ผลการใช้งาน

ด้วยชุดอ่านระยะระบบดิจิตอล+ชุดปรับละเอียด ทำให้ผมสามารถตั้งระยะตัดได้สะดวกแม่นยำอย่างยิ่ง รวมถึงเรื่องของการอ่านระยะที่ง่าย,สบายตา ส่วนผลการใช้ระยะยาวผมจะมาบอกเล่าให้ได้ทราบกันอีกทีครับ

ในครั้งต่อไปถ้าผมไม่มีอะไรมาติดขัด ผมจะมาเล่าถึงเรื่องการทำเร้าเตอร์ลิฟ (router lift) แบบง่ายๆรวมกับโต๊ะเลื่อยครับ ^_^"

ผมกำลังมองหา table saw อยู่เหมือนกันครับ ตัวที่พี่ใช้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเหมือนกันครับ อยู่โคราช คงต้องลองไปหาในเมืองดูครับ แต่ตัวเลือกน้อย สงสัยมีหวังได้เข้ากรุงเทพ อีกแน่ หรือไม่งั้นสั่งของที่คุณอนุชิตมี ผมเล็ง JET ไว้อยู่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง 

ถ้าเป็นไปได้ผมคิดว่าคุณ monalisa ควรหาโอกาสไปดูของจริงก่อนซื้อครับ

การเลือกซื้อเลือกใช้ของเช่นโต๊ะเลื่อย ผมคิดว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะได้เห็นของก่อน มันจะช่วยให้เรารู้ได้ว่าเหมาะสมกับเราหรือไม่เช่น รูปร่างหน้าตา,วัสดุที่ใช้ประกอบเครื่อง,ความรู้สึกถนัดทะมัดทแมงเมื่อเข้ายืนประกบโต๊ะ,เหมาะกับงานตัดแบบที่เราทำประจำหรือไม่ และยังรวมถึงขนาดของมันเมื่อเอามาตั้งในสถานที่ของเรา หลายๆอย่างนี่ถ้าไม่เห็นตัวจริงอาจทำให้ผิดหวังเมื่อได้มาใช้งาน

เห็น คุณพงษ์ บ้านงานไม้ ติดอกติดใจโต๊ะเลื่อยของ jet ขนาด 10 นิ้ว ไม่ทราบว่าที่คุณ monalisa ต้องการนั้นเป็นขนาดใด ถ้าเป็นขนาด 10 นิ้ว ไม่แน่ว่า jet อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณก็ได้ ส่วนขนาดอื่นผมยังไม่เห็นมีใครพูดถึงนักครับ  

 คุณyun ครับ...wixey ค่าเสียหายเท่าไหร่ครับ...

 ใช่ครับพี่ยุ่น ผมเล็ง 10 นิ้วเอาไว้ ถ้ามีโอกาสผมก็อยากไปลองด้วยตัวเองก่อนครับ ตอนนี้กำลังหาข้อมูลไปเรื่อยๆก่อนครับ ขอบคุณครับ 

wixey ของผมยังไม่เสียหายครับ พี่เสธ.ต้อม 555

http://www.amazon.com/Wixey-WR700-Fence-Digital-Readout/dp/B001PTGBT4/ref=sr_1_4?ie=UTF8&qid=1375656698&sr=8-4&keywords=wixey

ในลิงค์เป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษีที่เมกา ค่าขนส่งที่นั่นฟรีครับ แต่ส่งมาไทยถ้าเอาถูกใช้การส่งทางเรือ ถ้าเอาเร็วก็บินมาแต่จะแพงหน่อยครับพี่

 ขอบคุณมากครับ...กำลังเล็งดูว่าจะสั่งพร้อมรางร่อง สไลด์ /miter 

 รบกวนคุณยุ่นช่วยวิจารณ์โต๊ะเ ลื่อย boye หน่อยได้ไหมครับ เทียบกับตัวที่ใช้มาก่อน ผมเองอยากได้โต๊ะเลื่อยที่แข็งแรง มั่นคง

ตัดได้แม่นยำ สามารถปรับแต่งได้ และราคาไม่แรงมาก ผมดูน้ำหนักแล้วน่าจะแข็งแรง และมั่นคงมากเวลาตัดไม้แผ่นใหญ่

และเสียงเงียบกว่าเลื่อยวงเดือนมากไหมครับ  ผมอยู่หาดใหญ่ไม่ทราบว่าจะไปดูได้ที่ไหน ขอรบกวนด้วยครับ

   ผมชื่นชมผลงานการปรับแต่งอุปกรณ์เสริมโต๊ะเลื่อยของพี่ยุ่นให้ใช้งานใด้จริง

โดยใช้อุปกรณ์ใกล้ตัวที่มีอยู่ ต่อไปผมคงต้องทำตามพี่ยุ่นบ้างซื้อมาพักใหญ่แล้วได้

แต่ใช้อย่างเดียวยังไม่ได้ปรับปรุงอะไรเลย

ครับ พี่เสธ.ต้อม ถ้าสั่งจากนอกก็เอาแบบดีๆไปเลยครับ ( incra miter gauge แจ่มมาก ขอบอก ) ส่วนผมจะลองทำใช้เองดู มีความรู้สึกอยากทำอ่ะครับคาดว่าน่าจะสนุก

ตอบ คุณ ธเนศ ครับ ถือเสียว่าผมมาเล่าสู่กันฟังดีกว่านะครับ    ผมขออนุญาตตอบยาวหน่อยเพราะบางเรื่องอาจมีคนที่ยังไม่รู้

