OS-50 ครับ เคยเห็นถูกสุดขายที่ตัวละ 7600

สายพานไปเลยครับ โรตารี่ มีปัญหาเรื่องความร้อน ส่วนขอจำกัดของสายพานคือทำงานช้า แต่ข้อดีคือทำได้ทั้งวัน และใช้งานได้ตลอดครับ เริ่มต้น ดีก็ไป ได้ดีไม่มีปัญหากวนใจครับ

 พ่นสี 3 กา พ่นติดต่อกันตลอดทั้งวัน ใช้ปั้มลมชนิดลูกสูบขับด้วยสายพานขนาดมอเตอร์ 5 แรงม้าเลยครับ ถ้าใช้ไฟสามสาย 380 โวลท์ ค่าปั๊มกับค่าไฟไม่แพงมากหาซื้อปั้มมือสองนำเข้าจากญี่ปุ่นราคาจะถูกกว่าของใหม่มากๆ หารุ่นสามลูกสูบ สองสเตจ ผมเห็นมีขายในเว็ป truck two hand.com หน้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ มีขายหลายเจ้าครับ การพ่นสีนี่จะใช้ลมแยอะมากปั๊มลมเล็กๆผลิตลมมาไม่ทันใช้หรอกครับ

 กาพ่นแบบถ้วยสีอยู่บน ใช้ลมน้อยกว่า น้ำหนักเบา ประหยัดสีกว่าแบบถ้วยล่าง เพราะสีไหลออกมาที่ปากปืนพ่นด้วยแรงโน้มถ่วง กาพ่นแบบถ้วยอยู่ล่างจะใช้แรงดันลมส่งสีมาที่ปากปืนพ่นทำให้แปลืองสีกว่า พ่นสีเป็นเดือนเป็นปีค่าใช้จ่ายต่างกันมากๆ ถ้าคุณพ่นสีตลอดเวลา ใช้สีอยู่สีเดียวไม่เปลี่ยนสีบ่อยๆแนะนำให้ถอดกาถ้วยข้างออก ใช้ถังสีขนาด5 ลิตร หรือ ขวดใส่น้ำดื่มชนิดใสจะทนทินเนอร์ได้ เอามาดัดแปลงเป็นที่ใส่สีแขวนไว้ให้สูง ใต้ถังหรือขวดต่อท่อสีมาที่กาพ่นสีจะใช้สายสีเฉพาะหรือใช้สายพีวีซีอย่างใสก็ได้รัดข้อต่อให้แน่นมั่นคงด้วยนะครับ วิธีนี้คุณจะพ่นสีได้ตลอดวันไม่ต้องมาคอยเติมสีบ่อยๆพนักงานพ่นสีจะสบายไม่เมื่อยมือกับน้ำหนักสีในถ้วยกา พ่นสีได้ทุกท่าสีไม่หกออกจากกา

ขอบคุณมากมากนะคะ 

ชอบไอเดีย คุณเดชา จังเลย (ความเห็นที่ 4)

กำลังคิดหาวัสดุที่จะทำท่อต่อจากขวดน้ำดื่มใส ให้คงทน แน่นหนา  อย่างไรดี

ใครมีความคิดดีๆ ช่วยแชร์หน่อยครับ  ถ้าเป็นภาพถ่ายได้ยิ่งดีเลยครับ

ผมเคยลองทำแบบของคุณเดชาแล้ว เพราะว่าสายลม+สายสีมันอยู่คนละแนว สายสีอยู่ด้านบนสายลมอยู่ด้านล่าง เวลาพ่นจริงๆ เลยค่อนข้างลำบาก เลยตัดปัญหา ซื้อถังพ่นสีไปเลย จะลากถังไปไหนก็ได้ ขอแค่มีสายลมต่อเส้นเดียว

เยี่ยมเลยครับ..................  ^^

ตามที่ผมเคยซื้อและอ่านมานะครับ

1.ปั้มลมแบบโรตารี่ กับ สายพาน ข้อแตกต่างมีอะไรบ้างคะ?

