|
การเพิ่มภูมิคุ้มกันน้ำเข้าบ้าน | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | สวัสดีครับ เมื่อเย็นวานนี้ (1 พฤศจิกายน 2554) ผมไปเดินสำรวจน้ำที่ท่วมที่ปากซอยและที่สี่แยกเกษตรบนถนนงามวงศ์วานมาตามรูปที่ 1 ครับ หลังจากที่ผมใช้เวลากับเรื่องน้ำท่วมมากว่าสองสัปดาห์ผมจึงอยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับ “การเพิ่มภูมิคุ้มกันน้ำเข้าบ้าน” ของผมให้ฟังครับ |
ผู้ตั้งกระทู้ เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-11-02 01:57:47 |
1 |
ความคิดเห็นที่ 1 (1453129) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ในรูปที่ 2 จะเห็นเสารั้วบ้านพี่เติมที่เป็นอิฐโชว์แนวโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำประมาณ 30 ซม. ระดับน้ำวันนั้นสูงจากถนนประมาณ 2 เมตร ระดับน้ำที่ฟังจากพี่เติมวันนี้สูงกว่าเดิมจนมองไม่เห็นเสารั้วโผล่มาแล้วครับ พี่เติมกับผมคุยกันว่าโชคดีที่พี่เติมฝาก “โต๊ะช่างไม้ในฝันของผม” ไว้ที่บ้านผมเพราะพี่เติมตั้งใจจะต่อห้องทำงานไม้ให้เสร็จก่อนจึงจะย้ายโต๊ะไปที่บ้านพี่เติม ถ้าก่อนหน้านี้เราย้ายโต๊ะตัวนี้ไปที่บ้านพี่เติมเราคงต้องเปลี่ยนชื่อเขาเป็น “โต๊ะช่างไม้ในน้ำของผม” ไปแล้วครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:00:49 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1453130) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ผมเคยเล่าให้ฟังเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2554 ว่าผมได้เดินทางไปมอบอาหาร น้ำดื่มและของใช้จำเป็นให้ผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วมที่จังหวัดอยุธยา สิ่งแรกที่ผมทำในวันรุ่งขึ้นคือสั่งซื้อทรายและถุงทรายมากรอกกันน้ำเข้าบ้าน พร้อมตรวจสอบรอยแตกของรั้วบ้านครับ สิ่งถัดมาคือไปเวิ้งนาครเขษมและคลองถมเพื่อซื้อปั๊มแช่หรือปั๊มไดรโวและเหล็กสามขาที่ใช้รองรถยนต์ หลังเตรียมกระสอบทรายและจัดหาอุปกรณ์ที่กล่าวถึงผมก็สบายใจขึ้นประกอบกับความที่ระดับของบ้านผมค่อนข้างสูงกว่าพื้นที่ข้างเคียงก็ทำให้คลายกังวลไปได้มาก แต่เมื่อติดตามข่าวน้ำท่วมอย่างใกล้ชิดก็เริ่มจะเครียดเพราะดูเหมือนไม่มีอะไรจะหยุดมวลน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังเคลื่อนตัวลงใต้ได้เลย ที่ตั้งของบ้านผมซึ่งอยู่เขตจตุจักรใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้นไม่ห่างจากแนวคลองรังสิตเลย ถ้าพนังหรือแนวกันน้ำเกิดแตกขึ้นมา ก็มีโอกาสที่น้ำจะเข้าบ้านได้ นอกจากนี้ก็ได้ข่าวสายตรงจากพี่เติม (ในช่วงนั้นน้ายังไม่เข้าบ้านพี่เติมครับ) ซึ่งอยู่ที่หมู่บ้านเมืองเอกรังสิตทุกวัน หมู่บ้านเมืองเอกรังสิตอยู่ติดกับคลองสามคลองครับ ทิศเหนือคลองรังสิต ทิศตะวันออกคลองเปรมประชากร ทิศตะวันตกคลองประปา คุยกับพี่เติมแล้วทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่อยู่ใกล้น้ำเป็นอย่างดีเลยครับ หลังกลับจากอยุธยาและติดตามสถานการณ์ข่าวความเสียหายจากน้ำท่วมจากสื่อ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และอินเตอร์เน็ต อยู่เกือบสองสัปดาห์ทั้งผมและภรรยาก็เบื่อที่จะเครียดกับเรื่องน้าท่วมโดยที่ไม่มีโอกาสสู้กับสิ่งที่เรากังวลเลย เราจึงคิดที่จะ “เพิ่มภูมิคุ้มกันน้ำเข้าบ้านของเรา” ครับ วันที่ 21 ตุลาคม ผมก็ลงมือซื้อไม้อัด แผ่นพลาสติกอย่างหนา น๊อต สกรู ซิลิโคน มาทำแผงกั้นน้ำเข้าบ้านและห้องทำงานช่างไม้ของผมครับ ผมใช้คำว่าแผงนะครับไม่ใช่คำว่าพนัง เพราะได้ข่าวพนังกั้นน้ำแตกบ่อยเหลือเกิน รูปที่ 3 เป็นแผงกั้นน้ำที่ทางเข้าห้องทำงานไม้ของผมครับ ตัวแผงทำจากไม้อัด 20 มม. ที่ซื้อมาจากย่านท่าเรือคลองเตยใกล้ทางขึ้นทางด่วนเกษมราษฎร์ ไม้อัดที่ใช้เป็นไม้ใหม่ที่คุณภาพใช้ได้ครับราคาแผ่นละ 750 บาท ไม้คร่าวที่ประกบแผงไม้อัดเป็นไม้สนขนาด 3 x 1 ¾ นิ้ว ยาว 3 เมตร ราคาท่อนละ 100 บาทครับ ผมยึดแผงกันน้ำเข้ากับผนังบ้านโดยใช้เกลียวปล่อยขนาด 3/8 นิ้ว กับพุกไม้ขนาด 5/8 นิ้วที่ไสเองด้วยกระดานไสฉาก ในภาพจะเห็นรอยต่อไม้อัดทางด้านขวาครับ ทีต้องต่อเพราะทาวเข้าบ้านผมกว้าง 267 ซม. ในขณะที่ไม้อัดยาวเพียง 244 ซม. ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:05:10 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1453131) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ผมลบคมไม้อัดด้วยทริมเมอร์ ลบมุมด้วยบุ้งแล้วจึงหุ้มไม้อัดด้วยพลาสติกอย่างหนาแล้วใช้แม็กยิงยึดขอบจากด้านหลังครับ ตามรูปที่ 4 จะเห็นการประกอบไม้คร่าวกับไม้อัดที่หุ้มพลาสติกแล้ว |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:09:07 |
