ลินสีด จัดเป็นพืชน้ำมันที่สำคัญทางเศรษฐกิจของโลกพืชหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Linum usitatissimum ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งในรูปของน้ำมันที่สกัดมาจากส่วนของเมล็ด และเส้นใบที่ได้จากส่วนของลำต้น ในประเทศไทย รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของพืชนี้ และส่งเสริมให้มีการปลูกทั้งในที่สูงบนที่ราบเชิงเขาและในที่ราบ พืชชนิดสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ตามความต้องการและการนำไปใช้ประโยชน์ คือ
1. ลินสีด (linseed) ในกรณีที่ปลูกเพื่อนำเมล็ดไปใช้ในอุตสาหกรรมสกัดน้ำมัน โดยน้ำมันที่ได้มีลักษณะพิเศษ คือแห้งเร็ว ที่เรียกทั่วๆ ไป ว่าน้ำมันชักแห้ง (drying oil) จึงเหมาะที่จะนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำสี น้ำมันชักเงา น้ำยาเคลือบไม้ หมึกพิมพ์ ผ้าพลาสติก น้ำยาฟอกหนัง จารบี (grease) และสารหล่อลื่น (lubricants) เช่น ผสมกับน้ำมันสน น้ำมันตะกั่วดำ และในอุตสาหกรรมทำพรมน้ำมัน (linolium)
 

 ผมใช้มา มันไม่ต่างกันเลย กลิ่นคล้าย ๆ กัน แต่ไม่รู้ว่าส่วนผสมทางเคมีต่างกันอย่างไร 

ลองอ่านบทความดูแล้วกันนะครับ

http://www.chemtrack.org/Board-Detail.asp?TID=0&ID=495

http://www.homemart.co.th/hometips_detail.asp?id=799&parentid=0

จากการค้นหา น้ำมันชักแห้ง ชื่อเรียกว่า solvent 3040 ครับ

ลองค้นหาใน google ดูนะครับ 

paisal

ชักแห้ง  ในสมัยก่อน  เอาไว้ผสม กันสีน้ำมัน  หรือ วานิช  เพื่อให้สีแห้งแเร็วขึ้นครับ  ส่วนน้ำมันสนเอาไว้เจือจาง  หรือไว้ผสมก็ได้ ให้ความเงาก็สีมากกว่าชักแห้ง  และแห้งช้ากว่านิดนึง  แต่สมัยนี้  สีน้ำมัน  เค้าเอาทินเนอร์ผสมได้หมดแล้วครับ  แห้งเร็วกว่าเยอะ

 น้ำมันชักแห้งมีชื่อเป็นทางการคือ Drying oil  คือมันสามารถแห้งได้เองโดยทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ  ใช้ส่วนมากในพวกเคลือบผิวเพื่อเพิ่มความสวยงาม ตัวอย่างน้ำมันชักแห้ง น้ำมันลินสีด Linseed Oil น้ำมันทัง Tung  ส่วนการจะซื้อน้ำมันนั้น ต้องแล้วแต่การนำเอาไปใช้ค่ะ จากประสบการณ์ตรง เคยไปซื้อนำมันทั้งสองชนิด กรณีน้ำมันลินสีด ราคาประมาณ 300 บาท  250 ml ซื้อได้ตามห้าง หรือ ร้านเครื่องเขียน มีหลายเกรด มีทั้งแบบแห้งเร็ว แห้งช้า แต่ถ้าให้แนะนำ จะมีน้ำมันลินสีดที่บริสุทธิ์ ใช้ในกรณีทำพวกงานวิจัย คือแนะนำให้ซื้อกับบริษัทขายสารเคมี  ส่วนน้ำมันทังจะหาซื้อยากกว่าเคยไปซื้อแถวๆศิริราช ราคาก็อยู่ในหลักร้อยต้นๆ

 ส่วนไหนของศิริราชหรอคะ ขะไปซื้อบ้าง