โรตารี่ถูกกว่าพอสมควร แต่ไม่สามารถทำงานต่อเนื่องได้ ร้อนเร็วกว่า เสียงดังกว่า ตัวเล็กกว่า ดูแลบำรุงรักษาง่ายกว่า

2.ปั้มลมที่ต้องการคือใช้กับกาพ่นสีอย่างเดียว (พ่นสีลงขาไม้) จะมีกาพ่นสี 3 อัน

กาพ่นสีส่วนมากต้องใช้ปั๊มขนาดใหญ่ สองแรงม้าขึ้นไปถ้าจะพ่นสีต่อเนื่อง ยิ่งใช้กาสามตัวยิ่งต้องใช้ปั๊มใหญ่ขึ้น

ปั๊มสายพานแบบนี้จะราคาเป็นหมื่น ขั้นต่ำก็สองสามหมื่นสำหรับของใหม่ ถ้าซื้อมือสองก็ดูให้ดีๆด้วย เดี๋ยวค่าซ่อมแพงกว่าซื้อใหม่

3.ความต่อเนื่องในการใช้งานสำคัญที่สุด เป็นงานอุตหาสกรรมขนาดเล็ก

ถ้าอยากได้ความต่อเนื่องมากขึ้นก็ใช้ถังเก็บลมภายนอกมาต่อเพิ่มได้

ถ้าใช้ปั๊มโรตารี่ขนาดเล็กสองสามแรงม้า จะพ่นได้แป๊บเดียวก็ต้องพักให้ปั๊มทำงาน แรงดันก็ตก

และถ้าใช้ต่อเนื่องก็มีโอกาสพังสูง

4.กาพ่นแบบหัวบนกับล่างมีข้อแตกต่างหรือเปล่าคะ?

ในการใช้ไม่ค่อยต่างกัน ผลเท่ากัน แต่กาบนจะใช้ง่ายกว่า

การซื้อปั๊มต้องดูการเดินท่อด้วย และพวกอุปกรณ์เสริมอย่างกรองอากาศ ตัวปรับความดัน คอปเปอร์ (coupler)

ถ้าจะเดินท่ออย่าใช้ท่อ pvc เพราะเสี่ยงต่อการระเบิด

แนะให้ลงทุนซักหน่อยและซื้อปั๊มสายพานขนาดใหญ่เลยครับ เพราะงานแบบนี้ต้องใช้แบบนี้จริงๆ

จากกระทู้ด้านบน รบกวนสอบถามเรื่อง ปั๊มแบบโรตารี่ นิดนึงครับ

พอดีผมซื้อมาใช้อยู่  ... สรุปคือ ผมไม่ควรใช้งานขณะที่มันกำลังปั๊มลมอยู่ใช่มั้ยครับ  ปกติผมเห็นมันก็ใช้ได้เลยใช้ไป .......

ปั้มโรตารีก็ใช้งานได้ทั่วไปแหละครับ  แต่ไม่เหมาะกับใช้งานหนักๆหรือต่อเนื่องนานๆ เช่นพ่นสี ต้องคอยตรวจดูคอปเปอร์สายลมที่ปั้มว่ารั่วหรือเปล่า ถ้ามันรั่วก็อาจจะปั้มบ่อย ของผมเคยระเบิดมาแล้ว ปั้มต่อเนื่องแค่ครึ่งชั่วโมง เละหมดเลย ดีไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ

ใช้ขณะปั๊มได้ครับ การที่มันปั๊มก็หมายความว่าแรงดันลง หรือปริมาณลมในถังถึงจุดต่ำสุดที่ตั้งไว้

ปั๊มก็จะทำงานจนกว่าแรงดันกลับมาถึงจุดสูงสุดที่ตั้งไว้

แต่กับการพ่นสีนั้นกาส่วนมากจะกินลมเยอะ(ดูค่า CFM cubic feet/min) เกินกว่าที่ปั๊มโรตารี่จะปั๊มชดเชยได้ทัน

ดังนั้นถ้ายังพ่นต่อเนื่อง แรงดันก็จะไม่ขึ้น ปั๊มก็จะทำงานตลอดจนกว่าเราจะหยุดพ่น

และปั๊มโรตารี่ก็ไม่เหมาะกับการทำงานตลอด (heavy duty cycle) เพราะร้อนเร็วกว่าเนื่องจากไม่มีน้ำมันหล่อลื่น

