที่สนใจเหมือนกันร่วมกันซื้อในใบสั่งซื้อเดียวกัน ก็เพื่อที่จะเอาค่าขนส่งมาเฉลี่ยกันได้ ส่วนผมจะจดรายการไว้ใน Wish List ก่อน แล้วซื้อทีเดียวตอนที่เขาลดราคา เช่น Rockler จะลด 15%ทุกรายการ ปีละ 2ครั้ง และลด 20% ของราคาสินค้ามูลค่ามากที่สุด 1 รายการ ปีละ 2 ครั้งเหมือนกัน

      คงต้องศึกษาหาเทคนิคด้วยตนเองละครับ พอแนะนำได้แค่นี้ก่อน จริงๆก็ยังมีเทคนิคอีกเยอะครับ เช่นของที่อัตราภาษีต่างกันไม่ควรสั่งใน order เดียวกันเป็นต้น เพราะจะเสียในอัตราภาษีที่นำเข้ารายการที่สูงที่สุดทั้ง order เลย และก็มีเหมือนกันที่อาจไม่ต้องเสียภาษีเลยก็มีนะครับแล้วแต่ดวง ลองดูๆ สนุกดีและได้ความรู้ด้วยครับ  

 http://www.amazon.com/PORTER-CABLE-PC1014-Forstner-Bit-14-Piece/dp/B004TSZEB4/ref=sr_1_1?ie=UTF8&qid=1382723737&sr=8-1&keywords=Forstner+bit+set

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-26 00:56:24


ความคิดเห็นที่ 661 (2984939)
avatar
จรินทร์ (สาต์น)

 ขอบคุณมากครับ พี่ M ได้ความรู้ตลอดเลย งั้นจัดไว้ในลิสก่อนเลยแล้วกัน 

ผู้แสดงความคิดเห็น จรินทร์ (สาต์น) (mrjarint-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-26 02:22:13


ความคิดเห็นที่ 662 (2985173)
avatar
Bigmaster

อยากไปทัวShop พี่ เทอดศักดิ์(M) ด้วยครับ  อยากเห็นโต๊ะเลื่อยตัวเป็นๆครับพี่  แต่งบ ผมไม่ถึง  พอจะแนะนำตัวที่ราคาซัก 30000 ได้ไหมครับพี่ เทอดศักดิ์(M)   ขอบพระคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Bigmaster ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-28 21:09:23


ความคิดเห็นที่ 663 (2985259)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณ Bigmaster

     ช็อปผมยินดีต้อนรับทุกท่าน แต่รอให้ทำช็อปเสร็จก่อนนะครับ จะได้พอให้เดินได้สะดวกก่อนน่ะครับไม่มีอะไรมาก คงจะต้องปีหน้าไปโน่นเลยครับ

     ส่วนโต๊ะเลื่อยตามงบที่มี ลองอ่านดู ตั้งแต่ความเห็นที่ 417 ที่คุณยุ่นรีวิวไว้ ตามลิ้งค์ด้านล่าง ซึ่งจะเป็นข้อมูลของโต๊ะเลื่อย Boye TJZ-12/2 ที่ค่าตัวในงบ 30K ลองดูครับเผื่อจะชอบ ก็เห็นใช้กันอยู่หลายท่านนะครับ นอกจาก Makita MLT100 ยอดนิยม (เพราะหาตัวอื่นที่ดีกว่าในราคาที่พอๆกันยังไม่ได้นั่นเอง)

     (พอมีข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจ คือตัว BOYE TJZ-12/2 กับ BIGWOOD MJ-2331 เป็นตัวเดียวกัน จะต่างกันที่ขนาดของเพลาเท่านั้นที่ Boye จะเป็นเพลา 5/8" ส่วน Bigwood จะเป็น 25 มม. ที่ต้นแบบจะมาจาก RIDGID TS24241 ทั้งคู่)

    ส่วนผมเองยังไม่เคยใช้ เลยให้ความเห็นไม่ได้น่ะครับ แต่แนะนำให้ไปดูด้วยตัวเองก่อนนะครับว่าเราชอบเขาไหมก่อนตัดสินใจ

 http://www.thaicarpenter.com/index.php?

      

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-29 19:55:28


ความคิดเห็นที่ 664 (2985367)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     วันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่ผมเริ่มมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับงานไม้ที่ผมทำพอดีครับ

     จากวันนั้นถึงวันนี้ วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ได้มิตรภาพ ได้ความรู้ ความสนุกสนาน และกำลังใจมากมาย รวมถึงได้ผลงานที่น่าชื่นใจออกมาบ้างเล็กน้อย

     ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมาตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา และหวังว่าคงจะติดตามและเป็นกำลังใจให้ผม ในความมุ่งมั่นที่จะสร้างช็อปงานไม้ในฝันของผมให้สำเร็จต่อไป

      ขอบคุณครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-30 19:11:06


ความคิดเห็นที่ 665 (2985370)
avatar
monalisa

ต้องขอขอบคุณพี่เอ็มที่มาเล่าสิ่งดีๆ ให้พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ได้เป็นฟังกันครับ รอสิ่งดีๆ ที่พี่จะมาเล่าต่อในปีที่ 2 ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น monalisa วันที่ตอบ 2013-10-30 19:29:08


ความคิดเห็นที่ 666 (2985388)
avatar
อดิศร

 พี่ M ราคาค่าตัวของเจ้า Cycone ของ  Oneida Dust Deputy มัน 5-600 บาทนี้รวมภาษีแล้วหรือครับถ้าจริงผมจะได้ลองใช้มั่งว่าแต่มันสั่งซื้อที่ไหนเหรอครับสั่งที่ Amazon ได้หรือเปล่า

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศร วันที่ตอบ 2013-10-30 20:41:17


ความคิดเห็นที่ 667 (2985444)
avatar
yun lefty

 ชอบชุดฐานเครื่องดูดฝุ่นของพี่เอ็มชุดนี้ครับ  

ตอนนี้โต๊ะเลื่อย boye ของผม หลังจากได้ผ่านยันฮี(ศัลยกรรม)มาหลายรอบ เกือบจะทั่วทุกองคาพายัพแล้ว ระหว่างนี้ผมกำลังทดลองใช้งานในหลายๆจุดที่ผมได้ปรับแปลงไป เสร็จสิ้นเมื่อไรจะลงเรื่องราวให้ดูกันครับ

ผมกำลังสนใจแท่นขัดกระดาษทรายสายพาน  เครื่อง big wood ของพี่เอ็มเป็นไงบ้างครับ ดีไม่ดีอย่างไร ราคา ความคุ้มค่า? 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-31 05:39:00