ความคิดเห็นที่ 4 (1453132) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ไม้อัดกับไม้คร่าวยึดด้วยเกลียวปล่อยโดยมียางในรถมอเตอร์ไซค์รองกลางเพื่อกันน้ำซึมผ่านรูน๊อตตามรูปที่ 5 ครับ ยางในที่ใช้ซื้อมาเพียงเส้นละ 1 บาทเท่านั้นครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:09:50 |
ความคิดเห็นที่ 5 (1453133) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | เวลาติดตั้งผมทำความสะอาดผนังบ้านแล้วใช้ซิลิโคนยาช่องว่างระหว่างขอบแผงกับผนังบ้านโดยรอบครับ เวลาอัดซิลิโคนด้านใต้ก็ต้องลงทุนนอนกับพื้นเพื่อตรวจสอบแนวรอยต่อครับ ตามรูปที่ 6 ผมกำลังอัดซิลิโคนเข้ารอยต่อด้านใต้ของแผงกันน้ำหน้าห้องทำงานไม้ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:10:44 |
ความคิดเห็นที่ 6 (1453134) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร |
อุปกรณ์ที่เป็นพระเอกในงานนี้ผมขอยกให้กับสว่านยิงสกรูแบบกระแทกของมากิต้าตัวที่เห็นในรูปที่ 7 ครับ ผมซื้อสว่านกระแทกตัวนี้ตามคำแนะนำของพี่เติมครับ ถ้าไม่มีอุปกรณ์ชิ้นนี้ผมเชื่อว่าป่านนี้ผมก็คงยังทำแผงกั้นน้ำทั้ง 11 แผงไม่เสร็จครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:11:21 |
ความคิดเห็นที่ 7 (1453135) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | รูปที่ 8 เป็นแผงกันน้ำเข้าประตูที่มีความกว้างวงกบเพียง 80 ซม.ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีไม้คร่าวเสริมครับ มุมขวาล่างจะเห็นฝาครอบ PVC ที่ผมใช้ครอบเต้าเสียบไฟฟ้าที่อยู่ใกล้พื้นครับ เต้าเสียบจุดอื่นที่ทำผมจะใช้กล่องพลาสติกใส่อาหารแช่แข็งครับ ดูแล้วมั่นคงพอ และไม่ต้องซื้อครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:12:04 |
ความคิดเห็นที่ 8 (1453136) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | รูปที่ 9 เป็นแผงที่ใช้ปิดทางเข้าออกหลังบ้านที่กว้าง 4.25 เมตรครับ นอกจากเสริมคร่าวแล้วผมก็ยังเสริมทับหลังเข้าอีกแรงครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:12:42 |
ความคิดเห็นที่ 9 (1453137) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ผมโชคดีที่เป็นช่วงปิดเทอมก็เลยได้ความช่วยเหลือจากมานพและมาโนชสองพี่น้องครับ ตามรูปที่ 10 มานพกำลังช่วยผมประคองไม้คร่าวที่ผมเลื่อยให้ได้ขนาดครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:13:42 |
ความคิดเห็นที่ 10 (1453138) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | แม้จะปิดและอุดช่องทางที่คิดว่าน้ำอาจจะเข้าจนหมดแล้ว ผมก็ยังเผื่อใจไว้ว่าอาจต้องเจอกับสิ่งที่คาดไม่ถึงที่ทำให้น้ำรั่วเข้าห้องทำงานไม้ ผมจึงขอกำลังของผู้ใกล้ตัวมาช่วยยกโต๊ะช่างไม้ตัวแรกของผม และ โต๊ะช่างไม้ในฝันของผมขึ้นจากพื้นห้องตามรูปที่ 11 ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:14:43 |
ความคิดเห็นที่ 11 (1453139) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ส่วนเครื่องมือช่างที่สะสมไว้ก็ต้องนำออกจากที่เก็บตามรูปที่ 12 เพื่อยกไว้ในที่สูงด้วย |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:15:42 |
ความคิดเห็นที่ 12 (1453140) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | รูปที่ 13 เป็นครอบครัวกบไสไม้เหล็กที่เจ้าของกลัวน้ำ ก็เลยต้องมาอาศัยโต๊ะช่างไม้ในฝันอยู่ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:16:26 |
ความคิดเห็นที่ 13 (1453141) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ตามรูปที่ 14 โค้ชมาเยี่ยมการอพยพเครื่องมือหนีน้ำครับ ระหว่างเยี่ยมก็มีการคุยกันเรื่องเครื่องมือที่สะสมไว้ครับ เครื่องมือที่อยู่ในมือโค้ชเป็นกบลูกครึ่ง Transitional Plane หรือกบไม้ที่ปรับใบได้ ของ Marples ส่วนที่อยู่ในมือซ้ายของผมเป็นสว่านข้อเสือของ Stanley ครับ ทั้งหมดที่เล่ามานี้เป็นความพยายามของช่างไม้สมัครเล่นคนหนึ่งที่เลือกที่เปลี่ยนความเครียดจากการคุกคามของน้ำ เป็นความสนุกใน “การเพิ่มภูมิคุ้มกันน้ำเข้าบ้าน” ผมลงทุนไปไม่น้อยในครั้งนี้ครับ และผมก็ตระหนักดีว่าผมสิ่งที่ทำอาจจะสู้น้ำที่มาคุกคามไม่ได้ แต่ภรรยากับผมคิดว่าเงินที่ลงทุนครั้งนี้ก็ไม่ต่างกับการซื้อประกันครับ ถ้าเราคุ้มกันบ้านและสิ่งของเราได้ก็ถือว่าเงินลงทุนนี้ถูกมากๆ และผมก็จะมีไม้อัด 20 มม. กับไม้สนไม้เนื้อแข็งทำงานไม้ไปอีกนาน ถ้าสู้กับน้ำไม้ได้ก็ไม่เป็นไรครับเพราะผมเชื่อตลอดมาว่าสู้แล้วแพ้ไม่เป็นไรถ้าเราได้พยามเต็มกำลังและได้สู้จนกระสุนหมดครับ ขอให้ทุกๆท่านผ่านพ้นวิกฤตน้าท่วมครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัยและเสียหายน้อยที่สุดครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 02:19:55 |
