จาก ค.ห. 200 เป็นถังที่เริ่มเต็มแล้ว ผมเปลี่ยนถุงดำใหม่เพราะใบเก่ามีรอยขาด

การใส่ใบใหม่ผมจะใส่ไม้ 3 ชิ้นเพื่อค้ำให้ถุงกางไว้ ไม่เกิดการยุบตัวมาปิดช่องลมเข้าตามแรงดูดของเครื่อง โดยใช้ไม้ 1 ชิ้นตั้งขึ้นไว้รับด้านล่างไม้อีก 2 ชิ้น ส่วนไม้อีก 2 ชิ้นวางเป็นกากบาทไว้ครับ ถ้าไม้ล้มหลังจากมีขี้เลื่อยมาดันก็ไม่เป็นอะไรครับ เพราะขี้เลื่อยที่ดันไม้จนล้ม ( รูปใน ค.ห. 200 ) ต้องมีมากพอถึงจะดันไม้ล้มได้ และเมื่อมากพอ ถุงก็จะกางตามปริมาณขี้เลื่อยครับ

ที่ใต้ปากถุงดำผมทำบ่าไม้ยึดกับถังเก็บฝุ่นรอบทั้ง 4 ด้าน ไว้รับถุงและรับกรอบไม้ที่มากดปากถุงไว้ โดยคำนวนความหนาของไม้ทั้ง 2 ชั้น บวกกับฝาอีก 1 ชั้นไว้ให้เมื่อประกบกับแล้วที่แผ่นบนสุดจะเสมอขอบถังเก็บฝุ่นครับ แต่ท่านที่จะทำเครื่องดูดฝุ่นแบบนี้ทำ 2 ชั้นก็พอครับ คือมีแค่บ่ากับฝาก็สามารถผนึกได้แน่นแล้ว ที่ผมทำมานี้ก็เหมือนภาษิตจีนที่ว่า "วาดงูเพิ่มขา" หมายถึงทำอะไรเกินจำเป็นหรือทำในสิ่งที่ไม่ต้องมีครับ

รูปใต้ฝาปิดเครื่องดูดฝุ่น

นี่เป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งของเครื่องนี้ครับ จุดนี้คือทางลมออกสู่เครื่องเป่าลม (ท่อที่ต่อกับเครื่องเป่าลม) ในตอนแรกเครื่องที่ผมทำมานี้ ทางลมออกนี้มีขนาดเท่าท่อโดยผมติดตะแกรงพลาสติกดำที่ปากท่อด้านในไปตรงๆ ซึ่งมันจะมีขี้เลื่อยถูกดูดมาปิดตะแกรงเร็วและบ่อยครั้งที่ผมต้องดึงเครื่องเป่าลมมาเป่าสวนลงไป เมื่อเป็นบ่อยครั้งเข้าผมเลยเจาะตะแกรงทิ้งเสียเลยเพราะรำคาญที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แต่การทำอย่างนี้มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบพัดเครื่องเป่าลมของผมแตกครับ คือเมื่อเจาะตะแกรงออกแรกๆก็เครื่องก็ทำงานได้ดีครับ แต่เมื่อใช้ไปเรื่อยๆผ่านไปหลายๆถังก็เกิดปัญหาครับ

คือมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมลืมตรวจความสูงของขี้เลี่อยในถังเก็บพอขี้เลื่อยในถังมีมากขึ้นสูงขึ้น เครื่องเป่าก็ดูดเอาเศษไม้ที่เป็นชื้นเข้าไปในห้องใบพัดทำให้ใบพัดแตกจนต้องไปหาใบอะไหล่มาใช้ โชคดีที่ยี่ห้อที่ผมใช้นี้มีอะไหล่ขาย ไม่งั้นคงต้องเสียเงินซื้อเครื่องใหม่เพื่อเอาใบพัด (เครื่องแบรนด์ ก็มีใบพัดขายเป็นอะไหล่นะครับ แสดงว่า จะจีนจะแบรนด์ก็แตก เอ้ย...ก็อุ่นใจที่มีอะไหล่สำรองเหมือนกัน แหะๆ ) 

เรื่องใบพัดแตกผมขอให้ทุกท่านที่อ่านได้โปรดเห็นเป็นเรื่องใหญ่นะครับ ใบที่แตกจะมีทั้งชิ้นเล็กและใหญ่ ถ้าชิ้นใหญ่หลุดจากห้องใบพัดมาก่อนและติดอยู่ในท่อเครื่องเป่าเหมือนที่ผมเจอก็โชคดีไป แต่ถ้าชิ้นเล็กหลุดมาก่อนแล้วพุ่งไปโดนอะไรเข้า อาจเกิดความเสียหาย หรือได้รับบาดเจ็บก็เป็นได้ครับ

ในรูปจะเห็นผมทำทางออกลมสู่เครื่องเป่าให้กระจายออกเป็น 5 ทาง เป็นการขยายพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เศษไม้มาออกันที่ตะแกรงเหมือนแบบแรก ส่วนผลการใช้นั้นดีมากครับ

ทางลมเข้า

ที่เยินซะขนาดนี้ไม่ใช่เป็นเพราะใช้งานหนักหรือหนูแทะนะครับแหะๆ จริงๆแล้วมันผ่านการปรับปรุงหลายครั้ง จึงมีสภาพแบบนี้ครับ