ความคิดเห็นที่ 668 (2985459)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 คุณ monalisa

      ยินดีครับติดตามต่อๆไปนะครับ


คุณอดิศร

       เรื่องกระบอกไซโคลนนั้น ผมสั่งตัว clone หรือตัวเทียบเท่าของ Oneida Dust Deputy เข้ามาจากจีน เพื่อทดลองดู ไม่ใช่ตัว Oneida แท้ เพราะของแท้สั่งจาก woodcraft.com ได้ในราคารวมค่าขนส่งและภาษีแล้วประมาณ 3K ซึ่งแพงเกินไป เพราะกระบอกไซโคลนไม่ได้มีอะไรที่สลับซับซ้อน สามารถทำเองได้

       ผมสั่งเข้ามาพร้อมสินค้าอื่นๆ ได้ราคามาประมาณ 1000 บาท  แต่ต้องสั่งทีละ 50 ตัวขึ้นไป ผมว่าโรงงานพลาสติคบ้านเราก็ทำได้นะไม่ได้ซับซ้อนอะไร หากมีจำนวนที่ต้องการเพียงพอนะครับ


คุณยุ่น

      ผมก็ไปตามดูกระทู้ของคุณยุ่นบ่อยๆ เผื่อจะได้ไอเดียดีๆ เทคนิคเจ๋งๆมาใช้บ้าง ฐานเครื่องดูดฝุ่นที่ผมทำก็ก็อปเขามา แล้วดัดแปลงนิดหน่อยเท่านั้น ส่วนเรื่องเครื่องขัดกระดาษทรายตั้งโต๊ะของ BIGWOOD นั้นผมซื้อมา 4,000 ปลายๆ (ขอโทษที่จำราคาผิด บอกไปว่าหย่อน 4,000 หน่อยๆ) คุณภาพก็แบบของราคาถูกจากจีนละครับ ความเรียบร้อยหายาก พอใช้งานได้เมื่อเทียบกับราคา

      - ตัวเครื่องเป็นเหล็กหล่อดิบๆ ไม่มีเก็บงานอะไร พ่นสีทับเลย 

      - ตัว Miter Gauge กับแท่นรองขัดกระดาษทรายกลม ก๊องแก๊งไปหน่อยใช้ประโยชน์ไม่ค่อยได้ และไม่ขนานกับหน้ากระดาษทรายกลม

      - กระดาษทรายสายพานขนาด 4"x 36" หาได้ง่ายมีขายทั่วไปเลือกใช้ตามถนัด

      - แท่นขัดสายพานสามารถจับตั้งได้ ทำให้ใช้ได้หลายรูปแบบ

      - กระดาษทรายกลมเป็นแบบหลังกาว ขนาด 6" หาซื้อยากและแพง !!!  (คงเพราะคนใช้น้อย ที่มีขายเยอะๆจะเป็นหลังสักหลาด และหลังกาวแบบมีรู แต่ตัดเองและติดด้วยกาวสเปรย์ 3M เบอร์ 77 ทดแทนได้ .... update 1/12/2556 ตอนนี้มีขายแล้วราคา@25 บาท)

         ใช้ทดแทนการจับรถถังตะแคง หรือหงายท้องได้ครับ แต่อย่าหวังคุณภาพจากมันมากเกินไปนะครับ และก็มีอีกหลายยี่ห้อแต่น่าจะผลิตมาจากโรงงานเดียวกันเพราะเหมือนกันยังกะฝาแฝดเลย เช่น Warrior, MKT เป็นต้น ส่วนราคาก็พอๆกันครับ แต่ผมเอา Bigwood เพราะได้ราคามาดีสุด ซื้อมาแล้วคงต้องปรับแต่งก่อนใช้งานทุกเครื่องนะครับ เพราะน่าจะไม่ได้มี QC อะไรมาจากโรงงานแน่ๆเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-31 10:08:47


ความคิดเห็นที่ 669 (2985472)
avatar
Bigmaster

ขอบพระคุณพี่ๆทั้งหลายที่ค่อยให้ความรู้ มาโดยตลอดครับ ขอบพระคุณมากๆครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Bigmaster ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-31 13:30:15


ความคิดเห็นที่ 670 (2985517)
avatar
อดิศร

ทำใช้แล้วครับเอาแบบที่พี่ M เคยทิ้งไว้ให้ Download fแล้วใช้กับเครื่องดูดฝุ๋นแต่ตอนนี้เครื่องดูดฝุ่นของผมกลับบ้านเก่าไปแล้วครับจะซิ้อเครื่องดูดฝุ่นใหม่ราคาพอกับพัดลมดูดอากาศที่มีขายในเวปเลยว่าจะเอามาใส่แทนไม่รู้ว่าจะดีหรือเปล่า

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศร วันที่ตอบ 2013-10-31 21:01:00


ความคิดเห็นที่ 671 (2985534)
avatar
yun lefty

 ขอบคุณครับ พี่เอ็ม 


ผู้แสดงความคิดเห็น yun lefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-01 06:40:39


ความคิดเห็นที่ 672 (2986504)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ยินดีครับคุณยุ่น

       เล่าเรื่องยามว่างเล็กน้อย เมื่อวานได้มีโอกาสแวะไปที่บางโพเพื่อตามหา กาวยาง DUNLOP ชนิดพ่น (กระป๋องสีฟ้า) อีกครั้ง และก็สามารถซื้อได้จากร้านสุพรรณฮาร์ดแวร์ หลังจากที่ไปดูที่ไทยพิตติ้งโฮมแล้วไม่มีสินค้า ได้แบบพ่นมาพร้อมกับทินเนอร์ เบอร์ T559 ที่ใช้สำหรับผสมกาวยางของ Dunlopโดยเฉพาะ (ที่หามานานแล้ว เพราะผมเห็นเขาเขียนไว้ที่ข้างกระป๋องแดงให้ใช้ทินเนอร์อันนี้น่ะครับ) ในราคากาวยางพ่นบี๊บ @450 บ และทินนเนอร์ @250 บาท

      เตรียมไว้สำหรับติดแผ่นลามิเนตพื้นตู้น่ะครับ แต่ก็ยังไม่ได้ลองใช้ แค่ถ่ายรูปมาให้ดูกันก่อน แถมด้วยกาวยางแบบกระป๋องสเปรย์ 3M เบอร์ 20 ที่ซื้อมาก่อนหน้านี้แล้ว