ความคิดเห็นที่ 14 (1453148) | |
tphen | สวัสดีครับ คุณเขมทัต เอาใจช่วยครับให้เหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านไปโดยเร็ว ส่วนของผมห้องไม่ใหญ่ใช้พลาสติก PVC และเทปฟอยล์ปิดประตูถึงแค่ช่วงลูกบิด ระดับเดียวกับขอบหน้าต่างทั้งด้านในและด้านนอก (กันเหนียว) แล้วก็กระโดดออกทางหน้าต่าง 55 เพราะพื้นที่สูงกว่าถนนเกือบเมตรถ้าน้ำสูงเกินกว่านี้คงต้องทำใจ หรือปิดเพิ่มเพราะเป็นห้องแยกเดี่ยว เครื่องมือบางส่วนอยู่ในตู้แขวนสูงจากพื้นเกือบเมตร ของเบาๆ อย่างอื่นเอาไปกระจายวางบนฝ้าเรียบ ของหนังเอาขึ้นชั้นสอง ส่วนประตูเข้าบ้านมีถุงทรายช่่วยกับพลาสติก PVC รออยู่ หวังว่าคงรอด ? ส่วนท่านอื่นเป็นยังไงบ้างครับ สู้สู้.... |
ผู้แสดงความคิดเห็น tphen วันที่ตอบ 2011-11-02 08:47:25 |
ความคิดเห็นที่ 15 (1453162) | |
นพพร | ขอส่งหนึ่งแรงใจ ขอจงปลอดภัยด้วยเถิด |
ผู้แสดงความคิดเห็น นพพร (ai_phuaek-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-02 09:43:45 |
ความคิดเห็นที่ 16 (1453180) | |
อนุชิต | ผมเห็นรูปแบบแล้วชอบครับ ถ้าน้ำมาจริงก็คงรับมือได้สบายๆ (แต่ไม่อยากให้มา) มองตอนแรกเห็นเป็นไม้อัดก็ว่าจะร่อน แม้จะกันน้ำแต่แช่นาน ก็ไม่อยู่ แต่พอดูในรายละเอียดมีแผ่นพลาสติกใสก็ถึงบางอ้อ ระดับสุดยอดเหมือนเดิมครับ ส่วนไขควงกระแทกตัวนี้ ผมก็เห็นด้วยครับ ที่ร้านใช้อยู่เช่นกัน ดีครับ ผ่อนแรงได้มาก ส่วนผมเองตอนนี้ที่ร้านนครปฐมก็ไม่มีปัญหาน้ำประการใด แต่ที่บ้านปิ่นเกล้า บริเวณนี้โดนเต็มๆ รอบๆบ้านนอกกำแพงครึ่งเข่า ที่ถนนหน้าเซ็ลทรัล ไปช่วงอรุณอัมรินทร์ มีทหารเรือขับเรือรับ-ส่ง ไปศิริราช ลึกเมตรกว่าๆ ตื้นบ้าง ลึกบ้าง เข้า-ออกค่อนข้างลำบากครับ แต่ที่หมู่บ้านพวกเราก็ทำบังเกอร์ วิดน้ำออกจากหมู่บ้าน ก็รักษาส่วนต่างได้ประมาณ 10กว่าซม. (น้ำเข้ามีแรงดันมาจากท่อระบายด้านล่าง แล้วอุดด้วยกระสอบทราย มีรั่วเข้าได้) แต่ตัวพื้นบ้านก็ยังเหลือสูงอยู่กว่า30ซม. ตอนนี้มีช่วงน้ำขึ้น-ลง ก็พอได้ แล้วคนอื่นๆเป็นไงกันบ้างครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น อนุชิต วันที่ตอบ 2011-11-02 11:55:15 |
ความคิดเห็นที่ 17 (1456171) | |
shane guitarmaker | ของผมน้ำก็ใกล้เข้ามาแล้วครับ เครื่องมือไฟฟ้ายกขึ้นเกือบหมดแล้วครับ เตรียมใจรับไว้แล้วแต่ในใจก็ไม่อยากให้มันท่วมสูงเลยครับ พี่ต้อมตอนนี้บ้านก็น้ำท่วมแล้ว 1เมตรกว่า ตอนนี้เริ่มลดลงแล้วครับ สู้ๆครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น shane guitarmaker (shane_narak-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-02 19:26:50 |
ความคิดเห็นที่ 18 (1456190) | |
เอ๋ เพาะช่าง | นํ้าท่วมก็พอไหว แต่ตัดไฟนี่ซิอยู่ไม่ได้แน่
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-02 21:26:18 |
ความคิดเห็นที่ 19 (1456204) | |
จำโบ้เอ | ส่วนผม ไม่รอด เครื่องมือจมน้ำไป สามชี้น จะโทษลูกน้องก็ไม่ได้ น้ำมันมามากกว่าที่คิดจริงๆ ตอนนี้ได้แต่ทำใจ รัฐบาลบอกว่า จะระบายน้ำ 40 วัน ผมรีบส่งลูกน้องกลับบ้านไปพักผ่อนก่อน โรงงานอยู่บางใหญ่ แย่จริงๆ
ส่วนบ้าน ก็อุดไม่อยู่ บ้านเป็นแบบน๊อกดาว ซึมเข้าข้างๆ ระหว่าง ผนังกับพื้น ครั้งนี้สาหัส มากๆ |
ผู้แสดงความคิดเห็น จำโบ้เอ วันที่ตอบ 2011-11-02 22:40:50 |
ความคิดเห็นที่ 20 (1456227) | |
เอ๋ เพาะช่าง | เอาใจช่วยนะครับจำโบ้เอ และตอนนี้นํ้าจากบางใหญ่
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-03 09:46:29 |
ความคิดเห็นที่ 21 (1456247) | |
ธัญ ไม้ทัย | สุดยอดครับคุณเขมทัต และผมขอเป็นกำลังใจให้ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยฝ่าวิกฤตไปได้ด้วยดีครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญ ไม้ทัย (thanpisist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-03 11:42:05 |
ความคิดเห็นที่ 22 (1456320) | |