โครงถุงฝุ่นเบา ผมทำเป็นโครง 2 ชั้นในและนอก สวมกันเพื่อหนีบผ้าไว้ตรงกลางระหว่างโครงทั้งสองครับ ส่วนการเอาฝุ่นเบาทิ้ง ผมใช้วิธีเจาะช่องขนาดใหญ่ไว้ที่ไม้ mdf ที่ใช้ทำฐานโครงถุงฝุ่นเบา จากนั้นก็ใช้ไม้ที่ใหญ่กว่าช่องที่เจาะไว้ของฐานโครงฯปิดจากด้านในโครงฯ แล้วค่อยประกอบผ้ากับโครงนอก เวลาจะทิ้งฝุ่นเบาก็ใช้วิธีดันไม้ปิดช่องนั้นขึ้นก็จะสามารถระบายฝุ่นได้ครับ

ที่ทางลมออกสู่ถุงฝุ่นเบา ผมเจาะรูไม้(ด้านในถุง)ไว้ก่อนที่จะสวมถุงผ้า โดยวัดเส้นรอบวงที่ยางเครื่องป่าลมในตำแหน่งที่เล็งไว้แล้ว ส่วนรูที่ไม้ผมทำให้วงเล็กกว่ายางเล็กน้อย เป็นการป้องกันไม่ให้ฝุ่นเบาย้อนกลับมาที่รูนี้ครับ

แสดงการใช้งาน

รูปใน ค.ห. 14 และ 15 ผมแสดงพลังเครื่องดูดฝุ่นเครื่องนี้ด้วยการดูดตลับเมตรที่มีน้ำหนัก 195 กรัมครับ

คราวนี้ผมขออนุญาตแสดงพลังของเครื่องนี้อีกครั้งด้วยการดูด(ทรัพย์สิน)ที่พี่เบิร์ดให้ไว้เป็นของที่ระลึกเมื่อครั้งที่ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมช็อปพี่เค้าครับ

ทั้ง 2 กระป๋องนี้ผมใช้เทปกาวใสพันให้ติดกันเพื่อการสาธิตครับ ก็ขอให้คิดประมาณว่า นักยกน้ำหนักเรียกน้ำหนักเพิ่ม เพื่อทำลายสถิติก็แล้วกันครับ 5555

น้ำหนักเดิมอยู่ที่ 195 g น้ำหนักในครั้งนี้ 580 g ครับ

ผลการยกน้ำหนักสามารถทำลายสถิติลงได้อย่างงดงามครับ....เฮ้ๆๆๆๆๆ

จบเรื่องเครื่องดูดฝุนแล้วครับ ^_^

ครั้งต่อไปจะกลับไปที่เรื่องฮูดดูดฝุ่นเครื่องเลื่อยฯกับอุปกรณ์เสริมแผ่นรองตัดฯครับ ท่านใดมีข้อสงสัยเรื่องที่ผมได้ลงไว้ ถามได้ครับไม่ต้องเกรงใจ

รอมาหลายวันแล้วนะ พี่ยุ่น เปิดเช้า เปิดเย็น ไม่เห็นมีไรคืบหน้า 
อิอิ มีบ่น 

ขอบคุณมากเลยพี่ยุ้น
อยากให้ทีมงานเวป Thaicarpenter ปักหมุดไว้เลย กระทู้นี้

ขออภัยที่ทำให้รอนานครับ คุณนัทคุง ^_^

ช่วงนี้งานผมแน้น...น........แน่น ประมาณว่างานมันรัดตัวจนไขมันที่พุงปลิ้นขึ้นมาถึงใต้คางแล้วครับ  เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะแพล็มๆรูปความคืบหน้าซักเล็กๆน้อยๆพอเป็นกระษัยก่อนนะครับ

ความคืบหน้าล่าสุดของ power tool station ครับ ทำลิ้นชักใส่ใต้ชั้นรับไม้จากเครื่องรีดฯ วันที่ผมทำลิ้นชักนี้ ช่างเชนเป็น "ไก่" (ผมอยากเรียกอย่างนี้แทน"ไกด์"อ่ะ ) พาเพื่อนคือ คุณธนะ มาทัวร์ช็อป คุยกันสนุกเพลิดเพลินไปเลยครับ

ก็เพราะสนุกเพลิดเพลินนี่แหละ จึงทำให้ผมลืมเรื่องถ่ายรูปขั้นตอนที่ผมทำลิ้นชัก power tool station ไปเสียสนิทเลยครับ   

อ้อ...สาเหตุที่ผมอยากเรียกช่างเชนว่า "ไก่" แทน "ไกด์" ก็แหม..แบบว่า งานไม้อ่ะนะ มันก็ต้องมีผิดนิดพลาดหน่อยเป็นเรื่องปกติ ( ถ้าแก้ไขไม่ได้นี่ไม่ปกตินะครับ ) แต่ ช่างเชน เล่น "จิก" ผมซ้า...า.....   กว่าจะแก้ไขลุล่วงไปได้ก็หัวเราะกันจนน้ำตาร่วงเลยครับ5555

สวยงามมากกก 
คุ้มค่ากับการรอคอย
อยากเจอ อยากคุยกันในงานคุยจ๊ือ ครั้งที่ 2 นะครับ 
สู้ ๆ  พี่ยุ่น 

แงๆๆๆ เค้าจะเอา เค้าจะเอาแบบนี้ซักตัวอ่ะ

ผมชอบกระทู้นี้จัง อยากกด Like ให้พันครั้ง

ขอบคุณครับ คุณนัทคุง สู้ครับสู้แน่นอนรายจ่ายรออยู่ แล้วเจอกันในงาน คุยจ้อฯ ครับ  

โอ๋...นิ่งซ้า..า.....นิ่ง  นี่ถ้าพับใส่กระเป๋ากางเกงได้ ผมจะพับให้เลยนะเนี่ยะ คุณsornid