       ช่วงนี้ผมยังไม่ได้ทำงานตู้ต่อเนื่องจากต้องตัดไม้หลายแผ่น และไม้ที่จะใช้มันทับกันอยู่ ยกออกมาไม่ได้ ต้องขอเคลียร์พื้นที่เพื่อขยับขยายก่อน และเป็นช่วงที่ผมติดงานอยู่พอดี เลยเอาเวลาที่พอมีเป็นช่วงๆไปทำ Router Lift และ ตู้ใต้โต๊ะเร้าเตอร์ KREG ที่ผมสั่งมาและประกอบเสร็จไปก่อนหน้านี้แล้วครับ

      ตัว Router Lift นี้ผมสามารถเอาเข้ามาประกอบในบ้านยามว่างจากงานได้ครับ และตอนนี้ก็ประกอบเสร็จไปแล้ว และก็ติดตั้งเข้ากับโต๊ะเร้าเตอร์ไปเรียบร้อยแล้วด้วย เหลือแค่ว่าจะทำตู้ด้านใต้เพิ่มเข้าไปเพื่อเก็บอุปกรณ์ที่ต้องใช้กับโต๊ะเร้าเตอร์ รวมถึงทำกล่องใต้เร้าเตอร์เพื่อต่อท่อเข้ากับเครื่องเก็บฝุ่นพร้อมกับท่อดูดฝุ่นที่รั้วด้วยเลยพร้อมๆกัน

       Router Lift ที่ผมใช้เป็นของ Router Raizer ที่สั่งเข้ามา โดยใช้ร่วมกับเร้าเตอร์ของ HITACHI รุ่น M12V2 ที่ซื้อในประเทศทิ้งไวัสักปีหนึ่งแล้ว หลังจากที่ได้ศึกษาข้อดีข้อเสีย และความที่จะเข้าคู่กันได้มานานแล้ว แต่ก็เพิ่งจะได้มีโอกาสนำมาประกอบเพื่อใช้งานตอนนี้นี่เอง เอาไว้ว่างๆจะมาเล่าให้ฟังนะครับ รวมถึงเรื่องประหลาดใจที่พบเจอสำหรับเจ้าเร้าเตอร์ Hitachi M12V2 ด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-12 12:21:15


ความคิดเห็นที่ 673 (2986948)
avatar
อดิศร

 ใช้ได้ผลยังไงบ้างครับเจ้า Dunlop กระป่องฟ้าผมสนใจอยู่เหมือนกันครับว่าแต่ถ้าใช้แล้วเวลาล้างกาพ่นสีนี้มันจะล้างยังไงครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศร วันที่ตอบ 2013-11-18 21:56:00


ความคิดเห็นที่ 674 (2986981)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

คุณอดิศร

        ผมยังไม่ได้ลองเลยครับ ติดงานอยู่เลยยังไม่ได้เข้าช็อป กะว่าจะลองกลิ้งด้วยลูกกลิ้งดู เพราะเห็นกาวยาง (Contact Cement) ในต่างประเทศเขาใช้ลูกกลิ้งๆเอาน่ะครับ คิดว่าสูตรแบบพ่นของ Dunlop น่าจะคล้ายกัน ถ้ามันใช้พ่นได้ก็น่าที่จะใช้ลูกกลิ้งได้เหมือนกัน ส่วนการล้างผมว่าก็คงใช้ทินเนอร์ทั่วไป หรือไม่ก็ใช้ของดันลอปเองก็น่าจะได้ 

        หรือคุณอดิศร จะทดลองดูเป็นแนวหน้าแทนผมก่อน ก็ได้นะครับ เพราะกว่าผมจะได้ลองก็คงอีก 2-3 สัปดาห์หน้าโน่นเลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-19 10:26:05


ความคิดเห็นที่ 675 (2987082)
avatar
อดิศร

 ผมยังหาซื้อไม่ได้เลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศร วันที่ตอบ 2013-11-19 21:52:11


ความคิดเห็นที่ 676 (2987797)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 5:

EPISODE 8: โต๊ะเร้าเตอร์ (Router Table)

        1. กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานเนื่องจากติดงานประจำที่จะต้องส่งเขาเลยต้องใช้เวลาไปทำซะเกือบ 3 สัปดาห์ กลับมาครั้งนี้มาด้วยเรื่องของโต๊ะเร้าเตอร์ครับ จึงทำให้ตู้ตั้งพื้นที่ยังไม่ได้ทำพื้นโต๊ะด้านบนกับหน้าบานลิ้นชักก็ยังทำไม่เสร็จเสียที ก็อย่างที่บอกละครับแต่ละชิ้นก็คาราคาซังไม่เสร็จซะที แต่ดั้นแอบมาทำโต๊ะเร้าเตอร์ก่อนอีกแล้ว

         พอทำเครื่องดูดฝุ่นไซโคลนขนาดเล็กเสร็จ ก็ให้คิดต่อว่าผมน่าจะทำโต๊ะเร้าเตอร์ที่ประกอบเสร็จไว้นานแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ทำตู้และท่อดูดฝุ่นใต้โต๊ะเร้าเตอร์เลย ทำให้ต้องแอบมาทำให้มันเสร็จๆไปก่อน และอีกปัญหาหนึ่งก็คือไม้อัดไม้ส่วนที่จะทำหน้าบานของตู้ตั้งพื้น ก็โดนกองไม้ทับอยู่ยังเอาออกมาไม่ได้ เพราะมีสินค้าของ ผบ. ที่สั่งมาขายอีกล็อตมาลงไว้เต็มโรงรถ จนไม่มีที่จะตัดไม้แผ่นใหญ่ๆได้เลย ทำให้ผมต้องตัดสินใจมาทำโต๊ะเร้าเตอร์ให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนก็แล้วกันครับ

         ย้อนกลับไปในความเห็นที่ 550 ที่เดิมผมมีโครงการที่จะทำโต๊ะเร้าเตอร์ที่มีตัวปรับขึ้นลงของเร้าเตอร์ (Router Lift) ด้วย ครั้งแรกได้หาแบบไว้เป็นโต๊ะเร้าเตอร์ที่ออกแบบโดย Norm Abram แห่ง The New Yankee Workshop ที่ผมมีแบบการสร้างที่ละเอียดมากอยู่ในมือแล้วและก็เป็นแบบที่ชอบด้วย จึงคิดว่าจะทำตามแบบนั้นเลย แต่แล้วผมก็เกิดมาเปลี่ยนใจ เมื่อเห็นโต๊ะเร้าเตอร์และราคาของ KREG ที่ทำโปรโมชั่นอยู่ และผมก็สามารถนำเข้ามาได้ในราคาที่รวมค่าขนส่งและภาษีแล้วน่าสนใจมาก คิดดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการสร้างช็อปในฝันของผมแล้วก็ยังจะได้โต๊ะเร้าเตอร์ที่มีคุณภาพอีกด้วย จึงทำให้ผมตัดสินใจที่จะนำเข้ามาเลย