ถึงได้แนะให้ใช้ปั๊มสายพานสองแรงม้าขึ้น (ไม่ใช่โรตารี่สองแรงม้านะ เพราะให้ลมไม่เยอะเท่า)

ตอนนี้มีปั๊มแบบใหม่ออกมา ขนาดเล็ก ราคาไม่แพง คล้ายโรตารี่แต่ใช้น้ำมัน

ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ ก็ลองดูนะครับ

จาก คห.11 "ของผมเคยระเบิดมาแล้ว ปั้มต่อเนื่องแค่ครึ่งชั่วโมง เละหมดเลย ดีไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ"

ไม่ทราบว่าที่ว่า ระเบิด น่ะครับ อะไรระเบิดครับ สายลม ถัง ตัวเครื่อง

ปล.ผมใช้โรตาลี่อยู่ครับ

คุณเดชา ความคิดท่านดีจัง..บอกตามตรงว่า..ที่ผมขวนขวายทำงานไฮกลอสมาได้นั้น  ..มาจากข้อมูลการนำเสนอของท่าน..ในเว็ปนี้..เป็นประโยชน์จริงๆ...ขอบคุณครับ

จาก คห.11 "ของผมเคยระเบิดมาแล้ว ปั้มต่อเนื่องแค่ครึ่งชั่วโมง เละหมดเลย ดีไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ"

ไม่ทราบว่าที่ว่า ระเบิด น่ะครับ อะไรระเบิดครับ สายลม ถัง ตัวเครื่อง

ปล.ผมใช้โรตาลี่อยู่ครับ

 ระเบิดที่เครื่องครับ เหลือแต่ถัง อย่างอื่นปลิ้วกระจายหมด ของpuma 3hp 25L ความจริงมันก็เก่าแล้ว แต่ยังฝืนใช้ เป็นประสบการณ์ชีวิตเลย

นี่ตกลงผมทำงานอยู่ใกล้ๆ สิ่งที่มันมีโอกาสระเบิดได้หรือนี่ ขอคุณ คุณตู่มากที่แชร์ประสบการณ์ จะได้ระวังไว้

"OS-50 ครับ เคยเห็นถูกสุดขายที่ตัวละ 7600"

อยากทราบว่าที่ไหนครับ อยากได้ตัวนี้เห็นแต่ 8200 บาท

ผมขอ เสริมและแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ยัง ไม่ได้มีใครพูดถึงนะครับ เพื่อจะเป็นประโยชน์ ควรมิควรแล้วแต่พิจารณาครับ(^_^)

กาล่าง ข้อดี ถ้าเป็นรุ่นยอดนิยม G112  ที่มี วงแหวนซีล รับปากโหลสี พ่นได้หลายทิศทางกว่า ใช้สีจำพวกที่มีส่วนผสมหลายตัว 

ทำสีประกาย สีเคลือบแข็งฮาทด์เน็ท ที่ต้องการเขย่าบ่อยๆ ใช้งานสบายใจกว่าเพราะสามารถเขย่าได้แรงทำให้ส่วนผสมสี

เข้ากันได้ดีกว่า ทรงกาอาจล้างยาก อาจมีสีตกค้างหรือพ่นสีได้ไม่หมดเกลี้ยงกา

(วิธีช่วย ให้สีหมด ถึงก้นกา ให้ใช้ สายยางระดับน้ำเล็กๆ ต่อความยาว หลอดนำสี)

การปรับควบคุม ความแรงลม ลำบาก

(แก้โดย เพิ่มบอลวาล์วลม ทองเหลืองระหว่างทางสายลมเข้ากา)

เหมาะสำหรับ ใช้บรรจุ เฉพาะสี ที่ต้องใช้ประจำ แต่ ราคาถูกกว่า เริ่มที่ ประมาณ 300 บาท

กาบน ข้อดี ล้างทำความสะอาดง่าย ตัวกา มีปุ่มปรับ มากกว่า ปรับได้ทั้ง แรงลม การปล่อยสี มุมกระจาย ใช้สีหมดเกลี้ยงได้