ขอบคุณ คุณUdonbkk@yahoo.com ครับ

 เข้ามากด like ครับ 

        ผมติดตามผลงานของพี่ยุ่นมาสิ่งที่ผมเห็นคือการใช้สิ่งของที่อยู่รอบๆตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ผมนับถือจริงๆและรบกวนขอเบอร์โทรศัพท์แจ้งทางmail ให้ทราบด้วยครับเอาไว้ติดต่อเวลาไปดููshopพี่ครับ

ขอบคุณ คุณอารี ครับ

ขอบคุณครับ คุณpop

การใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆรอบตัวนั้น ผมคิดว่าหลายๆท่านก็ได้ทำได้ใช้อยู่ เพียงแต่อาจมองข้ามสิ่งนั้นไปเพราะไม่ได้คิดว่ามันมีอะไรน่าสนใจจึงไม่ได้เผยแพร่ออกมา ยกตัวอย่างเช่นเครื่องดูดฝุ่นของผมที่ได้ไอเดียมาจากคลิป คุณอนุชิต ครับ 

ตอนวางแผนสร้างเครื่องดูดฝุ่นผมคิดไว้ว่าจะได้ประโยชน์ 2 ทางคือประยุกต์มาใช้เป็นเครื่องดูดฯ และถอดเครื่องมาใช้เป็นเครื่องเป่าลมเป่าฝุ่นตามจุดต่างๆตามที่เค้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมคิดว่าท่านอื่นๆก็คงคิดเหมือนผมจึงไม่ได้คิดจะแสดงตัวเครื่องดูดฝุ่นนี้ แม้จะมีเพื่อนที่มาเห็นแล้วชักชวนให้ผมสาธิตผ่านบอร์ดนี้ผมก็ทำนิ่งๆไปเสีย  

จนกระทั่งเมื่อผมมาเปิด กระทู้รวมร่างฯ นี้ ตัวเครื่องรีดไม้และเครื่องเลื่อยองศามันต้องการเครื่องดูดฝุ่นมาใช้งานร่วมตามจุดประสงค์ของผม ผมถึงได้มีการบอกเล่าถึงเครื่องดูดฝุ่นนี้ประกอบ โดยที่ตอนเริ่มลงเรื่องราวผมพูดถึงเครื่องดูดฝุ่นไปน้อยมาก เพิ่งจะมารู้ตัวก็ตอนที่มีหลายๆท่านสนใจถามไถ่เข้ามาครับ

ส่วนเบอร์โทรฯผมเมลล์ไปให้แล้วนะครับ คุณpopเข้ากรุงเทพฯเมื่อไรรบกวนโทรบอกด้วย ผมจะได้ปิดบ้านทันครับ........ปิดเพื่อปัดกวาดช็อปไว้รอต้อนรับน่ะ 5555

เครื่องดูดฝุ่นภาคพิเศษ

จากครั้งก่อนที่ผมได้บอกไว้ว่าจะลงเรื่องฮูดกับอุปกรณ์เสริมแผ่นรองฯ ในครั้งนี้ผมขอเล่าเรื่องเครื่องดูดฝุ่นไปพลางๆก่อนนะครับ เพราะถ้าผมจะทำและลงเรื่องราวตามที่เคยบอกไว้ เวลาที่เหลือจากการทำงานในแต่ละวันคงไม่พอครับ และครั้งนี้เป็นการเตรียมตัวเพื่องาน คุยจ้อฯ ครั้งที่ 2  อีกอย่างการปรับปรุงเครื่องดูดฝุ่นในครั้งนี้ผมคิดว่าใช้เวลา 2-3 ช.ม.ก็น่าจะพอครับ

ถ้ายังจำเครื่องดูดฝุ่นผมได้ ( ที่พูดอย่างนี้เพราะผมรู้สึกว่าไม่มีใครอยากจำ  ก็หน้าตามันไม่ค่อยน่าดูอ่ะครับ  ) เครื่องผมเหลือท่อดูดฝุ่นสั้นมากจากเหตุผลที่เคยได้เล่าไว้ก่อนหน้านี้ ผมคิดว่าถ้าเอาไปแสดงให้เพื่อนๆดู อาจเห็นเป็นที่ขบขันเพราะมันเพิ่งถูกผมตัดออกไปอีกเพราะมีรอยฉีกเกินเยียวยา ไหนๆจะเปลี่ยนท่อฯแล้วผมเลยคิดว่าถึงเวลาที่จะแต่งตัวให้เค้าเสียใหม่ซักที แต่ก็คงได้ในระดับพอดูได้เพราะผมยังคงใช้เศษไม้มาตัดๆแปะๆเช่นเคยครับ

ผมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าผมได้เคยบอกไว้ว่าโครงถุงฝุ่นเบาเครื่องดูดฝุ่นเครื่องนี้ถอดออกได้หรือไม่ เอาเป็นว่าผมขอบอกในที่นี้เลยแล้วกันว่ามันถอดได้นะครับ ^_^"

ในรูปก็เป็นวัสดุ,อุปกรณ์ในการแต่งตัวให้เครื่องครั้งนี้ครับ

กาวในงานไม้ยอดนิยมอีกชนิดนึงก็คือกาวยางครับ ผมขออนุญาตบอกวิธีการใช้งานกาวยางนี้เผื่อท่านที่ยังไม่เคยใช้ผ่านมาอ่านเจอนะครับ