        โต๊ะเร้าเตอร์ที่ผมพูดถึงที่จะประกอบขึ้นมา รวมถึงการทำลิ้นชักตู้ใต้โต๊ะเพิ่มเติมเพื่อเอาไว้เก็บอุปกรณ์ประกอบ (Accessories) ในการใช้งานกับโต๊ะเร้าเตอร์ รวมถึงเอาไว้เก็บดอกเร้าเตอร์ที่ใช้บ่อยๆด้วยไปในตัว เป็นโต๊ะเร้าเตอร์ของ KREG ที่มีชื่อว่า Precision Router Table System รุ่น PRS1040

        ติดตามกันไปเรื่อยๆแล้วกัน ผมจะทยอยเอามาลงให้อ่านกันนะครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-30 06:35:14


ความคิดเห็นที่ 677 (2987839)
avatar
ป้อม

 เข้ามาดูอีกรอบ แต่เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว ก็ จำไม่ได้ครับ  สรุป ตามดูผลงานกันต่ไปครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ป้อม (sirirat1220-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-11-30 11:51:05


ความคิดเห็นที่ 678 (2987868)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       2. ตัวยกเร้าเตอร์ขึ้นลง หรือ Router Lift นั้นผมใช้ตัว Router Raizer รุ่น RZ100 ของบริษัท Router Technologies โดยติดตั้งร่วมกับเร้าเตอร์ขนาด 3-1/4 แรงม้าของ HITACHI รุ่น M12V2 ที่ซื้อมาไว้ก่อนหน้านี้ประมาณปีเศษๆ หลังจากที่ได้ศึกษามาพอสมควรว่าเป็นเร้าเตอร์รุ่นที่ติดตั้ง Router Lift ได้โดยไม่ต้องเจาะหรือดัดแปลงตัวเร้าเตอร์เลย แล้วก็ยังเป็นเร้าเตอร์ยี่ห้อและรุ่นที่มีขายในประเทศไทยด้วย ที่ผมสั่งซื้อมานานแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ติดตั้งใช้งานเสียที เพราะก็มัวแต่รอที่จะสร้างโต๊ะเร้าเตอร์อยู่นั่นเอง

        ปัญหาของตัวยกเร้าเตอร์ขึ้นลง ที่พบมากที่สุดคือไม่สามารถหาเร้าเตอร์รุ่นที่มีขายในประเทศไทยใส่ได้เนื่องจากตัวยกเร้าเตอร์ที่มีขายในอเมริกาจะออกแบบมาให้ใช้กับเร้าเตอร์ของ Porter-Cable หรือ Dewalt ชนิด Fixed base เป็นหลัก มีบ้างสำหรับ Bosch กับ Makita บางรุ่น ดังนั้นหากจะสั่งเข้ามาใช้จะต้องสั่งตัวเร้าเตอร์เข้ามาด้วยซึ่งจะยุ่งยากเนื่องจากจะใช้กับระบบไฟฟ้า 110v ก็มีเหมือนกันที่ผลิตในอังกฤษของ UJK Technology (Axminster) ที่สามารถใส่ได้แต่ค่าส่งก็ค่อนข้างแพง เนื่องจากเป็นอลูมิเนียมที่ขับเคลื่อนการขึ้นลงด้วยโซ่ซึ่งค่อนข้างหนัก ผมเลยตัดสินใจเลือก Router Raizer แทน

        โต๊ะเร้าเตอร์กับตัวยกเร้าเตอร์ขึ้นลง (Router Lift) นั้นผมประกอบและติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่กำลังทำตู้ใต้โต๊ะอยู่และก็ใกล้จะเสร็จแล้วครับ เหลืออีกนิดหน่อย และเพื่อที่จะให้สมกับเป็น KREG จริงๆผมเลยตั้งใจว่าจะประกอบตู้ด้วยการใช้จิ๊กเจาะเอียง (Pocket-hole Jig) ของ KREG แต่เพียงอย่างเดียว และก็จะไม่ใช้การต่อชนไม้ด้วยวิธีอื่นเลยรวมถึงก็จะไม่ใช้แม้กระทั่งกาวนะครับ ทำให้เป็นแบบ Knock down สามารถถอดประกอบเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง ตัวจิ๊กเจาะเอียงของ KREG นี้ผมเคยใช้ครั้งแรกก็เมื่อตอนปีน้ำท่วมใหญ่ กทม.และผมใช้ทำฐานของตู้เก็บของในโรงรถที่ทำให้ผมสามารทำงานได้เร็วมาก

        การสร้างช็อปงานไม้ในฝันของผมที่กำหนดไว้ว่าจะพยายามทำให้เสร็จภายในปีนี้สงสัยจะไม่เสร็จเสียแล้วละครับ เพราะเหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียว ประเมินงานแล้วน่าจะเสร็จไปแค่ 35-40% เท่านั้นเอง ดังนั้นผมก็เลยจะไม่กำหนดแล้วละครับว่าจะเสร็จเมื่อใด แต่ประเมินจากอัตราความเร็วในการทำงานของผมขนาดนี้ สงสัยต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 3-4 เดือนแน่ๆเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-01 05:23:37


ความคิดเห็นที่ 679 (2988668)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

