ReadyPlanet.com


การสร้างมูลค่าเพิ่ม ไม้สักจากสวนป่า
avatar
น้าเจม


เรียนคุณอนุชิต

ผมสนใจเรื่องงานไม้มานานพอสมควร พยายามหาความรู้เรื่องเครื่องมืองานไม้อยู่นาน แต่งานประจำรัดตัวทำอะไรได้ไม่มาก จนมาเจอ web Thaicarpenter.com นี่แหละจึงได้พบทางสว่าง ขอบคุณ คุณอนุชิตที่ทำ  web นี้ขึ้นมาที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งละที่ได้ประโยชน์อย่างมาก หากมีโอกาสจะแวะมาปรึกษาและอุดหนุนสินค้า ผมผ่านนครปฐมบ่อย เพราะไปเยี่ยมญาติที่ราชบุรี ...ผมหลงทางไปนาน(เรื่องเครื่องมืองานไม้)ไม่งั้นผมคงมาที่ร้านคุณบ่อยๆ แล้ว

...ถือโอกาสปรึกษาเลยนะครับ คือผมมีไร่ไม้สัก 60 กว่าไร่ ปลูกมาแล้วราวๆ 21-22 ปี มีไม้หลายขนาด ล่าสุด 2 ปีที่แล้วได้ให้คนงานสำรวจ ขนาดของไม้โดยวัดสูงจากพื้นดิน 150 ซ.ม. มีขนาดเส้นรอบวง 100 ซม.ราว 300 ต้น, 90 , 80-50 ซม.ราว 3000 ต้น ต่ำกว่า 50 ซม. ราว 4000 ต้น(เพราะไม่ได้ตัดสางเลย)ไม้เหล่านี้ขึ้นทะเบียนกับป่าไม้เรียบร้อย ขณะนี้ได้ ฆ้อน และหนังสือกำกับเวลาขออนุญาติตัดและขนส่งเรียบร้อย ....เรื่องของเรื่องคือผมอยากทำไม้เหล่าให้เกิดมูลค่าเพิ่มโดยนำมาทำงานไม้ต่างๆ เอง(ไม่อยากขายเป็นไม้ท่อน ตามที่มีผู้มาขอซื้อ)...ผมจะทำอะไรดี ขั้นแรกหากตั้งโรงงานแปรรูป ขั้นตอนยุ่งยากหรือเปล่าไม่รู้ ขั้นสอง เครื่องมือ เครื่องจักร มีอะไรบ้าง ขั้นที่สาม ปัญหาเรื่องคนงาน สุดท้ายเรื่องตลาด ....ตอนนี้ใครมี ไอเดียดีๆ และมีประสบการณ์ ช่วยแนะนำหน่อย ทุนสัก สี่ซ้าห้าแสนพอมีจะพอรึเปล่าไม่รู้

ขอบคุณมากครับบบบ



ผู้ตั้งกระทู้ น้าเจม :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-15 13:31:28


1

ความคิดเห็นที่ 1 (1404373)
avatar
อนุชิต

ขอบคุณครับ สำหรับการให้ความรู้คู่การจำหน่ายสินค้า ผมว่าน่าจะเป็นทางออกนึงในยุคนี้ ผมก็มีรายได้กลับมาตามอัตภาพจากทุกท่านนี้เช่นกันครับ

ผมว่างานของคุณน้าเชนเครื่องมือต้องเป็นแนวโรงเลื่อยมากกว่า ของที่เราจำหน่ายจะเป็นแนวช่างไม้เครื่องเรือน จะไปอยู่ปลายๆเมื่อคุณน้าเชนเลื่อยแปรรูปไม้แล้วจะเพิ่มมูลค่าเป็นเฟอร์นิเจอร์เครื่องเรือน ขั้นตอนนั้นจะเป็นส่วนของเราที่พอจะช่วยได้เลยครับ

จริงๆตรงนี้ผมไม่ค่อยมีความรู้เท่าไรนัก แต่เอาเป็นว่าพูดคุยกันนะครับ เท่าที่ดูอายุของต้นสัก ต้นใหญ่ๆน่าจะโค่นเอามาทำเฟอร์ได้นะ แต่ต้นเล็กๆ เอาไปทำไม้โครง (ไม้จ๊อย) น่าจะดีกว่าแต่ราคาน่าจะไม่ดีนัก  และคงจะเหมาซื้อยกไร่กันเลยซะมากกว่า

  ถ้าจะเลื่อยเอง กับเอาไปจ้างโรงเลื่อย ได้ยินข่าวว่าจ้างก็โดนหลายตังค์อยู่  เลื่อยเองใบอณุญาติต้องลองคุยดู ผ่านพวกป่าไม้อำเภอ-จังหวัด พวกนี้ก็รู้ๆกัน ผมก็โดน นี่เอาเงินไปบอกว่าจะทำใบอนุญาติ 2ปีแล้ว หายเงียบ ขนาดมีช่างทำแค่ 2คน ในshop ยังโดน    แต่เห็นมีช่างที่มาซื้อของที่ร้านเขาได้ใบมา เขาบอกว่าผ่านพวก อบต. ได้เร็วและไม่แพง  ก็เป็นช่องทางที่ไม่เลว เพราะเป็นการหาเสียงไปในตัว  ส่วนเครื่องเลื่อยแปรรูป มีนะเป็นวงเดือนใบใหญ่ๆ ผมมีแหล่งให้ แต่เรื่องคนงานต้องหาเอง ผ่าไม้แล้วต้องผึ่ง ต้องอบ(จะได้เร็วดีในการคุมความชื้นแต่สงสัยใช้ทุนสูง หรือไปจ้างเขาอบ อันนี้ไม่แน่ใจ)  ผึ่งนี่กว่าจะได้ความชื้นพอเหมาะน่าจะหลายเดือน และมีโรงนา แต่ของพี่มีเป็นไร่  ไม่น่าห่วง  เรื่องการผลิตน่าจะพอถูๆไถๆได้นะผมว่า แต่เรื่องปัจจัยภายนอก เล่นกับไม้นี่ ผมไม่ค่อยมีประสบการณ์และพวกพ้องมากนัก แต่แปรรูปมาได้แล้ว รับรองว่ามูลค่าเพิ่มแน่นอนครับ เพราะไม้พี่น่าจะพอทำเฟอร์ได้แล้ว หรือลองตัดดูสักต้น แล้วลองหั่นเป็นท่อนๆ ละ1ม. แล้วมาจ้างเขาผ่าเป็นไม้แผ่นดูก่อน ดูเนื้อว่าพอได้ไหม ถ้ากลิ่นออก(ไม้สักแก่กลิ่นยางที่ปลวกไม่ชอบจะออกแรงกว่า) พอได้ลุ้น แต่ไม่มีกลิ่นและสีดูอ่อน ก็คงต้องรออีกหน่อย

ลองดูท่านอื่นๆที่มีประสบการณ์หรือไอเดียร์อื่นๆดูครับ ไม่ได้มีประสบการณ์ตรงครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อนุชิต วันที่ตอบ 2011-01-17 18:59:38


ความคิดเห็นที่ 2 (1404420)
avatar
แขกประจำ

หาสินค้าที่ต้องการผลิตเพื่อส่งเข้าตลาดก่อน จากนั้นหาโรงงานที่มีมาตรฐานรับจ้างผลิตให้ ผมว่าวิธีนี้จะช่วยให้ไม้ทุกชิ้นได้ใช้งานอย่างมีคุณค่า

ผู้แสดงความคิดเห็น แขกประจำ วันที่ตอบ 2011-01-18 06:38:03



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.