การใช้กาวยางนั้นง่ายมาก เวลาใช้ก็เพียงทาให้ทั่วไม้ทั้งสองชิ้นที่เราต้องการให้ติดกัน จากนั้นก็ปล่อยให้แห้งพอหมาดๆ ซัก 2 - 4 นาที ก็ประกบไม้เข้าด้วยได้แล้วครับ เพียงแต่การเกลี่ยกาวควรเกลี่ยให้เรียบทั้งสองแผ่น เวลาเอาไม้ประกบกันจะได้เรียบไม่มีช่องห่างระหว่างไม้อยู่ภายใน โดยเฉพาะถ้าใช้วัสดุบางๆมาติดกับไม้ เช่นไวนิลลายไม้ การทากาวยิ่งต้องระมัดระวังมากๆ เพราะถ้าเกิดมีกาวนูนขึ้นเป็นเส้นหรือเป็นเม็ด เมื่อประกบใส่กันแล้วจะมองเห็นรอยนั้นทันที โรงงานทำเฟอร์ฯจึงใช้กาพ่นกาวเป็นการตัดปัญหาครับ

ส่วนในรูปผมติดกาวใส่ตู้ไปสองด้านแล้วครับ

การทำให้ไม้แนบสนิทกัน ผมใช้แผ่นไม้รองเอาไว้แล้วทุบด้วยค้อนยางให้ทั่วครับ

เก็บรอยต่อไม้ที่สูงต่ำไม่เท่ากันด้วยกบจิ๋ว

เพิ่มเติมครับ ผมติดไม้สนที่ทำเป็นกรอบข้างตู้ด้วยกาวลาเท็กซ์+ตะปูลมครับ

ทำสีกรอบไม้สนเป็นสีไม้สักก็จบงานส่วนนี้แล้วครับ ยังเหลืองานเก็บสีส่วนที่เป็นฝาถังเก็บฝุ่น ส่วนนั้นผมค่อยหาเวลาว่างๆมาทำครับ

ท่อสำหรับดูดฝุ่นที่ซื้อมาใหม่เป็นท่อที่ทำมาจากผ้าใบแกนเป็นลวดสปริง ขนาดท่อใหญ่กว่าเดิมเป็น 2 1/2 นิ้ว จากเดิมที่ผมใช้ ขนาด 2 นิ้ว ครับ ผมลองดึงทดสอบความเหนียวรู้สึกว่าจะดีกว่าแบบเดิมที่เคยใช้มากพอควรครับ

จบเรื่อง "เครื่องดูดฝุ่นภาคพิเศษ"แล้วครับ ^_^

ขอบคุณครับพี่ยุ่น ที่นำมาให้ชมพร้อมทั้งขั้นตอนการทำ โดนใจ และสุดยอดมากครับ

ขอบคุณ คุณไผ่ตง เช่นกันครับที่เข้ามาทักทาย,ชมดูผลงานครับ ^_^

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับคุณยุ่น อธิบายขั้นตอนพร้อมรูปประกอบได้ละเอียดมากครับ 

ขอบคุณครับ คุณจักรยุทธ

ขอบคุณ คุณแมน แบริ่ง ครับ

จริงๆผมกลัวว่าผมจะอธิบายให้ผู้อื่นฟังเข้าใจยาก+พิมพ์แบบจิ้มผิดจิ้มถูกตลอด จึงพยายามลงรูปให้มาก (น่าจะมากที่สุดในบรรดาคนที่ตั้งกระทู้แล้วมังครับ  )  พิมพ์ข้อความให้น้อยครับ  เพราะเข้าใจ (เอาเอง) ว่าท่านที่เปิดเข้ามาอ่าน น่าจะทำความเข้าใจได้จากรูปภาพ+คำอธิบายประกอบอีกเล็กน้อย  ได้ฟังแบบนี้ค่อยรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยครับ ^_^

ยุ่น ที่อธิบายมาทั้งหมดน่ะ ไม่เข้าใจเลย ขอใหม่อีกรอบได้ไหม

  เป็นอีกวิธีหนึ่งสำหรับคนที่จะเริ่มทำ แต่ผมซื้อเครื่องดูดฝุ่นมาแล้ว ตั้งใจจะทำแบบไซโคลน

คาราบาวแดง สนับสนุนความคิดดีๆ

 ชอบไอเดียมากครับ  ... 

http://www.thaicarpenter.com/images/mboard_1360929182/1360929182.jpg

น้ำตาผมไหลแน่ครับ คุณหนุ่มสุพรรณ ถ้าจะให้เริ่มพิมพ์ใหม่ทั้งหมดง่ะ  

ขอบคุณ คุณredstar ครับ

อุปกรณ์ ขัดตาทัพ

อุปกรณ์ ขัดตาทัพ

แม้ดูแล้วจะคล้ายๆท่อไอเสียประเภทท่อสูตรมอไซด์  แต่อุปกรณ์ขัดตาทัพนี้ผมทำมาเพื่อใช้ในงานไม้น่ะครับ เป็นเพราะทรงของเครื่องมือที่จะทำเสริมและตัววัสดุที่นำมาใช้ทำมันมีหน้าตาออกมาแนวนี้ครับ

เครื่องมือที่ว่าคือตัวนี้ครับ กบไฟฟ้า

ที่ผมนำเรื่องกบไฟฟ้านี้มาลง"ขัดตาทัพ"เพราะเกรงว่าท่านที่ติดตามอ่านจะรอนานเกินเพราะงานที่ผมค้างส่งลูกค้าเดินหน้าไปได้ประมาณครึ่งทางเองครับ   ผมจึงคิดว่าระหว่างที่ท่านๆกำลังรอ ผมลงเรื่องราวนี้น่าจะช่วยบรรเทาอาการหมันเขี้ยวผมลงไปได้ระดับนึง   