ถ้าให้ผมเทียบ boye กับโต๊ะเลื่อยที่ผมเคยใช้มาก่อน คงต้องเริ่มตามนี้ครับ

1.โต๊ะตัวแรกที่ผมได้ใช้งานเป็นของอาจารย์งานไม้ของผม ที่ปัจจุบันนี้ออกบวชเป็นพระมาหลายปีแล้วครับ โต๊ะเลื่อยของอาจารย์ผมเป็นของไทยทำ ขนาดใบที่ใส่ใช้ประจำคือ12 นิ้ว (ขออภัยที่จำชื่อ,ยี่ห้อไม่ได้) ลักษณะเป็นแท่นเลื่อยยึดติดกับพื้นแล้วเราต้องสร้างโต๊ะมาคร่อมแท่นเลื่อยเองอีกที จุดเด่นของเลื่อยตัวนี้คือ ความนิ่งของใบเลื่อย และความเงียบครับ ความนิ่งนั้นผมว่าน่าจะเป็นระบบที่นิ่งที่สุดในบรรดาโต๊ะเลื่อยทุกรูปแบบ (โต๊ะเลื่อยขนาดเล็กไม่รวมถึงระดับอุตสาหกรรม ) เพราะโครงสร้างแท่นเลื่อยทำจากเหล็กหล่อหนามากๆในทุกๆจุด บวกกับยึดติดไว้ที่พื้น ความนิ่งนั้นสามารถตัดไม้เอ็มดีเอฟเคลือบผิวทั้งหลายได้เรียบคมกริบโดยไม่มีแตก,บิ่น (ในกรณีที่ใบยังคม) ความสั่นสะเทือนที่รับรู้จากเท้ามีน้อยมากจนเรียกได้ว่าไม่รู้สึกถึง ส่วนความเงียบนั้น เวลาเปิดเครื่องเลื่อยใช้งานผมได้ยินแต่เสียงมอเตอร์กับเสียงที่ใบเลื่อยหมุนตัดลมเพียงแผ่วเบา ตอนตัดไม้ไม่มีอาการสะท้านใดๆทั้งสิ้น ส่วนจุดด้อยของเลื่อยตัวนี้คือใช้ตัดแบบ 90 องศาได้เท่านั้นปรับองศาการตัดไม่ได้ ราคาเฉพาะตัวแท่นจำได้แค่ว่าประมาณ ห้าหมื่นถึงหกหมื่นบาทครับ

2.ตัวที่สองผมทำขึ้นใช้เองครับ เป็นเลื่อยวงเดือน+เร้าเตอร์ หงายท้องทั้งสองตัว ผมทำเป็นโต๊ะแบบพับเก็บได้เนื่องจากตอนนั้นผมมีพื้นที่ทำงานไม้น้อยกว่าปัจจุบันมากครับเลยพยายามประหยัดพื้นที่ทุกวิถีทาง จุดเด่นของมันก็คือ พับเก็บได้นั่นแหละครับ ส่วนการใช้งานนั้นแค่พอถูไถไปได้

3.ตัวที่สามคือ makita mlt 100 โต๊ะเลื่อยตัวนี้ผมใช้งานได้ดีในตอนแรกๆ แต่พอไม้ที่ผมต้องเอามาทำชิ้นงานเริ่มใหญ่ขึ้น หนาขึ้น ก็ไปกันไม่ค่อยได้แล้วครับ จุดเด่นของตัวนี้คือเคลื่อนย้ายสะดวกซึ่งจะเหมาะกับการเอาไปใช้งานนอกสถานที่หรือกับผู้มีพื้นที่ทำงานขนาดเล็กไม้ที่ตัดไม่หนาหรือหนักนัก จุดด้อยหลักๆก็คือรั้วตัดสั้นไปและล็อคด้านเดียว ส่วนวัสดุประกอบเครื่องควรจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในหลายจุดครับ ราคาหมื่นกลางๆ

4.ตัวที่สี่คือ boye นี้ผมใช้งานมาระยะนึงแล้วความนิ่ง,ความเงียบของใบเลื่อยและตัวเครื่อง สู้ตัวโต๊ะเลื่อยตัวแรกของอาจารย์ผมไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ความประหยัดพื้นที่,ความสะดวกคล่องตัวสู้ตัวที่สองและสามของผมไม่ได้ แต่สำหรับงานในปัจจุบันที่ผมทำอยู่นี้เมื่อเทียบกันทั้งสี่ตัว boye เหมาะกับผมที่สุดครับ

ขออภัย คุณ ธเนศ ครับที่ผมตอบตกหล่นไปบ้าง

boye ใช้มอเตอร์+เพลา,สายพานขับจึงเงียบกว่าเทียบกับเลื่อยวงเดือนแบบใช้แปลงถ่านครับ ส่วนการที่จะไปหาดูตัวจริงของโต๊ะเลื่อยตัวนี้ ผมเห็นตัวจริงที่ บ.เกรียงไทย ถนนพระราม 2 ครับ https://www.ktw.co.th/

ขอบคุณ คุณ pop ที่ชื่นชมครับ มาถึงตอนนี้คุณ pop น่าจะเกิดแรงฮึดมาจัดการกับโตะเลื่อยแล้วกระมัง อุปกรณ์พร้อม =  ประหยัดแรงงานนะครับ

 ขอบคุณคุณยุ่นมากครับ ผมเองมีโต๊ะเลื่อยขนาดเล็กซื้อจากคุณอนุชิต ติดตั้งเลื่อยวงเดือนเอง

เวลาจะเลื่อยไม้แผ่นใหญ่ลำบากมาก ปรับตั้งยาก ทุกครั้งที่จะใช้งานต้องปรับตั้งใหม่ 

เลยคิดจะทำโต๊ะเลื่อยใหม่ โดยจะทำเป็นขาเหล็กยึดเลื่อยกับโครงเหล็กเลย  แต่ติดที่

การปรับตั้งคงจะยากเหมือนเดิม และเสียงคงดังเหมือนเดิม จึงคิดจะซื้อโต๊ะเลื่อยใหม่ที่

หนักดูมั่นคงไม่ขยับเวลาเลื่อย และราคาไม่สูงมาก เห็นโต๊ะเลื่อยคุณยุ่นแล้วถูกใจและราคา