ปราโมทย์ พิดโลก | สำหรับคนที่อยู่ในแนวน้ำท่วมหรือเขตพร่องน้ำและ่ยังพอมีเวลา ก็ป้องกันน้ำกันให้สุดแรงเหมือนคุณเขมทัตเถอะครับ ดีกว่ารออยู่เฉย ๆ ผมเชื่อว่าสาวก Thaicarpenter คงไม่มีใครงอมืองอเท้าอยู่เฉย ๆ แน่ ๆ ผมเกิดที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นอำเภอหนึ่งที่่โดนน้ำท่วมอย่างหนักในปีนี้และขณะนี้น้ำยังไม่แห้ง ทำให้นึกถึงเมื่อ ๕๐ กว่าปีก่อน ตอนผมยังเล็ก ๆ (ถึงตอนนี้ถ้าใครว่าผมแก่ ผมจะโกรธ) สมัยนั้นในระยะเข้าพรรษาถึงลอยกระทง น้ำจะท่วมเต็มทุ่ง และสองข้างทางรถไฟก็จะมีแต่น้ำเต็มไปหมด เป็นอย่างนี้ทุก ๆ ปี เป็นวิถีชีวิตธรรมดาที่ทุกครอบครัวคุ้นเคย และก็ปรับตัวอยู่กับธรรมชาติเช่นนั้นมาได้ด้วยดี แต่เดี๋ยวนี้ เนื่องจากผู้คนได้เปลี่ยนวิถีชิวิตและวิธีการดำรงชีวิตตามแบบสมัยใหม่ โดยธรรมชาติเค้าไม่ได้ยินดียินร้ายที่จะเปลี่ยนวิถีตามไปด้วย เส้นทางน้ำถูกรุกล้ำเปลี่ยนแปลงกลายเป็นถนนให้รถวิ่ง บ้านเรือนไทยทรงสูงทุกหลังมีเรือเตรียมไว้ใช้ตอนหน้าน้ำหลากหายไป เป็นบ้านชั้นเดียว พอฝนชุก น้ำมาก เขื่อนเก็บกักไว้ไม่ไหว น้ำหลากมาตามฤดูกาล แต่พื้นที่รองรับน้ำหายไปมาก เส้นทางน้ำก็ไม่มี ผลก็เป็นอย่างที่เห็นกันนี่แหละ ที่เอาเรื่องนี้มาเล่า ไม่ใช่จะซ้ำเติมใคร เพียงแต่ อยากบอกให้รู้ว่า เมื่อก่อนเขาก็เป็นอย่างนี้ และก็อยู่กันมาได้อย่างมีความสุข แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นปัญหากันทั้งประเทศ เป็นเพราะการพัฒนาโดยละเลยพื้นฐานและรากเหง้าของตัวเองหรือเปล่า ขอโทษนะครับ เผลอเล่านานไปหน่อย จำได้ไหมครับจากเพลงที่เคยฟัง ย่างเดือนสิบเอ็ดน้ำเริ่มไหลนอง พอเดือนสิบสองน้ำก็เิ่ริ่มจะทรง พอถึงเดือนยี่น้ำก็รี่ไหลลง ไหลลง เดือนสามเดือนสี่น้ำก็แห้งขอดคลอง ถ้าเป็นไปตามนี้ คงพอเดากันออกนะครับ เมื่อไหร่น้องน้ำจะได้ไปพบกับพี่ทะเล ขอให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัย และพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดีครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปราโมทย์ พิดโลก (motepits6-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-03 22:31:05 |
ความคิดเห็นที่ 23 (1456322) | |
เอ๋ เพาะช่าง | พึ่งรู้ว่า50กว่า ....เลยไม่ได้เรียกพี่ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-03 22:39:28 |
ความคิดเห็นที่ 24 (1456324) | |
พงษ์ ( บ้านงานไม้ ) | ..โห..เผลอเรียก พี่ ไปหลายกระทู้ละ..ต้องเปลี่ยนใหม่..เป็น..ลุงโมทย์.. |
ผู้แสดงความคิดเห็น พงษ์ ( บ้านงานไม้ ) (bangranmai_k-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-03 22:47:23 |
ความคิดเห็นที่ 25 (1456325) | |
เอ๋ เพาะช่าง | . |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-03 22:48:58 |
ความคิดเห็นที่ 26 (1456326) | |
เอ๋ เพาะช่าง | ขอโทษด้วยครับนายดาบ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-03 22:49:36 |
ความคิดเห็นที่ 27 (1456365) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | เรียนคุณเอ๋ ผู้ที่อยู่ในภาพคือ นายดาบตำรวจประสงค์ จุลประภา ผู้คุ้นเคยกับครอบครัวผมมา 35 ปีแล้วครับ คุณประสงค์ก็เคยไปร่วมงานรวพพลปี 53 ด้วยครับ วันที่ถ่ายภาพผมชวนคุณประสงค์ออกไปดูน้ำด้วยกันครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 13:42:47 |
ความคิดเห็นที่ 28 (1456368) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | สถานการณ์ล่าสุดในละแวกบ้านผม (ย่าน ม. เกษตร งามวงศ์วาน-วิภาวดี) ขณะนี้น้ำเอ่อจากท่อระบายน้ำขึ้นมาจากท่อระบายน้ำขึ้นมาบนผิวซอยเข้าบ้านแล้วครับ ผมเดินหาต้นน้ำกับคุณประสงค์ เราพบว่ามาจากปากซอยด้านถนนงามวงศ์วาน น้ำจะไหลไปสู่ที่ต่ำกว่าเสมอ ตามรูปที่ 15 จะเห็นน้ำไหลค่อนข้างแรง แม้ว่าขณะนี้ระดับน้ำหน้าประตูบ้านยังต่ำกว่า 10 ซม.อยู่ ผมคาดว่าอีกไม่นานคงสูงขึ้นเร็วกว่าที่ผ่านมาเพราะน้าที่ไหลแรงแสดงว่าต้นน้ำยังมีระดับสูงกว่า เมื่อรอบข้างเ๖็มหมดแล้วก็คงจะถึงคิวของซอยและบ้านผมที่จะมีน้ำสูงขึ้น
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 14:32:50 |
ความคิดเห็นที่ 29 (1456369) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | น้ำก็คงสร้างความเดือดร้อนให้กับสัตว์เหมือนกัน ในรูปที่ 16 จะเห็นงูที่เราจับได้ งูตัวนี้เป็นตัวที่สองที่พบใน 3 วันครับ ลักษณะเป็นลายดำ-ขาว ปลายหางมีสีแดง ยาวปรัมาณ 50 ซม. ใครทราบว่าเป็นงูอะไรช่วยบอกด้วยนะครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 14:36:32 |
ความคิดเห็นที่ 30 (1456370) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ผมเตรียมพร้อมมานานและก็ได้พยามอุดช่องทางที่น้ำจะเข้าออกบ้านทุกช่องทางที่คิดได้ โดยเน้นท่อระบายน้า บ่อพักและ รอยแตกตามกำแพงที่เห็นทุกจุด สำหรับท่อระบายน้ำผมใช้วิธีอุดขวางการไหลของน้ำที่ทางเข้าบ้านครับ กลับจากสำรวจนอกบ้านก็พบว่าน้ำในท่อระบายในบ้านขึ้นสูง น่าจะมีรูรั่ว ตรวจสอบแล้วพบรอยรั่ว 3 จุดในบ่อพักครับ ทั้งหมดรั่วมาจากผนังปูนของบ่อพักครับ ในรูปที่ 17 จะเห็นรูรั่วทางขวาของภาพที่น้ำยังไหลอยู่ ทางซ้ายจะเห็นลิ่มไม้ที่ผมอุดรูรั่วอีกรูหนึ่ง |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 14:40:26 |