        3. หลังจากที่ผมสั่งโต๊ะเร้าเตอร์ KREG ไปสินค้าถูกส่งมาเป็นกล่องๆ รวมเป็น 4 กล่องคือ กล่องขาและโครงโต๊ะ พื้นโต๊ะ รั้ว และกล่องอุปกรณ์(Accessories) ซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องออกแรงกันเพิ่มขึ้นหน่อยคือ ปรากฏว่าของมาส่งถึงผมโดย FedEx แค่ 3 กล่อง ได้แก่ กล่องขาและโครงโต๊ะ กล่องพื้นโต๊ะ และกล่องรั้ว ส่วนกล่องอุปกรณ์ประกอบหายไป
         กว่าจะตามหาได้ว่ามันหายไปไหนก็ใช้เวลาไปประมาณ 1 สัปดาห์เนื่องจาก Tracking # ที่มีไม่สามารถ อ้างอิงกับ Tracking# ของ FedEx ได้จนในที่สุดพบว่า ถูกศุลกากรส่งลงคลังไว้เพื่อตรวจสอบว่าเป็นสินค้าอะไร ราคาเท่าไร กว่าจะเคลียร์กันได้ก็ใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์ ศุลกากรคิดภาษีไปอีก 3,900บาท (ซึ่งผมเองคิดว่าตีราคาเกินความเป็นจริงเพราะมูลค่าสินค้าจริงๆที่ติดอยู่แค่ 4,000 บาท แต่ผมก็ไม่ได้โต้แย้งเพราะให้ไปเก็บกับ Shipper ตามข้อตกลงที่ผมสั่งซื้อ) แต่ก็ได้ประสบการณ์ว่าอย่าสั่งของให้ส่งทาง FedEx เพราะท่านจะโดนตีราคาค่าภาษีสูงมากเกินจริง ผมลองถามเด็กส่งของดูเขาพูดเล่นๆว่าสงสัยเจ้าหน้าที่จะไม่ค่อยชอบ FedEx จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบแต่เอามาเล่าเพื่อเป็นความรู้ หากเป็นสินค้าเล็กๆที่ขนาดและน้ำหนักไม่มาก ให้ส่งมาทาง USPS (ไปรษณีย์) ดีที่สุด ค่าส่งก็ถูกกว่า และโอกาสที่จะต้องเสียภาษีน้อยมาก หากต้องเสียก็ตีราคาสมเหตุสมผลไม่เว่อร์เหมือนส่งมาทาง FedEx (แต่สินค้าชุดนี้มีขนาดและน้ำหนักที่ส่งทาง USPS ไม่ได้)
         นอกเรื่องไปซะเยอะกลับมาเข้าเรื่อง โดยเริ่มจากการประกอบขาโต๊ะซึ่งเป็นเหล็กปั้มขึ้นรูปตัว C ที่หนามากและพ่นเคลือบด้วยสีฟ้าที่เป็นสีประจำของ KREG เขา การประกอบก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เนื่องจากเขาเจาะรูต่างๆมาให้เสร็จตามตำแหน่งพร้อม แค่ใสสกรูและนัทเข้าไปยึดกันให้แน่นและจับฉากให้มันตรงเท่านั้น ก็ได้ออกมาเป็นโครงขาโต๊ะพร้อมขาตั้งที่สามารถปรับความสูงได้

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 06:06:03


ความคิดเห็นที่ 680 (2988670)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

        4.  หลังจากที่ประกอบโครงโต๊ะเสร็จแล้วก็เป็นขั้นตอนการประกอบพื้นโต๊ะที่ทำด้วยแผ่น MDFปิดทับด้วยแผ่นลามิเนท โดยทางโรงงานเจาะช่องสำหรับติดตั้ง Insert Plate มาให้เรียบร้อยแล้ว การเจาะช่องและสกรูต่างๆที่พื้นโต๊ะทางโรงงานน่าจะเจาะมาด้วยเครื่อง CNC เพราะดูแล้วเรียบเนียนและแม่นมากไม่มีที่ติเลย โดยผมจับนอนหงายขึ้นที่พื้น แล้วทำการประกอบเหล็กเพิ่มความแข็งแรงบริเวณที่เป็นช่องสำหรับติดตั้ง Router Insert Plate โดยยึดเข้ากับแผ่นพื้นโต๊ะด้านล่างด้วยสกรูตามรูที่เขาเจาะมาให้เรียบร้อยทั้งที่เหล็กกเพิ่มความแข็งแรง และพื้นโต๊ะ

         เหล็กเพิ่มความแข็งแรงดังกล่าวมีไว้ก็เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างพื้นโต๊ะ บริเวณที่เจาะรูไว้สำหรับใส่แผ่น Router Insert Plate เพื่อไม่ให้มันแอ่นเมื่อใช้งานไปนานๆ อันเนื่องมาจากน้ำหนักของเร้าเตอร์ สกรูที่ใช้ยึดก็เป็นสกรูที่ต้องใช้หัวไขควงแบบรูสี่เหลี่ยม ที่ในชุดก็ให้มาทั้งสกรูพิเศษของ KREG และหัวไขควงชนิดเดียวกันกับที่ใช้กับจิ๊กเจาะเอียง (Pocket-hole Jig)

        ติดเหล็กเพิ่มความแข็งแรงสร็จก็มาติดตั้งตัวรองแผ่น Router Insert Plate ที่สามารถปรับได้ที่เรียกว่า Precision Router Table Insert Plate Levelers ที่มุมทั้ง 4 มุมด้านใต้โต๊ะของช่องที่เจาะไว้ การติดตั้งก็ไม่ยุ่งยากอะไรเพราโรงงานเจาะรูนำที่แผ่นพื้นโต๊ะมาให้ตามตำแหน่งเรียบร้อย ที่ ตัว Precision Router Table Insert Plate Levelers มีสกรูตัวหนอน 2 ตัวไว้สำหรับปรับความสูงของแผ่น Insert Plate ให้ได้ระดับเดียวกันกับผิวพื้นโต๊ะด้านบน

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 06:32:02


ความคิดเห็นที่ 681 (2988673)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

         5.  รูปร่างหน้าตาตัวปรับพื้นของ Insert plate (Levelers) ที่ติดดั้งที่พื้นโต๊ะสำหรับเอาไว้ติดตั้งแผ่น Insert Plate และรูปร่างหน้าตาของแผ่นพื้นโต๊ะที่ติดตั้ง  KREG MultiTrack (ที่รวม T-Track กับ Miter Track ไว้ด้วยกัน) มาเรียบร้อยแล้ว

          ส่วนพื้นโต๊ะก็ทำด้วยแผ่น MDF ที่ปิดผิวด้วยแผ่นลามิเนตชนิดพิเศษที่มีปุ่มเล็กๆที่ผิวของแผ่นลามิเนตตลอดทั้งแผ่น (Micro Dot skin Laminate) เพื่อให้พื้นผิวลื่นเป็นพิเศษ ส่วนร่องสำหรับติดตั้งรั้วก็เจาะมาให้เรียบร้อยแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 07:12:52


ความคิดเห็นที่ 682 (2988683)
avatar
วิชัย

 ถามพี่ M หน่อย

น้อง Harvey นี่ใช่รุ่น HW110LG-50E มั้ยครับ

พอดีสนใจ  mail ไปถามราคา ได้ราคา CIF to BKP ที่ 1200 us dallar

อยากรู้ว่า พี่ M ติดต่อกัน MR Ben หรือเปล่า  ยังไม่กล้าสั่งกลัวถูกหลอก

ขอบคุณครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วิชัย วันที่ตอบ 2013-12-12 09:45:15