ยอมรับได้

ยินดีครับ คุณธเนศ ขอให้ได้โต๊ะเลื่อยที่ถูกใจดังหวังครับ  

มาต่อกันเรื่องของโต๊ะเราเตอร์ครับ

โต๊ะเลื่อย+โต๊ะเราเตอร์+ลิฟท์ยกเราเตอร์ นั้น มีการสร้างมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายสามารถหาดูแบบต่างๆได้จากเนทฯ ซึ่งผมก็ดูมาเป็นไอเดียครับ แต่อย่างไรก็ตามเงื่อนไขต่างๆเช่น วัสดุ,อุปกรณ์,งบประมาณการสร้าง,การใช้งาน,พื้นที่ใช้สอย ฯลฯ ของแต่ละคนมันมีหลากหลาย จึงยากที่จะทำให้เหมือนกัน ผมจึงทดลองทำในเงื่อนไขที่ผมพร้อมจะลงมือ

เริ่มจากวัสดุหลักๆที่ผมมีในช็อป ก็พวกไม้จริงพวกเมเปิ้ล,ไม้สน

ไม้อัดยาง,ไม้อัดผิวแอช,เอ็มดีเอฟ,แผ่นโฟเมก้าไส้คล้ายอคิลิค หนา 6 ม.ม.(ใครทราบว่าเรียกว่าอะไรช่วยบอกด้วยนะครับ ) ในรูปผมกำลังเตรียมตัดโฟเมก้าที่ว่า

การตัดผมใช้ track saw ที่สั่งพี่ปีเตอร์ทำ โดยใช้ใบเลื่อยขนาด 6 นิ้ว 92 ฟัน รายละเอียดของ แทรคซอว์ตามลิงค์ครับ http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&No=1428751

เราเตอร์ที่ผมจะทำเป็นเราเตอร์ลิฟท์ตัวแรกผมใช้ maktec ก่อนครับ ในรูปจะเห็นจิ๊กกำหนดระยะเจาะเดือยส่วนรายละเอียดการทำจิ๊กตัวนี้ผมหากระทู้ไม่เจอครับ  เลยทำลิ้งค์มาแปะไม่ได้ ^_^"

ผมถอดอุปกรณ์ออกทุกอย่างจนเหลือเท่าที่จะใช้อยู่แค่นี้ครับ

วัดความหนาเพลทเราเตอร์สีดำที่ถอดออกมา เพื่อหาวัสดุที่หนาเท่ากับเพลทนี้มาใช้ วัสดุที่ผมใช้ได้คือไม้อัดแอชครับ โดยผมจะเจาะวงกลมที่ไม้อัดนี้ให้ใหญ่พอที่เพลทเราเตอร์จะสวมเข้าไปในวงกลมที่เจาะไว้ได้

ผมวางแผนว่าจะใช้โฟเมก้า(สีน้ำตาลเข้ม)เป็นถาดหรือแคร่ส่งไม้เข้าตัด โดยใช้การตัดแบ่งมาทำจากไม้และโฟเมก้าที่ตัดเตรียมไว้

ถาดหรือแคร่ส่งไม้ที่ทำเสร็จแล้วครับ

จากนั้นก็เอากลับมาเรียงซ้อนรวมกันแล้วแคล็มป์ไว้เพื่อทำในขั้นต่อไป

เจาะสว่านด้วยดอก 6. ม.ม. เพื่อทำรูเซ็นเตอร์ของวงกลมในตำแหน่งที่จะติดตั้งเราเตอร์โดยผมใช้จิ๊กเจาะวงกลมตามลิ้งค์นี้ครับ http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=8&No=1430534

การเจาะนี้ผมเจาะทีละชั้นเพราะผมต้องการวงกลม 4 ขนาดวางซ้อนกันเป็นลำดับไป โดยที่

1.ชั้นบนสุด(ไม้อัดแอช)มีขนาดพอให้ใส่เพลทเราเตอร์ได้พอดีๆ

2.ชั้นต่อมาเป็นไม้อัดยางมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7  ซ.ม. 1 แผ่น

3.ชั้นต่อลงมาอีกเป็นโฟเมก้าไส้คล้ายอคิลิค 1 แผ่น เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ซ.ม.

4.ชั้นล่างสุดเป็นโฟเมก้ากับไม้อัดยาง ผมเจาะใหญ่กว่าเพลทเล็กน้อย

ขอขยายความใน ค.ห. 525 เล็กน้อยครับ

1.ที่ผมยังนำเพลทเราเตอร์มาใช้ร่วมอยู่เพราะผมต้องการใช้มันเพื่อเป็นเสมือน "แหวน" ที่รองน็อตสกรูครับ เหตุผลคือ ผมคิดว่าถ้าจะพึ่งพาไม้อัดหรือจะใช้โฟเมก้าไส้คล้ายอคิลิคมาเป็นที่แขวนของหนักระดับนี้ แต่กับความที่มันมีความเร็วรอบที่สูงมากๆ ด้วยแรงสั่น+น้ำหนัก อาจทำให้ไม้หรืออคิลิคที่จะแขวนฉีกหรือแตกร้าวจนเราเตอร์อาจหล่นลงมาเป็นอันตรายได้ครับ

2.ผมเจาะวงกลมในชั้นที่สองคือไม้อัดยางให้ใหญ่กว่าชั้นถัดลงไป ( ค.ห. 525 ผมพิมพ์สลับความกว้างไป และได้กลับไปแก้ไขแล้วครับ  ) เพื่อเป็นบ่ารับ insert plate ของเราเตอร์

3.ความกว้างของโฟเมก้าไส้คล้ายอคิลิคที่เล็กกว่าชั้นไม้อัดยาง เพื่อช่วยเรื่องความแข็งแรงของชั้นไม้อัดยาง