 ยุ่น ถอดได้หมดแน่นะ

จะได้ Transform เข้าลิฟท์ได้

เป็นห่วงนะ

แท่นรวมร่างฯของผมถอดได้เฉพาะเครื่องครับพี่เซี่ยง เมื่อถอดแล้วจะมีขนาด ก x ย x ส = 80 x 120 x 91 ซ.ม. ผมเป็นห่วงแค่ประตูกับขนาดของลิฟท์ครับ ไม่ทราบพี่เซี่ยงทราบขนาดหรือยังครับ 

ส่วนอุปกรณ์ที่ทำเสริม ผมเสริมที่ช่องคายขี้กบครับ ในรูปผมถอดพลาสติกที่ช่องระบายออกเพื่อทำการลอกขนาดของช่องฯ

การลอกขนาดของช่องฯผมใช้ดินสอขูดขอบนอกของช่อง แล้วใช้กระดาษขาวขูดไปตามขอบที่ขูดด้วยดินสอไว้ก็จะได้รูปช่องฯครับ

เมื่อได้รูปแล้วผมตัดไม้อัด 3 ม.ม.ที่ซ้อนไว้สองชั้น+กับไม้บัลซาหนา 1 ม.ม. เพื่อให้ได้ความหนาใกล้เคียงเสื้อกบในส่วนหนาสุด

วัสดุที่ผมใช้ diy ท่อดูดฝุ่นกบไฟฟ้า ( เอ....รู้สึกว่าผมจะยังไม่ได้บอกใช่ไม๊ครับว่า diy ท่อดูดฝุ่นกบไฟฟ้า หน่ะ  ) คือท่อประปา + ข้องอ ครับ

การทำ หลังจากทำหน้าแปลนเสร็จ ในส่วนของท่อที่ต้องหักหลบตัวเครื่อง ผมใช้วิธีตัดด้วยเลื่อยตัดองศาตั้งที่ 10 องศา ตัดเป็นท่อนเล็กๆหลายๆชิ้นมาต่อกันครับ

ทำไมผมถึงต้องทำท่อดูดฝุ่นกบไฟฟ้า หลายท่านคงแอบสงสัยในใจ

เรื่องของเรื่องคือ ก็คนมันคันง่ะ    คือว่าผมถนัดซ้ายน่ะครับ แล้วเจ้ากบไฟฟ้าเนี่ยะมันมีช่องฯคายขี้กบอยู่ทางขวา เวลาไสไม้ขี้กบก็จะพุ่งใส่ผมโดยเฉพาะเวลาที่ไสชิดไงครับ พุ่งใส่พุงอย่างเดียวจะไม่ว่าแต่นี่เล่นพุ่งใส่....ใส่....ใส่....ใส่ขาด้วย แหะๆ อย่างนี้ใครจะไปทนไหว

ประกอบเสร็จ

ผมทำท่อให้แบนลงเพื่อยกให้ตัวท่อสูงกว่าท้องกบป้องกันกบตะแคงเพราะท่อค้ำพื้น โดยใช้ปืนเป่าลมร้อนเป่าให้ท่ออ่อนตัวแล้วดัดครับ โดยที่ส่วนปลายท่อผมปล่อยให้กลมเหมือนเดิม ท่องวงช้างที่ใช้ ผมใช้ท่อระบายน้ำเครื่องซักผ้า ซื้อจากร้านฮาร์ดแวร์แถวบ้านครับ ( ไม่กล้าไปยุ่งกับของแม่บ้านผมครับ  เลยจำเป็นต้องซื้อ )

หน้าแปลนที่ทำขึ้นใหม่

เสร็จแล้วก็พ่นสีครับ

ผมใช้ข้องอประปาเป็นท่อต่อครับ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรพิเศษหรอกครับ แค่มันอยู่ใกล้มือเท่านั้น ถ้ามีโอกาสผมจะหาใหม่เป็นแบบข้อต่อตรง

ทดลองไสไม้ครับ

ผมลองไสไปไม่กี่ครั้งก็รู้สึกทนไม่ได้กับท่อที่ทำมา คือมันมีรอยบุบในส่วนที่ผมทำท่อให้แบนอยู่หลายจุดครับ เลยตัดส่วนนั้นทิ้งแล้วทำใหม่

คราวนี้ผมเปลี่ยนวิธีจากการเป่าลมร้อนแล้วกดท่อให้แบนจากด้านนอก มาเป็นเป่าด้วยลมร้อนแล้วใช้ไม้ที่ตีขอบมนเสียบในท่อแทน

 หน้าแปลนต่อท่อระบายขี้กบ ... 

.. เคยลองหน้าแปลนท่อทางเข้า-ออก ปั๊มน้ำยังครับ ... แบบพลาสติค ผมว่าน่าจะ โม ใส่ได้นะครับ .. 