ความคิดเห็นที่ 31 (1456371) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | อุดรูรั่วไป 2 รูด้วยลิ่มก็เจอรูที่ 3 ที่ค่อนข้างใหญ่ ผมใช้สว่านคอนกรีตทะลวงให้กลมแล้วจัดการเหลาลิ่มกลมเพื่อตอกอัดตามรูปที่ 18 ครั้งนี้ไม่ต้องใช้กระดานไสฉาก ใช้บุ้งง่ายและเร็วดีครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 14:44:44 |
ความคิดเห็นที่ 32 (1456372) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร |
อุดรูใหญ่เสร็จก็มีน้ารั่วจากรูใหม่ตามรูปที่ 19 ผมก็เลยหยุดงานอุดเพียงเท่านี้เพราะประเมินแล้วว่าไม่ได้รั่วมาก น่าจะจัดการดูดออกด้วยปั๊มไดรโวได้โดยไม่ยาก |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 14:47:41 |
ความคิดเห็นที่ 33 (1456373) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ผมลืมเล่าถึงวิธีที่ใช้อุดบ่อพักครับ วิธีแรกผมอุดบ่อพักในบ้านด้วยแผ่นโฟมตามรูปที่ 20 ครับ ก่อนอุดผมทำความสะอาดบ่อพักและสำรวจปากท่อ พบว่าปากท่อเรียบพอควรจึงใช้แผ่นโฟมหนา 1 นิ้วทาบกับปากท่อแล้วประกบหลังแผ่นโฟมด้วยแผ่นหินทรายขนาด 40 x 40 ซม. จากนั้นก็ใช้กระสอบทรายอัดเข้าไปก้านหลังแผ่นหินทรายเพื่อกดดันหินทรายให้กดแผ่นโฟมให้แนบกับปากท่อ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 15:19:15 |
ความคิดเห็นที่ 34 (1456377) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | วิธีอุดแบบที่สอง ใช้กับบ่อพักอีกบ่อหนึ่งที่อยู่นอกบ้าน หลังทำความสะอาดบ่อพักและท่อแล้วก็พบว่ามีท่อขนาด 4 นิ้วอยู่ 2 ท่อ ผมทดลองนำถ้วยแบบที่ใส่บะหมี่เกี๊ยวแช่แข็งที่ทำด้วยพลาสติกเหนียวมาลองทาบก็พบว่าเข้าได้พอดีกับด้านในของท่อ ตามรูปที่ 21 ตัวถ้วยมีลักษณะสอบเรียวด้านล่างจึงเป็นเหมือนลิ่มไปในตัว ผมตัดเศษยางในรถที่เหลืออยู่เพื่อนำไปแปะยึดด้วยกาวยางรอบด้านนอกของถ้วยพลาสติก จากนั้นก็ดันถ้วยเข้าไปในท่อแล้วยาซิลิโคนโดยรอบ วิธีอุดทั้งสองแบบนี้ผมคาดว่าจะช่วยลดการไหลของน้ำนอกบ้านผ่านท่อระบายน้ำครับไม่ได้คิดว่าจะอุดได้สนิทครับ น้ำส่วนที่เล็ดรอดเข้ามาเราก็วิดหรือดูดออกอีกครั้งครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 15:23:55 |
ความคิดเห็นที่ 35 (1456407) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร |
ผลการต่อสู้กับน้ำในด้วยซีลแผ่นโฟมในบ่อพักออกมาแล้วครับ ยกแรกผลปรากฏว่า น้ำชนะและผมแพ้ครับ ถุงทรายที่อัดลงไปตามรูปที่ 20 มีแรงเบียดไม่พอที่จะดันโฟมให้แนบกับปากท่ออย่างสนิทครับ เสียงน้ำไหลรั่วมาด้านข้างดังจ๊อกๆชัดเจนมาก ถ้าเป็นการรั่วแบบค่่อยๆซึมผมก็จะไม่คิดอะไรแต่รั่วแบบไหลให้เห็นให้ได้ยินนี่ก็เกินไปหน่อยครับ นี่ขนาดระดับน้ำสูงจากผิวซอยเพียง 10 - 15 ซม. ยังรั่วขนาดนี้ ถ้าระดับน้ำสูงขึ้นก็ต้องแย่กว่านี่ค่อนข้างแน่ ผมต้องขอแก้มือในยกที่ 2 ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 21:25:13 |
ความคิดเห็นที่ 36 (1456409) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ได้เวลาใช้แผนสองมาสู้ในยกที่สองครับ เมื่อกลับมาพิจารณาว่าเหตุใดแผ่นโฟมที่ใช้จึงกันน้ำไม้ได้ ผมมีแนวคิดและสมมุติฐานดังนี้ครับ 1) โฟมที่ผมสอดไว้ระหว่างแผ่นหินกับปากท่อทำหน้าที่เป็นปะเก็นที่น่าจะเหมาะกับงานแล้ว ข้อดีของโฟมคือกันน้ำซึมผ่านได้และยุบตัวรับกับรอยขรุขระเว้านูนของคอนกรีตบริเวณปากท่อได้ดี 2) สาเหตุของการรั่วน่าจะเกิดจากแรงที่อัดปะเก็นไม่พอ ดังนั้นถ้าหาวิธีเพิ่มแรงดันแผ่นหินให้มากขึ้น แผ่นหินก็น่าจะกดประเก็นให้ยุบตัวแนบรอยขรุขระโค้งเว้าได้ดีขึ้น ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการเพิ่มแรงขันน๊อตฝาสูบอัดปะเก็นให้แนบกับเสื้อสูบในเครื่องยนต์ทั่วไป มีสมมุติฐานแล้วก็ต้องพิสูจน์โดยนำแผนสองไปปฏิบัติครับ ผมจึงเข้าห้องช่างไม้แล้วสร้างอุปกรณ์ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ขอเรียกเขาว่า "สามขาสู้น้ำ" นะครับ รูปร่างหน้าตาเขาเป็นอย่างที่เห็นในรูปที่ 22 ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 22:06:06 |
ความคิดเห็นที่ 37 (1456410) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | "สามขาสู้น้ำ" ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 22:07:15 |
