ReadyPlanet.com


งานไม้... ที่เป็นเรื่องราวมาจากแรงบันดาลใจ +++ ช็อปงานไม้ในฝันของผม เริ่มแล้วที่หน้า 4
avatar
เทอดศักดิ์(M)


user image

Season 1

  Episode I:  กำเนิดงานไม้ (ของผม)

       ย้อนไปประมาณกลางเดือน มีนาคม 2553 เมื่อชีพจรลงเท้า ต้องย้ายที่อยู่ใหม่ มีเงินเก็บเล็กน้อย จึงมีความตั้งใจว่าจะสร้างโรงรถเชื่อมต่อกับบ้าน ที่สามารถเก็บของต่างๆไว้ในโรงรถและมีประตูโรงรถที่สามารถเปิดปิดให้รถเข้าออกได้ทั้งบาน (Garage Door) เมื่อเวลาทำงานในโรงรถจะได้เปิดให้แสงเข้า และลมสามารถผ่านสะดวกเพื่อลดความร้อน เวลาเลิกใช้ก็สามารถจอดรถแล้วปิดโรงรถเพื่อกันขโมยได้ด้วย
        เนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศบ่อยและช่วงที่ไปเยี่ยมลูกสาวที่เรียนอยู่ที่อเมริกาได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากเอากลับมาทำที่บ้านเราบ้าง และ
เป็นแรงบันดาลใจให้มาสนใจงานไม้ จึงได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับ DIY งานไม้  จากที่ได้ลดเวลาการเล่นกอล์ฟให้น้อยลงบ้างเพราะสังขารไม่ค่อยให้เนื่องจากเป็นโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม จึงเริ่มจากการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับ Woodworking ทางอินเตอร์เน็ต เนื่องจากอินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งความรู้ที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในยุคนี้ ค้นไปค้นมาก็ได้ข้อมูลมามากมาย ทั้งหนังสือ แมกกาซีน และวิดิโอ ให้อ่านและดู

        
*** ช็อปงานไม้ในฝันของผม (My dream works wood shop) เริ่มแล้วที่หน้า 4 ครับ ***



ผู้ตั้งกระทู้ เทอดศักดิ์(M) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-30 16:07:11


1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 »

ความคิดเห็นที่ 1 (1538113)
avatar
ตัง LincolnWoodcraft
image

ผมก็ว่าอยู่ ทำไมคนรุมถ่ายรูป

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัง LincolnWoodcraft ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-30 16:33:40


ความคิดเห็นที่ 2 (1538117)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       ผมเริ่มงานไม้จากความไม่รู้เรื่องงานไม้มาก่อนเลย เรียกว่าเริ่มจากศูนย์ก็ไม่ผิด แต่ผมเองก็พอจะมีความเข้าใจงานทางด้านวิศวกรรมอยู่บ้างเนื่องจากเป็นวิศวกรด้านไฟฟ้าสื่อสาร แต่ถึงแม้ว่าผมจะอ่านแล้วอ่านอีกผมก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจเหมือนกัน เหมือนกับการดูเขาว่ายน้ำ แต่ไม่เคยลงไปว่ายเองจริงๆก็ย่อมจะว่ายไม่ได้แน่นอน เริ่มแรกๆนั้นผมไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อเรียกของเครื่องมือทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ Hardware หรือ Fitting ต่างๆที่ใช้ในงานไม้เลย (เรียกก็ยังไม่ถูก) รู้จักแต่เพียงพวกค้อน สิ่ว ตลับเมตร และเลื่อย ที่ช่างสร้างบ้านทั่วๆไปเขาใช้กัน ที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก หรืออย่างเก่งก็เวอร์เนียร์คาลิเปอร์ หรือไมโครมิเตอร์ที่เป็นเครื่องมือวัดละเอียดก็เคยใช้อยู่บ้าง เท่านั้น

       เมื่อเริ่มสนใจก็ศึกษาจากนิตยสารและวิดีโองานไม้เอาจากต่างประเทศ เพราะไม่เห็นหนังสือหรือวิดีโอด้านนี้ในเวอร์ชั่นภาษาไทยเลย เมื่อเริ่มอ่านและดูไปเรื่อยๆด้วยความสนใจ รวมถึงได้มีโอกาสอ่านกระทู้ต่างๆใน Webboard ด้านงานไม้ในต่างประเทศด้วย ก็รู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่ก็เริ่มได้ความรู้มากขึ้น แล้วก็ได้ยินผู้รู้ทั้งหลายเขาพูดถึงว่าการทำงานช่างไม้ควรที่จะมีโต๊ะงานไม้ (Workbench)ก่อน เพื่อใช้ในการทำงานนั่นเอง (ตอนนั้นก็ไม่รู้ภาษาไทยเขาเรียกว่าอะไรกัน) ก็เลยคิดว่าน่าจะเริ่มจากตรงนี้ตามที่เขาว่ากันแหละ เพราะก็เราคงไม่สามารถทำงานบนพิ้นได้แน่ แต่กระนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่ม อย่างไรดี

       จะเริ่มจากการสร้างโต๊ะงานไม้เอง หรือว่าจะจ้างเขาทำ หรือซื้อที่เขาทำไว้หากมีขายก็ดี (คิดไปคิดมาถ้าจะทำเองก็คงเริ่มได้ยากเพราะเครื่องมือก็ยังไม่มี ทักษะก็ยังไม่มี รวมถึงเวลาที่จะเจียดมาทำก็ยังมีไม่มากในช่วงนั้น) งั้นเริ่มทางลัดก่อนแล้วกัน ลองหาซื้อเอาหรือไม่ก็จ้างเขาทำให้ก่อนแล้วกันจะได้เริ่มต้นได้(ช่วงนั้นผม ก็ยังจ้างช่างเฟอร์นิเจอร์เขามาทำตู้บิลด์อินห้องครัวอยู่เลย หากเป็นตอนนี้สงสัยคงทำเองแล้วละครับ)

      เอาละซิแล้วจะหาซื้อจากไหนล่ะ เพราะร้านขายพวกอุปกรณ์ก่อสร้างที่รู้จักก็มีแต่ HomePro ก็ไม่เคบเห็นมีขาย หากไม่มีขายจริงๆจะจ้างใครทำล่ะ แล้วจะคุยกับช่างเขาว่าอย่างไร เอาแบบไหนดี ใช้งบประมาณเท่าไร ใช้ไม้อะไรทำดี (ตอนนั้นรู้จักไม้อยู่ 3 ชนิดคือ ไม้สัก ไม้ยาง และไม้เต็ง เพราะเวลาช่างสร้างบ้านก็ใช้ไม้พวกนี้)  
      
เมื่อสร้างโรงรถเสร็จราวปลายเดือน กรกฏาคม 2553 ก็เรื่มค้นหาว่าในประเทศไทยมีคนที่ทำ DIY ด้านงานไม้กันบ้างไหม ค้นไปค้นมาโชคดีบังเอิญเจอเว็บ Thaicarpenter.com เข้าให้เต็มๆ เพิ่งรู้ว่ามีเว็บด้านงานไม้ในบ้านเราด้วย จึงรีบติดต่อไปทำให้รู้ว่าอยู่ที่ จังหวัดนครปฐม แรกๆก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมร้านไปอยู่ที่นครปฐม แต่อ้าวเราก็เดินทางไปราชบุรีทุกเดือนอยู่แล้วก็ต้องผ่านนครปฐมตลอด จึงติดต่อไปก็ได้พูดคุยกับคุณอนุชิต จึงถามโต๊ะงานไม้ว่ามีทำขายไหมเพื่อจะขอซื้อสักตัว โชคดีอีกคุณอนุชิตบอกว่าทำไว้ตัวนึงพอดีหากจะไปเอาก็จะเก็บไว้ให้ 
      หลังนัดแนะกันเสร็จ วันเสาร์สุดสัปดาห์นั้นผมจึงรีบบึ่งไปเอาเลยทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะใส่รถ(Honda City)ได้หรือเปล่า ใจหนึ่งก็คิดว่าลองดูก่อนแล้วกันเพราะเห็นบอกว่าเป็นแบบ Knock Down ถอดเป็นชิ้นๆได้ และขนาดความยาวที่ดูจากเว็บแล้วคิดว่าพอที่น่าจะใส่ได้เมื่อพับเบาด้านหลังให้หมด หากไม่ได้จริงๆค่อยให้ส่งทางโลจิโพสต์ของ ไปรษณีย์ไทยก็แล้วกัน

     วันเสาร์เช้าจึงรีบขับรถไปราชบุรีแล้วแวะไป เอาโต๊ะก่อนที่ร้านคุณอนุชิตก่อนไป ราชบุรี เพราะวันอาทิตย์ร้านปิดทำให้ไม่สามารถไปเอาช่วงขากลับในวันอาทิตย์ได้ ถามทางอยู่หลายรอบจนเจอร้าน PK คุณอนุชิตยังถามว่าเอารถอะไรมา ผมบอกว่าคันนี้แหละ Honda City ครับ แกทำหน้างงๆ (คงคิดว่าจะใส่ไปไดไงวะ) เพราะเห็นแกบอกว่าคนอื่นเขามาเอาด้วยรถ pickup กันทั้งนั้น) แต่แกก็ดีใจหาย (คงนึกอยู่ในใจ เอาก็เอาวะลองดูซิว่ามันจะยัดเข้าไปได้ไง???) แกจึงให้เด็กในร้านมาช่วยกันถอดออกเป็นชิ้นๆ เราต่างก็พยายามกันอยู่นาน เอากล่องกระดาษรองเบาะทุกด้าน (เพราะเป็นรถของท่าน ผบ. แล้วเราก็บอกว่าเอาไปใส่โต๊ะตัวนิดเดียว พอเห็นที่ขนมาใส่หน้าเริ่มหงิกเลย เราก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้บอกแต่ว่าซื้อแล้วต้องเอากลับบ้านเรานะ... เราก็ทำหน้าเศร้าๆหน่อยๆให้เขาสงสาร) เหมือนฝันเลยใส่ได้จริงๆ แต่เอ๊ะยังมีที่เหลือนี่ งั้นเอาโต๊ะ Router แนวนอนแนวตั้งอีกตัวแล้วกัน (ถอดแยกชิ้นส่วนอีกตัว แล้วจับยัดเข้าไปได้ซะด้วย ตัวRouter ก็ยังไม่มีแต่เอาไปก่อนแล้วกัน (กว่าจะได้ใช้ก็ตอนทำงานไม้ชิ้นแรกชิ้นที่จะเล่าอยู่นี่แหละครับ เก็บไว้เป็นปีเลยเหมือนให้มันเป็นเชื้อให้ได้ลูบๆคลำๆก็สบายใจแล้ว)
     จ่ายเงินเสร็จก็ไม่มีเวลาได้คุยอะไรกันมากนักกับคุณอนุชิต เพราะ ผบ. เริ่มหงุดหงิดหน้าคว่ำเป็นปลาทูแม่กลองเลย เนื่องจากนานเกือบชั่วโมงเหมือนกัน จึงรีบจ่ายเงินพร้อมกับขอบคุณและบอกว่าวันหลังจะมาอุดหนุนอีกและแวะคุยด้วย จากนั้นก็รีบบึ่งรถไปราชบุรี อันเป็นจุดเริ่มต้นของผมที่มาเกี่ยวกับ DIYงานไม้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-30 16:52:12


ความคิดเห็นที่ 3 (1538119)
avatar
นัทคุง

ปูเสื่อนั่งรอชม ครับพี่เอ็ม

ผู้แสดงความคิดเห็น นัทคุง (nattbanphe-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-30 17:07:36


ความคิดเห็นที่ 4 (1538133)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

โห... ยังไม่ทันไรก็โดนคุณตังแซวตั้งแต่เริ่มเรื่องเลย

รถแบบนี้ละครับ(แต่ไม่ใช่คันนี้นะครับขี้เกียจถ่ายรูปเลยไปเอามาจากเน็ต แต่สีเดียวกัน) ที่ขนโต๊ะงานไม้ (Workbench) กับโต๊ะ Router แนวนอนและแนวตั้ง มาจากร้าน PK ของคุณอนุชิตกลับมาจาก จ.นครปฐม

    ผมว่ามันเป็นรถที่ออกแบบมาดีมาก ทำให้มีที่ว่างขนของได้เยอะมากๆครับ กลับมาต่อกันดีกว่า

          หลัง จากขนโต๊ะงานไม้ และโต๊ะ Router แนวนอนมาจากราชบุรีนำกลับมายัง กทม. ถึงที่โรงรถผมเริ่มหวั่นใจเพราะดันลืมไปว่าตอนเอาขึ้นรถช่วยกัน 3-4 คน อ้าวแล้วตอนจะเอาลงจากรถจะเอาลงยังไงหว่า (ลืมนึกไปสนิทเลยครับ) เดินไปเดินมาไปโผล่หน้าดูเพื่อนบ้านที่เป็นผู้ชายก็ไม่มีใครอยู่เลย นึกอยู่ในใจว่าซวยแล้วเรา และแล้ว ผบ. ก็เดินมาดูว่าผมจะเอาของลงอย่างไร (ผมเดาว่าแกคงจะมาดูว่าผมจะทำรถแกเป็นรอยหรือเปล่ามากกว่า)

         แรกๆ ผมก็แกล้งเอาชิ้นส่วนของโต๊ะ Router แนวนอนลงก่อนเพราะมันอยู่ด้านบนแล้วก็เล็กและไม่หนักมากลงจนหมด เอาละซิทำไงต่อดี แกก็ดีใจหาย...ถามว่าไอ้เจ้าตัวใหญ่ๆจะเอาลงยังไง ผมแกล้งบอกว่าเดี๋ยวรอเย็นๆ รอเพื่อนบ้านกลับมาค่อยไปขอแรงเขามาช่วยก็ได้ แกก็ดีใจหายบอกไม่ต้องเดี๋ยวช่วยยกเอง ผมก็แกล้งถามว่าไหวหรือ มันหนักนะ แกก็ว่าลองดูค่อยๆขยับ เอากล่องกระดาษมาวางที่ประตูด้านหลังเพื่อไม่ให้รถมันเป็นรอย  เราทั้งสองต่างก็ช่วยกันยกช่วยกันดันจนสไลด์ออกมาจากรถได้โดยเฉพาะชิ้นที่ เป็นพื้นโต๊ะก็มีขนาดทั้งใหญ่และหนักเอาเรื่องเหมือนกัน ไม่รู้ทำไมตอนเอาออกแป๊บเดียว แต่ตอนเอาเข้าปาเข้าไปเกือบชั่วโมง สุดท้ายก็สามารถเอาลงมาได้อยางปลอดภัยทั้งโต๊ะและรถ(ดูเหมือนว่าแกจะเป็นห่วงรถแกมากกว่าคงไม่ได้ห่วงอะไรโต๊ะงานไม้ของเรา)

        โต๊ะงานไม้เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ DIY งานไม้ของผม จาก Thaicarpenter.com ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขระคนกับความเจ็บปวดเล็กๆที่เก็บไว้ในใจ (เวลาโดนค่อนแคะ) ตอนที่เอาโต๊ะตัวนี้กลับมาจากราชบุรี ( พร้อมกับโต๊ะเร้าเตอร์แนวนอน และแนวตั้งที่ผมยังไม่มีโอกาสได้ใช้มันจนเวลาล่วงเลยไปปีเศษๆจึงจะมีโอกาส ได้ใช้มัน ) ผมยังมีแต่แค่ ไขควง 2-3 อันกับคีมงานไฟฟ้าอีก 2-3 อันยังไม่มีเครื่องมืออะไรอื่นอีกเลย ไม่มีแม้กระทั่งสว่าน เพราะยังไม่ได้ซื้ออะไรแล้วตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าต้องซื้ออะไรด้วยครับ กะว่าทำไปๆ ขาดอะไรค่อยๆไปซื้อมาแล้วกัน ขนาด ที่ว่าพื้นด้านล่างของโต๊ะงานไม้ที่ทำด้วยไม้ยางพาราอัดที่ผมทำเพิ่มเข้าไป เพื่อใช้วางของที่ใช้บ่อยๆ ผมก็ยังไปซื้อที่โฮมโปรแล้วให้เขาตัดตามขนาดที่ต้องการให้รวมถึงการตัดมุม เพื่อให้เข้ากับโต๊ะได้พอดีด้วยเลย

      และ แล้ว...... มันก็ยังคงกองอยู่ในโรงรถอีกหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนก็จำไม่ได้เหตุเพราะ ยังไม่มีเครื่องมือมาประกอบมันเขาด้วยกัน บนพื้นที่ๆผม  จะเรียกมันว่าช็อป หรือ Workshop ได้ต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-30 18:23:34


ความคิดเห็นที่ 5 (1538172)
avatar
มานะ

พี่เอ็ม  ยินดีต้อนรับสู่ราชบุรี ครับ  ผมอยู่บ้านโป่งครับ  ผมก็ได้แรงบันดาลใจในงานไม้ จาก หนังสือที่พี่เอ็มโพสท์ในเว็บครับ  ตอนนี้ได้ชั้นหนังสือ,

ตู้เก็บของ, ม้านั่งเล็กเชอร์ ให้ลูก ๆ ครับ รวมทั้งออเดอร์ตู้เสื้อผ้าจาก ผบ.คิวต่อไป ขอบคุณพี่เอ็มมากครับ  ได้มีโอกาสมาอีกโทรหาบ้างนะครับขอเลี้ยงข้าวตอบแทนสักมื้อครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มานะ (banpongpaint-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-30 21:27:24


ความคิดเห็นที่ 6 (1538179)
avatar
เปี๊ยก พิดโลก

โห...สุดๆจริงๆครับ คุณเทอดศักดิ์ ใส่ไปได้ยังไงกันเนี่ย ยอดเยี่ยมครับ รออ่านอยู่นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เปี๊ยก พิดโลก (peak-dot-electone-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-30 22:09:56


ความคิดเห็นที่ 7 (1538224)
avatar
yunlefty

ไม่เร่งนะครับ รอ..อ...อ อยู่ครับ ^_^

ผู้แสดงความคิดเห็น yunlefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 07:15:21


ความคิดเห็นที่ 8 (1538226)
avatar
จ๊อด

โห พี่เอ็ม ตอนเริ่มทำก็ซื้อของหนักเลยเหรอครับ...ปูเสื่อรอชมด้วย คน ^^

ผู้แสดงความคิดเห็น จ๊อด วันที่ตอบ 2012-10-31 07:38:15


ความคิดเห็นที่ 9 (1538227)
avatar
เอ๋ เพาะช่าง

ใจถึง......

ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 07:58:33


ความคิดเห็นที่ 10 (1538234)
avatar
เอกครับ

นั่งรอดูด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เอกครับ วันที่ตอบ 2012-10-31 09:29:07


ความคิดเห็นที่ 11 (1538235)
avatar
tphen

คุณ M เริ่มแล้ว ต่อแถวด้วยคนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น tphen (tphen-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 09:42:16


ความคิดเห็นที่ 12 (1538242)
avatar
เอ๋ เพาะช่าง

เข้ามากดดันอีกครั้งครับ...รอดูอยู่ครับพี่555

ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 09:55:12


ความคิดเห็นที่ 13 (1538249)
avatar
i3ird

สุดยอดครับรอชมมานานหลายเดือนแล้วพี่พึ่งจะมาปล่อยของรอๆๆๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น i3ird (bird-togo-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 10:28:42


ความคิดเห็นที่ 14 (1538267)
avatar
เอ๋ เพาะช่าง

ทุกครั้งที่ผมเปิดเน็ต ผมจะคลิกที่กระทู้พี่เอ็มก่อนเลยครับ(555...กดดันเข้าไปอีก)

ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 12:26:01


ความคิดเห็นที่ 15 (1538292)
avatar
พันศักดิ์ สวนบุรี

รอในมุมมืด

ผู้แสดงความคิดเห็น พันศักดิ์ สวนบุรี (phansak-key-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-10-31 15:10:08


ความคิดเห็นที่ 16 (1538301)
avatar
paisal

เริ่มต้นดี...มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ  

ผู้แสดงความคิดเห็น paisal (paisalsung-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-10-31 16:09:46


ความคิดเห็นที่ 17 (1538322)
avatar
แมน แบริ่ง

ปูเสื่อรออ่านครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมน แบริ่ง วันที่ตอบ 2012-10-31 17:44:30


ความคิดเห็นที่ 18 (1538326)
avatar
เปี๊ยก พิดโลก

เมื่อไหร่จามาคับ รออ่านอยู่นะคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เปี๊ยก พิดโลก (peak-dot-electone-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 18:02:09


ความคิดเห็นที่ 19 (1538338)
avatar
ตัง LincolnWoodcraft
image

นี่ ผมกด F5-refresh มาทั้งวันแล้วนะครับ

ยังรออ่านมาตลอด จะกดรอไปเรื่อยๆทั้งคืนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัง LincolnWoodcraft ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 19:02:08


ความคิดเห็นที่ 20 (1538341)
avatar
เอ๋ เพาะช่าง

พี่เอ็ม....ไม่มีอะไรครับ...เข้ามาดูว่าพี่สุขสบายดีหรือเปล่าครับ

 

 

 

 

 


(กดดัน....กดดัน....กดดัน....กดดัน....กดดัน....กดดัน....)

ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-31 19:10:07


ความคิดเห็นที่ 21 (1538361)
avatar
paiboon

 it"s so hot and popular jing khun m

ผู้แสดงความคิดเห็น paiboon วันที่ตอบ 2012-10-31 21:37:15


ความคิดเห็นที่ 22 (1538392)
avatar
sornid

นอนไม่หลับ เข้ามารอชมด้วยคนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 02:57:52


ความคิดเห็นที่ 23 (1538395)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

    ขอบคุณคณ paisal คุณl tphen คุณแมน คุณ นัทคุง คุณ Sornid คุณเปี๊ยก คุณพันธ์ศักดิ์ คุณยุ่น คุณเอก คุณ paiboon คุณจ๊อด คุณ tphen คุณเอ๋ คุณi3ird คุณตัง (หมดยังเนี่ย) และทุกๆท่าน หากตกหล่นไปนะครับ ที่มาเยือนและให้กำลังใจ วันนี้ผมหลับสบายตั้งแต่หัวค่ำเพื่อ ตื่นมาดูฟุตบอล หลังจากเหนื่อยจากการทำงานทั้งวัน เปิดเน็ต เข้ามาดู เห็นเพื่อนๆเข้ามากดดู (หรือกดดัน)กันอย่างล้นหลาม(เว่อร์หน่อยๆ) ก็ต้องขออภัยที่ผมอาจเอ่ยชื่อไม่หมดนะครับ โดยเฉพาะคุณเอ๋กะคุณตัง อุตส่าห์เข้ามากันคนละหลายรอบเลยนะครับ ส่วนท่านที่เข้ามาปูเสื่อนอนรอ สงสัยคงต้องไปหลับไปนอนก่อนละครับ หรืออาจถึงขั้นต้องลาพักร้อนไปก่อนเลยละครับ เพราะข้อแก้ตัวของผมคือจะต้องขอเวลาไปหาอุปกรณ์ประกอบฉาก วาดรูป และรอเวลาที่ว่างก่อนครับ

     แนะนำให้ทุกท่านเปลี่ยนไปกดดันคุณเบิร์ดที่กระทู้ของคุณเขมทัต เรื่องเครื่องมือช่างชิ้นโปรดของท่าน แทนก่อนแล้วกันดีกว่าครับ เพราะผมเองก็รออยู่ว่าคุณเบิร์ดจะเลือกเครื่องมือชิ้นไหนเป็นเครื่องมือชิ้นโปรดกันแน่ เดาใจไม่ถูก(ไม่ได้กดดันนะครับคุณเบิร์ด แต่ก็ยังรออยู่ นานแล้วเหมือนกันนะ กด ดันนน) หรือไปติดตามงานโต๊ะเลื่อยแบบตุ๊ๆของท่านมหาวิชาญฯที่สวยมาก ใช้ไม้สักทั้งตัวที่ผมคิดว่าค่าไม้นี่แพงกว่าซื้อโต๊ะที่เขาผลิตขายหลายเท่า(อยากได้บ้าง) หรือจะเป็นงานเฟอร์บิล์ทอินของคุณเปี๊ยก พิดโลก ที่เป็นสุดยอดนักดนตรีกับงานไม้บิลด์อินชิ้นแรกที่สวดยอดด หรือคุณ Kira สาวเก่งกับงานไม้ของเธอหลายชิ้นที่ผมแอบชื่นชมอยู่เหมือนกัน ก่อนก็ได้ครับ กำลังสนุกเลยหรือไม่ก็ไปดูคุณเอ๋ทำเคาน์เตอร์ดีเจก่อนก็ได้นะครับ(ผมว่าถ้าเป็นเคาน์เตอร์พริตตี้ หรือ PR คุณเอ๋แกคงไปตรวจงานทุกวันตอนกลางคืนแน่ๆเลย)

    ขอบคุณคุณมานะที่ชวน ผมจะไปบางแพ ทุกเดือน ว่างๆจะไปเยี่ยมครับ จริงๆแล้วแถวบางแพ นี่มีร้านขายไม้เก่าอยู่เยอะมากตลอด 2 ข้างทางเลยครับ แต่ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดได้แต่มองๆอย่างเดียวจริงๆครับ(เพราะ ผบ.ไปด้วยทุกครั้งเนื่องจากเป็นบ้านแกครับ) ใครอยากได้ไม้เก่าไปแถวบางแพ(ทางที่จะไปตลาดน้ำอัมพวา เลยพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไปนิดเดียว) มีหลายสิบร้านครับ ท่านที่สนใจลองดูที่ลิ้งค์นี้ก็ได้ครับ มีผู้นำชมไว้ครับ 

http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2009/11/R8540010/R8540010.html

แล้วคุณมานะอย่าลืมเอาผลงานมาโชว์บ้างนะครับ

 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม มากดดัน ติดตามไปเรื่อยๆนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 03:57:16


ความคิดเห็นที่ 24 (1538487)
avatar
i3ird

กำเลยว่าจะเข้ามากดดันพี่เอ็มกลับกลายเป็นโดนเอง...อ้าวกระทู้นั้นถึงคิวเราแล้วหรือนี่โทษทีกดดันผิดที่ไปเรียบเรียงเขียนก่อนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น i3ird (bird-togo-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 12:26:07


ความคิดเห็นที่ 25 (1538561)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

ไม่ได้กดดันคุณเบิร์ดนะครับเห็นเพื่อนๆรอคุณเบิร์ดกันมาหลายเดือนแล้ว ผมก็แอบรำมวยไปเรื่อยๆก่อนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเพื่อนๆ เพราะต้อง ขอเวลาไปจำลองภาพก่อนเพื่อความสนุกเพราะตอนทำไม่ค่อยได้ถ่ายไว้ (ทำงานอย่างมุ่งมั่นจนลืมครับ)    

อีกครั้งครับคุณเบิร์ดไม่ได้กดดันนะครับ แต่จะไปทวงถามทุกวันเลย 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 20:13:33


ความคิดเห็นที่ 26 (1538569)
avatar
เปี๊ยก พิดโลก

ผมเข้ามาเยี่ยมเฉยๆนะครับ ม่ายด้ายกดดันเลย จริงๆครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เปี๊ยก พิดโลก (peak-dot-electone-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-01 20:51:09


ความคิดเห็นที่ 27 (1538775)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 

รูปภาพสลับฉาก

        เครื่องมือชุดนี้ละครับเป็นชุดเครื่องมือของผมชุดแรกที่ผมมีอยู่ก่อนที่ความสนุกของการทำงานไม้ด้วยตนเอง (DiY ) จะทำให้ผมติดมันงอมแงมเลย โดยเฉพาะ Thaicarpenter.com นี่เปิดเน็ททีไรต้องเข้ามาดูที่ Webboard และ ลิ้งค์ มีสินค้าอะไรใหม่ ทุกครั้งเลย (คุณอนุชิต ทราบแล้วอย่าลืมหาอะไรแปลกๆที่หาซื้อที่อื่นไม่ได้มาอัพเดท บ่อยๆนะครับ) 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 13:13:42


ความคิดเห็นที่ 28 (1538776)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      เครื่องมือชุดที่ 2 ที่เริ่มหามาเพื่อประกอบโต๊ะงานไม้และโต๊ะเร้าเตอร์ที่ซื้อมาครับ ขาดตัวเดียวคือสิ่วของ INDY ที่ยังหาไม่เจอไม่รู้ไปหมกไว้ที่ไหน (คงเพราะไม่ค่อยได้ใช้แน่เลย)

      ส่วนสว่าน Makita กับ สว่าน/ ไขควงแบตเตอรี่ของ Maktec ด้านขวามือถือได้ว่าเป็น Power Tools ชุดแรกที่ผมมีครับ จริงๆเอามาใช้เจาะโน่นเจาะนี่ในงานซ่อมแซมในบ้านเช่นติดแขวนรูป ติดชั้นซะมากกว่าเช่นเดียวกับระดับน้ำละครับที่เอาไว้เวลาติดหิ้งหรือชั้นวางของจะได้ดูดีหน่อยไม่เอียงไปเอียงมามากกว่าครับ ลองดูสภาพของกบและเลื่อยผมซิครับยังไม่มีริ้วรอยเลยเพราะยังไม่ได้ใช้มันจริงจังเลย ได้แต่ทดสอบตอนที่ซื้อมันมาเท่านั้น ปัจจุบันก็ยังไม่ได้ใช้มันอยู่ดี

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 13:16:46


ความคิดเห็นที่ 29 (1538777)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 1:

EPISODE 2:  ต่อมความอยากเริ่มทำงาน

                หลังจากที่โต๊ะงานไม้ที่หอบหิ้วมาจากนครปฐม และกองอยู่ใน ช็อป ผมเป็นเวลาแรมเดือน แต่ช่วงนั้นพอดียุ่งไม่ค่อยได้เข้าไปในช็อปและเดินทางไปต่างประเทศด้วย (เสียดายเหมือนกันที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่องงานไม้มากนัก เลยไม่ได้ซื้ออะไรกลับมา แม้จะเริ่มศึกษาจากหนังสือ และ วิดีโอบ้างแล้ว แต่มันคงยังไม่ซึมเข้ากระแสเลือด ถ้าเป็นตอนนี้คงหอบหิ้วอะไรกลับมาเยอะเลย) จึงยังไม่ได้ทำอะไรต่อ หลังกลับมาจากต่างประเทศ ก็เริ่มที่จะมีเวลาและกลับไปเหลียวแลโต๊ะงานไม้ กับโต๊ะเร้าเตอร์แนวนอนที่ขนมากองไว้เสียที จึงไปเดินซื้อเครื่องมือชุดแรก มีไขควง ประแจเลื่อน และอื่นๆอีกเล็กน้อยเพื่อเริ่มงานไม้เสียที
         เมื่อผมได้เครื่องมือกลับมาก็จัดแจงประกอบโดยดูจากวิดีโอที่คุณอนุชิตทำไว้ให้ดูใน Thaicarpenter.com นี่แหละครับทำให้ง่ายต่อการประกอบ แล้วก็ทำเสร็จภายในวันเดียว แถมยังไป โฮมโปรไปซื้อแผ่นไม้ยางพาราประสาน แล้วให้เขาตัดให้ตามขนาดพื้นด้านล่างโต๊ะเพื่อวางของ (ยังไม่มีโต๊ะเลื่อยสำหรับตัดเองเลยต้องพึ่งบริการของ โฮมโปรไปก่อน) หลังจากนั้นก็ขัดนิดหน่อยแล้วทา Teak Oil เป็นอันเสร็จ
         จากนั้นผมเริ่มศึกษาอย่างเอาจริงเอาจังจนมันเริ่มซึมเข้าไปในกระแสเลือดบ้างแล้ว ทำให้ผมคิดว่าหากเราไม่เริ่มทำอะไรจริงๆจังๆคงทำไม่ได้แน่ เพราะอ่านหนังสือกับดูวิดีโดยังไงเสียก็คงทำไม่ได้แน่คงต้องเริ่มฝึกฝนดูบ้าง จึงเริ่มจับเลื่อยมาเลื่อยไม้ และเอากบมาลองไสไม้ดู เลื่อยน่ะพอได้เพราะเคยเลื่อยมาก่อน แต่ไสไม้นี่มันยากเหมือนกันเพราะกบที่ผมซื้อมาเป็นกบช่างชาวบ้านที่ร้านฮาร์ดแวร์ข้างบ้านตัวละ 200 บาท ปรับก็ยากแถมปรับไม่เป็นเสียอีก แล้วก็ไม่เคยไสกบมาก่อน แม้ว่าจะลองกับไม้ pallet ซึ่งเป็นไม้ฉำฉาที่ไม่แข็งมากส่วนใหญ่ใช้รองเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นเครื่องปรับอากาศ เตาแก๊ส ตู้เย็น ที่ซื้อมาและผมเก็บเอาไว้ก็ยังยากเลยสำหรับคนไม่เคยใช้ แต่ก็ลองปรับและไสอยู่สักพักก็คิดว่าพอไสได้(แต่ก็ไม่ดีนักเพราะปรับไม่เป็น)
          ผมใช้เวลาในสายๆวันอาทิตย์เข้ามาในช็อปเพื่อลองไสไม้ และลองตัดโน่นตัดนี่ไปตามเรื่องให้มันชินๆมือ นอกเหนือจากการตัดหญ้า ทำสวนที่จะต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว และแล้วต่อมความอยากเริ่มไม่ทำงานเมื่องานเริ่มยุ่งต้องใช้สมาธิกับงานเลยไม่มีเวลาได้เข้ามาทำอะไรมากนัก ปล่อยให้โต๊ะกลายเป็นที่ไว้วางของไปโดยปริยาย
          วันที่ 28 พ.ย. 2553 (ไม่ได้จำแม่นอะไรหรอกครับ ไปค้นมาจาก google ว่างานมีวันที่เท่าไร) เป็นวันที่เริ่มสะกิดต่อมงานไม้ของผมให้เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพราะมีโอกาสได้ไปงาน King of Wood ครั้งที่ 1 ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากนัก ยังไม่รู้จักใครเลย แต่สนใจไปดูเขาแข่งขันกัน คุณอนุชิตก็ไปออกร้านด้วยและก็ได้สาธิตโต๊ะเร้าเตอร์แนวนอนของแก ผมไปนั่งอยู่แถวหน้าเพื่อดูแกสาธิต ก็เริ่มสนใจ รู้บ้างไม่รู้บ้าง มีการอธิบายเรื่องการเข้าไม้ในแบบต่างๆ และแข่งกันทำตู้เพื่อถวายวัด และปีนั้นก็เป็นปีที่ลูกน้องคุณอนุชิตได้รางวัลชนะเลิศ (ผมยังไปลงคะแนนให้ลูกน้องแกเลย)  
          ทำไปทำมาผมอยู่ในงานได้ทั้งวัน ขากลับเลยได้ซื้อของหลายอย่างติดไม้ติดมือกลับมา ส่วนใหญ่จะเป็นดอกสว่าน ได้แคลมป์มา 4 อัน ชุดเจาะและเซาะร่องแนวนอน ชุดจับสว่านแนวนอน เวอร์เนีย ทริมเมอร์ของ Ryobi และ เร้าเตอร์ Ryobi รุ่น R500N อีกตัวหนึ่งครับ ที่ติดตั้งใช้สาธิตที่โต๊ะเราเตอร์ที่คุณอนุชิตใช้สาธิตนั่นแหละครับ (แล้วก็เป็นเราเตอร์ตัวโปรดของคุณสุทินที่ได้เขียนไว้ว่าเป็นเครื่องมือช่างชิ้นโปรดที่ได้ฝากไว้ก่อนที่จะเสียชีวิตนั่นแหละครับ) ผมกะว่าจะเอามาติดกับโต๊ะเร้าเตอร์ที่ซื้อมาบ้างเหมือนที่เขาสาธิต จึงเป็นจุดเริ่มของการสะสมเครื่องมือ (สะสมนะครับ ไม่ได้ใช้) เพราะมันเก็บอยู่ในกล่องอีกประมาณเกือบปีเลยครับถึงได้เอาออกมาใช้งาน
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 13:23:55


ความคิดเห็นที่ 30 (1538778)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

นี่แหละครับหน้าตาของสิ่ว INDY ที่หายไปผมซื้อมา 2 อันราคาประมาณอันละ 70 บาท แต่ยังหาไม่เจอครับเลยไม่ได้อยู่ร่วมก๊วนในการถ่ายรูปด้วย ผมไม่ทราบว่าคุณภาพเป็นอย่างไรเพราะเคยใช้ 2-3 ครั้งเท่านั้นเองครับ แต่แปรงทาสีที่ปลายเป็นฟองน้ำของ Indy นี่คุณภาพแย่มากๆ ยังไม่ทันได้ใช้เลยเก็บไว้้กะว่าจะเอามาใช้ทาสีเหมือนกับที่เคยเห็นในวิดิโอ (หาซื้อมาได้จาก บุญถาวร) พอจะเอามาใช้ก็เปื่อยซะแล้วใช้งานไม่ได้เลย(ซื้อมา5 ขนาด ใช้ไม่ได้สักอัน สินค้ามีวันหมดอายุก็ไม่เขียนบอกไว้ด้วย เพราะกว่าผมจะได้ใช้ของที่ซื้อมาก็เกือบปีทั้งนั้น)

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 13:25:27


ความคิดเห็นที่ 31 (1538781)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

แคลมป์ชุดแรกที่มีครับของ Crossman ที่ซื้อมาจากงาน King of Wood ครั้งที่ 1 ทั้งที่ตอนซื้อมาก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาไว้หนีบอะไรเลยครับ เห็นมันสวยดีเลยซื้อมาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 13:40:20


ความคิดเห็นที่ 32 (1538839)
avatar
อนุชิต

พี่เอ็มครับ ผมลุ้นจริงๆ ว่ากระทู้นี่จะจบยังไง ผมว่าคนรอดูหนังพี่เยอะมากคนนึงนะครับ

  จริงๆผมว่า ความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ตนรัก มันไม่ได้หมายถึงผลงานเสมอไปน่ะครับ  ผมชอบมองออกไปในชีวิตจริงๆของเราๆ ท่านๆ ผมดูจากหลายคน โดน ผบทบ. บ่นกันทุกคน  ไปซื้ออะไรมา... เต็มบ้าน (โดนแม่บ้านกดดัน)  มีพี่คนนึง แกก็ชอบงานไม้ แบบพี่ๆนี่แหละ แกชอบซื้อเครื่องมือ  วันนั้นซื้อไปเยอะหลักหมื่น แต่พอแม่บ้านแกเดินละสายตาแกบอกว่า " อนุชิต เดี๋ยวตอนรวมบิล จ่ายเงิน อย่าเพิ่งให้... พี่เห็นนะ ไม่งั้นกลับไป... งานเข้า 555 "    จริงๆครับ เรื่องนี้ ตอนพูดแกเอามือป้องปากด้วย  อดขำไม่ได้ แต่ตอนนั้นเครียดนะ 55+

   ผมเห็นลูกน้องผม วันหยุดต้องออกไปยิงปลา ผมเห็นเลิกงาน ขัดๆถูๆแต่ปืนยิงปลา เล็งแล้ว เล็งอีก นี่แหละ ปลายังไม่ได้กินเลย สุขมาแล้ว  ในระหว่างหาปลา  ก็เห็นมันยืนนน.. (ทีทำงานไม่เห็นมันตั้งใจยังงี้55+) ไม่บ่นเมื่อยสักคำ นี่ ปลายังไม่ได้กิน ....  พอได้ปลามาจริงๆ  ผมไม่เห็นจะเอามากินกันสักตัว ให้ข้างๆบ้านมั่ง อะไรมั่ง  ความสุขมันอยู่ที่ได้ภูมิใจที่ได้ปลามาหรือเปล่า อันนี้ก็ว่ากันไปนะ ผมว่า ความสุขมันเกิดขึ้นได้ทุกขณะนะ การทำงานไม้ผมก็ว่าทำนองเดียวกัน

 ยังไงผมก็เป็นกำลังใจนะพี่เอ็ม ไม่ได้คาดหวังนะพี่ว่าปลาที่พี่ล่าได้ จะตัวใหญ่ ตัวเล็ก ปลานิล ปลาช่อน แต่เครื่องมือจับปลาขออย่าใช้วิธีไฟฟ้าช็อต หรือ ดูไม่ปลอดภัย นี่แหละที่เรากลุ่มงานไม้ต้องการ

  รอชมพี่เอ็มด้วยคนครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อนุชิต วันที่ตอบ 2012-11-02 16:31:16


ความคิดเห็นที่ 33 (1538861)
avatar
yunlefty

พี่เอ็มเล่าเรื่องได้เหมือนตัวพี่มายืนพูดให้ฟังเลย สไตล์การเขียนเหมือนบุคคลิกพี่มากๆ  ชอบครับ  ชอบ

ผู้แสดงความคิดเห็น yunlefty (yunlefty-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 18:27:07


ความคิดเห็นที่ 34 (1538940)
avatar
พระมหาวิชาญ สุขวฑฺฒโน

อาตมาเข้ามาครั้งแรกเห็นแค่โ่ยมตังคนเดียว พอมาอีกที(ตอนนี้) พร้อมหน้าเลย อาตมานั่งอ่านจนเพลินเล่าเรื่องได้สนุกน่าติดตามมากครับ สภาพโต๊ะช่างไม้ยังดูสมบูรณ์ดีมากครับ ทุกครั้งที่เห็นภาพโต๊ะช่างไม้ในใจก็พลางนึกว่าเมื่อไรฝันจะเป็นจริงสักที  เหมือนท่านอื่นๆ ครับแต่อาตมาจะติดตามอ่านแบบสบายๆ ไม่กดดันครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พระมหาวิชาญ สุขวฑฺฒโน (pramahavichan-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 23:48:11