อยากพูดถึงร้านสยามไฮเทคซักหน่อยนะครับ เพราะเห็นในกระทู้และมันก็อยู่ใกล้บ้านผม

วันก่อนผมไปที่ร้านเพื่อซื้อน๊อตสำหรับอลูโปรไฟล์ พนักงานก็ชี้ไปที่กองและให้หาเอง

หาอยู่นานสองนาน คุ้ยจนเหนื่อย เจอตัวสองตัวเอง เจ้าของร้านก็ออกมาบอกว่าไม่ขายให้

เพราะต้องเก็บไว้ขายพร้อมโปรไฟล์ ผมก็จะซื้อโปรไฟล์ เจ้าของร้านก็บอกว่าหมด ไม่มีขาย

ที่มาบอกอย่างนี้ก็เพราะว่าบางคนบ้านไม่ได้อยู่ใกล้ ผมเสียเวลาเดินทางไม่มากกับเสียอารมณ์นิดหน่อย

คนที่มาไกลอาจจะเสียอารมณ์เยอะ ดังนั้นให้โทรถามก่อนครับ ว่ามีของไหม จะขายให้ไหม

อีกทั้งอลูโปรไฟล์ที่มีขาย(อันที่ผมไม่ได้ซื้อ)ก็ราคาไม่ได้ถูกมากมายที่ 190/โล

ผมสามารถซื้อได้ที่ 277/เมตร ซึ่งก็ประมาณโลนึง ของใหม่จากญี่ปุ่น ราคานี้จากบริษัทที่ขายแพงพอสมควร ส่งฟรี

ถ้าหาดีๆก็คงถูกกว่านี้และมีให้เลือกมากกว่านี้ ของร้านนี้มีแต่แบบ 1x1 ช่อง

ตอบ คุณRedStar

ยังไม่เคยใช้ครับ เพราะผมยังไม่เคยมีหน้าแปลนที่ว่าอ่ะครับ  แต่พอผมคิดตามก็รู้สึกว่าน่าใช้ดีเหมือนกัน ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ

 คุณ RedStar เกิดวันอังคาร หรือชื่อ สงคราม หรือเปล่าครับ ขออภัยที่ถามไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรครับ (ผมเห็นชื่อเลยคิดถึงความหมายหน่ะครับ) 

ตอบคุณสมพร

ผมขออภัยและเสียใจที่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คุณสมพรต้องเสียเวลาและอารมณ์ ถ้าผมคิดละเอียดขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็ควรจะลงเบอร์โทรของร้านสยามไฮเทคไว้ด้วย เผื่อท่านใดที่สนใจไปหาซื้อของจะได้โทรสอบถามก่อนได้ เพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ผมได้หาเบอร์โทรฯมาไว้ให้แล้วนะครับตามนี้ 02-9147284 , 086-3447034

ถ้าคุณสมพรได้กลับมาอ่านและไม่ถือว่าเป็นการรบกวนเกินไป ขอความกรุณาลงชื่อ,เบอร์โทรร้านที่คุณสมพรซื้อมาในราคาดังกล่าว หรือร้านที่ขายราคาถูกกว่านั้นได้ยิ่งดีครับ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนรวมทั้งผมอย่างยิ่ง

และท่านใดมีร้านอื่นที่มีอลูมิเนียมโปรไฟล์ขายในราคาถูกและอยากแนะนำให้เพื่อนๆในเวบฯได้ซื้อหากัน มาลงไว้ได้เลยเช่นที่พี่ เทอดศักดิ์ ได้เคยลงให้ไว้ ค.ห.ก่อนหน้านี้ครับ

ต่อจากเมื่อวาน

หลังจากได้ท่อแบนในแบบที่ไม่มีรอยบุบบิบแล้ว ผมก็เชื่อมต่อกันซะใหม่

ทำสีเสร็จแล้วก็ลองประกอบใหม่ครับ ^_^

ระยะห่างระหว่างพื้นถึงท่อไม่ได้วัดครับ ลืมอีกแล้ว 5555

แต่จริงๆแล้วขอให้มีช่องห่างระหว่างท่อกับพื้นเป็นใช้ได้ครับ ^_^"

ด้านหลัง

แท่นวางกบไฟฟ้าระหว่างใช้งาน

อันนี้แค่อยากโชว์อ่ะครับ แต่มันก็มีประโยชน์มากนะครับ

ผมทำมันขึ้นมาเพื่อป้องกัน"กบวิ่ง"จากความเผลอเรอ ไปวางแบบเอาท้องกบลง ( ผมไม่ชอบวางกบไฟฟ้าตะแคงแบบที่เห็นช่างหลายคนทำกันครับ มันเสียวง่ะ ) ตอนที่มอเตอร์ยังไม่หยุดหมุน รวมทั้งตอนที่ใช้แต่กบ ไม่ได้ใช้รั้วฯด้วย คือผมคิดว่าถ้าผมเผลอวางลง มีเศษไม้,เศษวัสดุหรือทับบนสายไฟเค้าเองล่ะก็...บรื๋อ...อ... ผมจึงคิดว่าจะทำอะไรมาช่วยให้วางกบไฟฟ้าระหว่างใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยตั้งแต่ได้ใช้งานกบไฟฟ้าครั้งแรกๆ  เลยทำขึ้นมาใช้ ส่วนการประกอบ ผมประกอบขึ้นง่ายๆจากเศษไม้เช่นเคยครับ^_^