4.ผมเจาะสองแผ่นชั้นล่างสุดให้ใหญ่กว่าเพลทของเราเตอร์เล็กน้อยเพื่อให้เวลาจะประกอบยึดเราเตอร์สามารถขยับหารูยึดสกรูง่ายขึ้นครับ

ในแต่ละชั้นผมใช้กาวยางเป็นตัวยึดระหว่างชั้น ในรูปผมใช้เทปบังขอบเพื่อไม่ให้ทากาวเกินเข้าไปในส่วนที่ไม่ต้องการให้มีกาวเข้าไป ซึ่งคือส่วนร่องสำหรับถาด,แคร่ส่งไม้เข้าตัดครับ

ระหว่างประกบทากาวแต่ละชั้นผมจะคอยเช็คความหนาแต่ละชั้นเมื่อประกบไปด้วย ปรากฏว่าก่อนถึงชั้นบนสุด ความหนาของถาด,แคร่เกิดหนากว่าผิวของทั้งสองข้าง ผมจึงใช้โฟเมก้าสำหรับปิดผิวมาประกบเสริม ความสูงของทั้งหมดจึงพอดีๆกัน แหม่...รอดตัวไปอย่างหวุดหวิด ไม่งั้นที่ลงทุนลงแรงทำมานี้คงต้องโยนทิ้งไปครับ

ส่วนท็อปของเราเตอร์เสร็จแล้วครับ ในส่วนสีน้ำตาลเข้มระหว่างลายไม้คือถาดส่งไม้

ลองใส่เพลทเราเตอร์ดู

ครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องการประกอบรวมร่างฯระหว่างโต๊ะเลื่อยกับโต๊ะเราเตอร์ครับ

อารายพี่ยุ่น ไปดื้อ ๆ เลย กลับมาเล่าเร็ว ๆ นะพี่ รอชมตอนต่อไปอยู่ครับ

เมื่อคืนผมพิมพ์ๆอยู่แล้วรู้สึกเคลิ้มๆไปอ่ะ คุณแมน แบริ่ง  5555 มาต่อตอนเช้าครับ 

ส่วนโครงสร้างของโต๊ะเราเตอร์

ผมใช้ไม้เอ็มดีเอฟ 15 ม.ม. กว้าง 33 ซ.ม. ยาว 1.2 เมตร ซ้อนกันโดยใช้ไม้สนสอดเป็นสันไว้ระหว่างไม้เอ็มฯ ( ผมใช้วิธีการวางโครงตามแบบในหน้า 1 ของกระทู้นี้ครับ ) จากนั้นปิดผิวด้วยไม้อัดแอช การยึดพื้นไม้ชิ้นนี้ผมใช้เหล็กฉากยึดไว้กับขาโต๊ะ 

ในส่วนคานไม้เมเปิ้ลผมใช้เกลียวหนอนฝังไม้ใส่สกรูหัวมนไว้ ยึดกับขาโต๊ะเลื่อยฯแล้วขันสกรูจนตึงมือ และเพื่อเป็นการป้องกันไม้อัดแอชยุบตัวลงไปได้เรื่อยๆ  ผมจึงฝังเกลียวหนอนไว้ที่ใต้หัวสกรูด้วย วิธีการนี้จะทำให้ไม้เอ็มดีเอฟที่ผมประกบกับคานไม้สนไว้ สามารถรับแรงงัดจากน้ำหนักทั้งหลายที่ผมจะนำเข้าไปเสริมรวมถึงน้ำหนักของไม้ที่จะตัดบนโต๊ะนี้ได้มากครับ ผมทดลองความแข็งแรงโดยให้คุณเปิ้ลขึ้นเหยียบ ผลปรากฏว่าสามารถรับน้ำหนักได้สบายๆไม่มีอาการใดๆ แต่พอผมขึ้นเทสเองกลับต้องรีบลงแทบไม่ทัน   คือตัวพื้นไม้เอ็มฯไม่เป็นอะไรหรอกครับแต่เป็นเพราะน้ำหนักตัวผมที่เกิน "อวบ" ไปนิดหน่อยเลยทำให้โต๊ะกระดกอ่ะครับ  

ที่ใต้ท็อปของเราเตอร์ผมใช้ไม้เมเปิ้ลทำขารับ โดยยึดสกรูไว้เป็นการยึดชั่วคราวครับ

สิ่งที่ผมลืมบอกไปในเรื่องการยึดประกบท็อปเรื่องนึงคือ ผมใช้ตะปูเกลียวยึดทุกชั้นเข้าด้วยกันเป็นการเสริมการยึดประกบด้วยกาว ช่วยป้องกันแต่ละชั้นแยกกันเสริมด้วยครับ

ส่วนอลูมิเนียม( พรรคพวกให้มา  )ในรูปนี้ผมบาก,แต่งเป็นทรง ใช้เป็นตัวยึดโต๊ะเราเตอร์กับโต๊ะเลื่อย คานรับท็อปผมใช้ไม้เมเปิ้ลครับ

มุมมองจากด้านล่างเอียงเล็กน้อยจากการที่ผมเสริมแผ่นไม้บางๆไว้ระหว่างอลูฯกับเมเปิ้ล สุดท้ายต้องเอาแผ่นไม้ออกกับเสริมแหวนด้านขวาถึงจะตรงครับ

ที่คานรับกับแผ่นท็อปเราเตอร์นี้ ผมทำแบบให้สามารถปรับระดับสูงต่ำได้โดยใช้เกลียวหนอนฝังที่แผ่นท็อปทั้งสี่มุม เป็นการทำไว้สำหรับตอนจะปรับความสูงของท็อปเราเตอร์ให้เสมอกับท็อปโต๊ะเลื่อยฯง่ายขึ้น แม้จะยุ่งยากในการทำแต่คุ้มค่าเวลาใช้ครับ 