ความคิดเห็นที่ 35 (1538995)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 ขอบคุณคุณยุ่น(อีกครั้ง) คุณอนุชิต และพระคุณเจ้าพระมหาวิชาญ ที่เข้ามาทักทายครับ

       จริงๆแล้ววัตถุประสงค์แรกๆที่ผมเข้ามาสนใจเรื่อง DIY งานไม้ก็แค่จะเอาไว้ซ่อมแซมพวกของใช้ในบ้านเล็กๆน้อยๆได้เอง หรือทำโครงงานเล็กๆบ้าง ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรใหญ่โต แค่ให้ได้ทำอะไรด้วยตนเองได้บ้าง คิดไปทำไป เพราะบางครั้งเราอยากได้อะไรสักชิ้นก็ไม่สามารถ วาดแบบแล้วไปจ้างเขาทำได้ทุกเรื่อง ทำเองได้จะได้ทำไปเรื่อยๆ จึงเป็นที่มาของงานที่ผมทำแต่ละชิ้นจะใช้เวลาหลายๆเดือน บางชิ้นคิดไว้เป็นปีแล้วยังไม่ได้ทำเลย (แต่ก็จะต้องทำให้ได้สักวันครับ) เมื่อแข้ามาสัมผัสวงการนี้แล้ว งานไม้มันมีเสน่ห์กว่าที่คิด ทำให้เราได้คิด ได้ศึกษา ได้ใช้เวลา (ที่เหลือ) ให้เป็นประโบยชน์ และได้เพื่อนใหม่ๆที่มีความอบอุ่นดี

        ทำให้เรื่องที่ผมจะเล่าจะเป็็นประสบการณ์แบบสนุกๆ ไม่เครียด มากกว่าเป็นเทคนิคหรือความรู้อะไรมากมายนะครับนอกจากว่าในแต่ละปัญหาระหว่างการทำงาน ผมแก้ปัญหาแบบคนไม่มีประสบการณ์ได้ด้วยวิธีใดบ้าง (เพราะผมก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว) หากว่างๆเมื่อไรก็เข้ามาติดตามกันต่อๆไป (จะได้ไม่กดดัน) จริงๆแล้วก็ดูเหมือนจะไม่ได้กดดันนะครับแต่ทุกท่านที่เข้ามาแบบเน้นๆ กันทั้งนั้นเลยครับ .....ไม่เป็นไรครับแสดงว่าทุกท่านสนใจ จะพยายามมาอัพเดทเพิ่มเติมให้บ่อยๆเมื่อมีเวลานะครับ แล้วก็ปล่อยให้เดากันไปก่อนว่าอะไรมันคือแรงบันดาลใจของผมจริงๆ จะได้รู้กันตอนจบนะครับ แต่บางครั้งผมอาจต้องไปหาความรู้ที่กระทู้อื่นๆเพื่อคลายเครียดบ้างด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-03 12:07:24


ความคิดเห็นที่ 36 (1539438)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 1:

EPISODE 3: ดีเดย์

                กลับจากงาน King of Wood ครั้งที่ 1 โดนกระตุ้นต่อมความอยากพร้อมกับได้เครื่องไม้เครื่องมือกลับมาส่วนหนึ่ง ทำให้อยากจะซ้อมมือลองทำโครงงานๆไม้สักชิ้น เพื่อเป็นการเริ่มต้นฝึกฝีมือบ้างหลังจากที่ไปได้แรงกระตุ้นมาจากงานดังกล่าวแถมยังหิ้วเครื่องมือกลับมาจากงานอีกนิดหน่อย (แต่ก็เก็บไว้ยังไม่ได้ติดตั้งหรือเอามาใช้แต่อย่างใด)
                จนเวลาล่วงเลยไปประมาณเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 หลังจากได้บ่มเพาะความรู้จากการอ่านตำราและดูวิดีโอเกี่ยวกับงานไม้มาบ้างพอควร ในใจก็เริ่มคิดว่าจะทำอะไรก่อนดีเพื่อเป็นการฝึกทำงานไม้ให้จริจังเป็นเรื่องเป็นราว คิดไปคิดมาหาเอาที่ใกล้ตัวก่อนก็น่าจะดีเพราะไม่ต้องลงทุนมากและใช้ของที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ และเป็นแบบง่ายๆ เนื่องจากความชำนาญก็ยังไม่มี หากเสียหายอะไรไปก็ไม่ต้องเสียดายมาก
                ด้วยความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมจากความรู้ที่ได้จากการศึกษาเพิ่มเติม ผมไปค้นได้ชิ้นส่วนที่เหลือจากเมื่อครั้งติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิล์ดอิน มันเป็นแผ่นเคาน์เตอร์ที่เขาทำไว้เป็นโต๊ะทำงานที่ต้องติดกับผนัง และมีขาโต๊ะเพียงขาเดียว (เนื่องจากอีกด้านจะไปวางไว้บนตู้)   ที่มีขนาดแผ่นหน้าโต๊ะ ยาว 160 ซม. กว้าง 40 ซม. กับชิ้นส่วนที่เป็นแผ่นขาสูง 76 ซม. ทำด้วยแผ่นปาติเกิ้ลปิดทับด้วยลามิเนตสีขาวเหมือนกัน และยังมีส่วนของคานที่เป็นเหล็กสี่เหลี่ยมสำหรับรองเป็นคานใต้โต๊ะเพื่อไม่ให้แผ่นท็อปแอ่นและไม้คิ้วเพื่อปิดทับเหล็กอีกที อันเป็นส่วนโต๊ะที่ไม่ได้ใช้เนื่องจาก ผบ.ไม่ชอบ(เลยไปซื้อเอาใหม่) ผมเห็นว่าน่าจะนำมาทำเป็นโต๊ะเอาไว้วางจักรเย็บผ้า และข้าวของได้
                จากโครงการ(ซ้อมมือ)ชิ้นนี้เองทำให้ผมต้องลงทุนซื้อโต๊ะเลื่อยวงเดือน เลื่อยวงเดือนมือถือ และเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆอีกมากมายเพื่อเอามาทำโต๊ะตัวนี้แหละครับ (ผมว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีครับซื้อของมาหลายอย่างก็ยังไม่ได้ใช้เลย)  
                หลังจากที่รวบรวมรายการที่จะซื้อพร้อมทั้งสำรวจราคาเบื้องต้นแล้ว ผมจึงเดินทางไปบางโพ ถนนสายไม้ทันทีทั้งที่ไม่เคยเข้าไปในซอยนี้มาก่อนเลย เพียงแต่เคยผ่านสมัยเด็กๆ เพราะบ้านผมอยู่แถวบางกรวย สะพานพระราม 6 (ปัจจุบันมีสะพานพระราม 7 เป็นสะพานคู่ขนาน) จำได้ว่าเป็นวันเสาร์ โดยที่ก่อนไปผมก็ศึกษาข้อมูลต่างๆจาก Catalog จากนิตยสารต่างๆเกี่ยวกับงานไม้ที่เขาทำการ Review กันว่าเครื่องมือตัวไหนดี ไม่ดีอย่างไร แล้วหาดูว่าที่เขาว่าดีกันมันมีขายในบ้านเราหรือไม่ซึ่งก็เป็นข้อดีที่ทำให้ผมได้รู้จักเครื่องไม้เครื่องมือมากขึ้น(แต่ยังไม่เคยใช้) ผมอ่านแม้กระทั่งคู่มือการใช้งานของเครื่อง รวมถึงดูวิดีโอการใช้งานของเครื่องมือแต่ละชนิดมาก่อนแล้ว     
               ร้านที่ผมไปซื้อเครื่องมือที่บางโพ ก็ไปตามคำแนะนำที่ได้มีการแนะนำกันใน Thaicarpenter.com นี่แหละครับเพราะผมก็ไม่รู้จักร้านไหนมาก่อน ซื้อเครื่องตามรายการที่จดไป รวมถึงได้เครื่องดักเก็บฝุ่นของ Bigwood ด้วยทั้งที่ผมไม่รู้มาก่อนว่าเขามีขายในประเทศไทย เลยทำให้ได้ของเพิ่มอีก ร้านก็ดี๊ดีแนะนำผมให้ซื้อโน่นซื้อนี่เพิ่มเติมอีกมายมากกว่าที่ผมได้ทำรายการไปอีกหลายรายการ รวมถึงเอฟ แคล้มป์สั้นๆ อีกเป็นสิบตัว รวมถึงบาร์แคล้มป์ที่ทำจากเหล็กยาวประมาณ 1.5 เมตรอีก 2 ตัว (ที่ผมยังไม่เคยได้ใช้มันจนทุกวันนี้ เพราะมันหนักมากๆ เหตุที่ไม่รู้ก็เพราะผมไม่ได้เอาของที่ซื้อมาเอง เพราะไม่มีรถปิ๊กอัพที่จะขนเอง ดังนั้นทางร้านเขาจึงเอาของทั้งหมดมาส่งให้ถึงที่เลย สงสัยซื้อเขาเยอะเลยบริการส่งถึงที่)
                วันที่เขาเอาของมาส่งเป็นวันจันทร์ (เป็นแผนผมเองเพราะถ้าให้เอามาส่งวันหยุดผมซวยแน่) เป็นวันที่ ผบ.ไม่อยู่ไปทำงาน เมื่อของมาส่งตามที่นัดแนะกัน ผมก็รีบแยกของชิ้นเล็กที่พอที่จะใส่ในตู้ได้ก็เอาไปใส่ตู้เพราะผมเตรียมตู้เหล็กแบบเปิดหน้า 2 บาน(สูงประมาณ 2 เมตร) ที่ใส่เอกสารทั่วๆไปไว้ 3 ใบเพื่อใส่ของโดยเฉพาะ ส่วนที่ขนาดใหญ่หน่อยก็เอาเก็บไว้ในห้องใต้บันได ส่วนที่ใหญ่มากๆพวกปั้มลม โต๊ะเลื่อย อะไรพวกนี้ก็เอาไว้ข้างนอก (แต่ก็ยังอยู่ในโรงรถเพราะไม่รู้จะเอาไปหลบที่ไหน) เนื่องจากไม่กล้าให้ ผบ.เห็นนะครับ (ไม่ได้กลัวแต่เกรงใจ และจะต้องโดนบ่นและเหน็บแนมไปอีกนานนนนน) 
                ลงทุนครั้งใหญ่ในการเริ่มซื้อเครื่องมืองานไม้มาแล้วทำให้ต้องเริ่มงานเสียที ช่วงที่เริ่มทำตอนนั้นผมก็ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้นะครับเพราะคิดว่าทำไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก (แต่ก็ถูกกดดันอยู่เป็นพักๆว่าทำไปถึงไหนแล้วผมก็ได้แต่บอกว่ากำลังดูๆอยู่แต่ในใจก็คิดว่าจะเริ่มงานอย่างไรดี) ผมจึงเริ่มด้วยการไปหาซื้อไม้ที่ร้านขายไม้ใกล้บ้านก็ได้ไม้อัดมาหลายแผ่นหลายขนาด พร้อมทั้งไม้จ๊อย ไม้อื่นๆเช่นไม้ยาง ไม้แอช ไม้เปอร์เชียและไม้สนอีกจำนวนหนึ่ง กับเผ่นลามิเนตสีขาวอีก 3 แผ่นที่ซื้อมาหลายอย่างทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรเพราะซื้อน้อยก็ต้องเอามาเองเราก็ไม่มีรถไปขนเลยซื้อไปจำนวนหนึ่งเพื่อให้เขาเอามาส่งให้  
                เมื่อเริ่มจะทำก็มองดูชิ้นส่วนแล้ว สิ่งที่ผมจะทำก็แค่ขาโต๊ะอีกข้างเดียวซึ่งไม่น่าจะยาก และขาเดิมข้างหนึ่งที่มีอยู่ก็เชื่อมกันด้วยเดือย (Dowel) และตัวล็อกสำหรับเฟอร์นิเจอร์น็อกดาวน์ผมก็กะว่าจะทำแบบนั้นเหมือนกัน โดยผมก็ไม่เคยทำมาก่อน ขั้นแรกผมก็ลองตัดไม้อัดขนาด 20 มม.ให้เป็น 3 ส่วนก่อนเพื่อให้สามารถยกได้ง่าย โดยตัดแบบ cross cut ด้วยเลื่อยวงเดือนแบบมือถือขนาด 7-1/2" ของ BOSCH (Circular saw)ก่อน โดยใช้แผ่นไม้ยาวเป็นไกด์ในการตัด ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีโอกาสได้ใช้มัน (แรกๆก็กลัวนะครับจับอย่างแน่นเลย) ยอมรับว่ากลัวแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะไม่ค่อยตรงนักเพราะการเดินเลื่อยมันไม่สม่ำเสมอ เพราะเป็นการตัดครั้งแรก แต่คิดว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยเอาไปตัดต่อด้วยโต๊ะเลื่อยวงเดือนโดยใช้รั้วตัดก็ได้ เมื่อตัดแผ่นได้ขนาดตามความต้องการแล้ว 2 แผ่นจึงเอามาทดลองก่อนด้วยการต่อชนกัน 90 องศาเพื่อทดสอบการเชื่อมต่อกันก่อนว่าจะตรงดีไหม แต่เจาะรูเพื่อฝังเดือยไปหลายรูด้วยสว่านมืออย่างไรมันก็ไม่ตรงสักที เอาเดือยเชื่อมประกบแผ่นไม้ทั้ง 2 ไม่ได้สักที (ท่านที่เคยเจาะรูเพื่อยึดไม้ 2 แผ่นเข้าด้วยกันโดยไม่ใช้จิ๊กคงจะทราบดี เพราะโอกาสที่รูไม่ตรงกัน หรือเอียงมีสูงมาก) ยิ่งต้องเจาะหลายรูยิ่งยากเข้าไปอีก สุดท้ายจึงประกบต่อกันไม่ได้ครับ ตรงรูหนึ่งที่เหลือเบี้ยว จนยอมแพ้เลยครับ
              เอาละซิทำไงดี คิดในใจว่างานช้างเข้าแล้วทำไมมันถึงมีรายละเอียดและยากกว่าที่คิด เมื่อเป็นเช่นนั้นผมจึงเริ่มมองหาเครื่องมือที่จะช่วยให้เจาะเดือยได้ตรงๆมาช่วย แล้วก็เคยเห็นที่ Thaicarpenter.com  มีจิ๊กเจาะเดือยกลม (Dowel Jig)ทำมาขายจึงเข้าไปดูแต่ที่เว็บก็ขึ้นแต่คำว่า *** ของหมด*** ตลอด(ผมนึกอยู่ในใจเหมือนกันว่าร้านของคุณอนุชิตนี่ของหมดเยอะมากเลยหลายรายการ ท่าทางจะขายดี)  เพราะผมมาอ่านที่ webboard ก็เห็นมีหลายท่านเข้าไปถาม ก็ได้รับคำตอบว่าก็ว่ายังไม่มีกำหนดว่าจะมีมาขายอีกเมื่อไร แรกๆตั้งใจว่าจะซื้อมาใช้  ผมท้อใจจึงหยุดงานไม้ไว้ก่อน (อีกครั้ง)

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 15:20:00


ความคิดเห็นที่ 37 (1539446)
avatar
น้องๆในเว็บคร๊าบ

จบแบบนี้ ผมก็ชักอยากรู้แล้วสิพี่เอ็ม ว่าจะเป็นไงต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องๆในเว็บคร๊าบ วันที่ตอบ 2012-11-05 16:21:09


ความคิดเห็นที่ 38 (1539479)
avatar
sornid

อยากเห็นแล้วครับ ไม่ได้กดดันแต่มารอชมครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-05 19:33:29


ความคิดเห็นที่ 39 (1539850)
avatar
เซี่ยง ช่างไม้หน้าโหด

งานไม้ซึมเข้าไปในสายเลือด

ต่อไปจะเป็นพวกเดียวกัน

"เห็นไม้มอง....สาวเห็นเมิน...."

ผู้แสดงความคิดเห็น เซี่ยง ช่างไม้หน้าโหด วันที่ตอบ 2012-11-06 15:43:05


ความคิดเห็นที่ 40 (1540147)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ขาโต๊ะที่จะต้องทำต่อเพิ่มเข้าไป (ที่เห็นเป็นขาโต๊ะส่วนที่เป็นสีน้ำเงิน)

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 13:50:03


ความคิดเห็นที่ 41 (1540150)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 1:

EPISODE 4: ผู้เข้ารอบประกวด

                ระหว่างที่หยุดงานโครงการไปผมก็ศึกษาดูว่าจะเชื่อมขาโต๊ะกันได้อย่างไรบ้าง หลังจากที่ทำการค้นคว้าจากหนังสือหรือนิตยสารงานไม้ของต่างประเทศ รวมถึงวิดีโอต่างๆ สรุปแล้วผมได้คำตอบว่า มีอยู่ 5 แบบ ที่เหมาะกับงานผมได้แก่ Dowel Jig, Festool Domino, Beadlock Jig, Pocket Hole Jig และ Biscuit Jointer แต่ก็ยังไม่ทราบว่าจะเลือกตัวไหนที่เหมาะกับงานที่กำลังทำอยู่และไม่แพงจนเกินไป 
                เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วผมก็เริ่มค้นหาว่าในประเทศไทยมีอะไรขายบ้างก่อนที่ประหยัดที่สุดคืออะไร เพราะถ้าจะต้องสั่งเข้ามาคงไม่คุ้มแน่คำตอบที่ได้คือ
Dowel Jig เพราะราคาถูกที่สุดในทางเลือกทั้งหมดที่มี และได้พบว่าทาง Thaicarpenter.com ทำขายเหมือนกันจึงเข้าไปดูที่เวป(แต่ดูเหมือนจะขายดีเพราะ ของหมด) ทำให้ต้องเลือกทางออกทางอื่น (แต่ก็ยังได้ซื้อมาใช้ครับ.... กว่าจะมีขายก็ช่วงปลายปี 2554) หากจะรอสงสัยจะไม่ได้ทำแน่ ส่วน Domino ของ Festool จัดจำหน่ายโดย Hafele (Thailand) จึงโทรไปสอบถามถึงได้ทราบว่าราคาประมาณ 40,000 กว่าบาทและได้ไปทดลองใช้ที่งานรวมพลคนรักงานไม้ครั้งที่ 6 (เป็นครั้งแรกที่ไปร่วมงานนี้) ซึ่งก็ชอบมาก แต่ราคาดูแล้วจะเว่อร์ไปหน่อย จึงมองหาทางเลือกอื่นต่อไป 
                หลังจากพิจารณาลักษณะการต่อชนแผ่นไม้แบบ
90 องศาตามแบบที่ผมจะใช้สามารถทำได้ดีด้วย Pocket Hole Jig ซึ่งก็มีของ Kreg ที่มีผู้สั่งเข้ามาขาย(แต่ตอนหลังก็ซื้อมาใช้ตอนป้องกันน้ำท่วมบ้านเหมือนกัน) แต่อาจไม่เหมาะกับงานนี้เพราะมันจะเป็นรูต้องมีจุกอุดรอยเจาะ ดังนั้นจึงจะเหมาะกับการต่อเชื่อมแบบซ่อนๆ ส่วน Domino และ BeadLock อาจจะไม่เหมาะเพราะลักษณะจะคล้ายกับการต่อด้วยเดือยเหลี่ยม (Mortise and Tenon) และ Domino ก็แพงเกินไป
               ดังนั้นหนทางสุดท้ายจึงมุ่งไปที่ Biscuit Jointer พยายามค้นคว้าหาคำตอบอยู่ในที่สุดก็ทราบว่ามีที่ทำขายอยู่หลายยี่ห้อได้แก่ Lamello, Bosch, Craftman, Freud, Porter Cable, Dewalt, Ryobi และ Makita เป็นต้น 
               Lamello, Craftman, Freud และ Porter Cable 4ยี่ห้อที่ว่านี้ก็ไม่มีขายในประเทศ จึงเหลือ Bosch, Dewalt Ryobi และ Makita ที่เป็นยี่ห้อที่มีสินค้าจำหน่ายในประเทศไทย แต่ Bosch, Dewalt และ Ryobi ไม่ได้นำ Biscuit Jointer เข้ามาขาย ทางออกสุดท้ายคือ Makita โชคดีมากที่ Makita นำ
Biscuit Jointer เข้ามาจำหน่าย เป็นรุ่น 3901 จึงรีบติดต่อซื้อมาสำเร็จด้วยวงเงิน 12,xxx บาท และแผ่น Biscuit ของ Hafele อีกอย่างละกล่อง รวม3 ขนาด 3 กล่อง@1,000 ชิ้นราคาตกชิ้นละ 2บาทเศษๆ ทำให้ผมได้กลับมาเริ่มงานไม้ได้ใหม่อีกครั้งประมาณ 2-3 เดือนหลังจากนั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 14:00:30