ความคิดเห็นที่ 38 (1456411) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | วัสดุที่ใช้ทำสามขาสู้น้ำประกอบด้วย ไม้เนื้อแข็งรองท่อนอะลูมิเนียมที่ได้มาจากคุณเซี่ยง สตัดและน๊อตที่เหลือจากการทำ "โต๊ะช่างไม้ในฝันของผม" ครับ (สำหรับผู้ที่สนใจอ่านเรื่อง โต๊ะช่างไม้ในฝันของผม เข้่อ่านตามลิ๊งค์นี้ได้เลยครับ http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=1&No=1405009ครับ ) ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็เสร็จและพร้อมติดตั้งครับ ลักษณะการทำงานของสามขาตัวนี้เป็นดังนี้ครับ ตามรูปที่ 23 จะเห็นว่าปลายขาที่เป็นไม้ทั้งสามจะยันกับแผ่นหินทราย ในขณะที่ปลายขาด้านที่เป็นน๊อตคู่จะยันกับด้านหลังของบ่อพัก เมื่อหมุนน๊อตตัวเดี่ยวจะทำให้แกนสตัดและน๊อตคู่ยืดออดและหดเข้าได้ครับ เรามีปลายขาที่ปรับได้สามชุดเพื่อกระจายแรงกดได้ตามต้องการครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 22:18:46 |
ความคิดเห็นที่ 39 (1456414) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | พร้อมแล้วก็ติดตั้งทันที จะได้รู้ว่าสมสุติฐานที่ตั้งไว้เป็นจริงหรือไม่ ถ้าจริงน้ำต้องไหลน้อยลงถึงหยุดไหล ถ้าไม่จริงน้ำจะไหลอย่างเดิมและผมต้องไปคิดหาแผนสามครับ ตามรูปที่ 24 ใช้เวลาเพียงห้านาที มานพกับผมก็ติดตั้ง สามขาสู้น้ำเสร็จโดยมีคุณมหินทร์พี่ชายและพรรคพวกที่บ้านคอยลุ้นอยู่ข้างๆ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 22:22:43 |
ความคิดเห็นที่ 40 (1456415) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ผลยกสองออกมาแล้วครับ ตามรูปที่ 25 "สามขาสู้น้ำ" ทำหน้าที่ของเขาอย่างแข็งขันโดยการดันแผ่นหินอัดโฟมแนบกับปากท่อ เสียงน้ำไหลเงียบไปเลย น้ำไม่กระเพื่อมแล้ว เราชนะในยกที่สอง ทุกคนยิ้มออก ได้เวลาไปอาบน้าและทานสุกี้แห้งเนื้อฝีมือคุณโอ๊ตครับ ถึงจะชนะในยกที่สองผมก็เชื่อว่าน้ำต้องหาวิธีเอาคืนแน่นอน ถ้าเป็นอย่างที่คาดเราก็ต้องหาวิธีแก้กันไป งานต่อไปคือทำสามขาอีกหนึ่งชุอเพื่อติดตั้งที่บ้านคุณนิติกรน้องชายที่มีบ่อพักลักษระเดียวกัน โจทย์ที่ผมยังพยายามหาคำตอบอยู่คือจะอุดรอยรั่วในบ่อพักอีกบ่อหนึ่งให้รั่วน้อยลงได้อย่างไร คงจะได้คิดเรื่องนี้ก่อนนอนแน่เลยครับ :) พรุ่งนี้จะรายงานสถานการณ์ต่อนะครับ เรื่องนี้มีไว้อ่านเล่นสนุกๆนะครับ คนเขียนก็หาของเล่นสนุกๆแก้เครียดตามประสา "คนอยู่เกาะ" ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-04 22:29:43 |
ความคิดเห็นที่ 41 (1456417) | |
Misscedia | สุดยอดเลยค่ะ เจ้านาย แต่ตอนนี้ที่บ้านคงหมดภูมิคุ้มกันไปแล้ว เพราะมันมาประมาณเอวแล้วค่ะ...555 สวนโรงงานฯ ใจตุ้มๆ ต่อมๆว่าจะเข้าเมื่อไหร่เท่านั้น TC ปวดหัวอยู่ค่ะตอนนี้ จะรอดูความคืบหน้าบ้านคุณเขมพรุ่งนี้นะคะ Mook"""
|
ผู้แสดงความคิดเห็น Misscedia (mukda-dot-m-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-04 23:18:37 |
ความคิดเห็นที่ 42 (1456435) | |
พิทักษ์ | คุณเขมทัต ไม่ได้เจอ หรือคุยกัตั้งนาน ขอบคุณและดีใจที่ได้อ่าน อิจฉาที่คุณมี workshop ตามที่ตั้งใจเมื่อ20กว่าปีก่อนเลยสนุกกับการสู้น้องน้ำ ชอบเจ้า 3 ขา และที่คุณว่า " ทั้งหมดที่เล่ามานี้เป็นความพยายามของช่างไม้สมัครเล่นคนหนึ่งที่เลือกที่เปลี่ยนความเครียดจากการคุกคามของน้ำ เป็นความสนุกใน “การเพิ่มภูมิคุ้มกันน้ำเข้าบ้าน” ผมลงทุนไปไม่น้อยในครั้งนี้ครับ และผมก็ตระหนักดีว่าผมสิ่งที่ทำอาจจะสู้น้ำที่มาคุกคามไม่ได้ แต่ภรรยากับผมคิดว่าเงินที่ลงทุนครั้งนี้ก็ไม่ต่างกับการซื้อประกันครับ ถ้าเราคุ้มกันบ้านและสิ่งของเราได้ก็ถือว่าเงินลงทุนนี้ถูกมากๆ และผมก็จะมีไม้อัด 20 มม. กับไม้สนไม้เนื้อแข็งทำงานไม้ไปอีกนาน ถ้าสู้กับน้ำไม้ได้ก็ไม่เป็นไรครับเพราะผมเชื่อตลอดมาว่าสู้แล้วแพ้ไม่เป็นไรถ้าเราได้พยามเต็มกำลังและได้สู้จนกระสุนหมดครับ " น้ำลดแล้วผมขอไปเยี่ยม workshop หน่อยครับ พิทักษ์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น พิทักษ์ วันที่ตอบ 2011-11-05 07:05:22 |
ความคิดเห็นที่ 43 (1456444) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | เรียนพี่พิทักษ์ที่เคารพ ยินดีต้อนรับที่บ้านและที่ห้องช่างของผมเสมอครับ ผมยังใช้เบอร์เดิม 081 824 1784 อยู่ครับ หวังว่าพี่จะไม่เดือดร้อนจากน้ำท่วมครั้งนี้มากนักนะครับ