ถึงแผ่นท็อปจะลอยห่างจากคานแต่ก็แข็งแรงดีมากครับ

 คุณยุ่น

    มีแต่ไม้สวยๆทั้งนั้นเลยนะโปรเจ็คต่อไปสงสัยต้องขยับไปเล่นไม้เมเปิ้ลกะไม้โอ๊คบ้างแล้วละ แต่ละชั้นยึดกันด้วยกาวยางเวลาปาดกาวยางมันไม่เป็นก้อนเลยเหรอ ทำไมผมทำทีไรมันชอบเป็นก้อนๆทุกทีเลย

ขอบแผ่นท็อปกับรางรับล้อหัวรั้วตัดผมเหลือช่องว่างไว้ เพราะผมตั้งใจตัดแผ่นท็อปเราเตอร์ไว้ให้สั้นกว่าท็อปโต๊ะเลื่อยฯเล็กน้อย เวลาใช้งานขี้เลื่อยจะได้ไม่ตกค้างบนรางฯ ผลคือช่วยได้พอสมควรครับแต่ก็ยังมีขี้เลื่อยเหลืออยู่บ้างตอนใช้งานจริง

การยึดท็อปที่มุมนี้ผมทำฟิตติ้งเองเพราะผมไม่มีสกรูที่ยาวได้ขนาดที่ต้องการครับ

ขอออกตัวก่อนว่าอย่าว่าผมขี้คุยงู้นงี้เลยนะครับ พี่เอ็ม

ไม้ที่ผมตัดให้ลูกค้าไปลายสวยกว่านี้อีกหลายขุมเลยครับพี่  ที่ผมเอามาใช้เป็นเศษที่ตัดออกเพราะไม้มีตำหนิหรือไม่ก็ลายหรือสีไม่แม็ทช์กัน ถ้าพี่ได้ลองไปหาใช้แล้วจะติดใจครับขอบอก

ส่วนเรื่องการปาดกาวยางให้เรียบ ต้องใช้วัสดุที่แข็งและบางขอบเรียบตรงครับ เวลาปาดกาวให้ตั้งองศาวัสดุนั้นให้ชันหน่อยก็จะได้ชั้นกาวที่เรียบสมใจครับ

อ้อ...เวลาปาดพอเห็นว่ากาวเริ่มเหนียวเกิน ให้เอากาวนั้นทิ้งไปแล้วเทกาวที่กระป๋องลงมาเพิ่มครับ พี่เอ็ม

ฟิตติ้งไม้ที่ทำเอง

ผมตัดไม้ขนาดเล็กกว่าร่องอลูฯเล็กน้อย ( เล็กน้อยมั่กๆ ) ฝังเกลียวหนอนฝังไม้เข้าไป แล้วค่อยสอดเข้าร่องอลูฯครับ

เมื่อทำมาถึงขั้นตอนนี้แล้ว ผมก็ทดลองเลื่อนถาดส่งไม้ขึ้นไปข้างหน้าดูว่าจะสะดุดกับรางอลูฯหรือไม่ เพราะผมตั้งระดับความสูงของรางฯหมิ่นเหม่กับร่องของถาดมาก ( โดนบังคับจากรูยึดรางของโต๊ะเลื่อย  ) ผลคือมีการเสียดสีระหว่างถาดกับรางฯเพียงแผ่วๆครับ

เลื่อนถาดมาด้านล่างไม่มีการเสียดสีใดๆเพราะมีระยะห่างระหว่างถาดกับรางเหลือเฟือครับ

ลืมอีกล่ะ

ผมถอดเหล็กท็อปโต๊ะเลื่อยฯด้านขวาออกเพื่อใส่ท็อปของเราเตอร์แทนครับส่วนด้านซ้ายผมยังทิ้งไว้ก่อน เอาไว้มีเวลาว่างค่อยทำส่วนเสริมมาใส่แทนครับ

ที่เหล็กด้านนี้ผมคิดว่าอาจจะทำเครื่องไสชิดจากกบไฟฟ้ามาแทนที่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอดูอาการคัน(ไม้)คัน(มือ) และดูงบประมาณที่จะซื้อเครื่องไสชิดตัวจริงที่ตั้งใจไว้ก่อน ว่าจะมีอะไรมาแซงปาดหน้าจนต้องซื้อมาใช้หรือไม่ครับ

มุมมองด้านหน้าดูเอียงๆหน่อยนะครับ เพราะที่ทางไม่พอให้ถอยหาระยะถ่ายรูป

รางอลูฯที่ยื่นออกไปด้านบนตามรูป ผมเหลือเอาไว้สำหรับทำท็อปของเราเตอร์มาเสริม เอาไว้สำหรับงานบางลักษณะ,รูปแบบที่ต้องเปลี่ยนจุดการเข้ายืนใช้งานเราเตอร์ทางด้านข้างครับ

ที่ใต้เราเตอร์ผมคิดจะทำขาโต๊ะไว้กันโต๊ะกระดกข้างด้วย แต่ขอนึกหารูปแบบที่ลงตัวกับส่วนเสริมให้ได้ก่อนค่อยลงมือครับ

เศษไม้ที่เหลือจากการทำไม้รับน้ำหนักเราเตอร์ ผมก็เอามาทำ zero clearance insert plate ของโต๊ะเลื่อยฯสำรองเอาไว้ เผื่อสำหรับตัดองศาอื่นๆนอกเหนือจากการตัด 90 องศา และสำรองไว้เผื่อใช้แทนของเดิมที่อาจชำรุดด้วยครับ

ส่วนเกินของพื้นไม้รับเราเตอร์สำหรับต่อเติมท็อปเราเตอร์ในภายหลัง

ความแข็งแรงมั่นคงในสิ่งที่ผมได้ต่อเติมเข้าไป

ความแข็งแรงมั่นคงในสิ่งที่ผมได้ต่อเติมเข้าไปนั้นเป็นที่พอใจสำหรับผมมากครับ ผมทดลองด้วยการลาก,ดึงโต๊ะรวมร่างฯชุดนี่ที่ขาเข้าหาและออกด้านข้างตัว,ที่พื้นไม้รับเราเตอร์ และยังทดลองการยกโต๊ะรวมร่างฯนี้ที่ท็อปเราเตอร์ด้วยไม่พบอาการใดๆที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจได้