ความคิดเห็นที่ 683 (2988691)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณวิชัย

       รุ่นเดียวกันครับ (xxxLG เป็นเพลา 5/8 นิ้ว ส่วน xxxLGE จะเป็นเพลา 30 มม). เคยติดต่อโรงงานเพื่อขอราคาเป็น FOB เหมือนกันในราคาขั้นต่ำที่ 10 เครื่อง แต่ผมให้บริษัทท้องถิ่นที่ผมทำธุรกิจอื่นอยู่ด้วยกัน เป็นผู้จัดซื้อและดูแลให้ ทั้งนี้ก็เพื่อความแน่ใจว่าจ่ายเงินแล้วจะได้สินค้า และตรงตามที่สั่งด้วย ซึ่งรวมไปถึง การให้ไปตรวจสอบสินค้าที่โรงงาน และการ packaging เพิ่มเติมด้วยลังไม้ให้ด้วย (ทั้งๆที่ผมทำถึงขนาดนี้แล้ว ยังพบว่าโรงงานจะส่งมาผิดรุ่นเลย ต้องให้รื้อลังกันและเปลี่ยนเพลากันใหม่ รวมถึงสินค้าที่ส่งมาก็มีโอกาสที่จะเสียหายระหว่างขนส่งมาก เพราะลังไม้ยังแตกเลย)

       ดังนั้นหากจะสั่งเข้ามาเอง ผมแนะนำว่าต้องระมัดระวังเรื่องการจ่ายเงิน และเลือกเรือให้ดี เพราะเรือส่วนใหญ่จะขนย้ายสินค้าโดยไม่ค่อยมีความระมัดระวังโดยเฉพาะที่ต้องไปร่วมตู้สินค้ากับคนอื่น สินค้าที่มีน้ำหนักมากๆก็จะมีโอกาสที่จะเสียหายได้มากขึ้นเช่นกัน ถึงขนาดได้เป็นเศษเหล็กแทนเลยก็มี (อันนี้ไม่ได้ล้อเล่นนะครับ) การเคลมสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก เป็นงานที่ค่อนข้างยุ่งยาก และไม่คุ้มกับค่าขนส่ง ค่าโกดัง รวมถึงพิธีการทางศุลกากรที่ต้องส่งกลับและนำเข้าใหม่

       สิ่งที่ต้องไม่ลืมอีกเรื่องได้แก่การทำเอกสารเพื่อขอยกเว้นภาษี หากทำเป็นจะช่วยให้ประหยัดเงินค่าภาษีนำเข้าได้มาก หาไม่แล้วจะโดนภาษีแบบเต็มๆ เลย นอกจากนี้ศุลกากรบ้านเรา จะไม่ค่อยเชื่อราคาใน Invoice และจะประเมิณราคาเองสูงๆไว้ก่อน หากเราไม่รับการประเมิน ก็อาจทำให้ต้องเสียค่าโกดัง และค่าเคลียร์ของเพิ่มขึ้น หากไม่เคยนำสินค้าขนาดใหญ่ หรือสินค้าอุตสาหกรรม เข้ามาทางเรือเองไม่แนะนำนะครับ เพราะจะโดนค่าใช้จ่ายอานเลยละครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 10:41:41


ความคิดเห็นที่ 684 (2988696)
avatar
วิชัย

 ขอบคุณพี่ M มากครับ

ตอบรวดเร็วชัดเจน  ไม่เคยไว้ใจคนขายของจีนเลย

ผมคงรอไว้ ในงาน Thailand Industry ต้นปีหน้าดีกว่า เผื่อจะมีขาย

รอดูงานของพี่ M อยู่นะ รักงานไม้ก็เพราะอ่านกระทู้พี่ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วิชัย วันที่ตอบ 2013-12-12 11:35:33


ความคิดเห็นที่ 685 (2988704)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณวิชัย

      ยินดีครับ จริงๆแล้วโต๊ะเลื่อยตัวนี้ยังไม่เห็นมีใครสั่งเข้ามาขายเป็นเรื่องเป็นราวนะครับ หรือแม้กระทั่งยี่ห้ออื่นที่ใกล้เคียง ผมเคยไปดูมาทุกงานแล้วที่ไบเทค ก็ยังไม่เคยเห็นนะครับ ทั้งที่รุ่นนี้เป็นโต๊ะเลื่อยที่คุณภาพดีพอสมควร (เพราะผลิตให้หลายๆยี่ห้อในอเมริกา) และมีทั้งเพลา 5/8 นิ้ว และ 30 มม. เห็นมีอยู่เจ้าหนึ่งเป็นแค่นายหน้าสั่งสินค้าและก็ขายเสียแพงเว่อร์ (105,000 บาท)

      หากมีจำนวนผู้สนใจเยอะๆ ผมพอช่วยเป็นธุระสั่งเข้ามาให้ได้ ซึ่งจะได้ราคาที่ดีพอสมควร เพราะเขาก็เคยถามผมว่าไม่สั่งมาขายหรือเขาจะให้ราคาที่ดีเลยแต่ต้องสั่งทีละ 10 เครื่อง ติดก็แต่ว่าผมไม่ได้มีอาชีพด้านนี้ซะหน่อยเลยไม่ได้สนใจ (นอกจากหากมีผู้สนใจเยอะๆ รวมกันได่หลายๆเครื่องผมพอช่วยสั่งให้ได้)

      รักงานไม้แล้วขั้นต่อไปก็จะโดนผี (นาง)งานไม้เข้าสิง เหมือนผมแน่ๆครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 13:35:36


ความคิดเห็นที่ 686 (2988706)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      6.   ติดคานใต้โต๊ะและ ตัว Levelers แล้วก็จับโครงโต๊ะยึดตืดเข้ากับพื้นโต๊ะจากด้านใต้โต๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 13:53:27


ความคิดเห็นที่ 687 (2988707)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

        7.  ยึดโครงโต๊ะเข้ากับพื้นโต๊ะเรียบร้อยก็พลิกพื้นโต๊ะขึ้นมาเพื่อติดตั้งส่วนอื่นๆต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 13:57:32


ความคิดเห็นที่ 688 (2988721)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

        8.  ติดรางที่ทำด้วยอลูมิเนียมสำหรับติดตั้งรั้วเร้าเตอร์เข้ากับพื้นโต๊ะ เช่นเดียวกันครับ โรงงานได้เจาะรูนำ (Pilot Hole) ตามตำแหน่งที่โต๊ะไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ก็คงเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะขนานกับรั้วจริงๆ          