ความคิดเห็นที่ 42 (1540153)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

EPISODE  5: อัศวินม้าขาว  

           หลังจากที่ได้ Biscuit Jointer มาผมก็เริ่มทดลองกับแผ่นไม้ตัวอย่างก่อนเพื่อดูว่าจะตั้งมันอย่างไร และต่อได้เรียบดีไหม ซึ่งผลปรากฏว่าดีเกินคาดเพราะเจ้า แผ่นบิสกิต (Biscuit) นี่มันสามารถเคลื่อนตัวได้เล็กน้อยในแนวนอน แต่จะไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ในแนวตั้ง ทำให้สามารถเชื่อมต่อไม้กันได้โดยง่าย และการเจาะจะถูกควบคุมด้วยรั้วหรือตัวบังคับที่ปรับระดับสูงต่ำตามความหนาของไม้ที่เราจะเซาะร่องเพื่อใส่แผ่นบิสกิต ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องความแม่นยำในการเจาะ
          เมื่อทดลองแล้วผมก็เริ่มทำจริงแล้วครับ เริ่มจากการตัดขาโต๊ะจากไม้อัดขนาด 20 มม. ให้เท่ากับขาโต๊ะอีกข้างที่มีอยู่ด้วยโต๊ะเลื่อยเมื่อได้ขนาดก็เอามาขัดเล็กน้อยแล้วก็ปิดทับด้วยแผ่นลามิเนตสีขาวด้านทั้ง 2 ด้านด้วยกาวยาง ก็ทุลักทุเลพอสมควรแม้ว่าจะได้ลองดูก่อนแล้วก็ตาม ที่ยากก็คือผมต้องตัดแผ่นลามิเนตติดด้านข้างด้วยซึ่งยากมาก (เนื่องจากตอนนั้นไม่ทราบว่าเขามีวีเนียร์ปิดขอบขายเป็นม้วนด้วย) และใช้ทริมเมอร์ตบแต่งขอบให้เรียบ (จริงๆแล้วก็ไม่ค่อยเรียบเพราะมือยังไม่นิ่งทำให้กินผิวหน้าของแผ่นวิเนียร์ไปบ้างเหมือนกัน) ตามวิดีโอที่คุณอนุชิตทำไว้ให้ดูใน Thaicarpenter.com นี่แหละครับ

         จากนั้นก็ทำการเซาะร่องด้วย Biscuit Joiner เพื่อใส่แผ่น Biscuit ทั้งที่แผ่นพื้นโต๊ะด้านล่าง และที่มุมบนของขาโต๊ะที่ผมทำขึ้นมา เอ๊ะง่ายดีนี่ (ผมคิดอยู่ในใจ) คิดว่าจะเสร็จเสียที่ จึงรีบประกอบเข้าไปโดยยังไม่ได้ติดกาว เพื่อความแน่ใจ ผมลองตั้งโต๊ะตัวนี้ดู เฮ้ย.... มันโยกไปมาได้นี่นา คิดอยู่ว่าน่าจะต้องเป็นอย่างนั้นเพราะเขาออกแบบไว้ให้ยึดกับผนังมันจึงอยู่ได้โดยไม่โยก แต่แรกๆก็ลืมนึกไป เอาละซิทำไงดี เพราะลืมคิดไปว่ามันตั้งชนกัน 90 องศาด้วยจุดยึดนิดเดียวจึงทำให้มันโยกได้ จึงคิดว่ามันจะต้องมีจุดยึดกันหลายๆจุดจึงจะตั้งอยู่ได้โดยไม่โยก
           คืนนั้นผมคิดอยู่ว่าหากต้องตัดแผ่นลามิเนตยาวๆเพื่อปิดขอบไม้แผ่นด้านหลังคงแย่แน่เพราตัดสั้นๆแค่ปิดขอบแผ่นขาโต๊ะก็หักไปหลายอัน จึงลองค้นๆทางอินเตอร์เน็ตดูว่าเขาทำกันอย่างไร ผมไปสะดุดคำๆหนึ่งเข้าคือ "พีวีซี ปิดขอบ" หรือ “วิเนียร์ปิดขอบ” จึงเข้าไปดูถึงได้รู้ว่ามันเป็นแบบม้วนไวนีล มีหลากสีหลายขนาด จึงดีใจเป็นหนักหนาเพราะมีทางออกแล้ว
          วันรุ่งขึ้นผมจึงรีบไปร้านขายไม้ใกล้บ้าน ปรากฏว่าร้านแรกไม่มีจึงไปร้านที่ 2 แจ๊คพอตเลย มีครับผมจึงได้มันกลับมา 2 ม้วน 2 ขนาด(เพราะไม่แน่ใจเรื่องขนาดเลยซื้อมา 2 ขนาด) เมื่อกลับมาถึงช็อปผมเลยต้องตัดแผ่นไม้สำหรับติดด้านหลัง แล้วทำการปิดผิวด้วยแผ่นลามิเนตซึ่งเป็นงานที่ยากมากเพราะแผ่นมันใหญ่ เพราะตอนที่ทำแผ่นขาโต๊ะก็แทบจะไม่รอดอยู่แล้ว อันนี้มันใหญ่กว่าเยอะ .....

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 14:12:58


ความคิดเห็นที่ 43 (1540155)
avatar
จ๊อด

มาตามอ่านอยู่นะครับพี่ ^^

ผู้แสดงความคิดเห็น จ๊อด วันที่ตอบ 2012-11-07 14:29:28


ความคิดเห็นที่ 44 (1540157)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณ Sornid น้องๆในเว็บ  และคุณจ๊อด

 
ขอบคุณที่เข้ามา กดดู (กดดัน)ครับ
 
คุณ เซี่ยง
 
ยังไงก็ยังมองสาว (ที่บ้าน) ก่อนนะครับ เอ ... แต่กระทู้ที่คุณเซี่ยงไปเล่าเรื่องราวเครื่องมือชิ้นโปรดไว้เขาตามตัวกันอยู่นะครับ รีบๆกลับไปนะครับผมก็ไปรอคุณเซี่ยงอยู่เหมือนกัน ตอนนี้เขาจะไปแจ้งความคนหายกันอยู่แล้วนะครับ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-07 14:40:17


ความคิดเห็นที่ 45 (1540251)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ตัวอย่างการเชื่อมโต๊ะด้วย แผ่นบิสกิต (Biscuit) ที่ผมใช้

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 05:15:25


ความคิดเห็นที่ 46 (1540252)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

แผ่นหลัง(แผ่นสีเหลือง) ที่ต้องติดเพิ่มเข้าไปเพื่อยึดโต๊ะไม่ให้โยก

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 05:27:16


ความคิดเห็นที่ 47 (1540253)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 แผ่นวางของใต้โต๊ะ (แผ่นสีแดง)เพื่อยึดขาโต๊ะทั้ง 2 เข้าด้วยกันและเอาไว้เป็นที่วางของใต้โต๊ะในตัว

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 05:31:12


ความคิดเห็นที่ 48 (1540255)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 

EPISODE 6: ประกอบร่าง

 

         ระหว่างที่รอให้ลามิเนตแผ่นด้านหลังแห้ง (แผ่นสีเหลืองตามรูปความเห็นที่ 46-47) ผมก็คิดว่าถ้าเราทำแผ่นเพื่อยึดขาโต๊ะตรงกลางเข้าด้วยกัน (แผ่นสีแดงตามรูป) จะทำให้โต๊ะมั่นคงยิ่งขึ้นและยังสามารถเอาไว้เป็นที่วางของใต้โต๊ะได้ด้วยอีกแผ่น เมื่อทุกอย่างพร้อมผมจึงทำการวัดและตัดแผ่นไม้อัดขนาด 20มม.เพื่อเป็นแผ่นยึดขาโต๊ะด้านล่างปิดทับด้วยแผ่นลามิเนตทั้ง2ด้านพร้อมปิดทับขอบด้วยวิเนียร์ที่ขอบเฉพาะด้านหน้าด้านเดียว (เพราะด้านอื่นจะต้องใส่แผ่นบิสกิตและติดกาวเข้ากับแผ่นขาโต๊ะทั้ง 2ข้างและแผ่นด้านหลังตลอดแนว) จากนั้นจึงเจาะเซาะร่องด้วย Biscuit Jointer ด้านที่จะเชื่อมกันด้วยความระมัดระวังและทดลองประกอบมันเข้ากับตัวโต๊ะโดยยังไม่ได้ติดกาว โอ้โห ยึดกันได้ดีเหมือนฝันเลยครับขนาดยังไม่ติดกาวนะเนี่ย จากนั้นผมก็จัดแจงถอดประกอบออกจากกันเพื่อจะทำการติดกาว 

         เอาละซิระหว่างนั้นผมเกิดนึกขึ้นได้ว่าแล้วเราจะยึดมันอยู่ด้วยกันก่อนที่กาวจะแห้งได้อย่างไร โต๊ะมันก็ยาวด้วยตั้ง 160 ซม. แคล้มที่ผมมีก็ไม่เกิน 150 ซม.อยู่ 2 อันนอกนั้นป็น เอฟแคล้มป์ สั้นๆ จะไปซื้อแค้มป์ยาวๆก็ไม่รู้ว่าจะมีขายไหมเพราะตอนซื้อ บาร์แคล้มป์มา ทางร้านก็บอกว่ายาวสุดแล้ว หรือหากหาได้แล้วจะเอามาอย่างไร แล้วตอนนั้นก็เครื่องติดแล้วอยากติดกาวเพื่อเอาไปโชว์ ผบ. ว่าทำให้เสร็จแล้วนะ หลังจากเดินไปเดินมาอยู่หลายรอบก็ไปเจอเอาเชือกป่านมนิลากับเกลียวเร่ง ที่ซื้อไว้สำหรับยึดต้นไม้ล้อม ที่เอามาปลูกใหม่ไม่ให้โดนพายุล้ม หรือหากเอนก็สามารถดึงให้ตั้งตรงได้ จึงเอามาทดลองมัดด้านบนและด้านล่างแล้วลองกวดเกลียวเร่งดู เออ..ใช้ได้นี่ (เป็นที่มาที่ผมต้องหา แคล้มป์ท่อ (Pipe Clamps) มาใช้ในเวลาต่อมา)
         เมื่อลองได้ที่แล้วผมจึงจัดแจงแยกชิ้นส่วนออกจากกันเพื่อทากาวทีละชิ้นๆ (ข้อดีของเจ้า แผ่นบิสกิต
 นี่คือเมื่อมันโดนกาวมันจะพองตัวทำให้แน่นมากๆ) แล้วทำการประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกันด้วยความดีใจ เสร็จแล้วเอาเชือกรัดโดยเอาเศษไม้และกล่องกระดาษรองตามมุมซะหน่อยเพื่อไม่ให้โต๊ะเป็นรอยหลังจากนั้นก็กวดเกลียวเร่งให้พอแน่น เพื่อยึดชิ้นส่วนให้แนบสนิทกันระหว่างรอให้กาวแห้ง
         ผลงานใกล้จะสำเร็จแล้วด้วยความดีใจ คืนนั้นนอนแทบไม่หลับเพราะรอให้กาวที่ติดไว้แห้ง  รุ่งเช้าตื่นขึ้นแต่เช้ารีบเข้าไปดูที่ช็อปรู้สึกปลื้มใจ
(ท่านที่เคยทำงานชิ้นแรกเสร็จด้วยมือท่านเองจะทราบความรู้สึกนั้นได้ดี) อย่างบอกไม่ถูก

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 05:41:46


ความคิดเห็นที่ 49 (1540256)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 1:

EPISODE 7: ชักสนุก             

 

             รุ่งเช้าตื่นขึ้นแต่เช้ารีบเข้าไปดูที่ช็อปรู้สึกปลื้มใจว่าเราก็ทำได้เหมือนกันนี่นา (ท่านที่เคยทำงานชิ้นแรกเสร็จด้วยมือท่านเองจะทราบความรู้สึกนั้นได้ดี) รีบไปเรียก ผบ.มาดูผลงานที่ผมทำให้แกเสร็จแล้ว

 

           แกบอกว่า....สวยดีนี่ ไม่คิดว่าจะทำได้สวยขนาดนี้ ประหยัดดีไม่ต้องเสียเงินซื้อ ผมละยิ้มแก้มแทบปริเลย จากนั้นก็รีบคลายเชือกที่รัดออก ตรวจดูสภาพต่างๆเมื่อไม่มีอะไรเสียหาย (แม้ว่ามันจะไม่ค่อยสนิท 100% เหมือนที่เราใช้แคล้มป์ยึด) แล้วจึงเริ่มเจาะรูเพื่อติดขารองโต๊ะแบบที่ปรับความสูงได้เพื่อปรับระดับให้โต๊ะไม่กระดกหากพื้นส่วนหนึ่งส่วนใดมีระดับที่ไม่เท่ากัน แล้วทำการฝังตัว T-nut ไว้ที่ขาโต๊ะ จากนั้นจัดแจงทำความสะอาดอีกครั้งก่อนส่งงาน เสร็จเรียบร้อยจึงวานให้ ผบ. มาช่วยยกโต๊ะเข้าไปในบ้านและวางใช้มาจนทุกวันนี้ (แต่ดูเหมือนจะเป็นโต๊ะที่เอาไว้เก็บจักรเย็บผ้ามากกว่า เพราะเห็นเวลาแกจะเย็บผ้าก็ยังเอามาเย็บบนโต๊ะทานข้าวเหมือนเดิม ???)
                หลังจากที่ทดลองทำงานชิ้นแรกเพื่อซ้อมมือแล้ว (แม้ว่าจะใช้เวลาไปหลายเดือนก็ตาม)  แกคงเริ่มที่จะเห็นแววว่าผมก็มีฝีมือพอใช้ได้ (หรือเปล่า) นี่จึงมอบหมายงานให้ใหม่คือ ให้ซ่อมเปลี่ยนไม้ม้านั่งสนามให้ใหม่ เพราะมันตากแดดตากฝนมาแรมปี (เป็นม้านั่งสนามที่ซื้อมาจากโฮมโปร ทำมาจากจีนไม้ที่ใช้ทำก็ไม่ใช้ไม้เนื้อแข็งใช้ไปปีกว่าๆก็เริ่มผุพังแล้ว) และโต๊ะวางตุ๊กตาสังกะสีในสวน ซึ่งผมดูแล้วก็ไม่ยากมากและจะได้เป็นการซ้อมมือก่อนทำโครงงานให้เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงๆเสียที
               เนื่องจากเท่าที่ดูแล้วก็แค่ตัดไม้ แล้วเอาเร้าเตอร์ลมมุมก็ใช้ได้แล้ว ส่วนที่จะยากหน่อยก็คงเป็นที่พนักพิงที่ต้องมีการตัดโค้งนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่ยากเกินความสามารถ จึงเริ่มขั้นตอนในการถอดไม้เก่าออกก่อน ....

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 05:59:56


ความคิดเห็นที่ 50 (1540257)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

Season 2

Episode 1: ซ้อมมือ 

          ............... ซ่อมม้านั่งสนามตัวนี้แหละครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 06:19:40


ความคิดเห็นที่ 51 (1540434)
avatar
i3ird

สุดยอดครับพี่เอ็มเป็นกำลังใจให้นะครับในฐานะคนหัวอกเดียวกันที่โดนผบ.ค่อนแคะอยู่บ่อยๆเขียนได้สนุกน่าติดตามมากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น i3ird (bird-togo-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-08 11:13:22


ความคิดเห็นที่ 52 (2922682)
avatar
อนุชิต

ครับ ผมก็ลุ้นพี่เอ็มอีกคน ผมกลัวว่าตอนเช้ามาแกะออก มัน ครืนนนน.... ลงมาเลย 555 ล้อเล่นน่ะครับพี่

แต่ที่พี่ทำแบบได้ด้วยนี่มันดีมากเลยครับ มองภาพออกเลย ผมเองยังต้องมาฝึกกับเขาบ้าง ใช้แต่มือลากๆ ไม่ทันสมัยกับเขา

ขอบคุณครับ สมกับคำคมที่ว่า  "ทุกอย่าง ต้องมีครั้งแรกเสมอ..."   เอหรือว่า   "ครั้งแรก เกิดขึ้นได้ทุกวัน" ดีพี่ ...

รักพี่ๆน้องๆทุกคนครับ ตายไปก็เอาไรไปไม่ได้ จริงๆครับ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อนุชิต วันที่ตอบ 2012-11-08 22:58:31


ความคิดเห็นที่ 53 (2922689)
avatar
เอ๋ เพาะช่าง
image

พี่เอ็มพูดถึงผลงานชิ้นแรก ทําให้ผมนึกย้อนไปถึงผลงานชิ้นแรกของผม
ช่างกล้าหาญมากมีคนมาจ้างผมทําชั้นรองเท้า พี่เอ๋ยยยยย...ชํ้าใจมาก

1.ผมไม่มีคนแนะเลย
2.เครื่องมือก็น้อย เลื่อยวงเดือนไม่มี ปั๊มลม ปืนไม่มี
ถึงมีก็ใช้ไม่เป็น เงินก็ไม่มีซื้อ ถึงมีเงิน ก็ซื้อไม่ถูกอีกว่าจะซื้อแบบไหน

การขึ้นชิ้นงานไม่มีวิธีที่ถูกต้องมีแต่วิธีที่ต้องมั่ว
ตอนนั้นผมใช้ไม้อัดสน เดี๋ยวนี้ไม่รู้มีเปล่าไม่ค่อยเห็น โครงสนเหลือง
เลื่อยลันดา ใช้ตะปูเข็มตอก ทําสีธรรมชาติ

เหนื่อยทั้งใจ และกาย ไปถามช่างก็ไม่มีใครบอก บ่ายเบี่ยงเฉไฉไปเรื่อย
พูดได้ว่า เริ่มท้อตั้งแต่งานชิ้นแรกเลยครับ

แต่ในที่สุดก็สําเร็จ แบบไม่ได้เรื่อง ส่งลูกค้ารู้จักกัน ในราคาที่ถูกมากๆ
ทุกวันนี้ถ้าชั้นนั้นยังอยู่อยากจะขอซื้อกลับมาเป็นเครื่องเตือนใจเลยว่า
นี่คือผลงานชิ้นแรกของฉัน

เพราะลูกค้าคนนั้นรับงานผมได้ คือเหมือนเป็นการให้โอกาสเรา
ผมจึงมีผลงานชิ้นที่2  3  4    5.....มาตลอดจนถึงชิ้นนี้ครับพี่เอ็ม
เคาว์เตอร์โค้ง แบบหวานๆ
http://www.facebook.com/media/set/?set=a.546210668725968.143163.100000111203946&type=1
สดๆร้อนๆครับพี่5555........บ่นเยอะไปหน่อยต้องขออภัยครับพี่เอ็ม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (a_houvthak-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 00:37:37


ความคิดเห็นที่ 54 (2922738)
avatar
ไผ่ตง

ชอบเรื่องราวของพี่เทอดศักดิ์ สนุกมากครับ จะรออ่านต่อนะพี่ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ไผ่ตง (konbapa-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-11-09 12:10:59


ความคิดเห็นที่ 55 (2922784)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณi3ird

ขอบคุณคร๊าบที่เข้าใจคนหัวอกเดียวกัน วันนี้มาอีกแล้ว สดๆร้อนๆเลย แกบอกผมมา2-3 เดือนแล้วว่าอยากได้ชั้นหนังสือเล็กๆ 2-3 ชั้นเอาไว้ข้างหัวเตียง คงรอไม่ไหววันนี้แกไปซื้อ แบบน็อคดาวน์ มาเแล้วเจ็บจั้ยเจ็บใจ แถมเอามาให้เราประกอบให้อีก แต่ก็ต้องก้มหน้าก้มตาประกอบให้แล้วยกขึ้นไปไว้ให้ที่ห้องนอนอย่างเจ็บปวดๆ(แต่ไม่กล้าพูดอะไร สงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นดีที่สุด ณ. เวลานั้น)

         แล้วคุณเบิร์ดเลือกเครื่องมือชิ้นโปรดได้หรือยังครับ จะได้ตามไปอ่านคร๊าบบบ

คุณอนุชิต

    สำหรับการเขียนรูปงานไม้ด้วยโปรแกรม Sketchup ก็เป็นครั้งแรกของผมเหมือนกันครับ เพราะจริงๆแล้วโครงการงานไม้ของผมที่ผ่านมาไม่ได้เขียนแบบเลย ร่างคร่าวๆด้วยมือและคิดไปทำไปเลย เพิ่งจะมาเขียนเพื่อประกอบคำอธิบายเรื่องราวที่ ผมเล่าอยู่ แต่ก็ยังเขียนได้ไม่เก่งมากนัก แต่ต้องเริ่มใช้มัน เพราะเห็นว่าจะมีประโยชน์มากกับงานไม้จริงๆ เพราะมันมีความสามารถในการสเก็ตช์ภาพ ทำให้เราเห็นภาพงานและหมุนดูได้ทุกซอกทุกมุมก่อนลงมือทำ แถมยังมี ปลั๊กอิินหรือโปรแกรมเสริมเช่นความสามารถที่จะคำนวนและจัดทำรายการขนาดของไม้ที่จะใช้ในโครงงาน (cut list) ออกมาได้ด้วย สุดยอดโปรแกรมสำหรับงานไม้จริงๆ ลองดูนะครับ เผื่อจะได้เป็นครั้งแรกอีกงาน เพราะผมว่าครั้งแรกนี่แหละครับแม้จะยากแต่ก็ตื่นเต้นทุกที การเล่าเรื่องของผมทำให้ผมได้มีโอกาสฝึกฝนโปรแกรม Sketchup ไปในตัวด้วยครับ