ถึงครั้งนี้จะเป็นการทดลองสร้างมาใช้งานในรูปแบบนึง ที่ในอนาคตอาจมีการปรับปรุงเล็กน้อยจนถึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่ผมก็คิดว่าจำเป็นต้องทำให้แข็งแรงไว้ก่อน เพื่อตัดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอันเกิดจากโครงสร้างโต๊ะที่ไม่แข็งแรงพอออกไป

ครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องระบบยก,เลื่อนเครื่องเราเตอร์ขึ้นลงครับ ^_^"

แอบอ่านอยู่..ขอบอกได้คำเดียวสุดยอดมั่กๆฮ่า

 รับไปเลย 10 Lite

 Like  ครับ พิมพ์ผิดจ้า....

งานเนี๊ยบมากเลยครับพี่ 

     ขอบคุณครับ พี่เบิร์ด

   ขอบคุณครับ พี่เสธ.ต้อม

                  ^____^

แจ้งผลการใช้โต๊ะเลื่อยตัดชิ้นงานครับ

หลังจากประกอบเราเตอร์เข้ากับโต๊ะเลื่อยวงเดือน ผมได้ใช้โต๊ะเลื่อยฯทำงานตัดไม้ไปจำนวนหนึ่ง มีผลดีที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นหลังเสริมเราเตอร์เข้าไปครับ

การตัดหัวไม้ (ขวางเสี้ยน)

การตัดหัวไม้ผมจะใช้ใบเลื่อยขนาด 10 นิ้ว 100 ฟัน ที่ใช้ตัดไม้อัดเป็นใบตัดมาตลอด ผลที่ได้ไม่มีอะไรแตกต่างกับก่อนที่จะทำการเสริมโต๊ะเข้าไปมากพอให้เป็นประเด็นครับ  ในรูปนี้คือไม้เมเปิ้ล

จุดที่ต้องมาขยายความ มาเล่าสู่กันฟัง คือในการตัดตามแนวเสี้ยนครับ

การตัดตามแนวเสี้ยนผมจะใช้ใบฟันห่าง ที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบันนี้คือใบที่แถมมากับโต๊ะเลื่อยฯเป็นใบขนาด 12 นิ้ว 36 ฟัน ผลที่ได้สังเกตุจากรูปดูครับ ซึ่งผมต้องบอกว่ามันแตกต่างออกไปจากเดิมเพราะก่อนเสริมโต๊ะรอยฟันเลื่อยจะมีมากกว่านี้ แต่น่าเสียดายที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปรอยฟันเรื่อยก่อนการเสริมโต๊ะเอาไว้ จะได้ให้ดูรูปเปรียบเทียบกัน รูปนี้คือไม้เมเปิ้ลครับ

รูปนี้คือไม้มะค่าเก่าครับ แต่ผมวางไม้เพื่อถ่ายรูปกลับด้านกับการตัดนะครับ สังเกตุจะเห็นรอยฟันเลื่อยมันสลับบนล่างกันอยู่

สาเหตุที่ทำให้รอยฟันเลื่อยลดลงนั้น คาดน่าจะมาจากการต่อเติมเสริมโต๊ะตัวนี้จนมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นบวกกับวัสดุที่เสริมเข้าไปเป็นไม้

ตอนที่ผมถอดท็อปโต๊ะข้างขวาออก ผมลองชั่งน้ำหนักดูได้ 10 ก.ก. พอดีครับ แต่ส่วนที่ผมเสริมเข้าไปแทนมีน้ำหนักร่วมๆ 50 ก.ก.เท่ากับโต๊ะรวมร่างฯ 2 นี้มีน้ำหนักรวม ( ในปัจจุบัน ) อยู่ที่ประมาณ 160 ก.ก.   และการที่ผมใช้ไม้มาเสริมโต๊ะ ตัวไม้เองก็น่าจะช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนออกไปอีกส่วนนึงแม้ตัวโต๊ะยังมีแรงสั่นสะเทือนเหลืออยู่ แต่ผลที่ออกมาเป็นเช่นนี้คิดว่าคงเกี่ยวพันกัน อีกข้อสังเกตุนึงที่พบคือความนุ่มนวลในการตัด ผมรู้สึกนุ่มสบายมือขึ้นครับ ถ้าผมได้ใบเลื่อยที่มีเนื้อเหล็กหนากว่าที่มีใช้อยู่มาใช้ คาดว่าผลลัพธ์คงดีขึ้นไปอีก

สำหรับการตัดไม้จริง ไม่ว่าจะตัดได้เรียบเนียนอย่างไรก็ยังต้องมีการขัดการไสไม้ที่ตัดออกมา เพราะยากที่จะมีผลงานเทียบเคียงการไสได้ แต่มันก็ช่วยให้ลดเวลาการไสไปได้พอสมควรจากรอยฟันที่ลดลง และนี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหวังของผมเลยขออนุญาตมาแจ้งไว้ครับ

รับทราบข่าวที่นำเสนอ..ขอบคุณ CNN ครับ

 ท่านมหาวิชาญ ฝากน้ำเต้าวัดปากน้ำมาให้ สำหรับแขวนหน้ารถ เสาร์/อาทิตย์นี้ถ้าว่างจะแวะเอาไปให้ที่บ้านนะครับ

-ที่ผ่านมานี้ดู "เบลคกลิ้งนิวส์" ไปก่อนนะครับ พี่เบิร์ด 5555 ข่าวค่ำกำลังจะตามมาในอีกไม่นานครับ

-ขอบคุณน้ำใจ พี่เสธ.ต้อม มากๆครับ และถ้ามีเวลาเข้ามาเที่ยวเลยครับ พี่เสธ.ต้อม เราเตอร์ลิฟท์ คืบหน้าไปกว่า 90 % แล้วครับ

[ เอ...แล้วจะลืมน้ำเต้าที่ พระอาจารย์วิชาญ ฝากมาให้หรือเปล่านะ อุตส่าห์เอาเรื่องเราเตอร์ลิฟท์มาอ้าง (คิดในใจ) ]

 รับทราบครับ...เดี่ยวจะเอา 6D ไปจัดการเก็บรายละเอียดทุกซอกทุกมุมครับ 

ปล. ไม่ลืมครับเอาผูกไว้กับหน้ารถแล้วครับ..