วางแบบนี้ครับ

มองด้านหน้า

ใช้งานจริง

ดูแล้วรู้สึกเหมือนผมวิ่งไสไม้เลยแฮะ  

ในรูปผมใช้เท้าขวาเหยียบที่วางเท้าของโต๊ะงานฯไว้ครับ

สังเกตุที่ขาในรูปที่แล้วกับรูปนี้ ไม่มีขี้กบออกมาทางนี้แล้วครับ

ระหว่างใช้วางแบบนี้ สะดวกดี

เก็บงานให้ชิดไม้ได้สนิทกันด้วยกบผิวครับ

สรุปผลการใช้ท่อดูดฝุ่นกบไฟฟ้าDIY

แม้จะไม่มีฝุ่นและขี้กบออกมาให้แสบ จ. และ เลอะ ข. แล้ว ( ข.สะอาดเอี่ยมเลยครับ หุหุหุ ) แต่ก็ยังมีหลุดออกมาทางใต้ท้องกบอยู่ครับ ถ้าให้ประเมิน ผมประเมินว่าท่อสามารถดูดขี้กบไปได้ 60 - 70 % ส่วนฝุ่นเล็กๆจิ๋วๆ ผมคิดว่าน่าจะกำจัดไปได้เกือบหมด ซึ่งผมสังเกตุได้จาก จ. ไม่มีอาการแสบเลย ผมคิดว่าจะหาเวลาทำการปรับปรุงเพิ่มเติมให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ขึ้น ( แม้จะผลัดวันประกันพรุ่งมาหลายทีแล้วก็จะต้องทำให้ได้ซักวันซีน่า ) 

หมายเหตุ  ความหมาย  จ. คือจมูก  ส่วน ข. คือแขนและขา นะครับ

         ขออนุญาตก๊อบท่อสูตรกบ3นิ้วด้วยครับ ของผมซื้อมาพักใหญ่แล้วยังไม่ได้เอาออกจากกล่องเลย เห็นจากรูปแล้วชอบมากๆครับพี่ยุ่น

คุณ pop ทำเสร็จเอามาแว้นแข่งกันนะครับ

 " คุณ RedStar เกิดวันอังคาร หรือชื่อ สงคราม หรือเปล่าครับ ขออภัยที่ถามไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรครับ (ผมเห็นชื่อเลยคิดถึงความหมายหน่ะครับ"

------------------------------------

ปล่าวครับ .. ผมชอบกินเบียร์ไฮเนเก้น ..  ดาวแดง  มาจากเครื่องหมายการค้า .. เอิ๊กๆๆๆ ... 

ที่แท้ดาวแดงมาจากไฮเนเก้น ผมหลงคิดไปนอกโลกเลย

ท่อกบท่าทางจะแว๊นนนนน่าดู

ระวังตะรวดจับน่ะครับ

ขอหาดัดแปลงไม่มีใบอนุญาติ

 อิอิ .. 

....

เกรงว่าคุณตำหนวดจะมายืมท่อไป diy แก้คันเหมือนผมน่ะซีคุณ pakae 5555 

สำหรับท่านที่มีแนวคิดจะสร้าง power tool station (แท่นวางเครื่องมือแบบรวมร่างฯ) หรือว่าได้สร้างมาก่อนแล้ว ถ้าท่านไม่ติดธุระใด ผมขอเชิญมาร่วมงานคุยจ้อ...คองานไม้ครั้งที่ 2 นี้นะครับ ^_^  จะได้แลกเปลี่ยนแนวคิดในการนำเอาเครื่องมือต่างชนิดมาเอื้อประโยชน์ในการทำงานให้กัน คือผมคิดว่าอาจจะมีอีกหลายๆสิ่งที่ผมยังขาดการบอกเล่ารายละเอียดในกระทู้นี้ไป เมื่อได้พบกันในงานจะได้ถามตอบกันเพื่อคลายข้อสงสัย หรือมีข้อชี้แนะใดผมก็ยินดีครับ

ขอบคุณมาก ๆ เลยครับคุณยุ่น ผมพึ่งไปถอย แท่นตัดองศา (Meter Saw) ฮิตาชิ 12 นิ้ว C12 RSH รุ่นเดียวกับคุณยุ่นมา คงต้องขอทำชี้แนะครับ และฝากบอกต่อตอนนี้เครื่องเลื่อยรุ่นนี้กำลังลดราคาเป็๋นสินค้า Clearance Sale ของฮิตาชิอยู่ตอนนี้เหลือแค่สองตัว สินค้าสภาพใหม่ประกันเต็มเวลาคือ 6 เดือน จะเยินก็แค่กล่องกระดาษที่ใส่ ราคา 22000  บาท แต่ถ้าใครได้มาในราคาที่ถูกกว่านี้ก็ขออภัยนะครับ ผมแค่อยากบอกเพื่อน ๆ ต่อให้ได้ของดีราคาดี ไปใช้กัน

 ยินดีด้วยครับ คุณแมน แบริ่ง ที่ได้ของมาใช้ในราคาเพียงนี้ ใช้เงินคุ้มค่าดีจัง และยังมีน้ำใจส่งข่าวให้เพื่อนๆด้วย เรื่องนี้ขอบคุณน้ำใจมั่กๆครับ  ของผมซื้อแพงกว่าหลายอัฐเลย T_T"

อ่า....ใครสนใจรุ่นใหญ่ราคาย่อมเยา คงต้องรีบนะครับ

ปล.คุณแมน แบริ่ง ลืมบอกร้านที่ซื้อหรือเปล่าครับ

ขอโทษทีครับลืมบอกสถานที่ มีขายที่งาน HOMEWORK EXPO ไบเทค บางนา ที่ บู๊ต ของ HITACHI ครับ ตอนแรกมี 3 ตัว ตอนนี้เหลือ 2 แล้ว ถ้าใครมีบัตรเครดิตตามเงื่อนไขงานจะได้ถูกลงอีกครับเป็น ส่วนลด หรือ บัตรของขวัญตามแต่ล่ะบัตรครับ งานมีถึงวันที่ 3 มีนาคมนี้นะครับ ขอบคุณครับ