เหมาะกับ งานสีละเอียด งานแล็คเกอร์ แต่ต้องคอย ระวังการเขย่าสี การใช้งานถ้ากาเอียงเกินไป ปรับแนวโหลกาไม่เหมาะสม 

สีจะไหลเลอะเทอะได้ ราคาเริ่ม 400 บาทขึ้นไป ถึงหลัก เป็น 1000 บาท ราคาที่เพิ่มเทียบคุณภาพกันเองนะครับแล้วแต่ล่ะร้าน

ตัวผมเอง มีใช้อยู่หลายประเภท เพราะชอบเดินดูอะไหล่เครื่องมือแถวคลองถม มือ1 มือ2  โรงพยาบาลกลาง

เดินตั้งแต่เวิ้งนครเกษม ถึงแถวย่านวัดตึก ไปพบเจอกาพ่นสี แขวนในตู้คาร้าน รุ่นแรกๆ ทนถึก เก่าเก็บแค่ฝุ่นจับ

เกลียวนอกส่วนรับเกลียวใช้ทองเหลือง ดูทนทานดี เจอก็จะขอเขาดูรายละเอียด ราคาช่วงไม่เกิน500-600 ชอบใจ

มีเงินพอ รีบซื้อมาก่อน และ ไม่เคยผิดหวังครับ เทียบไปซื้อ กาก๊อป***รุ่นใหม่ๆ ลองเทียบรุ่นเก่า เคยมีร้านแนะนำให้ดู

เขาเอาโหลกามาวัด มาชั่ง กับ แขนชั่งแบบบาลานซ์ การุ่นใหม่เบาและบางและนิ่มไม่แข็งเหนียวเหมือนรุ่นเก่า 

และ เทียบพวกอุปกรณ์เกลียวจะไม่ค่อยทนทาน รุ่นใหม่บางตัวใช้เนื้อ บอดี้อลูมิเนียมเป็นเกลียวในเลย

ถอดล้างหรือจุดปรับ ใช้ไม่นานก็หลวม คุณภาพด้อยลงครับ

รุ่นใหม่ตัวพัฒนาดีขึ้น ก็มีครับ พิจารณาตามราคาครับ

การตัดสิ้นใจอยู่ที่ทุกท่าน ถูกควร แพงไม่ควร อิอิ อย่างไร ควรพิจารณากันเอา นะครับ ยิ้ม(^_^) นะครับ สู้ๆ

ผมก็ใช้ปั้มโรตารี่ของ MKT อยู่ครับก็ใช้ดีอยู่เหมือนกัน แต่ล่าสุดปรากฎว่า ตัวปรับตั้งความดันลมแตกซะ เพราะพี่ยึมไปแล้วช่างอีกคนหมุนแตกเลย ผมก็ไม่เข้าใจว่าเค้ัาจะหมุนมันทำไมก็เราตั้งไว้ดีแล้วนี่่หว่า แต่ไม่เป็นไรเรามีปั้มของ puma ตัวเสียงเงียบอยู่ซึ่งใช้อยูซักฟักแล้วเสียงเงียบพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับ MKT โรตารี่แล้วเงียบกว่ามากเลยทีเดียว แต่การปั้มลมช้ากว่าเกือบครึ่งนึงเลย การพ่นสีก็ถือว่าใช้ได้เลยครับถ้าพ่นงานไม่มากนักแต่ถ้าพ่นงานหลายชิ้น ผมว่าเครื่องมันร้อนไปหน่อยไม่กล้าพ่นนานๆ กลัวพังซะก่อน เพราะรู้่สึกว่าเครื่องมันร้อนเร็วไปหน่อย แต่ความเงียบนี่ไ้ด้เลยครับ เพราะผมทำงานอยู่ชั้นสอง และเป็นตึก5ชั้น ตอนใช้ MKT โรตารี่นี่ ดังลั่นทั้งตึกเลยครับ