คุณ เอ๋

ผมน่ะอยากทำเจ้าเฟอร์แบบโค้งๆแบบนี้เหมือนกัน สักวันจะลองทำบ้างตอนนี้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ไปก่อน ครั้งแรกนี่มันประทับใจนะครับคุณเอ๋ ทำให้เราต้องลุ้นด้วยว่ามันจะออกมาอย่างไร แรกๆที่ผมสนใจงานไม้และพยายามหาว่าบ้านเรามีใครที่สนใจ DIY งานไม้กันบ้างหรือเปล่า ก็หวั่นๆใจอยู่เหมือนกัน เพราะคิดว่าหากเราถามใครแล้วเขาก็ไม่บอกเราแล้วจะเริ่มกันได้อย่างไร โชคดีมากที่มี Thaicarpenter.com webboard และมีผู้รู้เยอะแยะมากมายที่ยอมถ่ายทอดความรู้และเทคนิคต่างๆให้พวกเราได้มีความรู้กัน โดยเฉพาะคุณเอ๋ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ยอมสละเวลามาเขียนเทคนิคต่างๆรวมถึงถ่ายรูปไว้ให้ดูทุกขั้นตอน ขอคารวะ

คุณไผ่ตง

ขอบคุณครับ จะเล่าไปเรื่อยๆ เพื่อรอวาดภาพประกอบก่อนครับจะทำได้เห็นภาพไปด้วย เนื่องจากไม่ค่อยได้ถ่ายภาพขั้นตอนต่างๆระหว่างทำไว้ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 17:47:48


ความคิดเห็นที่ 56 (2924105)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

Season 2 

Episode 1: ซ้อมมือ

                หลังจากที่ทดลองทำงานชิ้นแรกเพื่อทดสอบฝีมือ(ที่ไม่ค่อยจะมีแล้ว และแม้ว่าจะใช้เวลาไปหลายเดือนก็ตาม ) ผบ. แกเริ่มที่จะเห็นแววว่า ผมก็มีฝีมือพอใช้ได้นี่นา จึงมอบหมายงานให้ทำเพิ่มอีกคือ ให้ซ่อมเปลี่ยนไม้ของม้านั่งสนามตัวนี้แหละครับ เนื่องจากมันตากแดดตากฝนมาแรมปี (เป็นม้านั่งสนามที่ซื้อมาจากโฮมโปร ทำมาจากจีนและไม้ที่ใช้ทำก็ไม่ใช่ไม้เนื้อแข็ง ทำให้ใช้ไปปีเศษๆก็เริ่มผุพังแล้ว)
                จริงๆแล้วงานหลักสำหรับงานไม้ของผมก็เป็น งาน
DIY จริงๆ คือการซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์และของใช้ต่างๆในบ้านและสวนซะเป็นส่วนใหญ่ ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่เป็นเรื่องเป็นราวเลย ผมทำเพื่อซ้อมมือของผม สำหรับงานนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากไปกว่าการไขสกรูเอาไม้เก่าออกแล้วตัดไม้ใหม่ใส่เข้าไป ซึ่งความจริงแล้วม้านั่งตัวนี้ผมเปลี่ยนไม้ทั้งตัวไป 1 ครั้งโดยครั้งแรกใช้ไม้สน (เนื่องจากยังไม่มีความรู้และประสบการณ์ แค่เห็นมันสวยดีไม่ได้คิดว่ามันอ่อนและไม่ทนแดนทนฝน) ส่วนครั้งที่ 2 เพิ่งจะเปลี่ยนเมื่อก่อนหน้างานรวมพลฯ ครั้งที่ 7 ที่ผ่านมา เนื่องจาก ผบ. แกชวนเพื่อนๆ มาเลี้ยงวันเกิดที่บ้าน (คงกลัวเพื่อนมานั่งแล้วเกิดหัก)ทำให้ผมต้องเปลี่ยนให้ตามคำขอร้อง(แกมบังคับ) อีกครั้ง โดยที่ผมทำการเปลี่ยนเฉพาะพื้นไม้ตรงส่วนที่เป็นที่นั่งเท่านั้น ส่วนตรงพนักพิงยังไม่ได้เปลี่ยนเพราะเห็นว่าไม่ได้รับน้ำหนักและยังมีสภาพพอใช้ได้ (เรื่องของเรื่องคือขี้เกียจตัดโ้ค้งและเอียงมากกว่า แต่คงจะต้องทำอีกเป็นครั้งที่ 3 ละครับเพราะตั้งใจว่าจะเปลี่ยนให้เป็นไม้สักทั้งหมดเลย จึงค่อยตัดใหม่ทีเดียวครับ) ขัดออกนิดหน่อยก็พอใช้ได้แล้วครับ
                การเปลี่ยนไม้ตรงส่วนพื้นที่นั่งก็ไม่ได้ลำบากมากนักเพราะได้ประสบการณ์มาจากการทำโต๊ะวางจักรเย็บผ้ามาบ้างแล้ว
(คุยซะหน่อย) ผมทำการถอดออกมาทั้งหมดแล้ววัดขนาด แล้วตัดออกมาทั้งหมด 5 ชิ้นด้วยโต๊ะเลื่อยวงเดือน ทำการเจาะรูตามแบบเดิม แล้วเอาทริมเมอร์ลบมุมทุกด้านซะหน่อย ก็ออกมาดูดีเหมือนกัน เสร็จสรรพจัดแจงเอาใส่แทนที่ของเก่าเข้าไป โอ้โห ลายไม้สนมันสวยมากเลยครับชอบๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 22:43:09


ความคิดเห็นที่ 57 (2924199)
avatar
สุรชัย

พี่เอ็มทำเหมือน ซีรี่ย์เลยครับมีแบ่งเป็น season เป็น episode ด้วย    รอดูอยู่นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุรชัย วันที่ตอบ 2012-11-16 11:19:46


ความคิดเห็นที่ 58 (2924238)
avatar
spk2004

สุดยอดเลยครับ .... เรียนรู้ด้วยตัวเอง....แล้วลงมือทำ.....

เและขียนได้น่าติดตามมาก ...ช่วงนี้ผมยอมรับเลยว่าเข้ามาอ่านกระทู้นี้บ่อยที่สุดครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น spk2004 วันที่ตอบ 2012-11-16 14:55:20


ความคิดเห็นที่ 59 (2924265)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

*** ทั้งโค้งและเอียงแบบนี้ละครับ ... ตัดยากจริงๆสำหรับคนที่ไม่เคยตัดมาก่อน *** 

                และแล้วงานเข้าอีกแล้วเนื่องจากความยากเริ่มมาเยือน เมื่อทำการถอดไม้พนักพิงออกมามีทั้งหมดรวม 4 ชิ้น คือชิ้นบนและล่างอย่างละชิ้น และด้านข้างสั้นๆอีกด้านละชิ้น ส่วนตรงกลางเป็นอัลลอย เมื่อถอดออกมาเห็นแล้วอึ้งไปเลยคือส่วนด้านบนที่มันโค้งและยังเอียงทำมุมกับอัลลอยอีกประมาณ 10 องศา (ชิ้นอื่นก็เอียงทำมุมกับอัลลอยเหมือนกันแต่มันไม่ได้โค้ง) ไม่ได้ตรงเหมือนกับส่วนที่เป็นม้านั่งนี่นา เอาละซิถอดมาแล้วจะบอกว่าทำไม่ได้ก็เสียชื่อหมด 

       ก็ได้แต่คิดว่าจะทำไงดี จึงลองเอาแบบไปทาบกับไม้ที่จะตัดดูแล้วลอกแบบลงไปก่อน ทั้งๆที่ในชีวิตการตัดโค้งๆก็เคยทำสมัยเรียนชั้นประถม มัธยมที่เคยใช้แต่เลื่อยฉลุกับงานไม้ชิ้นเล็กๆ มาถึงตอนนี้ต้องตัดไม้ชิ้นบะเริ่มเทิ่มทั้งโค้งทั้งเอียงอีก จะเลื่อยด้วยเลื่อยฉลุ(Scroll saw)ก็คงไม่ไหวแน่ (จริงๆแล้วเลื่อย Jigsaw ก็น่าจะพอใช้ได้สำหรับงานนี้ทำไมไม่ได้คิดก่อนนะ จำไม่ได้เหมือนกัน) หรือว่าตอนนั้นหมกมุ่นอยู่กับเลื่อยสายพานของ Jet อยู่ก็ไม่รู้ จึงให้ความสนใจเลื่อยสายพาน เพราะได้ดูจากวิดีโอของฝรั่งหลายเรื่องแล้วเขาจะตัดไม้ที่โค้งๆเอียงๆ ชิ้นใหญ่ๆด้วยเลื่อยสายพานกัน จึงเริ่มสนใจเครื่องเลื่อยสายพาน  แรกๆก็ดูของ JET ขนาด 16 นิ้วอยู่ (เพราะช่วงนั้น ยังไม่มีของ Makita มาขาย เคยห็นในต่างประเทศว่า Makita ทำขายอยู่ขนาดเดียวและรุ่นเดียวเท่านั้น ส่วนที่มีขายบ้านเราจะเป็นของจีนที่เคยไปดูที่บางโพแล้วคุณภาพไม่น่าซื้อเลย เมื่อเทียบกับราคา) แต่ราคาของ JET ประมาณ 50,000 บาท เลยยังไม่ได้ซื้อเพราะดูว่ามันเกินความจำเป็นไปหน่อย จึงรอไปอีกสัก 3-4 เดือนซึ่งเป็นช่วงงานรวมพลฯ ครั้งที่ 6 จึงเห็นของ Makita ที่บางโพ ราคาน่าซื้อไม่แพงนัก จึงได้เลื่อยสายพานมาเพื่อนำมาตัดม้านั่งตัวนี้แหละครับ (แม้ว่ามันจะแพงกว่าม้านั่งสนามตัวนี้ก็เถอะ แต่ผมว่ามันใช้งานได้คุ้ม และใช้มันมาจนทุกวันนี้ แต่ใจก็ยังชอบของ Jet นะ สุดยอดจริงๆ)
                  เมื่อเริ่มแรกก็ลองซ้อมมืออยู่นานเหมือนกันกว่าจะกะน้ำหนักการป้อนไม้และตีโค้งได้ ส่วนเอียงค่อยมาลองทีหลัง หลังจากที่ตีโค้งได้แล้ว และในที่สุดผมก็สามารถตัดไม้ส่วนที่โค้งและเอียงของแผ่นหลังได้หมด เมื่อประกอบเข้าไปทุกชิ้นและขันน๊อต เรียบร้อยก็ทำการขัดไม้ให้เนียน เนื่องจากไม้สนมันอ่อนจึงขัดไม่ยากเมื่อขัดเสร็จก็ลง 
Teak  Oil ตามที่ได้ศึกษามาว่ามันเหมาะกับการทาเฟอร์นิเจอร์ภายนอก
   

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 17:33:32


ความคิดเห็นที่ 60 (2924267)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

*** ม้านั่งสนามที่เปลี่ยนพื้นที่นั่งมา 2ครั้งแล้ว ส่วนพนักพิงเปลี่ยนแค่ครั้งเดียว ***   

       

หลังจากเสร็จผมก็ได้เอาไปโชว์กับ ผบ. แรกๆก็ได้รับคำชมว่าสวยมากลายไม้สวยจริงๆ แต่เมื่อแกลองนั่ง เริ่มมีคำถามว่าทำไมเวลานั่งแล้วมันยวบแอ่นตรงกลางเลยล่ะน่ากลัวหักนะถ้านั่งพร้อมกันหลายคน ผมก็ลองนั่งทดสอบดู เออ มันก็ยวบๆจริง(คงเป็นเพราะไม้สนมันเป็นไม้อ่อนผมเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่ามันจะอ่อนได้ขนาดนี้) แต่ก็แกล้งพูดไปว่าก็นั่งทีละคนซิครับ (เลยโดนสวนเลย ผมเลยต้องสงบเสงี่ยมแล้วค่อยๆเดินจากไปอย่างเงียบๆ) 

         แต่แกก็บอกว่าไม่เป็นไรมีเวลาแล้วค่อยเปลี่ยนใหม่ก็แล้วกัน ซึ่งก็ใช้อยู่ได้มาประมาณปีเศษ ในที่สุดผมก็ทนบ่นต่อไปไม่ไหวต้องเปลี่ยนไม้พื้นตรงที่นั่งเป็นชุดที่ 2 พร้อมกับทำไม้รองด้านใต้ที่นั่งตามแนวโค้งของไม้ อีก 3 อัน เพื่อให้รองรับน้ำหนักได้มากขึ้น ทำให้ผมได้เรียนรู้การตัดโค้งและเอียง รวมถึงการขัดและการลงน้ำมัน Teak Oil เพิ่มมาจากการซ่อมม้านั่งสนามตัวนี้แหละครับ เป็นการสะสมความรู้ด้านงานไม้จากการได้ทดลองทำงาน DIY ชิ้นที่ 2 ที่ยังเป็นแค่การนำของที่มีอยู่มาซ่อมให้สามารถใช้งานได้ใหม่เท่านั้น ยังไม่ได้สร้างอะไรใหม่จาก ศูนย์ให้ได้ตามความฝันเลยครับ แต่ก็ต้องมีสักวันเพราะผมยังเห็นว่าตัวเองยังฝึกฝีมือได้ยังไม่พอที่จะทำงานตามฝันได้ คงยังต้องรอและฝึกฝนต่อไปก่อน

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 17:39:38


ความคิดเห็นที่ 61 (2924276)
avatar
pol

ติดตามอ่านมาตลอด pipe clamp หาซื้อที่ไหนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pol วันที่ตอบ 2012-11-16 19:38:44


ความคิดเห็นที่ 62 (2924278)
avatar
pakae

มันมาก ผมว่าอีกหน่อย ไม่มีโรงรถแล้วร่ะ

มันเริ่มเยอะขึ้นทุกวัน

ระวังจะปิดความลับไม่อยู่

เพราะของผม เล่นถ่ายรูปนับชิ้นเลย

 

ช่วงนี้เลยอดไป

ต้องรอทีเผลอ

ผู้แสดงความคิดเห็น pakae (iampakae-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 20:01:56


ความคิดเห็นที่ 63 (2924291)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

*** แคล้มป์ท่อ สีเหลืองเป็นของ Stanley ส่วนสีส้มเป็นของ Pony ***

คุณสุรชัย/ คุณ spk2004

ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ

 คุณ Pol

1. Pipe clamp ยี่ห้อ Stanley ซื้อได้ที่ Thaicarpenter.com นีแหละครับ(แต่ไม่รู้มีของหรือเปล่านะครับลองสอบถามคุณอนุชิตดูครับ) หรือไม่ก็ที่บางโพ ผมซื้อขนาด 1/2นิ้ว จาก ไทยฟิตติ้งส์โฮม (มีขนาด 1/2 นิ้ว และ3/4 นิ้ว) ส่วนยีห้อ Pony ซื้อได้จาก Truevalue ครับ (มีขนาด 1/2 นิ้ว และ 3/4 นิ้ว)

     ส่วนท่อก็ใช้ท่อประปาเหล็กอย่างหนาหาได้ตามร้านฮาร์ดแวร์ยาวท่อนละ 6 เมตร ผมให้เขาตัดท่อนละ 1-1/2 เมตร ตัดได้ 4 ท่อนพอดี แล้วให้เขาต๊าปเกลียวให้ทั้ง 2 ปลาย ซื้อข้อต่อตรงปิดท้ายกันเกลียวรูดและเอาไว้ต่อเพิ่มความยาวหากใช้ยาวเกิน 1-1/2 เมตร (ผมซื้อท่อมา 2เส้นตัดได้ 8ท่อนพอดีทำให้ได้ Pipe clamp 8ตัว สมใจเลย)

คุณ pakae

ทำช็อปให้มันรกๆไว้ครับจะได้ไม่มีใครเข้าไปยุ่ง และช่วงนี้รถก็อยู่นอกโรงรถแล้วเพราะเครื่องมือของผม กับ สินค้าของ ผบ.แกเองก็เต็มโรงรถแล้วครับ (พยายามจัดอยู่ครับ) แต่ เอ....ขนาดถ่ายรูปนี่ก็เข้าขั้นแล้วละครับ ยินดีต้อนรับคนหัวอกเดียวกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 21:15:39


ความคิดเห็นที่ 64 (2924325)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 2:

EPISODE 2: งานไม้หนีน้ำท่วม

               ช่วงปลายเดือนตุลาคม 2554 เกิดมหาอุทกภัยน้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่ทำให้ผมได้มีเวลาได้ฝึกซ้อมทำงานไม้ไปพร้อมๆกับการเก็บของหนีน้ำท่วม ระหว่างฉุกละหุกกันในช่วงนั้นว่าจะท่วมหรือไม่ท่วม ผมได้เตรียมการสำรองเสบียงไว้โดยก่อนหน้าที่น้ำจะท่วมประมาณ 3 สัปดาห์ผมเห็นว่าท่าทางจะไม่ดีเพราะบ้านญาติพี่น้องรวมถึงบ้านคุณแม่ก็โดนท่วมกันเกือบหมดแล้ว และนับวันดูเหมือนน้ำมันจะโอบล้อมเราเข้ามาทุกทีๆ (ดีที่ผมไม่ค่อยเชื่อรัฐบาลที่ดีแต่พูด) จึงออกไปซื้อของมาเก็บไว้แทบทุกวันไม่ได้ซื้อครั้งละเยอะๆทีเดียวเพื่อให้คนอื่นมีโอกาสได้ซื้อบ้าง พยายามจดรายการและออกไปซื้อกะให้อยู่ได้สัก 1 เดือนเพราะหากท่วมเกิน 1 เดือนก็คงอยู่ไม่ได้แล้วเหมือนกัน มีการวางแผนการอพยพต่างๆยังกับไปรบแน่ะ คิดอย่างเดียวว่าถ้าน้ำประปา กับไฟฟ้า ยังมีอย่างไรก็อยู่ได้ ช่วงนั้นก็มีการแลกเปลี่ยนความรู้ในการป้องกันน้ำท่วมกับหลายท่านใน Webboard นี้รวมทั้งคุณเขมทัตดัวย (เผื่อท่านใดจะทบทวนความหลังนะครับ ว่าพวกเราใน Thaicarpenter.com ป้องกันน้ำท่วมกันอย่างไรบ้าง)
             เมื่อตุนเสบียงได้พอแล้วก็เรี่มที่จะหาทางป้องกันน้ำท่วมและเก็บของโดยเฉพาะเครื่องมืองานไม้นี่แหละครับที่ผมต้องหาทางอพยพขึ้นที่สูง หรือไม่ก็หาทางห่อมัน หากน้ำท่วมก็ให้มันจมไปเลย(แต่ยังอยู่ในถุงที่ห่อไว้) แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทดลองนะครับ เพราะน้ำท่วมเข้าไม่ถึงในหมู่บ้านเพราะมีการทำเขื่อนกั้นไว้อย่างดี อีกทั้งรั้วหมู่บ้านเป็นแบบแผ่นคอนกรีตที่แข็งแรงมาก ผมยังชอบอยู่เลยเพราะหากเป็นอิฐบล๊อกธรรมดาป่านนี้คงแตกและโดนท่วมไปหมดแล้ว (เหมือนอยู่เกาะเลย แพราะด้านนอกท่วมหมดแต่ในหมู่บ้านไม่มีน้ำเลย) 
             ช่วงที่เก็บของหนีน้ำนี่ไม่รู้ว่ามีพลังมาจากไหนแพราะทำให้ผมได้ทำขารองตู้ เก็บของขึ้นตู้โดยปล่อยให่ชั้นล่างว่างไว้กะว่าหาท่วมไม่เกิน 1 เมตรก็คงไม่ีมีอะไรเสียหาย รวมถึงทำชั้นติดผนังเอาไว้ไม้ได้อีก 3 ชั้นใช้เวลาประมาณ 2 วันเสร็จแล้งจึงยกของทุกอย่างที่ไม่สามารถเอาขึ้นไปเก็บบนบ้านได้ก็เอาขึ้นให้หมด เมื่อของทุกอย่างถูกเก็บแล้วก็ทำการสร้างทำนบด้วยถุงทราย และดินปุ๋ยซึ่งผมซื้อปุ๋ยไปประมาณ 150 ถุงกับทรายของหมู่บ้านอีก 35 ถุง ปิดทับด้วยแผ่นพลาสติคสีดำที่เอาไว้รองบ่อนั่นแหละครับพร้อมปั้มจุ่มตัวใหญ่อีก 1 ตัว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้มันจนทุกวันนี้แหละครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 08:29:31