 ตอนนี้เหลือตัวเดียวแล้วครับ ผมได้มาตัวนึง ขอบคุณ คุณแมน และพี่ยุ่นคร้าบ

ยินดีด้วยครับคุณ Thana ที่ไปทัน (ยังไม่หมด)

 พอรู้ข่าวก็รีบเลยครับ โชคดีที่ได้คุณ ตัง เสียสละเวลาไปที่ไบเท็ค ช่วยซื้อให้แถมยังออกเงินให้ไปก่อน(ผมกลัวหมด) เพราะผมอยู่ไกลและขับรถ

ใน กรุงเทพไม่คล่อง ขอบคุณคุณตังมากๆๆๆๆๆอีกคน ตอนแรกลองโทรถามร้านห้าหกร้านแถวบ้านเผื่อไม่ต้องรบกวนใคร ที่ถูกสุดก็ 26000 

เลยโทรไปหาช่างเชนชวนไป พอดีว่าช่างเชนคบอกว่าอยู่ไม่ไกลกับคุณตัง ผมก็เลยโทรไปหาแกให้ช่วยนะครับ

ครับ คุณ Thana

ตอนรับเครื่องจากตังดูให้ดีๆนะครับ เค้าอาจเอาตัวนี้มาให้แทน ส่วน hitachi c 12 rsh เค้าเก็บไว้ใช้เองหน่ะ

อ่านเพลินจนลืมเวลาเชียวครับได้แนวคิดมากมาย ชอบมากครับผม พบกันงานคุยจ้อนะครับ

ขอบคุณครับพี่เปี๊ยก แล้วเจอกันครับ

หลังจบงานคุยจ้อ...คองานไม้ ครั้งที่ 2 ผม สลบไสล+เถลไถล ไปอีก 1 อาทิตย์เต็มๆ ต้องขออภัยด้วย  มาต่อกันเลยนะครับ

.

ครั้งนี้ผมจะพูดถึงเรื่องแคล็มป์กดไม้สำหรับเครื่องเลื่อยองศา

แคล็มป์ในรูปจาก ค.ห.290 เป็นแคล็มป์ที่ผมทำไว้เมื่อปีที่แล้ว ตามกระทู้นี้ครับ

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=11&No=1426663

ซึ่งเป็นการทำใช้ครั้งแรกจึงยังมีจุดที่ต้องแก้ไขอยู่บ้าง คือ

1.แขนของแคล็มปสั้นไป ไม่สามารถกดไม้หน้ากว้างได้ดีนัก

2.ไม่ค่อยมั่นคงเนื่องจากมีจุดยึดจุดต่อมากเกินไป

เมื่อครั้งนี้มีการทำแผ่นรองตัด ซีโร่ฯ ความยาวของแขนแคล็มป์จึงไม่พอเพราะติดที่รั้วแผ่นรองตัดฯ ผมเลยทำแคล็มป์ขึ้นใหม่ครับ

เช่นเคย ผมยังคงคอนเซป ใช้เศษไม้เหมือนเดิมครับ

ไม้ชิ้นนี้ผมตัดออกมาเป็นเศษเพราะมีตาไม้อยู่ เมื่อผมพิจารณาดูแล้วเห็นว่าเหมาะกับการที่จะเอามาทำแคล็มป์เพราะสามารถตัดหลบเอาตาไม้ทิ้งไปได้ แหม่...ช่างเหมาะเจาะกับแกนเหล็กของแคล็มป์อะไรเยี่ยงนี้

นี่ไม่ใช่อุปกรณ์เสริมจาก hitachi นะครับ

คือพอดีว่าผมปรับ ตัวตั้งความลึกการตัดของเครื่องฯให้กินเนื้อไม้น้อยลงจนสุดแล้วก็ยังไม่พอ จึงต้องเสริมไม้ให้ช่วยยันเกลียวเพิ่มอ่ะครับ

ตัดที่ 45 องศาครับ

จากนั้นก็แบ่งไม้ออกมาโดยเล็งจุดตัดที่เส้น ซีโร่ฯ ครับ ( รู้สึกว่าเล็งง่ายกว่าเลเซอร์พอสมควร )

ผมทำแคล็มป์อันใหม่ที่ 25 ซ.ม. เมื่อประกอบแล้วจะได้ระยะการกดประมาณที่ 15 ซ.ม.  = เกือบครึ่งของหน้ากว้างไม้ที่เครื่องฯสามารถตัดได้ครับ

   ผมตัดไม้ที่มีขนาดเล็กหรือใช้มือจับได้ยากหรืออันตรายเพราะไม้หน้าแคบ,ชิ้นเล็กเกินไปด้วยวิธีนี้

นี่เป็นข้อดีอีกข้อหนึ่งของแผ่นรองตัดซีโร่ฯ ครับ  

คือแผ่นซีโร่ฯนี้เป็นแผ่นไม้ที่หนาพอประมาณ ( 9 ม.ม. ) และมีขอบเกือบรอบแผ่น ทำให้สามารถแคล็มป์ไม้,แคล็มป์รั้วได้หลายๆจุด การตัดไม้ดังกล่าวจึงไม่ต้องใช้มือเข้าไปเกี่ยวข้องครับ

เล็งจุดตัดด้วยเส้นซีโร่ฯ จากนั้นก็ผ่าไปด้านนึงให้ใบเลื่อยกินถึงรอยเลื่อยที่ตัด 45 องศาไว้ แล้วหยุด

ต่อหน้า 4