ุ่

 โรตารี่ ไม่เหมาะกับการพ่นสี ผมเห็นด้วยครับ ร้อนมาก ( ของผมพังไปแล้ว puma 3 hp 50L ช่างบอกช็อตรอบ ต้องพันลวดใหม่ ของเดิมลวดอลูฯ พันใหม่ทองแดง เกือบ 2000 ) แต่ใช้เครื่องมือลมทั่วไปเหมาะมาก ๆ ครับ อัดลมได้เร็ว 

OS-50 แถวคลองถมเคยถามเมื่อ 2 เดือนก่อน ร้านกิจรุ่งเรือง ตรงข้ามวัดชัยชนะสงคราม(ที่จอดมอไซด์เยอะๆ) ขายอยู่ 77-7800 บ. แ่ต่ ณ วันนี้ไม่รู้ราคาปรับหรือยังนะ ส่วนร้านอื่นเดินถามเล่นๆ มันก็เลยบอกผมเล่นๆ มั้ง 9 พัน 555+

ส่วนตัวผมใช้ OS-25 ครับ ไม่ได้ใช้พ่นสี ตอนรอปั้มลมนานประมาณ 1-2 นาทีกว่าจะหยุด ส่วนเวลาใช้ปืนเป่าลม แป๊บเดียว น่าจะ 15-20 วิ ลมก็หมดต้องปั้มใหม่

ตอนนี้กําลังลองของจีนอยู่ ถ้าเวิคจะขายpumaทิ้งทั้ง3ตัว แล้วไปซื้อของจีน

 แป่ววววว แสดงว่าพี่เอ๋คงจะเจอปัญหากับ puma เหมือนกันไช่มั้ยครับ ( ขอความเห็นหน่อยครับ )