ความคิดเห็นที่ 65 (2924802)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

***** ทำขาก่อน 3 ชุด *****    

   เมื่อมีเวลาว่างจากการป้องกันน้ำท่วม ผมก็ถาม ผบ. ว่าอยากให้ทำอะไรให้ไหม แกบอกว่าอยากได้ม้ายาวๆสัก  2 เมตรเอาแบบง่ายๆแล้วทาสีขาวเพื่อ เอาไว้วางตุ๊กตาสังกะสีของแกในสวน ผมก็เลยจัดแจงร่างแบบ (ในใจ) ว่าจะสร้างมันได้อย่างไร เพราะตอนนั้นก็ว่างอยู่จะได้ฝึกฝีมือและให้ได้มีอะไรทำด้วยจะได้ไม่เครียด เพราะออกไปไหนไม่ได้ ได้แต่วิ่งอยู่ในหมู่บ้าน
       ผมคิดตอนนั้นว่าคงจะต้องเอาวัสดุที่มีอยู่มาทำเพราะคงจะออกไปหาซื้ออะไรไม่ได้แล้ว จึงเอาไม้ที่มีอยู่มาทำ แบบที่ผมทำก็ง่ายๆเป็นม้าสี่เหลี่ยมยาว มีขา 6 ขาเพื่อรับน้ำหนัก ขนาดม้าที่ผมทำขึ้นมา ยาว 76นิ้ว กว้าง 24 นิ้ว และสูง 24-3/4 นิ้ว (ขนาดเป็นไปตามพื้นที่จริงที่จะเอาไปตั้งใช้งานครับ ไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรมากมาย)
       ผมจึงเริ่มจากาารทำขาโต๊ะก่อนให้ได้ขนาดตามต้องการทั้งหมด 3 ชุดด้วยการประกบไม้ 3 แผ่นเข้าด้วยกัน(หนา 3/4 นิ้ว) ติดด้วยกาวและยึดด้วยตะปู (ตอนทำไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยวาดให้ดูคร่าวๆแทนแล้วกันครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 11:01:33


ความคิดเห็นที่ 66 (2924816)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 ***** ทำคานเชื่อมขาทั้ง 3 เข้าด้วยกัน *****

       เมื่อทำขาเสร็จผมก็เริ่มตัดไม้มาทำคานเพื่อเชื่อมขาม้าวางของทั้ง 3 เข้าด้วยกันด้วยการต่อคานไว้บนบังใบของขาโต๊ะ ลักษณะเป็นการต่อไม้แบบ Open Tenon ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 12:11:06


ความคิดเห็นที่ 67 (2924818)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 เมื่อยึดโครงต่างๆกับขาม้าแล้วก็เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คงเป็นการตัดไม้มาทำเป็นพื้นต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 12:36:15


ความคิดเห็นที่ 68 (2924820)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     หลังจากทำโครงเสร็จแล้วผมก็เริ่มตัดไม้เพื่อมาทำพื้นต่อไป โดยเว้นช่องระหว่างไม้เท่ากับความหนาของไม้นั่นเอง เมื่อตัดได้ขนาดแล้วก็ใช้ทริมเมอร์ ทำการลบมุมให้เรียบร้อยซะหน่อย จากนั้นก็เริ่มติดเข้ากับโครงด้วยปืนยิงตะปู หลังจากนั้นก็อุดรอยตะปูก่อนทำการขัดด้วยกระดาษทรายให้เนียนก่อนทาสีขาวเพื่อเคลือบไม้ให้ดูสวยงาม กันน้ำและได้สีพื้นขาวทำให้ตัดกับสีของตุ๊กตาสังกะสีที่จะเอามาวางบนม้านั่งหรือโต๊ะตัวนี้ในสนาม

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 12:47:30


ความคิดเห็นที่ 69 (2924821)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 ขนาดของม้าวางตุ๊กตาสังกะสีประดับสวนที่ผมทำขึ้นครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 12:52:23


ความคิดเห็นที่ 70 (2924822)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 นี่ละครับผลงานของผมที่ได้ทำให้กับ ผบ. ตามคำขอ ซึ่งผมก็ไม่ได้พิถีพิถันอะไรมากนักครับเนื่องจากอยากทำเพื่อซ้อมมือ หาประสบการณ์มากกว่า แต่ผมก็ได้รับคำชมเหมือนกันนะครับ ว่าผมทำได้สวยเหมือนที่แกอยากได้เลย แกจึงจัดแจงรีบเอาตุ๊กตาไปวางตามที่เห็นละครับ เป็นอันเสร็จไปอีก 1 โครงงานของผม

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 12:54:41


ความคิดเห็นที่ 71 (2924825)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       ม้าตัวนี้ปัจจุบันถูกเอามาจัดใหม่ในสวนให้เป็นม้านั่งเล่นสบายๆครับ (แม้ว่าจะไม่สวยมากแต่ที่สำคัญมันเป็นฝีมือเราเองครับ) ที่ภูมิใจมากกว่าซื้อเขาเป็นไหนๆ แล้วก็มีต้นทุนค่าไม้และสีไม่กี่บาท

       หลังจากหมดฤดูน้ำท่วมแล้วผมมีความตั้งใจว่าจะจัดช็อปใหม่เพื่อให้มันเข้าที่เข้าทางและหายรกเสียที จะได้มีโอกาสทำงานไม้ให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็ได้แต่คิด เพราะช่วงนั้นยังไม่มีเวลาได้ทำ เนื่องจากภาระกิจงานเริ่มเข้ามาเยอะ จนไม่ค่อยมีเวลาได้เข้าช็อปเลย ทำให้ผมเรื้อเวทีไปอีกหลายเดือน จนกระทั่งทางชมรมฯได้จัดให้มีงานคุยจ้อคองานไม้ครั้งที่ 1 ขึ้น ในวันที่ 11 มีนาคม 2555 ผมหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องไปร่วมงานให้ได้เพื่อจะได้ชาร์จไฟซะหน่อย เพราะเรื้อเวทีมานาน แต่เหตุการณ์ก็กลับพลิกผัน ทำให้ผมไม่มีโอกาสได้ไปงานนี้ ชนิดที่บ่นหรือพูดอะไรไม่ได้เลยจริงๆ แล้วก็เป็นช่วงเวลาที่ผมได้ทำงานซ้อมมืออีกชิ้น แล้วมาตามกันต่อนะครับว่าผมได้ทำอะไร 
 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 13:00:23


ความคิดเห็นที่ 72 (2925165)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 2:

EPISODE 3: ออกงานโชว์ครั้งแรก

       ช่วงกลางเดือน ก.พ. 2555 ผมได้รับการบอกเล่าจากน้องเขาว่า จะไปออกร้านขายของที่เมืองทองธานี เพราะจะมีงานเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจัดที่ อิมแพค เมืองทองธานี ประมาณต้นเดือน มี.ค. 2555 แต่ก็ยังไม่ได้จองบูท กำลังติดต่ออยู่ หากจองได้ก็จะไปออกร้านเพื่อโปรโมทร้านค้าของแกหน่อย(ปกติแกขายออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต) ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เอะใจสอบถามว่าจะไปช่วงไหนและให้ช่วยอะไรหรือเปล่า เพราะแกบอกเพียงแต่ว่าหากได้บูทก็จะให้ช่วยขนของให้เท่านั้น

      ผมเองก็ใจจดจ่อว่าจะต้องไปร่วมงาน คุยจ้อคองานไม้ช่วงต้นเดือนมีนาคม ให้ได้ ก็เลยไม่ได้สนใจอะไรมากนักเพราะคิดแต่เพียงว่าอย่างมากก็คงช่วยน้องเขาขนของไปส่งให้ที่งานเท่านั้น จากนั้นไม่นานผมก็ได้รับคำบอกเล่า เหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวเลยในราวต้นเดือน มี.ค. 2555 ว่า แกจองบูทได้แล้ว งานจะมีตั้งแต่วันที่ 3-11 มี.ค. 2555 รวมเวลา 9 วัน ต้องการให้ผมช่วยทำชั้นวางของเพื่อโชว์สินค้า พร้อมกับโต๊ะเล็กๆอีกสักตัวสำหรับวางสินค้า และประดับร้านให้หน่อย แล้วก็ไปดูแลร้านให้ด้วยช่วงที่แกไปทำงานประจำของแก (ผมละยืนงงอยู่นานแรกๆบอกว่าไม่มีอะไรแค่เอาของไปส่งและขนของกลับเท่านั้นนี่นา แต่นี่มาแบบสึนามิเลย)
      ตั้งตัวไม่ติดแล้ววันงานวันสุดท้ายก็ตรงกับวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งจะพอดีกับงานคุยจ้อคองานไม้ครั้งที่ 1 ด้วย ทำให้ผมเหี่ยวเลย(นึกในใจว่างานนี้ไม่ได้ไปอีกแล้ว) แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธอะไร แค่ถามด้วยน้ำเสียงนุ่มๆเรียบๆว่าให้ทำอะไรบ้างนะครับอย่างแผ่วเบา
      ผมฟังจนหูอื้อเลยครับ สรุปแล้วทำทุกอย่างเลย ตั้งแต่ขนของ ตบแต่งบูท ทำชั้นวางสินค้า จัดหาอุปกรณ์ตบแต่งร้าน รวมถึงให้ไปขายด้วยครับ โห....ตอนแรกบอกให้ช่วยขนของไปส่ง และไปรับตอนกลับเท่านั้น แต่มาคราวนี้ครบเลยครับ ทุกอย่างเลย ....หูอื้อ ตาลายไปเลย
      ก็ไหนบอกว่านิดเดียวเอง เลยตกปากรับคำไปว่าจะช่วย แต่นี่มันโมเมเหมานี่หว่า แถมยังทวนอีกว่าก็เรารับปากแล้วนี่ ลูกผู้ชายจะคืนคำได้อย่างไร (ไอ้เราก็ไม่ได้มีลูกน้องอย่างคุณเบิร์ด หรือคุณเอ๋ นี่นาจะได้ถ่ายโอนให้ลูกน้องทำแทนให้ได้) ได้แต่กัดฟัน และหนีไปคลายเครียดดีกว่า

      อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ผมมีงานเข้ามาเยอะ เลยทำให้ค่อนข้างยุ่งไม่มีเวลาแม้กระทั่ง เข้าช็อปเพื่อเริ่มทำงานต่างๆให้ตามคำร้องขอ (แกมบังคับ) จนวันเวลาล่วงเลยไปมากจวนเจียนใกล้จะวันงานแล้ว เหลือเวลาอีกเพียง 3 วันเท่านั้น ทำให้ต้องตัดใจวางงานบางส่วนที่ยังไม่เร่งมากนักไว้ก่อนและเริ่มมารีบจัดการงานที่ได้รับปากไว้ให้เสร็จทันวันงานฯ ก่อน (ที่เขาเรียกกันว่าไฟลนก้นแล้วล่ะครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 12:02:15


ความคิดเห็นที่ 73 (2925178)
avatar
pakae

คุณเอ็ม แกล้งป่วยไปไม่ได้วันสุดท้าย

พอเมียออกเราก้อออกตามบอกไปหาหมอ

งานเสร็จกลับบ้าน บอกว่ายาดีหาแล่วจ่ะ

แถมได้เครื่องมือมาเพียบเลย

 

เสียดายตอนน้ำท่วมไม่ได้เข้ามาในนี้เลย

มัวแต่กั้น ระวังภัยที่โรงงาน

ไม่งั้นคงได้ช่วย ใครได้มั่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น pakae (iampakae-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 13:55:30


ความคิดเห็นที่ 74 (2925359)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณ pakae

ขอบคุณที่แนะนำ แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วครับ กลัวจะต้องอพยพไปกินนอนในโรงรถน่ะซิครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 17:48:02


ความคิดเห็นที่ 75 (2926075)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

วันที่ 1: ผมมีเวลาคิดอยู่ 1 วันว่าจะทำอย่างไรดี ผมจึงตั้งโจทย์ก่อนได้มาทั้งหมด 7 ข้อคือ
               1. ต้องใส่รถเก๋งเอาไปติดตั้งที่หน้างานได้
               2. ต้องเป็นแบบน๊อกดาวน์ เพื่อความสะดวกในการนำไปประกอบที่งาน และเก็บกลับ
               3. ต้องทำได้ง่าย และรวดเร็ว
               4. ต้องใช้วัสดุที่มีอยู่ในช็อป
               5. ต้องมีความแข็งแรงเพียงพอ แต่น้ำหนักต้องไม่มากเพื่อที่จะยกแต่ละชิ้นได้ด้วยคนๆเดียว
               6. ต้องพ่นด้วยสีขาว เพื่อไมให้เด่นเกินสินค้า
               7. ต้องเสร็จทันงานที่จะถึงอีกภายใน 3 วัน

               หลังจากที่ผมใช้เวลาครุ่นคิดในการออกแบบอยู่ ผมจึงเริ่มด้วยการวัดขนาดภายในรถเพื่อหาขนาดที่เหมาะสมพอดีในการสร้าง แล้วก็หาวัสดุภายในช็อป ในที่สุดก็ได้คำตอบโจทย์ที่วางไว้
               1 ผมทำให้มีความสูงไม่เกิน 180 ซม.(เพราะเกินนั้นจะใส่ไม่ได้ และจะสูงเกินระดับสายตามากเกินไป) หน้ากว้าง 120 ซม.(เพราะขนาดของไม้พื้นของแผ่นชั้นที่มีอยู่มีความยาว 120 ซม. พอดี) ส่วนที่ลึก 45ซม (เพราะมันวางที่เบาะหลังได้พอดิบพอดี).
               2, ผมทำเป็นแบบน๊อกดาวน์ แยกเป็นชิ้นได้ทั้งหมด 8 ชิ้น ประกอบด้วย ขา 2 ข้้าง พื้นวางของ 2 ชิ้น และชั้นวางของแบบปรับความสูง- ต่ำได้ อีก 4 ชิ้น
               3. ใช้ไม้จ๊อย ทากาวและยิงด้วยตะปูเท่านั้น แล้วก็ไม่มีการเข้าไม้ยากๆ ผมเลยใช้แบบ Open Mortise and Tenon (ไม่ทราบเหมือนกันว่าภาษาช่างไม้ไทยเรียกว่าอะไร) ที่ผมใช้ทำม้าในสวนนั่นแหละครับ 
               4. ใช้วัสดุที่มีอยู่ตั้งแต่ไม้จ๊อย ชั้นแบบปรับได้ของเก่าสีขาว มีขารางและตัวรับชั้นเป็นเหล็ก แผ่นไม้ชั้นเป็นแผ่นปาติเกิ้ลเคลือบเมลามีนสีขาว ขนาดยาว 120 ซม และลึก 30 ซม. 3 แผ่น และลึก 25ซม. อีก 1 แผ่น.
               5. น่าจะแข็งแรงเพียงพอเพราะน้ำหนักของตุ๊กตาสังกะสีไม่มากนัก
               6. แน่นอนครับต้องพ่นด้วยสีขาวที่มีอยู่แล้ว
               7. ข้อนี้ยังหวั่นๆอยู่เพราะผมไม่ใช่มืออาชีพ และชั่วโมงบินยังน้อยจึงยังไม่ค่อยจะแน่ใจจริงๆว่าจะทำได้เสร็จทันหรือเปล่า

วันที่ 2:  ผมตื่นมาเริ่มทำงานแต่เช้า ด้วยความกดดันเป็นอย่างยิ่ง และเริ่มด้วยการนำเอาไม้จ๊อยที่มีอยู่มาเลือก เพื่อหาชิ้นที่มีตำหนิน้อยที่สุด ผมทำการวัดขนาดเพื่อทำขาชั้นโชว์ก่อน 2 ข้าง ตามแบบที่ร่างไว้ แล้วทำการตัดด้วยโต๊ะเลื่อยวงเดือนให้ได้ขนาดต่างๆตามต้องการ เอาปืนยิงตะปูลมออกมายิงๆๆๆๆ แล้วในที่สุดก็ยิงได้ขาเสร็จได้มา 2 ขา ผมเริ่มทำการติดรางสำหรับเสียบเหล็กวางขั้นแบบรางคู่ทั้ง 2 ข้าง (เห็นคุณเอ๋เรียกว่าราง AA ) วัตถุประสงค์ของผมมี 2 อย่างคือทำให้ผมสามารถใส่ชั้นแบบปรับได้ตามความสูงของตุ๊กตาที่ไปโชว์ และเป็นโครงให้ขาไม้ไม่งอเนื่องจากขาไม้มีความสูงถึง 180 ซม. และยังต้องรับน้ำหนักของชั้นเองและตุ๊กตาด้วย ทำให้ผมต้องใช้เวลาไปครึ่งวันในการทำขาทั้ง  2 ข้างที่จะเป็นโครงหลักของงานผม   
               เมื่อทำโครงขาเสร็จทั้ง2 ข้างในช่วงเช้า ในช่วงบ่ายผมจึงเริ่มทำพื้น อีก2 ชุดเพื่อเชื่อมโครงขาเข้าด้วยกัน โดยเลือกทำเป็นแบบพื้นระแนง เพื่อไม่ให้มีน้ำหนักมากเกินไป และผมทำเป็นแบบสวมครอบลงไปในร่องของขาที่ทำไว้ แต่การทำงานแบบรีบเร่งชนิดไฟลนก้น ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่ายิ่งรีบยิ่งพลาดเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตัดไม้ผิดขนาด โดยเฉพาะช่วงที่ิคิดว่าจะทำอย่างไรให้พื้นทั้ง 2 แผ่น มันลงล็อคกันพอดีกับขาทั้ง 2 ข้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-26 22:27:09


ความคิดเห็นที่ 76 (2926078)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

            บ่ายวันที่ 2 ผมเริ่มทำพื้นชั้นวางของทั้งหมด  2 ชิ้น เป็นแบบระแนงโดยเว้นช่องเท่ากับความหนาของไม้จ๊อย และทำรางด้านล่างเพื่อให้สามารถสวมลงบนคานของขาทั้ง 2 ที่ผมทำขึ้นได้พอดีและไม่หลวม เพื่อที่จะได้ล็อกพื้นเข้ากับขาได้ในตัว 
            สิ้นวันที่ 2 ผมทำพื้นไม้ระแนงได้เพียงอันเดียวก็เย็นแล้วต้องเลิกก่อน เอาไว้มาต่อวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันที่ 3 (ซึ่งตอนค่ำๆจะต้องยกไปติดตั้งใช้งานที่เมืองทองธานี เพราะผู้จัดงานจะอนุญาตให้ผู้ค้าเข้าไปจัดบูทและขนสินค้าเข้าไปจัดแสดงได้หลัง 21:00 น. ไปแล้ว)
           ในใจผมเองก็ไม่แน่ใจว่าวันพรุ่งนี้จะทำได้เสร็จทันหรือไม่ สำหรับโครงนั้นผมคิดว่าน่าจะทำทันแต่เพราะจะต้องพ่นสีด้วยนี่ซิ กลัวว่ามันจะแห้งไม่ทัน  หากทำแล้วเสร็จไม่ทันใช้งาน ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร หลังจากเพลียมาทั้งวันทำให้ผมสลบไปตั้งแต่หัวค่ำ ไม่ได้คิดอะไรอีกเลย

วันที่ 3:  ...... พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ หมดแรงแล้วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-26 22:57:27


ความคิดเห็นที่ 77 (2926086)
avatar
suchartjit

 รีบมาเล่าต่อนะครับ อย่าให้รอนานเหมือน เครื่องมือชิ้นโปรด

ผู้แสดงความคิดเห็น suchartjit วันที่ตอบ 2012-11-27 08:35:10


ความคิดเห็นที่ 78 (2926107)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

***** หน้าตาของราง AA ทำด้วยเหล็กชุบสีขาว แบบร่อง 2 แถวและขารองรับชั้น ที่ใช้ยึดเป็นโครงและวางชั้นครับ *****

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-27 10:01:16


ความคิดเห็นที่ 79 (2926174)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 คุณ Suchartjit

    ผมพยายามจะมาเล่าต่อเรื่อยๆเมื่อว่างนะครับ และช่วยหันเหความสนใจของกระทู้  "เครื่องมือชิ้นโปรดของท่าน" ไปในตัวด้วย เพราะคุณเซี่ยงแกหายตัวไปแล้ว ส่วนคุณเบิร์ดแกก็รอคุณเซี่ยงที่จะต่อคิว( แกไม่ยอมแซงคิวเด็ดขาดเลยครับ) ผมว่าคงรออีกนานเลยครัับหรือไม่คงต้องไปแจ้งความคนหายกันละครับ

