กาวยาง หรือกาวเหลือง เป็นกาวที่มีเนื้อเหลวหนืด สีเหลืองทอง สามารถนำไปใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมสารใดๆเพื่อเพิ่มคุณสมบัติ  มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาวะอากาศและอุณหภูมิสูง กาวยาง ถือเป็นกาวอเนกประสงค์ เพราะสามารถนำไปใช้ยึดติดวัสดุได้หลายชนิด เช่น ยาง, หนัง, ผ้า, หญ้าเทียม,  กระดาษ, หรือแม้แต่ฟองน้ำ แต่ในปัจจุบันกาวยางเป็นที่นิยมอย่างมากในวงการตบแต่ง และวงการเฟอร์นิเจอร์  เนื่องจากนำไปใช้เป็นวัตถุประสานลามิเนตกับไม้เข้าด้วยกัน (เรียกง่ายๆว่า ปิดผิว)

1. ลักษณะภายนอกของกาวยาง

กาวยาง มีลักษณะเนื้อกาวเหลวหนืด สีเหลืองทองคล้ายคลึงสีของน้ำมัน มีกลิ่นค่อนข้างฉุนแรง เนื่องจากมีส่วนผสมหลักทำมาจากยาง และทินเนอร์ ที่มีกลิ่นฉุนแรงเป็นตัวทำละลายยาง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีกาวยางสูตรกลิ่นเบา กลิ่นระเหยไวออกมาในตลาด เหมาะสำหรับงานตบแต่งภายใน โดยเฉพาะในสถานที่อับ เช่น ห้องคอนโด โรงเรียน ห้าง และโรงพยาบาล

กาวยาง เมื่อทาไปแล้วจะแห้งตัวได้ไว (5-7 นาทีไม่เกิน) โดยต้องรอเพื่อให้สารละลายระเหยออกก่อน จึงจะนำวัสดุที่ทากาวทั้ง 2 ด้านมาประกบกัน

กาวยางในปัจจุบัน มีทั้งชนิดทา ชนิดพ่น และชนิดกลิ้ง

กาวยางจะถูกบรรจุอยู่ในภาชนะปิดฝาแน่น โดยส่วนมากจะปิดฝา 2 ชั้น เพื่อกันไม่ให้ทินเนอร์ระเหยออก

2. คุณสมบัติเด่นกาวยาง

กาวยาง มีความยืดหยุ่นสูง จึงใช้งานได้ง่ายเวลาปาดกาวยางลงบนผิววัสดุ หลังจากนั้นจะสารทำละลายจะเริ่มระเหยทำให้กาวยางแข็งตัว (เพราะเหตุนี้ จึงควรปิดฝากาวยางให้แน่นหลังใช้ เพื่อป้องกันกาวยางแห้ง และแข็งตัว)

กาวยาง มีคุณสมบัติทนความร้อนสูง จึงนิยมนำไปใช้ในงานตบแต่งภายนอก ในประเทศไทยที่อุณหภูมิสูง เช่น งานทำบูธที่เจอแดด งานทำเวทีที่เจอสปอตไลท์ส่องเป็นเวลานาน หรือ งานทำสนามฟุตบอลหญ้าเทียม

3. การใช้งานกาวยาง

ทำความสะอาดพื้นผิววัสดุที่จะทากาวยางทั้งสองด้าน จากนั้นเทกาวยางลงตรงกลางชิ้นงาน แล้วปาดกาวยางด้วยหวีกาว ให้เป็นรูปตาข่ายทั่วชิ้นงานทั้งสองชิ้น รอให้กาวยางแห้งตัวหมาดๆ ประมาณ 5-7 นาที *ห้ามประกบชิ้นงานขณะที่เนื้อกาวยังเปียกอยู่* ประกบวัสดุสองชิ้นเข้าด้วยกัน จากนั้นกดให้แน่น หรือรีดให้เรียบ ให้ไม่มีฟองอากาศอยู่ระหว่างวัสดุทั้งสองชิ้น เพื่อป้องกันการพองบวม

4. การเก็บรักษากาวยาง

กาวยางที่ยังไม่เปิดใช้ มีอายุการใช้งานได้ยาว อย่างต่ำ 1 ปี ถึง 1ปีครึ่งก่อนหมดอายุ และควรวางไว้หลบจากที่ที่แสงแดดส่องแรง

โดยหลังจากเปิดใช้งานกาวยาง กาวยางที่เหลือในภาชนะบรรจุควรปิดฝาให้แน่น เพื่อไม่ให้สารละลายระเหยออกซึ่งจะทำให้กาวแห้ง และเพื่อยืดอายุการใช้งานกาวยางที่เหลืออยู่ นอกจากนี้กาวยางควรเก็บไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนแสงแดดแรง ที่สำคัญ ควรอยู่ห่างจากความร้อนสูงและเปลวไฟ

sbadhesive.com/blog/adhesive-specification/