คุณเดชาคับ มีภาพให้ดูไหม นึกไม่ออกคับ

เวลาจะเปลียนน้ำมันเครื่องทำยังไงอะคับ

เพิ่งเห็นคำถามของคุณ คับ รูปผมคงลงไม่ได้ครับคอมผมมีปัญหาอยู่ แต่จะเขียนบอกให้นะครับ กาพ่นสีชนิดถ้วยข้างที่ข้างกาจะมีเกลียวตัวผู้สำหรับให้เอาถ้วยกามาขันติดเวลาใช้พ่นสี เกลียวตัวผู้นี้เขาจะโผล่ออกมาตรงๆเราต้องใช้ข้องอทองเหลือง 9o องศาเกลียวตัวเมียสองด้าน 1 ตัวเกลียวเดียวกันกับที่กาพ่นสีนะครับ  หางปลาไหล 1 ตัวเอามาต่อกับข้องอทองเหลืองขนาดหางให้เข้ากันกับท่ิอยาง พีวีซี ที่ช่างก่อสร้างใช้ทำสายวัดระดับน้ำ นำมาประกอบเข้ากับตัวกาพ่นสีให้หางปลาไหลชี้ลงด้านล่าง เอาสายยางมาต่อที่หางปลาไหล ใช้ที่รัดสายไฟรัดไว้กันหลุด เวลาใช้งานสาย พีวีซี โดนทินเนอร์สายจะบวมนิ่มและขยายตัว ส่วนปลายสาย พีวีซี อีกด้านเราเอาไปต่อกับหางปลาไหลอีกตัวที่เราดัดแปลงติดไว้กับฝาขวดน้ำดื่มชนิดใสขนาดลิตรครึ่ง ตัดก้นขวดออกเจาะรูสองข้างที่ขอบเอาลวดมาทำที่แขวนหน้าตาเหมือนกับถังทั่วไป เวลาใช้งานปากขวดจะห้อยอยู่ด้านล่าง แขวนไว้ให้สูงขนาดเอื้อมมือถึง ความยาวสายสีก็ให้เหมาะกับงานที่เราทำ ถ้ายืนพ่นอยู่กับที่ สายสีนี้ยาวห้อยลงมาแค่โคนขาคนพ่นก็พอ ถ้าต้องเดินพ่นไปกลับระยะทางยาวต้องเผื่อสายสีไปตามยาวและเพิ่มความสูงของถังสีให้อยู่สูงๆและใช้ถังสีให้มีขนาดบรรจุที่ใหญ่ด้วย สายสีและสายลมช่วงที่ต่อจากด้ามปืนพ่นสีลงมา1 เมตรใช้เชือกฟางหรือทีรัดสายไฟนำมารัดให้อยู่คู่กันเป็นช่วงๆเพื่อไม่ให้สายสองเส้นนี้แกว่งพันกันไปมาจะทำงานไม่สะดวก อดีตผมเคยมีโรงงานทำตุ๊กตาออมสินปูนพลาสเตอร์ทำเดือนนึงเป็นหมื่นตัว ผิวสุดท้ายต้องพ่นด้วยโพลียูรีเทนชนิดใส คนงานผมพ่นกันสองคนชุดพ่นสองชุด ใช้วีธีนี้พ่นอยู่หลายปี ผมว่าสะดวกดีพ่นเสร็จล้างปืนพ่น ขวดสีใช้ทินเนอร์เทลงไปล้างแล้วปล่อยทิ้งให้ไหลไปตามสาย ทำสองเที่ยวแล้วแขวนไว้ให้สายสีห้อยลงมาตรงๆเช้ามาก็ประกอบปืนพ่นเติมโพลี่ยูรีเทนพ่นกันต่อเลย เรื่องของห้องพ่นสีผมก็เคยทำใช้ทั้งระบบม่านน้ำและระบบดูดออกธรรมดา ท่านที่จะทำใช้เองผมแนะนำให้ใช้พัดลมดูดของตู้แอร์ตัวคอยส์ร้อนที่ตั้งอยู่นอกบ้านนั่นแหละจะเอามือสองราคาแสนถูกหรือซื้อใหม่ก็ได้ พัดลมพวกนี้ประสิทธิภาพดีมาก แรงดูดดีมากๆ  ประหยัดไฟ เสียงเงียบ โอกาสมอเตอร์ไหม้ยากมากเพราะเวลาร้อนจัดมอเตอร์จะตัดตัวเอง พอเย็นจะทำงานใหม่เอง ตัวทีผมเคยใช้อยู่ทนเกือบสิบปี เวลาใช้งานหาน้ำมันเครื่องหนืดๆมาทาใบพัดลมให้ทั่วจะช่วยป้องกันสีติดแน่นได้จะสะดวกตอนทำความสะอาด

ขอเสนอนะ ตามที่คุณเล็กถามคือ คุณเป็นงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ดังนั้นข้อแนะนำของคุณเดชา คห  ที่ 3 และคุณดมฝุ่น คห ที่ 2   น่าจะถูกต้องคือใช้ปั้มลมสายพาน และกาพ่นสี อาจจะใช้ของดีขึ้นมาอีกนิดจะช่วยการโปรยสีละเอียดขึ้น กาพ่นสีของ ยี่ห้อ อิวาต้า ( IWATA ) (ไม่ได้ค่าโฆษณากับเขหรอกนะ) หรือคุณเล็กอาจจะใช้ของดีกว่านี้อยู่แล้ว  พิจารณาดูนะ

 จำหน่ายปั๊มลมและปั๊มสกรู มือสอง และจำหน่าย ถังฉีดโฟมสำหรับคาร์แคร์ ถังเติมลม ถังพักลมเหล็ก ถังพักน้ำเหล็ก ถังน้ำถังลมสแตนเลส และรับซ่อมปั๊มลมทุกรุ่นทุกยี่ห้อ 
รับปั๊มชิ้นงานตามแบบ รับตัดเหล็กและพับ

https://www.facebook.com/SmAirCompressor?ref=hl

ข้อมูลของคุณเดชานี้เยี่ยมไปเลยครับผมยังจำที่แนะนำเรื่องเครื่องรีดไม้ให้ผมได้เลยครับตอนนี้มันไม่ต้องเอามือดันอีกแล้วครับแต่ต้องเผื่อไม้หัวท้ายปาเข้าไปตั้ง 10 เซ็น

คับผมขายปั้มลมฟูเช็งและสะวอรอยู่เป็นปั้มใหม่นะคับโทรมาถามใด้คับรับประกัน2ปีคับ0904026775

