ReadyPlanet.com


3 ข้อควรคำนึง ก่อนเลือกซื้อกาวยาง
avatar
ดิว


 สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะซื้อกาวยาง ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการทำงานตกแต่งชิ้นใหญ่ หรือจะเป็นงานDIY เล็กๆ ก็มีข้อที่ควรคำนึง เพราะหากไม่ทำการพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ก่อนซื้อ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้

1. ประเภทวัสดุที่จะนำกาวไปทา

ข้อคำนึงแรกที่ถือว่าสำคัญที่สุดเลย ก็คือ ประเภทของวัสดุที่จะนำกาวยางไปทา เนื่องจากกาวยาง จะยึดติดกับพื้นผิวของวัสดุสองชนิดเข้าด้วยกัน ซึ่งจะแตกต่างจากกระบวนการที่หลอมรวมพื้นผิวให้เป็นหนึ่งเดียว เช่น การเชื่อมโลหะหรือการกระตุ้นด้วยตัวทำละลายของพลาสติก ในการเลือกกาวยาง จึงต้องคำนึงถึงสภาพพื้นผิว ความหยาบ ความเรียบ ความพรุน การเคลือบ ไม่เคลือบผิว ความสะอาด ความยืดหยุ่น รวมไปถึงขนาดของวัสดุ 

กาวยาง เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานไม้ เนื่องจากมีความทนทาน ทนต่อแรงกระแทก และมีความยืดหยุ่นสูง

 

สำหรับชิ้นงานขนาดใหญ่ ควรเลือกใช้กาวยางชนิดพ่น เนื่องจากการพ่นกาวยาง จะช่วยให้การกระจายตัวของกาวบนพื้นผิวเท่าเทียมและเรียบเนียนกว่าการทา นอกจากนี้การพ่นยังทำได้ไวกว่า ทำให้การแห้งตัวของกาวบนพื้นผิวทั้งชิ้นใช้เวลาใกล้เคียงกัน นอกจากงานชิ้นใหญ่แล้ว งานแนวดิ่งก็เป็นงานอีกประเภทที่เหมาะมากสำหรับการใช้งานกาวยางชนิดพ่น (อยากรู้วิธีใช้งานกาวยางชนิดพ่น คลิ๊กเลย!)

หากทำงานที่มีความโค้งมน ควรเลือกใช้กาวยางที่มีปริมาณเนื้อกาวสูง  และมีแรงยึดเกาะที่ดี เนื่องจากงานโค้ง จะมีโอกาสหลุดลอกได้ง่ายกว่างานแนวเรียบ

 

สำหรับชิ้นงานที่มีรูพรุนสูง เช่น ไม้MDF ควรคำนึงถึงการทากาวยาง 2 รอบโดยทากาวรอบแรก รอให้แห้ง แล้วจึงทากาวซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากรูพรุนบนพื้นผิวของวัสดุ จะดูดซึมกาวไปเยอะ ทำให้เหลือกาวบนพื้นผิวน้อยกว่าวัสดุที่ไม่มีรูพรุน

2. สภาพแวดล้อมที่ทากาว

สภาพแวดล้อมที่ทากาว มีผลอย่างมากต่อการเลือกประเภทกาวยาง

ในการทำงานตกแต่งภายใน ปัจจัยสำคัญที่คนมักเป็นกังวลคือ เรื่องกลิ่นกาวยาง ซึ่งในการทำงานหลายๆที่ จะไม่สามารถเปิดประตู และหน้าต่างได้ เพราะฉะนั้นก็ควรเลือกใช้กาวยางกลิ่นบางเบา เพื่อช่วยถนอมสุขภาพของผู้ใช้ รวมไปถึงจะช่วยทำให้ทำงานได้ยาวนานยิ่งขึ้นอีกด้วย (อยากรู้กาวยางสูตรกลิ่นเบา ดียังไง? คลิ๊กเลย!)

หากทำงานทากาวยางในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ในห้องแอร์ หรือ ในช่วงหน้าฝน สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ ระยะเวลาการแห้งตัวของกาวยาง เนื่องจากความชื้นจะยืดเวลาการแห้งตัวของกาวยางออกไป แต่หากประกบชิ้นงานก่อนกาวยางแห้ง ก็จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้งานพองบวม ด้วยเหตุนี้ จึงควรเลือกใช้กาวยางที่มีคุณสมบัติแห้งตัวได้ไว (อยากรู้ 5 เคล็ดลับทากาวยางช่วงหน้าฝน คลิ๊กเลย!)

SB Tip : หากความชิ้นในอากาศสูงกว่า 90% ควรหยุดทำงานทากาวยางสักพัก

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ คือ ในการทำงานตกแต่งทากาวยางนั้น ทำในหน้างานที่มีพื้นที่จำกัด หรือทำในโรงงานที่มีพื้นที่กว้าง หากทำงานหน้างานเป็นส่วนใหญ่ กาวยางชนิดทา จะเหมาะสมกว่า เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ หรืออุปกรณ์ในการทากาวเยอะ แต่หากทำงานในโรงงานเป็นส่วนมาก การใช้งานกาวยางชนิดพ่น ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ

3. อุณหภูมิ

สภาวะแวดล้อมหลายอย่างส่งผลต่อการบ่มและการยึดติดของกาวในระยะเวลาอันยาวนาน ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคืออุณหภูมิ การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของอุณหภูมิสามารถเปลี่ยนแปลงความเร็วการบ่ม และอายุการเก็บรักษาของกาวได้อย่างมาก

สำหรับชิ้นงานที่ต้องเจอกับแสงแดด เป็นเวลานาน เช่นงานภายนอก หรืองานติดใกล้กระจกใส หรือจะเป็นงานที่เจอความร้อนสูง เช่น งานเคาน์เตอร์ให้ห้องครัว ควรเลือกใช้กาวยางที่มีคุณสมบัติสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้  เนื่องจากความร้อนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้งานพองบวม เป็นคลื่นหลังการยึดเกาะ

อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญมากที่คนมักลืมนึกถึง คือการขนย้ายชิ้นงาน หากจำเป็นต้องขนย้ายชิ้นงานเป็นระยะทางไกล เจอกับแสงแดด และความร้อนมาก ก็ควรคำนึงเลือกใช้กาวยางที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูง ได้เช่นกัน

ที่มา : sbadhesive.com/blog/factors-that-affect-selection-of-adhesives/



ผู้ตั้งกระทู้ ดิว :: วันที่ลงประกาศ 2021-07-27 09:38:48


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.