    การเลือกเครื่องมือชิ้นโปรดสำหรับมือใหม่นี่ยากนะครับ เพราะเพิ่งจะเริ่มใช้มันจึงยังไม่มีเครื่องมือชิ้นโปรด แล้วก็บางชิ้นซื้อมายังไม่ได้ใช้เลยครับ หากมีกระทู้ เรื่องเครื่องมือชิ้นไหนที่ท่านซื้อมาแล้วยังไม่ได้ใช้ (เออ....แล้วรีบซื้อมาทำไม) ผมว่าน่าจะมีคนเข้ามาเขียนกันเยอะแน่ๆเลย ละครับ 5555

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-27 16:51:58


ความคิดเห็นที่ 80 (2926213)
avatar
คนหัวขี้เลื่อย

 ผมก็ชอบงานไม้เหมือนกันครับ ครี้งแรกก็เหมือนกับคุณเอ็ม ไม่มีความรู้เรื่องไม้มาก่อนแต่ก็ดูเวํบไซด์ thai carpenter บ่อยๆ จึงได้ไปที่ร้านคุณ

อนุชิต ที่นครปฐม ครั็งแรกก็ซื้อเครื่องมือมาหลายหมื่นหมื่นอกัน ก็เอามาลองทำดู ครั้งแรกใช้เครื่องเราเตอร์ตีบัวทำกรอบรูป เพื่อนๆ ที่ทำงาน

ก็สั่งให้ทำคนละ ชิ้น ทำได้ 3 กรอบ เวลาคิดเงินเขาก็ต้ังราคาให้เสร็จกรอบละ 600 บาท (กรอบใหญ่มากใส่ผ้ายันต์หลวงพ่อคูณรุ่นกูยืนฯ)

ก็ลองทำดูไปเรื่อยๆครับ ตอนนี้ตรงข้ามบ้านให้ผมทำตู้วางรองเท้า 3 ชั้น ราคา 1200 บาท นี้ก็ทำเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ

เดี๋ยวผมถ่ายรูปแล้วจะเอาลงมาให้ดูครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนหัวขี้เลื่อย (amornhappy-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-11-27 22:38:12


ความคิดเห็นที่ 81 (2926285)
avatar
i3ird

ยิ่งดูยิ่งสุดยอดถึงได้รู้ว่าพี่นี่คมในฝักจริงๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น i3ird (bird-togo-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-28 10:09:58


ความคิดเห็นที่ 82 (2926319)
avatar
paisal
image

เห็นด้วยกับคุณเทอดศักดิ์ครับ ถ้ามีกระทู้ "ซื้อมาทำไม" นี่ผมเขียนได้หลายเรื่องเหมือนกัน  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น paisal (paisalsung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-28 12:33:48


ความคิดเห็นที่ 83 (2926382)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณคนหัวขี้เลื่อย

    ยินดีต้อนรับสู่สมาคมมือใหม่หัดทำ เสร็จแล้วเอามาโชว์กันบ้างนะครับ ผมยังมีคิวต้องทำตู้รองเท้าให้ ผบ.อีกใบเหมือนกัน เพราะผมเอาใบเก่าของแกไปทิ้งแล้ว

คุณi3ird

     ไม่แซงคิวคุณเซี่ยงหรือครับ แกหายตัวไปแล้ว หากแกบังเอิญผ่านเข้ามาอยากจะบอกว่า เพื่อนๆและญาติๆตามหา ไม่มีใครโกธรนะครับ ทุกคนให้อภัยที่มาเขียนไว้ไม่จบแล้วหายตัวไปเลย
     จริงๆแล้วงานที่ทำส่วนใหญ่เพราะเหตุการณ์มันบังคับมากกว่าครับคุณเบิร์ด งานของผมเองที่อยากทำเพิ่งจะทำเสร็จไปชิ้นเดียวเอง ที่เหลือกำลังจะทำเพราะไปซื้อไม้มาแล้วเมื่อวาน เอาไปหลบๆไว้ ผบ. ยังไม่เห็น

คุณPaisal

     นั่นซิครับคุณ Paisal มีแนวร่วมแล้ว ผมกะว่าจะเรียนเชิญคุณเบิร์ดมาเป็นแขกคนแรกเลยครับ รอให้แกเลือกเครื่องมือชิ้นโปรดให้ได้ก่อน รอลุ้นกันอยู่นะเนี่ยว่าจะเป็นอันไหน แล้วค่อยว่ากัน
     เออ.... แล้วทำไมมีค้อนเยอะจัง สะสมหรือครับ สวยๆทั้งนั้นเลย ได้ใช้บ้างหรือยังเดี๋ยว ผบ.เห็นจะงานเข้า อาจจะโดนเอาไปต้มให้กินแทนข้าวนะจะบอกให้

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-28 18:03:39


ความคิดเห็นที่ 84 (2926520)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

***** วางแผ่นพื้นชั้นเพื่อทดสอบ ***** 

วันที่ 3: 

     วันนี้ยิ่งเครียดกว่า 2 วันแรกอีกเพราะเนื่องจากค่ำนี้จะต้องเอาชั้นวางของที่ผมกำลังทำอยู่ไปติดตั้งและจัดบู๊ทด้วย แต่ผมเพิ่งจะทำขาและพิ้นชั้นล่างเสร็จไปชั้นเดียวเท่านั้น ยังเหลือที่ต้องทำอีก 1 ชั้น ที่เป็นระแนงเพราะกะว่าจะยึดขาทั้ง 2 ข้างไว้ด้วย พื้นชั้นทั้ง 2 นี้แหละเป็นหลัก ส่วนชั้นที่เหลือ อีก  4 ชั้นเป็นแค่ตัวพยุง เท่านั้น เหล็กรับชั้น AA ก็ยังไม่ได้ติดกับขาที่ทำขึ้นแล้วขารองก็ยังไม่ได้ติด เพราะจะต้องลบมุมด้วยทริมเมอร์ ขัดกระดาษทราย และพ่นสีก่อน

     ผมเริ่มทำพื้นชั้นไม้ระแนงอีกชั้นโดยลอกแบบจากชั้นล่างซึ่งจะคล้ายกันมาก ต่างกันตรงมุมนิดหน่อยเพื่อให้เมื่อวางลงบนขาทั้ง  2 แล้วมันจะล็อกเข้ากับขาสามารถบังขาและพนังทั้งหมดพอดี ผมใช้เวลาทำไปจนบ่ายเพราะต้องทำๆ หยุดๆเนื่องจากโดนเรียกให้มาดูโน่นดูนี่ หรือต้องไปหาของให้น้องเขาเวลาเขาหาอะไรไม่เจอ (แทบจะเป็นนังแจ๋วอยู่แล้ว) ผมเลยต้องยื่นคำขาดว่า หากเรียกแบบนี้ ผมจะทำให้เสร็จไม่ทันวันนี้แน่ จึงทำให้ผมได้มีโอกาสทำงานต่อไปได้โดยไม่โดนเรียกอีก ผมได้ทีเลยเรียกบ้างให้เอาน้ำมาให้ดื่มบ้าง ได้น้ำผึ้งผสมมะนาวใส่โซดาและน้ำแข็งสักกระติกชื่นใจหายเหนื่อยดีจริงๆ ใครไม่เคยลองๆดูนะครับ (ให้ลองน้ำผึ้งผสมมะนาวใส่โซดานะครับไม่ได้แนะนำให้ลองเรียกใช้เมี..นะครับเดี๋ยวจะซวยเอาแล้วจะมาต่อว่าผมได้)

     หลังจากที่ทำพื้นชั้นที่  2 เสร็จ เวลาก็ล่วงเข้าไปประมาณ 15:00 น. เศษๆแล้ว ผมจึงเริ่มนำมาทดลองประกอบเข้าด้วยกันทั้งหมดก่อน เพื่อดูว่าที่เราคิดไว้เมื่อประกอบกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง กว่าจะประกอบได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเพราะทำคนเดียว ไม่มีคนช่วยจับ เวลาประกอบจึงต้องเอาขาข้างหนึ่งผูกกับเสาประตู้ไว้ แล้วเอาชั้นแผ่นล่างครอบไป ผลที่ได้ก็น่าพอใจแต่ก็ต้องมีแก้ไขบ้างเล็กน้อยเพราะร่ิองที่ทำไว้มันคับเกินไป และลืมไปว่าเดี๋ยวพ่นสีแล้วจะทำให้มันใส่ไม่ลง จึงแก้ไขให้มันหลวมเล็กน้อยกะว่าพ่นสีแล้วมันจะคับพอดี
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-29 13:05:38


ความคิดเห็นที่ 85 (2926526)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

***** รูปแบบเดิมที่จะทำ มีแผ่นป้ายชื่อด้านบน และด้านล่างเพื่อยึดไม่ให้โยก ***** 

      เมื่อประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดหลังจากที่ติดราง AA  และติดเหล็กรับชั้นเข้ากับชั้นทั้งหมดแล้ว ผลปรากฎว่ามันโยกด้านข้างได้แฮะ เหตุผลก็เพราะผมไม่ได้ทำไม้ยึดด้านหลังไว้ ทีแรกก็คิดว่าจะทำไม้ยึดด้านหลังทั้งบนและล่าง โดยด้านบนจะทำเป็นป้ายชื่อร้านไปในตัว ยึดไว้ด้วยลูกบิดเพื่อถอดประกอบได้ แต่คิดไปคิดมาสงสัยว่าจะไม่ทันแน่ เลยไม่ได้ทำ แต่จะใช้วิธียึดชั้นวางด้านล่างทั้ง 2ชั้น กับขาด้วยสกรู เพื่อไม่ให้มันมีอิสระแล้วโยกได้ ประกอบกับสินค้ามีน้ำหนักไม่มาก จึงเลยตามเลย

          หลังจากที่ทดลองประกอบเสร็จก็ถอดออกเพื่อซักซ้อมก่อนนำไปติดตั้งจริง จากนั้นก็เอาทริมเมอร์ลบมุมชั้นโชว์ทั้งหมดก่อนที่จะขัดด้วยกระดาษทราย กว่าจะเสร็จตอนนี้ก็ปาเข้าไป 16:30 น.แล้ว เฮ้ยแล้วมันจะทันไหมเนี่ย(คิดอยู่ในใจ) เพราะหากใช้วิธีการทาสีน่าจะแห้งไม่ทันจึงเลือกใช้วิธีการพ่นเอาน่าจะดีกว่า แต่การพ่นสีกว่าจะแห้งและใช้งานได้ดีก็ต้อง 24 ชั่วโมงหลังจากพ่น .... เป็นไงเป็นกันผมคิดแล้วกะว่าเอาแค่พอแห้งหมาดๆสามารถขนขึ้นรถให้ได้เท่านั้นก็พอ แล้วให้ไปแห้งเอาในงานก็แล้วกัน (แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ) กว่าผมจะพ่นสีเสร็จเวลาก็ล่วงเลยไปจน 18:00 น.เศษๆ และ ผมก็พ่นสีไปแค่ 2 เที่ยว เพราะไม้มันดูดสีเที่ยวแรกไปเกือบหมด ไม่อยากพ่นหลายรอบเพราะกลัวว่าสีจะยิ่งแห้งช้า
  
     ขั้นตอนพ่นสีของผมก็ทุลักทุเลพอสมควรเพราะเป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่ผมได้ใช้กาพ่นสีกับปั้มลมในการพ่นสี ปรับอยู่นานเพราะแรกๆก็มีแต่ลมไม่เห็นมีสีออกมาเลย ไอ้เจ้าคู่มือก็ไม่เห็นบอกอะไรไว้เลยว่าจะปรับอย่างไร เห็นแต่มีปุ่มให้หมุนได้อยู่  3 อัน ผมเลยจัดการหมุนเล่นไปมาเพื่อดูว่าอันไหนใช้ทำอะไร จนผมต้องเอาไปส่องที่ไฟดูว่ามีตัวหนังสือบอกไหมว่าปุ่มไหนใช้ปรับอะไร (ทีหลังจึงมาสังเกตุเห็นว่ามันบอกไว้เหมือนกันแต่ตัวเล็กมากๆๆ) ได้เรื่องดังนั้นจึงเริ่มทดลองใหม่ ผลปรากฎว่าทีนี้ สีออกมาแล้วเล่นจนเหนื่อยจนเกือบต้องทาสีด้วยมือซะแล้ว แล้วผมก็จัดการพ่นโต๊ะเล็กๆ กับกระถางต้นไม้ที่เป็นเหล็กดัดในสวน เสียด้วยเนื่องจากมันดูเก่า  
   

         ผมพ่นสีเสร็จประมาณเกือบ 20:00 น.ไม่มีเวลาได้ตรวจสอบความละเอียดอะไรทั้งนั้น แล้วก็มืดแล้วด้วย จึงเอาเท่าที่ทำได้ อย่างน้อยมีอะไรค่อยไปแต่งเอาที่งานก็ได้ (ผมพกสีสเปรย์กระป๋องไปด้วย) แทบหมดแรง จากนั้นต้องเอาพัดลมที่มีอยู่ทั้งหมดในบ้านไปตั้งเป่าเพื่อช่วยให้สีแห้งเร็วขึ้น กะว่าพอให้สีแห้งหมาดๆ (พอเอาขึ้นรถได้ก็พอ) และให้มันไปแห้งเอาที่งานก็แล้วกัน จากนั้นผมจึงไปอาบน้ำอาบท่าและไปกินข้าวเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน แต่งานยังไม่จบนะครับเพราะจะต้องขนไปติดตั้งที่งานหลัง 21:00 น.อีก

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-29 14:03:03


ความคิดเห็นที่ 86 (2926531)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

***** ชั้นวางของโชว์สินค้าเสร็จแล้วหน้าตาเป็นอย่างนี้ละครับ *****   

     งานเสร็จแล้วครับพร้อมที่จะยกไปในงานได้แล้ว หลังจากอาบน้ำอาบท่าทานข้าวแล้วก็นอนพักสักครู่ ส่วนน้องเขาก็เอาของขึ้นรถคันที่เอาไปขนโต๊ะงานไม้ และโต๊ะเร้าเตอร์ แนวนอนกับแนวตั้ง มาจากร้านคุณอนุชิตนั่นแหละครับ เพื่อที่ส่วนที่เหลือจะได้เอาไปรถผม เมื่อเอาชั้นโชว์ขึ้นรถหมดแล้ว ส่วนที่เอาไปไม่หมดกะว่าเช้าวันงานค่อยขนเอาไปเพิ่ม และไปเติมสินค้าได้ทุกเช้า คืนนั้นเราไปกันดึกไปถึงประมาณ 22:00 น.

      ท่านที่เคยไปออกงานคงทราบดีว่าเขาจะไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ ร้อนยังกับเตาอบเลย ผมเหมือนกับไปอบเซาน่าเเมื่อเข้าไปทำงานในนั้น เมื่อไปถึงก็จัดแจงยกของลงแล้ว เข้าไปที่บูทก็ทำการประกอบชั้นวางโชว์สินค้าที่ยกมาเป็นชิ้นๆ บางส่วนยังแห้งไม่สนิทเลย ทำให้ต้องระวังไม่ให้สีถลอกเพราะจะทำให้ต้องทำงานซ่อมสีเพิ่มเติมอีก ผมใช้สกรูยึดชั้นวางของด้านล่างทั้ง 2 อันทุกมุมเข้ากับขาตั้ง เพื่อไม่ให้มันโย้ได้ ทุกอย่างก็ดูใช้ได้นะครับ แต่ก็เกิดปัญหาจริงๆตอนที่เริ่มวางสินค้าบนชั้นที่ทำด้วยไม้ปาติเกิ้ลเคลือบเมลามีนที่ซื้อสำเร็จมานานแล้ว (เนื่องจากมันไม่มีตัวรับกลางและผมก็ไม่มีเวลาได้ทำคานใต้ชั้นให้มัน) มันจึงแอ่นกลาง ทำให้ต้องวางของเฉพาะตัวเล็กๆ ที่มีน้ำหนักไม่มาก เท่านั้น ส่วนชั้นล่าง 2 ชั้นที่พ่นสีไว้และยังไม่แห้งดี จึงยังไม่ได้วางสินค้า คิดว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยมาจัดก่อนที่เขาเปิดงานก็ได้ ในที่สุดผมก็ต้องปล่อยให้สีมันแห้งในงานในคืนนั้นนั่นเอง กว่าจะเสร็จพร้อมที่จะเปิดร้านวันรุ่งขึ้นก็ปาเข้าไปใกล้เที่ยงคืนพอดี คงต้องกลับแล้วครับเพราะเหนื่อยมากแล้ว แล้วก็วันนี้ทำงานตั้งแต่ หกโมงเช้ายันเที่ยงคืนแทบไม่ได้พักเลย 18 ชั่วโมงเต็มๆหมดแรงจริงๆครับ เพราะงานนี้นี่เองที่เป็นเหตุที่ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรอีกมาก แล้วก็ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่ได้ไปงานคุยจ้อคองานไม้ครั้งที่ 1 ที่จัดขึ้นที่นครปฐมด้วยแหละครับ (เสียดายจริงๆ คราวหน้าไม่พลาดแน่)

     หลังจากที่ได้ทำงานนี้แล้วผมก็ไม่มีโอกาสได้ทำงานไม้ไปอีกหลายเดือน เนื่องจากงานที่รับอยู่เข้ามาเยอะจึงทำให้ผมไม่มีเวลาได้เข้าช็อปเพื่อทำโครงการใหม่อีกเลย ได้แต่เข้าไปเก็บของที่มันรกๆบ้าง แต่ก็ยังรกอยู่ดี คิดในใจว่าไม่นานนี้แหละจะได้เริ่มจัดระเบียบเพื่อทำงานไม้อย่างจริงจังเสียที (ที่จริงแล้วก็อ้างโน่นอ้างนี่ไปเรื่อย เพราะจะทำๆมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีสมาธิจริงๆ หรือไม่ก็หากถูกกดดันจริงๆก็ทำได้เสร็จทุกที พอไม่มีอะไรกดดันก็เลยไม่ได้ทำซะที) ตั้งใจไว้ว่าจะต้องทำช็อปให้เสร็จภายในต้นปีหน้าที่แหละครับเพราะยังมีคิวที่จะทำอีกตั้งหลายชิ้น รวมถึงโต๊ะเร้าเตอร์ ไซโคลนดูดฝุ่น โต๊ะเลื่อยองศา โต๊ะเลื่อยฉลุ และอีกหลายๆอย่าง รวมถึงโต๊ะงานไม้ตัวใหม่ด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-29 14:20:03


ความคิดเห็นที่ 87 (2926558)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

*** รูปบูทที่ไปออกงาน กับชั้นวางของโชว์ที่ทำเสร็จแล้ว ***

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-29 17:11:56


ความคิดเห็นที่ 88 (2926559)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 รูปสินค้าที่นำไปออกงานกับโต๊ะและกระถางต้นไม้ที่สีไปแห้งในงานเหมือนกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-29 17:25:20


ความคิดเห็นที่ 89 (2926560)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 *** รูปบูทที่งานกับชั้นวางของโชว์ที่ทำเสร็จแล้ว ใครสนใจก็ไปอุดหนุนน้องเขาได้นะครับ http://www.arisskay.com ***

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-29 17:28:53


ความคิดเห็นที่ 90 (2926654)
avatar
คนหัวขี้เลี่อย

 ขอบคุณครับที่รับผมเข้าชมรมครับ ดีใจจัง ผมได้ถ่ายรูปแล้วครับแต่ติดปัญหาตรงที่ผมไม่มีความสามารถเอารูปลงได้ต้องรอให้ลูกผมเขาว่างก่อนแล้วเขาถึงจะลงรูปให้ครับ ผมได้เงิน 1200 บาทแล้วครับผมก็เอาไปซื้อสิ่ว(ยี่ห้อฟักทอง) ขนาด 1/2 นิ้ว จนถึง 1 1/2 นิ้วแล้วครับ แล้วผมจะถ่ายห้องสถานที่ทำงานไม้ที่แสนเล็กแต่ยัดไปด้วยนอุปกรณ์อะไรก็ไม้รู็ ให้ดูนะครับ โปรดรอนิดหนึ่งครับ แต่ผมดูรูปค้อนที่ลงในกระทู้แล้วผมว่าต้องไป ลูกแม่ยายผมใช้ดีกว่า เพราะเขาชอบใช้มากกว่าช่างไม้สมัครเล่นอย่างผมอีกครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนหัวขี้เลี่อย วันที่ตอบ 2012-11-29 22:19:34


ความคิดเห็นที่ 91 (2926820)
avatar
อำนวย BG

ก่อนอื่น ขอสมัครเข้าชมรม....คนชอบซื้อ....ด้วยคนครับ 

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ...คุณอนุชิต  ที่กรุณาให้สมัครเป็นสมาชิก ทั้งๆที่สมาชิกเต็มแล้ว

อ่านกระทู้ของคุณ M แล้วนึกถึงตัวเองทุกครั้งที่แอบซื้อเครื่องมือมาเก็บไว้ แต่ยังไม่ค่อยมีเวลาใช้งาน

ซื้อจนแม่บ้าน ทนไม่ไหวต้องถามว่า...ซื้อเครื่องมือเตรียมไว้ทำงานหลังเกษียณ...หรือไง??...เล่นซะงงงงไม่รู้จะตอบว่ายังไง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อำนวย BG (amnuaybgi-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-30 17:06:11