แล้วเจอกันครับ พี่ เสธ.ต้อม

ต่อไปเป็นเรื่องเราเตอร์ลิฟท์ครับ

ตัวอย่าง router lift ที่มีขายในต่างประเทศ

ตัวอย่าง router lift ที่มีขายในต่างประเทศ

ตัวอย่างภาพจากเน็ท router lift ที่ diy กันเอง

ตัวอย่างภาพจากเน็ท router lift ที่ diy กันเอง

ตัวอย่างภาพจากเน็ท router lift ที่ diy กันเอง

ตัวอย่างภาพจากเน็ท router lift ที่ diy กันเอง

ถ้าถามผมว่า router lift จำเป็นต้องมีใช้หรือไม่? ผมต้องขอตอบว่าไม่ถึงขั้นว่าจำเป็นต้องมีครับ เพราะถ้าเอาเราเตอร์มาหงายติดตั้งเป็นโต๊ะ ผมหรือใครก็ตามแต่ ก็สามารถปรับระยะสูงต่ำได้ที่ตัวมันเองเช่นเดียวกับที่สามารถตั้งระยะ,เปลี่ยนดอกตอนที่ยังไม่ได้ติดตั้งกับโต๊ะ

แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นถามว่าควรมี router lift มาใช้คู่กับเราเตอร์หงายติดโต๊ะหรือไม่ ? สำหรับผมแล้วถือว่าควรอย่างยิ่งครับ สาเหตุหลักๆเลยคือ ไม่ใช่แค่มันช่วยทำให้โต๊ะเราเตอร์ของเรานั้นดู เท่,เก๋ไก๋ กว่าเอามายึดไว้เปล่าๆขึ้นเยอะครับ  การเปลี่ยนดอกกับการปรับระยะสูงต่ำของดอกกัดจะง่ายขึ้นมาก สำหรับผู้ที่ใช้แบบยึดกับโต๊ะตัวเปล่าไม่มีลิฟท์ช่วยยกนั้น เวลาเปลี่ยนดอกหรือปรับระยะก็ต้องล้วงหรือไม่ก็มุดหรือต้องดัน เพื่อหมุนตัวปรับระยะกับดันเราเตอร์ขึ้นสูงสุดเพื่อเปลี่ยนดอก ถ้านานๆถึงจะได้ปรับ,เปลี่ยนที่ว่าซักที router lift คงไม่จำเป็นเท่าไร แต่ถ้าต้องปรับ,เปลี่ยนกันบ่อยๆจะต้องนึกถึงมันขึ้นมาทุกทีแน่นอน

เมื่อมีความต้องการก็ย่อมมีผู้ทำออกมาขาย

รูปตัวอย่างภาพใน ค.ห.ที่ 570 และ 571 เป็นแบบสำเร็จที่มีขายกันอยู่หลากหลายยี่ห้อในต่างประเทศ ถ้าเราสั่งมาใช้ของถึงมือราคาก็เกินหมื่นทั้งนั้นครับ ส่วนรูปใน ค.ห.ที่ 572 - 575 เป็นการทำใช้กันเองของเหล่านัก diy มีมากมายหลากหลายไอเดีย แต่ที่เหมือนกันคือทุกแบบล้วนเป็นแบบหมุนเพื่อปรับขึ้น,ลงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการหมุนด้วยมือหรือใช้สว่านช่วยหมุน ยกเว้น ค.ห.ที่ 574 ที่ใช้แม่แรงแบบโยก

ส่วนแบบที่ผมสร้างขึ้นจะเป็นอีกรูปแบบนึง ที่สำคัญลงทุนต่ำมากๆ  ผู้ใดที่สนใจ ตามดูได้ ค.ห.ต่อไปเลยครับ

.

.

.

ในตอนแรกก่อนที่ผมจะเริ่มลงมือสร้างนั้น ผมคิดแบบที่สร้างง่ายกว่านี้อีกครับ แต่เป็นเพราะชุดรางรั้วของโต๊ะเลื่อยอยู่ในตำแหน่งที่ขวางการใช้งานระบบลิฟท์ที่ผมคิดจะสร้างเลยจำเป็นต้องเปลี่ยนมาคิดในรูปแบบนี้ครับ

รูปใน ค.ห. 579,580 แสดงถึงระบบการทำงานของลิฟท์ เป็นระบบ "ดึงเพื่อยกสูง ดันเพื่อลดระดับ" ซึ่งใช้ในเวลาต้องการเปลี่ยนดอกเราเตอร์ สาเหตุที่ผมคิดระบบนี้มาใช้นั้นเป็นเพราะเท่าที่ผมได้ดูตามคลิปฯต่างๆผมพบว่า การเปลี่ยนดอกฯในระบบ router lift ที่ขาย,ที่สร้างใช้กันนั้น มันปรับขึ้นสูงสุดเพื่อเปลี่ยนช้าไปหน่อยครับ โดยสาเหตุที่ทำให้ช้านั้นมาจากระบบเกลียวหมุน 