       ติดรางเสร็จก็นำคันโยกล๊อครั้ว ที่มีลักษณะของรั้วเป็นแบบ T-style fence ติดตั้งบนรางอีกที ที่เห็นเป็นก้านล๊อคสีฟ้าๆในรูปด้านล่างขวามือนั่นแหละครับ ส่วนราง MultiTrack ที่เห็นบนโต๊ะนั้นทาง KREG ทำร่องและติดตั้งรางมาให้จากโรงงานเรียบร้อยแล้วโดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีก ส่วน Insert Plate นั้นก็แค่เอามาลองวางดูเพื่อทดลองปรับสกรู Levelers ดูก่อนยังไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นครับ เนื่องจากต้องรอเอาไปเจาะรูเพื่อติดตั้งเร้าเตอร์ กับตัวยกเร้าเตอร์ (Router Lift) ก่อนนะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 14:22:18


ความคิดเห็นที่ 689 (2988758)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      9.  หลังจากติดตั้งรางและคันโยกล็อครั้วเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนประกอบตัวรั้วของโต๊ะเร้าเตอร์ที่เป็นอลูมิเนียมท่อนเดียว และเจาะรูต่างๆมาให้เรียบร้อย เนื่องจาก concept ของ KREG ต้องการให้รั้วนั้นขนานกับร่อง T-slot และ Miter Slot ตลอดเวลาทั้งในส่วนของรั้วขาป้อนเข้า (In-feed) และ ฝั่งขาออก (out-feed)

        ข้อดีข้อหนึ่งของรั้วแบบนี้คือมันจะขนานไปกับชิ้นงานที่ผ่านดอกกัด และราง Miter ตลอดเวลา ทำให้ไม่ต้องปรับรั้วบ่อยๆ และยังสามารทำให้รั้วแบบนี้เปลี่ยนสภาพให้ทำงานเป็น เครื่องไสชิดได้โดยง่ายซึ่งทาง KREG ก็ให้อุปกรณ์ที่สามารถจะทำให้รั้วด้าน Out-feed สามารถที่จะ Offset กับด้าน Infeed ได้เป็น 2 ระดับคือ 1/32 นิ้ว และ 1/16 นิ้ว

        ผมทำการประกอบอุปกรณ์ของรั้วเข้าด้วยกันเช่นแผ่นรั้วด้านหน้าทั้ง 2 ข้างที่ทำด้วยแผ่น MDF ปิดทับผิวด้วยเมลามีน ตัวปิดหัว-ท้ายของรั้ว และฮู๊ดสำหรับต่อกับเครื่องดูดฝุ่นเป็นต้น การประกอบก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพราะทำตามคู่มือที่เขาให้มา โดยใช้อุปกรณ์ต่างๆที่เขาให้มาในกล่องทั้งหมด   

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 21:33:19


ความคิดเห็นที่ 690 (2988760)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       10. เมื่อประกอบตัวรั้วเสร็จ ก็เป็นขั้นตอนการประกอบตัวรั้วเข้ากับราง และตัวล็อครั้ว หลังจากที่ติดตั้งรั้วเสร็จแล้ว ผมก็ทำการปรับความขนานของรั้วให้ ขนานกับ Miter slot ทั้งด้านหัวและท้ายของรั้วคร่าวๆก่อน ด้วยฉากเป็น

       การปรับละเอียดด้วย Digital Gauge นั้น ผมรอเอาไว้ปรับเมื่อติดตั้งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ก่อนที่จะใช้งานจริงอีกที

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 21:49:06


ความคิดเห็นที่ 691 (2988763)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      11.  ติดตั้งตัวป้องกันดอกเร้าเตอร์ (Safeguard) เข้ากับราง T-Track ด้านหน้าของรั้วเสร็จแล้ว ผมก็ไปถ่ายรูปด้านหลังของรั้วให้ดูด้วย จะเห็นหัวต่อสำหรับท่ออ่อนขนาด 2-1/2 นิ้ว ที่อยู่ด้านหลังของรั้ว

       การเจาะช่องที่รั้วนั้นเขาจะเจาะให้เยื้องๆหน่อย ไม่ได้เจาะตรงกลางบริเวณหัวของดอกเร้าเตอร์ตรงๆ จะเยื้องหนีศูนย์กลางไปประมาณ 2 นิ้วซึ่งที่นี่แหละจะเป็นที่จะต่อไปยังเครื่องดูดหรือเก็บฝุ่นต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 22:12:16


ความคิดเห็นที่ 692 (2988765)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     12.  หลังจากติด Safeguard เสร็จเรียบร้อย ก็ทำการเปลี่ยนขาตั้งโต๊ะจากขาที่หมุนปรับขึ้นลงได้ให้เป็นลูกล้อแป้นเป็นที่สามารถล็อกได้ทั้ง 4 ล้อแบบ PU ขนาด 3 นิ้ว จากนั้นจึงจะทำการติดตั้งสวิทช์เปิด-ปิดของโต๊ะเร้าเตอร์ที่สามารถเปิดเครื่องดูดฝุ่นไปพร้อมๆกับที่เราเปิดเครื่องเร้าเตอร์ที่โต๊ะเร้าเตอร์เลย

       แต่เนื่องจากผมไม่แน่ใจว่าภายในสวิทช์ดังกล่าวจะมี Relay หรือวงจรไฟฟ้าอะไรหรือไม่ เนื่องจากเขียนไว้ว่าใช้กับไฟฟ้า 110v เพื่อให้แน่ใจก่อนที่จะเสียบเข้ากับระบบไฟฟ้า 220v ทำให้ผมจำเป็นต้องแกะออกมาตรวจสอบดูก่อน แต่หลังจากเปืดดูแล้วก็สบายใจไม่มีวงจร พวก Relay หรือวงจรอิเล็คทรอนิคส์อะไรภายใน เป็นเพียงแค่สวิทช์ที่ควบคุมกระแสไฟฟ้าของปลั๊กทั้ง 2 ตัวให้ทำงานไปพร้อมๆกันเท่าน้นเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 23:04:08


ความคิดเห็นที่ 693 (2988766)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       13.  เมื่อไม่มีวงจรอะไรในสวิทช์ไฟฟ้า ผมก็ทำการติดตั้งสวิทช์ควบคุมไฟฟ้าเข้ากับขาโต๊ะเร้าเตอร์ตามตำแหน่งที่โรงงานเขาแนะนำ เมื่อติดตั้งสวิทช์คงบคุมไฟฟ้าเสร็จ ก็ตรวจดูอุปกรณ์ประกอบที่จะต้องติดตั้งเพิ่มเติมก่อนอีก  2 ตัว