ความคิดเห็นที่ 92 (2926957)
avatar
คนหัวขี้เลื่อย

ถึงคุณเอ็มครับ ผมได้ลงรูปถ่ายตู้ใส่รองเท้าใบแรกของผมให้ดูแล้วครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนหัวขี้เลื่อย วันที่ตอบ 2012-12-01 19:31:06


ความคิดเห็นที่ 93 (2927073)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 คุณอำนวย BG

ท่าทางชมรมคนชอบซื้อเครื่องมือ แต่ยังไม่เคยใช้หรือไม่ยอมใช้ นี่ท่าจะมีสมาชิกเยอะนะครับ(ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเป็นกับพวกมือสมัครเล่น ส่วนมืออาชีพเขาซื้อมาแล้วก็ใช้ทำมาหากิน)แต่ผมว่ามันก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง นะครับ ยินดีรับเข้าชมรมนี้ครับ. เอ้. ...แล้วคุณอำนวนยBG นี่เป็นท่านเดียวกันกับที่คุณอนุชิต แกพูดถึงหรือเปล่าละเนี่ย

คุณคนหัวขี้เลื่อย

ผมเข้าไปดูมาแล้วครับเท่ห์ดี มันเป็นความภูมิใจที่เราสามารถที่ทำได้ด้วยตัวเอง(ซึ่งไม่คิดว่าจะทำได้) แถมสนุกด้วยครับ แล้วอย่าลืมถ่ายรูปข้างในตู้มาด้วยนะครับ 

เพิ่มเติม

*** หากเอารูปขึ้น webboard นี้ไม่ได้ ส่ง e-mail รูปมาให้ผมก็ได้ครับจะช่วยเอาขึ้นให้ครับ ***

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-02 12:40:51


ความคิดเห็นที่ 94 (2927151)
avatar
คนหัวขี้เลื่อย

 เรียนคุณเอ็มครับ

ผมได้ถ่ายมาไว้หลายมุมครับแต่ลงรูปได้แค่รูปเดียว แต่ผมลองไปแชร์ที่ FB ในเวปของผมครับ

AMORNCHED@HOTMAIL.COM ครับผม

ผู้แสดงความคิดเห็น คนหัวขี้เลื่อย (amornhappy-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-12-03 01:58:49


ความคิดเห็นที่ 95 (2927245)
avatar
อนุชิต

พี่เอ็ม ผมมาอ่านอีกครั้ง ครั้งนี้มายืนยันและกด like กับพี่เบิร์ดคำพูดที่ว่า "เพิ่งรู้ว่าพี่เอ็ม คมในฝัก"  จริงๆครับ ยืนยัน กระทู้ท่านอื่นผมก็ชอบนะ แต่พักหลังผมจะชอบแซวมากกว่า กลัวว่าแซวไม่ถูกที่เด่วโดน... แซวพี่เอ็มแล้วกันนะพี่

ปีนี้ผมมีการประกาศรางวัลกระทู้ดีเด่น กระทู้ยอดเยี่ยม กระทู้นิยมสูงสุด กระทู้สร้างสรรค์ ประมาณปลายๆเดือน เอาสนุกๆ ขำๆ รางวัลไม่เน้น ดีไหมพี่ หรือว่ายังไงดี

ตุ๊กตาก็สวยดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อนุชิต วันที่ตอบ 2012-12-03 16:21:04


ความคิดเห็นที่ 96 (2927440)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 คุณอนุชิต

    ขอบคุณครับที่กลับมาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง งาน DIY หลักของผมตอนนี้คืองานซ่อมแซมเฟอร์และของใช้ด้วยตัวเองเป็นหลักครับ ช่วงนี้ก็มีชิงช้าสนามที่จะต้องซ่อมแซมอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเขาทำด้วยไม้อะไรใช้ได้ 2 ปีกว่าๆ ไม้ก็แตกแล้ว ซื้อมาก็หมื่นกว่าบาทเหมือนกัน

    มาแซวผมได้ตามสบายครับ ส่วนเรื่องทาง Thaicarpenter จะจัดให้มีการประกวดก็เป็นความคิดที่ดี จะทำให้มีสีสันขึ้นเยอะ และ สนุกสนานเฮฮาดีครับ ผมขอเพิ่มโหวตบุคคลแห่งปีประจำบอร์ดด้วยก็น่าจะดีนะครับ ผมจะโหวตให้แก่คุณเอ๋เลย เพราะได้ความรู้จากคุณเอ๋มากจริงๆ(แกขยันมาให้ความรู้ เคล็ดลับ และเทคนิคต่างๆตลอดเวลา(เชียร์แบบออกนอกหน้าเลย))

    ตอนนี้คุณ i3ird แกเริ่มเขียนเรื่องเครื่องมือชิ้นโปรดของแกแล้วครับ ไปอ่านที่กระทู้เครื่องมือชิ้นโปรดของท่าน กันก่อนแล้วกันครับ ผมยังคงไม่ได้เขียนเพิ่มช่วงนี้ครับ เพราะจะหนีร้อน กทม.ไปเที่ยวเชียงใหม่ และปาย สักหนึ่งสัปดาห์ครับ กลับมาค่อยมาต่อครับ
 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-04 19:32:48


ความคิดเห็นที่ 97 (2928938)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

SEASON 3

EPISODE1: เริ่มงานไม้ในฝัน

     หลังจากที่ซ้อมมืออยู่นาน ก็คิดว่าน่าจะเริ่มสร้างงานไม้ในฝันได้แล้ว เพราะหลังจากที่ได้โต๊ะงานไม้ และโต๊ะเร้าเตอร์แนวนอน&แนวตั้งมาจากคุณอนุชิต ก็ได้แต่ฝันว่าสักวันเราคงจะได้สร้างงานไม้ด้วยฝีมือเราเองได้บ้าง เพราะได้แต่อ่านจากนิตยสาร วารสาร หนังสือ และดูวิดิโอเกี่ยวกับงานไม้มากมายมานานและก็ได้เห็นเขาสร้างช็อปงานไม้ หรือ Workshop กันแล้ว ก็มีความตั้งใจว่าจะสร้างช็อบของตัวเองเหมือนกับคนอื่นเขาบ้างเหมือนกัน เพราะกูรูงานไม้หลายท่านบอกว่า การสร้าง Workshop ของตนเองนั้นเป็นโครงการงานไม้ที่ให้ความสนุกและมีความสุขที่สุดในการทำงานไม้ ดังนั้นในราวปลายเดือน กรกฎาคม 2555 ผมจึงเริ่มคิดว่าจะต้องสร้างช็อปให้สำเร็จให้ได้ แต่ต้องเริ่มจากว่าจะสร้างอะไรบ้าง ใช้แบบไหนดี แล้วก็จะสร้างอะไรก่อนหลัง ตามลำดับความเหมาะสมที่เราจะได้ใช้มันในการสร้างงานชิ้นงานชิ้นอื่นๆต่อไป     

     ก่อนทำโครงการ ผมเริ่มด้วยการจัดทำรายการก่อนว่าจะทำอะไรบ้าง โดยอาศัยความรู้จากหนังสือและนิตยสารที่เกี่ยวกับการสร้าง Workshop มาเป็นแนวทางแล้วก็หาแบบไปด้วยในตัว หลังจากที่เขียนไปเขียนมาโอ้โหได้เยอะเหมือนกันนะ รายการก็มีตามนี้ครับ
          1. โต๊ะทำงาน แบบที่มีลิ้นชักเก็บของได้เยอะๆ 
และชั้นหรือตู้เก็บเครื่องมือในช็อป (Workshop Hutch) จะได้เก็บเครื่องมือ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และอุปกรณ์ฟิตติ้งให้เป็นระเบียบเสียที 

          2. โต๊ะเร้าเตอร์แนวตั้ง (Router Table) แบบตู้ปิด และมีที่เก็บดอกกัดด้วย (ต้องการลดความดังของเสียงลงบ้าง) เกรงใจข้างบ้าน และจะเอาโต๊ะเร้าเตอร์เดิมมาทำเฉพาะในแบบแนวนอน
          3. โต๊ะสำหรับเครื่องตัดองศา(Miter Saw Table) ที่สามารถติดตั้งเครื่องเจาะเดือยเหลี่ยม(Mortiser) หรือหินเจียร์ได้เมื่อต้องการ
          4. โต๊ะสำหระบเลื่อยฉลุ (Scroll Saw Table)
          5. โต๊ะวางเครื่องรีดไม้ (Planer Table)
          6. โต๊ะบนสว่านแท่น (Drill Press Table)
          7. โต๊ะสำหรับขัดกระดาษทราย (Sanding Table) และเป็นโต๊ะเอาไว้ประกอบงานต่อไป
          8. โต๊ะช่วยรับไม้ (Outfeed Table)
          9. เครื่องดูดฝุ่นแบบไซโคลน (Cyclone Dust Collector) ที่สามารถรองรับเครื่องมือได้ทั้งช็อปเลย
          10. ตู้เอาไว้พ่นสี (อันนี้เพิ่มเติมหลังจากไปเยี่ยม workshop คุณ i3ird มา)
          11. โต๊ะงานไม้ (Workbench) (อันนี้ไฟแห่งความปรารถนามันคุกรุ่น หลังจากอ่าน"โต๊ะงานไม้ในฝัน ของคุณเขมทัต" ว่าจะต้องทำให้ได้สักตัว)
          12. ชั้นวางแคล้มป์แบบเคลื่อนที่ได้ (Mobile Clamp Rack)
      
หลังจากเขียนรายการโครงงานทั้งหมดที่จะทำแล้วจึงมาเลือกดูว่าจะทำอะไรก่อนดี เพราะทุกอย่างผมเองก็ยังไม่เคยทำมาก่อน เคยแต่อ่านหนังสือ หรือนิตยสาร กับดูวิดีโอเกี่ยวกับงานไม้เท่านั้น และงานไม้ที่เคยทำส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานซ่อมแซมซะมากกว่า แต่ใจก็คิดว่าถ้าไม่เริ่มซะอันหนึ่งก่อนเราก็คงไม่ได้เริ่มแน่ หลังจากเริ่มมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง จากที่หยุดไปนานตั้งแต่ทำชั้นโชว์ไปออกงานเมื่อเดือน มีนาคม 2555 แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มอีกแลย ได้แต่เพียงไปเดินดูเครื่องมือ และซื้อโนู่นซื้อนี่สะสมไปเรื่อยตามประสา
     เมื่อมาดูที่ตัวเราก่อนว่าต้องการทำอะไรก่อนดีที่มันจะได้ใช้ประโยชน์ไปด้วยระหว่างการสร้างช็อป คิดไปคิดมาก็ตกลงว่าน่าจะเริ่มจากการทำโต๊ะที่สามารถเคลื่อนที่ได้แบบที่มีลิ้นชักเก็บของที่สามารถดึงออกได้จนสุด 3 ชั้น เพื่อเอาไว้เก็บเครื่องมือที่เราใช้บ่อย และสามารถเข็นไปมาตามเราได้ นอกจากนี้ยังต้องสามารที่จะเอาไว้เป็น Outfeed Table ได้ในตัวด้วยเมื่อต้องการ พื้นโต๊ะต้องแข็งแรงพอที่จะสามารถวางเครื่องมือที่มีน้ำหนักมากๆ เช่นเครื่องรีดไม้ได้ด้วย (ต้องสารภาพเลยว่าผมซื้อเครื่องรีดไม้มาเกือบปี กว่าจะได้ใช้ก็ตอนจะสร้างโต๊ะตัวนี้แหละครับ) ซึ่งจะเป็นการรวม รายการที่ 5 และ 8 ไว้ด้วยกัน 
     ผมเองก็ได้ดูแบบไว้หลายๆอันเพื่อป็นแนวทางในการสร้างแต่ก็ไม่ถูกใจเสียทีเดียว จึงจับเอาไอเดีย ที่ดีๆของแต่ละแบบมาผสมกัน และง่ายต่อผมในการสร้าง โดยผมกำหนดเกณฑ์ไว้ดังนี้
          1. จะใช้ไม้อัดขนาด 20มม.เป็นหลัก เนื่องจากมันแข็งแรงดี และหากผิดพลาดอะไรจะได้ไม่ต้องเสียดายไม้มากหากใช้ไม้จริง
          2. ความสูงของโต๊ะเท่ากับความสูงของโต๊ะงานไม้
ประมาณ 80ซม.
          3. ติดล้อ Polyurethane (PU) ขนาด 5 นิ้วแบบแป้นตาย 2 ล้อ และอีก 2 ล้อเป็นแบบแป้นหมุนที่สามารถล็อกได้เมื่อต้องการ
          4. พื้นโต๊ะเป็นแผ่นไม้อัด 20 มม. หนา2ชั้น และใหญ่กว่าตัวโต๊ะด้านละ 3-4 นิ้วเพื่อเอาไว้ยึดด้วยแคล้มป์ได้เมื่อต้องการ และปิดทับด้วยแผ่นลามิเนต 
          5. ขอบโต๊ะปิดทับด้วยไม้จริง (ไม้แอช)
          6. ความหนาของพื้นโต๊ะเท่ากับ 1-5/8นิ้ว (40 มม.)
          7. ปิดผิวด้วยไม้อัดสัก
          8. มีลิ้นชัก 3 ชั้น ติดรางลกปืน Hafele แบบ2 ตอนขนาด 22นิ้ว (55 ซม.)
          9. ลงแลคเกอร์ให้ดูนุ่มสไตล์คุณเอ๋ เพาะช่าง 

     หลังจากร่างแบบด้วยมือแล้ว ผมคิดว่าคงจะต้องสร้างตัวกดไม้ หรือหวีกดไม้ (Featherboard) สำหรับโต๊ะเร้าเตอร์เพื่อความปลอดภัย และความเที่ยงตรงในการใช้งานก่อน โดยผมทำขึ้นจากไม้แอช (Ash) ขนาด 1-1/2" x 6" จำนวน2 อัน ผมทำซี่ฟันตัวกดไม้ด้วยโต๊ะเลื่อยวงเดือน เพื่อให้ร่องมันใหญ่พอที่จะให้ไม้มันดีดตัวได้ดี


 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-14 04:10:32


ความคิดเห็นที่ 98 (2928949)
avatar
pakae

เอาแล้วสิ

ขนาดตู้ใบนี้มันเท่าไรครับ

ล้อ5นิ้ว ใหญ่เอาเรื่อง ถ้าตู้มันเล็ก แคม

มันจะไม่ค่อยแข็งแรงน่ะครับ

 

ปล อยากเห็นจัง และผมขอเสนอมั้งได้มัยอ่ะ

1. น่่าจะลองใช้ไม้พาเลท แทนไม้อัดน่ะครับ

ผมมีเหตุผลน่ะ คือมันน่าจะราคาไม่แพง

ถ้าเกิดตัดผิด จะได้ไม่เสียดายเงิน

แบบทึ่คุณ เอ็มว่านั้นแระ

2. คุณมีเครื่องมือ ที่จะทำครบแล้ว และง่ายด้วย

คือ มี planer and Biscuit joiner 2 ตัวนี้

ผมว่าง่ายยากก้อไม่มีแล้ว เหลือแค่เพาะไม้เป็นแผ่นเอง

3. เป็นไม้ไม่แข็ง แต่ผมว่าแข็งกว่าไม้อัด

แถมโดนน้ำได้ด้วย

4. ถ้าอยากได้ผิวบนแข็งๆๆ ก้อปิดด้วยไม้จริงเลย

 

555 เสนอมาเยอะ แค้ความเห็นผมน่ะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pakae (iampakae-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-14 09:10:45


ความคิดเห็นที่ 99 (2928951)
avatar
paisal

รอดูครับ ผมก็กำลังอยากได้โต๊ะแนวๆนี้เช่นกัน 

ผู้แสดงความคิดเห็น paisal (paisalsung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-14 09:22:02


ความคิดเห็นที่ 100 (2928965)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

*** ขนาดของโครงโต๊ะคร่าวๆ ที่แยกชิ้นส่วนออกจากกันเพื่อให้ดูง่ายขึ้น***

คุณ Pakae

      เข้าบอร์ดแต่เช้าเลยนะครับ ขอบคุณในคำแนะนำ ผมตอบคำถามและเหตุผลต่างๆที่ผมเลือกใช้ดังนี้ครับ

         1. ที่ผมเลือกใช้ล้อ PU ขนาด 5" เพราะจากการศึกษาพบว่าล้อที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยิ่งใหญ่ จะทำให้สามารถเคลื่อนที่ไปบนพื้นที่มีสิ่งกีดขวางได้ดีกว่าล้อขนาดเล็กครับ (แต่ก็จะสูญเสียพื้นที่ใช้งานของโต๊ะไปบ้าง) และล้อที่ทำด้วย Polyurethane จะให้ทั้งความนุ่มและความแข็งแรงทนทานไปในตัวเหมาะกับในช็อปงานไม้

         2. ขนาดของตัวโต๊ะประมาณ 24"x24"  ส่วนพื้นโต๊ะประมาณ 28"x28"สูง 31-1/2" (ประมาณ 80ซม.) ครับ (เพื่อให้มีขนาดความสูงเท่ากับ โต๊ะงานไม้(Workbench) ที่ผมมีอยู่ และโต๊ะทำงาน (Workshop Hutch) ที่กำลังจะสร้างขึ้นด้วยครับ เวลาไม่ได้ใช้จะได้เข็นไปเก็บไว้ทำให้มันอยู่ในระดับความสูงเดียวกันและมีขนาดความลึกที่เท่ากัน) ส่วนเวลาใช้งานก็สามารถใช้งานร่วมกันได้เป็นอย่างดี เพราะะอยู่ในระดับเดียวกัน

         3. ที่ไม่ได้ใช้ไม้อื่นนอกจากไม้อัดเช่นไม้ สน หรือไม้พาเล็ต เพราะผมยังไม่เคยเพลาะไม้เป็นแผ่นขนาดใหญ่ครับ เคยทำแค่ไม้ปิดขอบเท่านั้น จึงน่าจะเพิ่มความยากในการทำให้แก่ผมพอควรจึงต้องเลือกไม้อัด แรกๆก็คิดว่าจะใช้ไม้ยางพาราประสานเหมือนกัน แต่ผมต้องการปิดผิวด้วยไม้อัดสักน่ะครับไม่มีเหตุผลอื่นจึงเลือกใช้ไม้อัดน่ะครับ (แต่โครงการถัดๆไปผมมีความคิดที่จะทำการเพลาะไม้เพิื่อทำพื้นโต๊ะด้วยเหมือนกันนะครับคุณ pakae)

         4. ส่วนพื้นโต๊ะนั้นผมต้องการให้มันเรียบและลื่นด้วยครับเลยเลือกใช้ไม้อัด 2ชั้นประกบกันและปิดทับด้วยแผ่นลามิเนตแบบมันเพื่อให้มันลื่นเวลาเลื่อนแผ่นไม้ไปบนพื้นโต๊ะระหว่างการตัดไม้ เมื่อใช้เป็นโต๊ะช่วยเวลาตัดไม้บนโต๊ะเลื่อยวงเดือนครับ

         5. เรื่องความแข็งแรงในการรับน้ำหนักนั้น ส่วนพื้นด้านล่างที่ต้องรับน้ำหนักทั้งหมดของโต๊ะที่ติดกับลูกล้อผมใช้ไม้อ้ด 20มม. มาประกบกัน 2 ขั้น แล้วยึดด้วยกาวและตะปู ส่วนการเชื่อมหรือต่อชนกับส่วนอื่นๆนั้นผมใช้วิธีการทำบังใบ (Rabbet)ด้วยโต๊ะเร้าเตอร์ ทั้งหมดและก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมต้องทำตัวกดไม้ หรือหวีกดไม้ (Featherboard) สำหรับโต๊ะเร้าเตอร์ไว้ใช้ก่อนทำโครงการนี้ครับ หากท่านใดสนใจวิธีการทำตัวกดไม้ ก็สามารถหาดูได้จากวิดีโอที่คุณอนุชิตทำไว้ใน Thaicarpenter.com ก็มีนะครับ

คุณ Paisal

      ทำได้สบายๆครับเพราะเห็นทำโต๊ะงานไม้มาแล้วโต๊ะแบบนี้น่าจะง่ายกว่าเยอะ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมยังไม่ได้ทำโต๊ะงานไม้ (คิดไว้ว่าจะทำเป็นชิ้นสุดท้าย และอยากทำด้วยไม้แดง ผสมไม้แอช หรือโอ๊คเลยครับ) เพราะอยากฝึกฝีมือไปเรื่อยๆก่อน แล้วก็อยากใช้โต๊ะงานไม้ที่มีอยู่ให้คุ้มค่าก่อนนะครับ ส่วนแบบของโต๊ะงานไม้ที่ชอบคือ Ruobo Workbench ครับจะต้องทำสักวันแน่นอนครับ

     

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-14 10:05:23



1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 »


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.