สมมติ ถ้าเราปรับระยะความสูงของดอกฯตอนใช้งาน จนน็อตสำหรับขันเพื่อล็อคหรือเปลี่ยนดอกเราเตอร์อยู่ต่ำกว่าระดับความสูงสำหรับเปลี่ยนดอกฯไป 30  ม.ม. ถ้าหมุนเกลียว 1 รอบ = 1 ม.ม. ก็เท่ากับผมต้องหมุน 30 รอบถึงจะสูงพอให้คลายล็อคได้ ส่วนระบบที่ผมคิดมานี้ สามารถปรับความสูงจากจุดต่ำสุดไปจุดสูงสุดได้ในเวลาที่สั้นมาก คือแค่ดึงโดยใช้แรงเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับเวลาดันเพื่อปรับลงครับ

โครงสร้าง router lift  ของผม

รูปนี้คือฐานของกลไกการสวิงแขนพับ router lift

โครงสร้าง router lift  

ทางซ้ายของรูปคือแขนของกลไก router lift ส่วนด้านหน้า(ทางขวา) เป็นจุดที่ใช้จับเพื่อดึงหรือดันให้ลิฟท์ยกเราเตอร์ขึ้น,ลง และเป็นตำแหน่งติดตั้งกลไกปรับละเอียด ( micro adjust ) ของระบบ

โครงสร้าง router lift  

โครงสร้าง router lift 

มีเรื่องนึงที่ผมยังไม่ได้บอกและไม่มีรูปแสดงไว้ด้วยคือ router lift ระบบของผมนี้ ผมถอดสปริงในท่อเหล็กขาเราเตอร์ออกครับ เพราะถ้าจะปล่อยเอาไว้ก็ไม่ได้มีหน้าที่ช่วยอะไรในระบบ แถมยังจะทำให้ไม่สามารถดึงขึ้นได้อีกต่างหาก

โครงสร้าง router lift  

ในรูปด้านซ้ายบนที่ตัวเครื่องจะสังเกตเห็นรูอยู่รูนึง ที่จุดนี่เป็นจุดที่ทางโรงงานติดตั้งระบบปรับละเอียดเอาไว้ ผมถอดเอามาใช้กับระบบลิฟท์ทางด้านหน้าครับ

โครงสร้าง router lift  

รูป stopper ผมทำไว้ป้องกันอาการเผลอตัวดึงแรงเกินไป จนทำชุดรับแขนลิฟท์หลุดจากแท่นรองแขน

โครงสร้าง router lift  

แท่นรองแขน

โครงสร้าง router lift  

ที่แท่นรองแขนนี้นอกจากจะใช้รับน้ำหนักแล้ว ยังใช้เป็นแนวบังคับไม่ให้ชุดแขนของลิฟท์โยกออกซ้าย,ขวา,บน,ล่างด้วย โดยผมใช้ไม้มะค่าตีร่องลิ้นวิ่งตามแนวสันซ้ายขวาของแท่นรองแขน

โครงสร้าง router lift  

ดึงลิฟท์ขึ้นจนสุดจะมาติดที่ stopper แท่นรองแขนแบบนี้ครับ

โครงสร้าง router lift  

โครงสร้าง router lift  

การยึดจุดต่างๆของชุดรับแขนลิฟท์

 รูปหมด

ขอผมย่อรูปให้เสร็จค่อยมาลงต่อนะครับ ^_^"

เยี่ยมเลยครับโยมยุ่น  ทำได้น่าใช้งานมากครับ  จะปรับหรือจะเปลี่ยนดอกเร้าเตอร์ก็ง่ายไม่ต้องก้ม ดีมากครับ

นมัสการครับ ท่านพระอาจารย์ วิชาญ

ขอบพระคุณครับท่าน  การใช้งานเป็นอย่างที่ท่านว่าเลยครับ และสิ่งที่ผมถูกใจที่สุดใน router lift ระบบนี้คือความรวดเร็วในการยกเราเตอร์ขึ้นสูงสุดเพื่อเปลี่ยนดอกเราเตอร์ครับท่าน

อีกเรื่องที่ต้องขอขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ ตอนแรกผมตั้งใจว่าเมื่อได้รับของที่ท่านฝากมากับ พี่ เสธ. ต้อม ผมถึงจะโทรฯไปหาท่านพระอาจารย์ ตอนนี้ได้จังหวะที่ท่านมีเวลาเข้ามาเยี่ยมชมกระทู้ผม ผมก็ขอขอบพระคุณท่านไว้ ณ โอกาสนี้เลย คาดว่า อีกไม่นานผมจะโทรฯไปนมัสการท่านอีกครั้งครับ

โครงสร้าง router lift 

ตามรูปจะเห็นว่าการติดตั้งแขนสำหรับดึงของระบบฯนี้เอียงสูงขึ้นทางด้านหน้าเล็กน้อย นี่ไม่ได้เป็นเพราะมุมกล้องนะครับ แต่เป็นการติดตั้งให้เอียงโดยตั้งใจ เพราะตอนที่ผมหาตำแหน่ง,องศาการติดตั้งแขนฯ ผมพบว่าตำแหน่งนี้จะทำให้อยู่ในมุมองศาที่ผมจับถนัดและเบาแรงที่สุดตอนดึง โดยผมยืน,ทำท่าทางเหมือนระหว่างทำงานครับ

 โครงสร้าง router lift 

ไม้ที่ใต้เกลียวเหล็กสีดำของเครื่องเราเตอร์ คือ stopper สำหรับหยุดเครื่องเราเตอร์เป็นตัวป้องกันไม่ให้เครื่องฯหลุดออกจากระบบลิฟท์ตอนที่ปรับลดความสูงของดอกเราเตอร์ครับ

.

โครงสร้าง router lift 

และผมยังใช้เป็น stopper สำหรับหยุดไม่ให้แขนของระบบฯพับมาทางด้านหน้า

ระบบ micro adjust สำหรับปรับตั้งความสูงของดอกเราเตอร์อย่างละเอียด