         อุปกรณ์ประกอบทั้ง 2 ตัวดังกล่าวได้แก่ ตัวปรับละเอียด (Precision Micro Adjuster) และตัวชนไม้บนรั้ว (Precision Router Table Stop) โดยที่ตัวปรับละเอียดจะทำหน้าที่ปรับความละเอียดของระยะรั้วให้ใกล้ หรือห่างจากรั้วได้ตามต้องการ ที่จะมีความละเอียดระดับ 0.005 นิ้ว ส่วนตัวชนไม้จะตืดตั้งบนรั้วของโต๊ะเร้าเตอร์เพื่อเอาไว้เป็นตัวกำหนดจุดเริ่ม และจุดสิ้นสุดของการเคลื่อนที่ของไม้ผ่านดอกเร้าเตอร์

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 23:15:33


ความคิดเห็นที่ 694 (2988767)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      14. การติดตั้งตัวปรับละเอียดเข้ากับรั้วและราง ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากครับตามรูปเลย เวลาจะปรับก็ยึดเข้ากับรางด้วยการหมุนที่ลูกบิดสีดำๆ แล้วปรับรั้วแข้าออกที่ละนิดได้ด้วยการหมุนที่ปุ่มหมุนทองเหลืองโดยที่เขามีขีดไว้ให้ สามารถปรับได้ละเอียดคือขีดละ .005 นิ้วละครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 23:19:07


ความคิดเห็นที่ 695 (2988768)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     15.  การติดตั้งตัวชนไม้ที่ด้านบนของรางก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ประกอบตามคู่มือที่ให้มา ตัวชนไม้จะมีท้งหมด 2 ชุดเป็นอุปกรณ์ประกอบ(Accessories) ที่แยกขายต่างหาก ที่ผมเห็นว่ามันมีประโยชน์และใช้ง่ายดี

            ส่วนอีกตัวหนึ่งที่ผมซื้อมาเพิ่มคือหวีงานไม้ (Feather board) ที่ผมซื้อมาเพิ่มอีก  2 อันเนื่องจากมันสามารถที่จะติดตั้งได้ทั้งในร่อง T-Track slot หรือ Miter slot ที่อยู่บนพื้นโต๊ะได้ และก็ยังสามารที่จะติดตั้งที่ T-Track บนรั้วก็ได้อีกด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 23:31:41


ความคิดเห็นที่ 696 (2988769)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       16.  มีรูปร่างหน้าตาของตัวชนไม้ (รูปบน) และหวีงานไม้(รูปล่าง) กับวิธีการใช้งานมาให้ดูเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น สำหรับท่านที่สนใจครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 23:37:28


ความคิดเห็นที่ 697 (2988773)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      17.  ติดตั้งหมุดทองเหลืองสำหรับการกัดไม้แบบไม่ใช้รั้ว (Freehand Guide Pin)  เช่นการกัดไม้โค้งเป็นต้น ซึ่งเวลาใช้งานจริงจะต้องนำไปติดตั้งบนแผ่น Insert Plate แต่ตอนนี้เอาเข้าที่เก็บบนรางก่อน

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-12 23:55:59


ความคิดเห็นที่ 698 (2988774)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

18.   รูปร่างโดยรวมหลังจากที่ประกอบโต๊ะเร้าเตอร์เสร็จแล้ว ยกเว้นส่วนของ Insert Plate ที่จะต้องติดตั้งตัวเร้าเตอร์ ของ HITACHI กับตัวยกเร้าเตอร์ (Router Lift) ของ Router Technologies

         ส่วนตู้และระบบดูดฝุ่นด้านล่างตู้ผมได้ทำเพิ่มขึ้นมา เพื่อเอาไว้เก็บอุปกรณ์ที่จะต้องใช้งานกับโต๊ะเร้าเตอร์ รวมถึงระบบดูดฝุ่นใต้โต๊ะที่จะไปร่วมกับระบบดูดฝุ่นด้านบนที่รั้ว ในตอนต่อๆไป 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-13 00:00:48


ความคิดเห็นที่ 699 (2988782)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 19.  รวมภาพในมุมต่างๆของโต๊ะเร้าเตอร์ KREG ติดตามกันต่อไปเรื่อยๆนะครับจะได้ทะยอยเอามาเล่าให้ฟังเพื่อเป็นความรู้เล็กๆน้อยๆ หรือจะเป็นการเพิ่มกิเลศให้มากขึ้นก็ตามแต่นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-13 05:28:21


ความคิดเห็นที่ 700 (2988887)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 5

EPISODE 9: ตัวยกเร้าเตอร์ (Router Lift หรือ Router Elevator)

      1.  สืบเนื่องจากที่ผมมีความตั้งใจที่จะสร้างโต๊ะเร้าเตอร์ที่มีตัวยกเร้าเตอร์ด้วย ขึ้นมาใช้เองเมื่อประมาณ 1-1/2 ปีที่แล้ว ทำให้ผมก็ได้ลงมือศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับตัวยกเร้าเตอร์อย่างจริงจังทั้งในแบบทำเอง และที่เขามีขายในรูปแบบต่างๆมากมาย โดยหาทั้งข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบ แต่ละวิธีการ 

       แต่เนื่องจากตัวยกเร้าเตอร์จะต้องนำมาใช้กับตัวเร้าเตอร์ ทำให้ผมต้องศึกษาตัวเร้าเตอร์ไปด้วยพร้อมๆกัน ซึ่งเดิมผมมี เร้าเตอร์อยู่ 2 ตัวได้แก่ Ryobi R-500N และ Makita RP2301FC ซึ่งเร้าเตอร์ของ Ryobi R-500N ก็มีความเป็นมาเป็นไปและเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมสนใจตัว Router Raizer ขึ้นมาด้วย ติดตามไปเรื่อยๆจะได้ทราบว่าทำไม มีเหตุผลอะไร และเหตุที่ผมไม่เลือกตัวยกเร้าเตอร์แบบอื่นๆเพราะอะไร

       ผมเอารูปส่วนหนึ่งของตัวยกเร้าเตอร์ แบบทำใช้เอง มาให้ดูกันก่อน ซึ่งจริงๆแล้วมีมากมายหลายร้อยรูปแบบ หรือจะเป็นแบบที่คุณ Yunlefty ทำใว้ก็มีครับ ตามลิ้งค์นี้ที่ความเห็น 582 เป็นต้นไปครับ ส่วนผมไม่ได้ทำเองครับเพราะฝีมือยังไม่ถึงนั่นเองครับ

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=1&No=1435543&anspage=6

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-12-14 10:41:05



« 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 »


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.