กาวยางเป็นกาวสีเหลืองทอง ใช้งานโดยการทาลงบนวัสดุทั้ง 2 ชิ้นที่จะนำมาติดกัน รอให้แห้ง แล้วนำมาประกบกัน โดยจะติดแน่นเมื่อใช้แรงกดทับไว้สักพัก กาวยางในท้องตลาดมีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งชนิดพ่น ชนิดทา หรือชนิดกลิ้ง โดยกาวยางใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมงานไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปิดผิวลามิเนตลงบนผิวไม้ เช่น ไม้อัด หรือไม้ MDF

ปริมาณกาวยางที่ใช้แต่ละครั้งต้องให้พอเหมาะ เพราะถ้าใช้น้อยเกินไปก็จะทำให้วัสดุไม่ติดกัน แต่ถ้าทามากเกินไปก็จะใช้เวลารอแห้งนาน วันนี้เราจะมาแนะนำปริมาณกาวยางที่เหมาะสมในการใช้กับผิววัสดุ ทั้งแบบกาวยางชนิดพ่น และกาวยางชนิดทา

1. ปริมาณกาวยางชนิดพ่น…ใช้แค่ไหนเรียกว่าพอดี

การพ่นกาวยางลงบนพื้นผิว ปริมาณที่เหมาะสมที่สุดคือ 2.0-3.0 กรัมแห้งของกาวยางต่อหนึ่งตารางฟุตของวัสดุ (กรัมแห้ง หมายถึง น้ำหนักชั่งเป็นกรัมของกาวยาง ที่เหลือแต่ส่วนของ “เนื้อกาว” โดยส่วนผสมทินเนอร์ระเหยไปหมดแล้ว) โดยส่วนขอบของวัสดุควรมีเนื้อกาวสูงสุดโดยการพ่นกาวยาง 2 รอบ

วิธีง่ายๆในการเช็คปริมาณกรัมแห้งของกาวยางบนพื้นผิว คือ

1. ตัดแผ่นพาร์ติเคิลบอร์ดขนาดหนึ่งตารางฟุต ชั่งน้ำหนัก จากนั้นให้พ่นกาวลงบนแผ่นพาร์ติเคิลบอร์ด
2. รอให้ทินเนอร์ระเหยจนกาวยางแห้งตัว แล้วชั่งน้ำหนักแผ่นพาร์ติเคิลบอร์ดครั้งที่สอง
3. รอเพิ่มอีก 5 นาทีแล้วจึงชั่งน้ำหนักแผ่นพาร์ติเคิลบอร์ดครั้งที่สาม
4. ถ้าพบว่าน้ำหนักของพาร์ติเคิลบอร์ด จากข้อสองและข้อสาม ไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่าเราได้ปริมาณกรัมแห้งของกาวยางแล้ว ซึ่งตัวเลขควรอยู่ในระหว่าง 2.0-3.0 กรัมแห้ง (นำน้ำหนักในข้อ 3 มาลบกับน้ำหนักแผ่นพาร์ติเคิลบอร์ด)

2. ปริมาณกาวยางชนิดทา

ในส่วนของกาวยางชนิดทา ปริมาณกรัมแห้งของกาวยางบนพื้นผิวควรใกล้เคียง 3.0 กรัม สังเกตง่ายๆว่าหากทากาวยางได้สม่ำเสมอทั่วพื้นผิว พื้นผิววัสดุจะมันวาวเมื่อแห้ง แต่หากบริเวณไหนดูแห้ง แปลว่าปริมาณกาวที่ไม่เพียงพอ

นอกจากนี้การทากาวยางลงบนพื้นผิวที่มีรูพรุนมาก เช่น ไม้อัด การทากาวยางสองชั้นถือว่าจำเป็นมาก โดยทาชั้นแรก แล้วรอให้แห้ง จึงทาชั้นสองแล้วรอแห้งอีกครั้งก่อนปิดผิว

Pro tip : เลือกกาวยางที่มีเนื้อกาวเยอะ ที่สุดแล้วจะช่วยให้ประหยัดมากขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องใช้เยอะ หรือทาซ้ำหลายรอบ แต่อย่าลืมว่าคุณสมบัติปาดลื่น ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อช่วยให้ทำงานได้ง่ายและไวยิ่งขึ้น ลองกาวยาง SB สูตรพิเศษ กาวยางเกรดพรีเมี่ยม เนื้อกาวเยอะที่สุด ช่วยให้งานคุณสวยทนนาน

ที่มา : sbadhesive.com/blog/how-much-adhesive-should-you-apply/