ขอแนะคุณ อดิศร เรื่องเครื่องรีดไม้อีกหน่อยนะครับ เหตุที่ปลายไม้มีรอยแหว่งนิดหน่อยนั่นเป็นกับเครื่องไสไม้ทุกตัวแหละครับ ในเครื่องไสไม้จะมีลูกกลิ้งพาไม้อยู่สองลูกมีชุดใบกบอยู่ตรงกลางลูกกลิ้งสองลูกนี้ เมื่ิอไม้เดินผ่านลูกกลิ้งสองลูกนี้จะมีแรงกดไม้เท่ากันใบกบจะกินไม้เรียบเสมอกัน เมื่อปลายไม้ผ่านลูกกลิ้งตัวแรกไปแล้วจะไม่มีแรงกดที่ไม้อีก ปลายไม้จะกระดกขึ้นนิดหน่อยใบกบจะกินไม้เป็นรอยยุบที่ปลายไม้ เราจึงต้องเผื่อไม้ที่จะไสให้ยาวกว่าจะใช้งานจริง ปรกติเราจะเตรียมไม้ให้ได้ขนาดความหนากับความกว้าง ส่วนความยาวเราจะมาตัดกันทีหลังเมื่อเราไสขนาดเสร็จแล้วและไม้จริงทั่วไปหัวไม้และปลายไม้จะมีรอยแตกอยู่แล้วยังไงเราก็ต้องตัดออกอยู่ดี จึงไม่เป็นปัญหาเรื่องปลายไม้แหว่งเพราะเครื่องไส แต่วิธีแก้ไขก็ยังมีอยู่นะครับ กรณีที่มีไม้ไสขนาดพร้อมกันหลายตัว เราต้องเตรียมไม้รอไส จัดเรียงเสี้ยนไม้อย่าให้ไสย้อนเสี้ยน วางกองไว้ให้หยิบส่งเข้าเครื่องไสให้ไม้ต่อกันอย่าเว้นช่องว่างพอถึงไม้ตัวสุดท้ายเราใช้เศษไม้ที่มีขนาดเดียวกันและยาวเกินกว่าช่วงกว้างของลูกกลิ้งทั้งสองลูก ส่งตามปลายไม้ตัวสุดท้ายเข้าไปด้วยรอยแหว่งก็จะไปอยู่ที่เศษไม้แทน ปรกติหัวไม้ที่ผ่านเครื่องไสจะไม่มีรอยแหว่งนะครับของคุณอดิศรลองตรวจดูว่าลูกกลิ้งสภาพยังดีอยู่หรือเปล่า บูชปลายลูกกลิ้งยังกลมอยู่หรือเป็นรูปไข่ไปแล้ว ปริงกดลูกกลิ้ง มีเศษฝุ่นไม้ติดเยอะไปหรือเปล่า ถ้าใช้เครื่องไสกับไม้สนมากๆที่ลูกกลิ้งเหล็กตัวหน้าจะมียางไม้ติดเต็มร่องฟันต้องแคะออกให้หมดและที่ลูกกลิ้งยางยูรีเทนจะมีคราบยางไม้ติด ลูกกลิ้งจะลื่นทั้งสองลูก ใช้น้ำมันสนเช็ดออกให้หมดครับ เครื่องไสทุกตัวใช้งานไปสักระยะต้องทำความสะอาดชุดลูกกลิ้งและเหล็กกดหัวไม้ครับ

 ของผม วันนี้เลยครับ puma50l. ลูกน้องใช้ผ่นสีนานติดต่อกัน แล้วก็เกิดมอเตอร์ไม่หมุ้นเอาดื้อๆ ทั้งๆที่แรงดันพึงได้ 4 บาร์เอง

ไม่แน่ใจว่าร้อนเกินไปหรือเปล่า

150 ลิตร.. 6 แรง แบบเงียบ! พอแน่.. อิ อิ

ต้องหารุ่นที่ทำ Flow in ได้ไม่ต่ำกว่า 500L/Min คับ..

 ขอบคุณทุกท่านครับ  มีสาระ  ตอบคำถามด้วยความจริงใจ