เรียนท่านผู้อ่าน พี่พิทักษ์นอกจากจะเป็นรุ่นพี่วิศวะของผมแล้วก็ยังเป็นรุ่นพี่ที่เคยสอนงานผมที่บริษัทสำรวจหลุมน้ำมัน Schlumberger อีกด้วย พี่พิทักษ์เป็นวิศวกรไทยรุ่นแรกๆที่ร่วมงานสำรวจหลุมน้ามันกับ Schlumberger และทำงานนี้ประมาณ 15 ปีในแหล่งน้ำมันหลายแหล่งรอบโลก ผมเข้าทำงานกับ Schlumberger เมื่อปี 2527 หลังพี่พิทักษ์สองปี และมีโอกาสได้ไปเปิดโลกกว้างที่อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร ในทะเลทรายและทะเลแดงที่ประเทศอียิปต์ และในทะเลที่ประเทศอินเดีย นอกจากงานวิศวกรสนามที่บริษัท Schlumberger จะให้ความรู้ชั้นเยี่ยมในเรื่องวิศวกรรม อีเล็คโทรนิกส์ คอมพิวเตอร์ ไฮดรอลิกส์ อุปกรณ์จักรกลและ อุปกรณ์ควบคุมแรงดันแล้ว งานนี้ยังสร้างวินัย จิตใจและความมุ่งมั่นที่จะเตรียมรับมือกับปัญหาและการแก้ปัญหาได้อย่างดีอีกด้วยครับ เมื่อเกือบสามสิบปีที่แล้วคงหางานที่วิศวกรต้องจากบ้านนานๆ อดหลับอดนอน คลุกโคลนและฝุ่น และมือเปรอะจาระบีขณะกดแป้นคีย์บอร์ดได้ยากครับ ผมจำประกาศรับสมัครวิศวกรในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสท์เมื่อกลางปี 2527 ได้แม่นเลยครับ ใจความภาษาไทยมีดังนี้ครับ ".....วิศวกรภาคสนามของ Schlumberger ปฏิบัติงานในทุกแหล่งน้ำมันทั่วโลก จากทะเลทรายซาฮาร่า จนถึงทะเลเหนือ และเขตไซบีเรีย.....ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่พร้อมจะทำงาน ในทุกที่ ทุกเวลา ตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย (anywhere, anytime, no choice) เราสนใจที่จะพบคุณ..." ผมนับถือพี่พิทักษ์มากในเรื่องของความอดทนมุ่งมั่นและการทำงานแบบ "ใจเกินร้อย" ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-05 09:15:39 |
ความคิดเห็นที่ 44 (1456462) | |
อนุชิต | ผมอ่านแล้ว ชอบวลีข้างบนเช่นกัน ทำแล้วถ้าไม่สำเร็จ เป็นอีกเรื่องนึง ถือว่าพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่... ในความพยายามที่ผมเห็น มันพิสูจน์ได้ถึงการใส่พื้นฐานช่าง หรืออีกนัยหนึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่เกือบปิดประตูแห่งความผิดหวังในการลงทุนครั้งนี้ อย่างที่คุณไพศาล อดีตประธานชมรมเขาเคยพูดแซวกัน Low Profile Hight Profit อะไรทำนองนี้เลย กล่าวคือ ทุกอย่างสนใจในรายละเอียดมากเลยครับ เป็นการลุงทุนที่น้อยกว่าและให้ผลงานดีกว่า อย่างปิดฝาท่อให้แน่น โดยเจ้า3ขานี่ ยังไงก็แน่นกว่าทรายแน่นอน อีกส่วนนึงที่ผมเองก็เห็นว่าการใช้โฟม รองอัดปากท่อจะช่วยได้มากเลยครับ ของที่หมู่บ้านมองข้ามจุดนี้ น้ำรั่วมาก คนเก่งเยอะ ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ และมุมมองที่มากกว่าการป้องกันน้ำ คนเก่งในนิยามผมคือคนที่ลงมือทำด้วยตัวเอง สัมผัสด้วยตัวเอง อย่างเช่นรู้สึกได้ว่าการไขเกลียวปล่อยด้วยมือในขณะที่หัวจะรูดและต้องถอยออก รู้สึกอย่างไรต้องกดให้แน่น ในขณะที่ต้องถอยออกกลัวหัวจะรูด เร็วก็ไม่ได้ อะไรทำนองนี้ครับ ขอบคุณครับผม |
ผู้แสดงความคิดเห็น อนุชิต วันที่ตอบ 2011-11-05 12:11:20 |
ความคิดเห็นที่ 45 (1456665) | |
ต้อม guitar maker | รายงานสถานการณ์น้ำจาก เอกชัย 76 เขตบางบอน วันแรกน้ำเริ่มปิ่มปากท่อระบายน้ำ วันที่สองน้ำขึ้นสูง 50 ซ.ม. วันที่สามน้ำเน่าแล้วครับพี่น้องคร๊าบ วันพรุ่งนี้คาดว่าต้องว่ายน้ำออกจากบ้านแล้วครับ จบข่าว รายงานโดย ต้อม guitar maker
|
ผู้แสดงความคิดเห็น ต้อม guitar maker วันที่ตอบ 2011-11-07 22:43:16 |
ความคิดเห็นที่ 46 (1456673) | |
เอ๋ เพาะช่าง | ดูข่าวเหมือนกัน ยังคิดว่าช่างต้อมโดนแล้วแน่ๆ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-08 05:46:31 |
ความคิดเห็นที่ 47 (1456834) | |
พี่อ้อย | สวัสดีค่ะ คุณเขมทัต ได้รับ link นี้มา พี่ดีใจที่ได้เห็นข่าวคราวคุณเขมทัตและผลงานต่อสู้น้ำ วันนี้วันที่ 9 พ.ย.54 แล้ว พี่หวังว่าครอบครัวคุณเขมทัต และบ้านคงยังปลอดภัยจากน้ำค่ะ ทัศนีย์นาถ พฤกษไพบูลย์ วศ.19 |
ผู้แสดงความคิดเห็น พี่อ้อย วันที่ตอบ 2011-11-09 10:42:52 |
ความคิดเห็นที่ 48 (1456887) | |
เทอดศักดิ์(M) | ได้ความคิดดีๆหลายอย่างดี จะได้เอาไปทำเพิ่มเติมครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) วันที่ตอบ 2011-11-09 20:30:18 |
ความคิดเห็นที่ 49 (1456910) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | เรียนคุณอนุชิต คุณเอ๋ และคุณต้อม ผมติดตามข่าวน้ำท่วมแล้วเห็นใจท่านทั้งสามและผู้ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้าเจ้าพระยามากครับ น้ำมาเร็วและมากจริงๆ หวังว่าทั้งสามท่านคงมีเวลาเก็บของมีค่าไว้ในที่แห้งและย้ายผู้มีอายุและเด็กไปอยู่ในที่ปลอดภัยนะครับ เรียนพี่อ้อย ขอบคุณพี่มากครับที่ติดตามเรื่องนี้ และส่งข่าวมา ยังจำพี่ได้เสมอครับ ได้ข้อความจากพี่แล้วก็ลองเช็คชื่อพี่ใจ Google ดูก็จึงทราบว่าพี่ทำวานอยู่ที่ กฟผ ซึ่ึ่งเป็นที่เดียวกับคุณเซี่ยงแฟนประจำของเว็ป Thaicarpenter ผมทราบมาว่าบางกรวยน้ำท่วมสูงมาก ไม่ทราบว่าพี่อ้อยเดินทางไปทำงานได้หรือทำจากบ้านครับ ที่บ้านผมระดับน้ำยังไม่เปลี่ยนแปลงครับ ทุกคนที่อยู่ที่บ้านยังอยู่ดี ผู้สูงอายุและเด็กก็ได้ย้ายที่อยู่พักชั่วคราวแล้วในจังหวะเวลาที่พอดีกับการรุกของน้ำครับ ผมโชคดีที่ทำงานจากบ้านก็เลยอยู่โยงเฝ้าบ้านได้ครับ ผมตามข่าวเรื่องน้ำและได้ทราบว่าในละแวกบ้านผมซึ่งอยู่เขตจตุจักรเป็นพื้นที่อพยพไปแล้ว คิดว่าหลายพื้นที่ในเขตจตุจักรคงเป็นที่ลุ่มและระดับน้าสูงจนอยู่ไม่ได้ ผมโชคดีที่อยู่ที่ดอนครับ น้ำใกล้ๆบ้านท่วมไม่มากและบางซอยก็ยังแห้งอยู่ แต่ที่ลำบากหน่อยก็เป็นเรื่องที่ออกไปไหนไม่ได้เพราะทางเข้าออกทั้งสี่ทางคือ งามวงศ์วาน วิภาวดี พหลโยธิน และรัชดาภิเษก มีน้ำท่วมมากจนเจ้าหน้าที่ปิดการจราจรสำหรับรถเล็กไปหลายวันแล้ว ภรรยาและผมสะสมอาหารไว้เต็มตู้เย็นก็เลยไม่เดือดร้อนมากนัก ขอเล่าเรื่องการสู้กับน้ำต่อนะครับ หลังจากที่สู้กับน้ำในบ่อพักด้วยสามขาในยกที่สอง เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. แล้ว ก็เจอกับศึกใหม่จากน้ำใต้ดินในยกที่สามครับ น้ำเงียบไปหนึ่งชั่วโมงก็เริ่มไหลอีก ปริมาณที่ไหลเข้ามาไม่น้อยเลยครับ ผมใช้ปั๊มไดรโวขนาด 2 นิ้วดูดอยู่เกือย 40 นาทีจึงแห้ง ถ้าคำนวณอัตราไหลของปั๊มที่ระบุไว้ว่าสามารถดูดน้ำได้ 200 ลิตรต่อนาทีน้ำที่ไหลรั่วเข้ามาก็มีปริมาณกว่า 7 ลูกบาศก์เมตร ที่น่าแปลกคือจุดที่ไหลมาจากรอยต่อของท่อที่อยู่หลังบ่อพักครับ แปลเป็นอื่นไม่ได้เลยนอกจากว่ามีการไหลของน้ำนอกท่อด้วย รอยรั่วที่พบใหม่นี้น่าเป็นห่วงเพราะถ้าปล่อยให้ไหลไปเรื่อยๆก็อาจจะเซาะดินเป็นช่องที่ใหญ่ขึ้นได้ในเวลาไม่นาน ผมคิดอยู่คืนหนึ่งว่าปัญหานี้เกิดจากอะไรและจะแก้ไขอย่างไร ผมสันนิษฐานว่าท่อระบายน้ำใด้ดินที่บ้านน่าจะมีการทรุดตัวบริเวณรอยต่อและ/หรือน้ำคงรั่วมานอกบ่อพักช่วงต้นน้ำ ก็น่าจะเป็นไปได้ทั้งสองกรณีเพราะเราอยู่ที่บ้านนี้มา20กว่าปีแล้ว อุปกรณ์หลายอย่างคงเริ่มเสื่อมสภาพไปแล้ว ตอนเช้าวันถัดมาผมจึงทดลองอุดบ่อพักที่อยู่ต้นน้ำของบ่อที่อุดไปแล้ว ใช้เวลาชั่วโมงเศษทำสามขาสู้น้ำขึ้นมาอีกชุดหนึ่งเพื่อใช้อุดทางเข้าบ่อพักต้นน้ำในแบบเดียวกับที่ทำมาแล้ว โชคเข้าข้างผมครับน้ำที่รั่วเข้ามาตามรอยต่อของท่อหยุดสนิทเลยครับ เป็นการยืนยันว่ามีการไหลของน้ำนอกท่อระหว่างบ่อพีกทั้งสองบ่อตามที่สันนิษฐานไว้จริงๆ ช่วงนี้ก็ทำได้เพียงสังเกตพฤติกรรมน้ำเท่านันครับ ผมเชื่อว่าถ้าระดับน้ำสูงขึ้นน่าจะต้องเจอกับเรื่องอื่นๆอีกแน่ เขาบอกว่า "น้ำลดตอผุด" ผมอยากต่อเติมว่า "น้ำขึ้นปัญหาโผล่" ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-09 22:52:54 |
ความคิดเห็นที่ 50 (1456915) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | เรียนคุณเทอดศักดิ์ ผมดีใจที่คุณเทอดศักดิ์ได้ประโยชน์จากเรื่องที่เขียนครับ ผมชอบวิธีทำถุงโดยนำแผ่นพลาสติกมาซีลมากครับ ถ้ามีกล้องช่วยถ่ายวิธีซีลมาให้ชมด้วยนะครับ ผมสนใจครับ โดยบังเอิญผมก็มีโอกาสได้ทดลองทำถุงพลาสติกด้วยแผ่นพลาสติกสีดำอย่างหนาที่ใช้รองกระสอบทรายเหมือนกันครับ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมาพี่แป้น หรือคุณกิตติ อินทรัมพรรย์ญาติผู้พี่ของผมโทรมาคุยกับผมว่าจะใช้วิธีใดห่อหุ้มเครื่องซักผ้าดี ถ้าจะซื้อถุงพลาสติกขนาดใหญ่มาห่อก็เกรงว่าอาจจะถูกจุดแหลมคมของเครื่องทิ่มแทงให้รั่วได้เพราะพลาสติกที่ใช้ค่อนข้างบาง พี่แป้นทราบว่าผมใช้พลาสติกดำอย่างหนาซึ่งกว้าง 4 เมตรรองแนวกระสอบทรายจึงสนใจจะลองใช้พลาสติกที่ว่าห่อหุ้มเครื่องซักผ้าแล้วใช้เทปหรือเชือกฟางมัดรวบเหนือเครื่องเหมือนเราห่อท๊อฟฟี่ ผมติดต่อร้านวัสดุก่อสร้างที่ซื้อพลาสติกไป แต่เขาขายขนาด 4 เมตรหมดแล้วเหลือแต่ 2 เมตร พี่แป้นกับผมก็ปรึกษากันว่าจะนำพลาสติก 2 เมตรมาต่อกันอย่างไรดี ผมเสนอว่าผมจะทดลองตัดเศษพลาสติกดำที่มีอยูมาต่อโดยใช้ซิลิโคนต่อดูถ้ากันน้ำได้แล้วจึงซื้อมาทำจริง พีแป้นขอให้ทดลองต่อด้วยกาวยางด้วยซึ่งเป็นแนวคิดที่ผมไม่ได้คิดมาก่อนเลยครับ ผมจึงทดลองทำถุงขนาดกว้าง 25 ซม. ยาว 30 ซม. โดยมีรอยต่อกว้างประมาณ 5 ซม.แล้วใช้กาวยางทาแนวรอยต่อทั้งสองข้าง สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้กาวยางหรือ Contact Adhesive กาวประเภทนี้ต้องทาบนชิ้นงานทั้งสองด้านครับ ทาให้บางๆแล้วรอให้แห้งหมาดๆแล้วจึงนำชิ้นงานมาประกบกันโดยค่อยๆรีดอากาศออกจาดจุดสัมผัส ถ้ารอยต่อมีขนาดใหญ่ให้หาไม้มารองกันไม่ให้ผิวที่มีกาวสัมผัสกันเพราะเมื่อสัมผัสกันก็จะติดกันทันทีและแกะออกยากมาก ผมทำถุงเสร็จในเวลาไม่ถึง 10 นาทีครับ จากนั้นก็ทดลองใส่น้ำเพื่อดูว่าจะมีรอยรั่วหรือซึมหรือไม่ ตามรูปที่ 26 จนถึงขณะที่เขียนกระทู้ในวันนี้เวลาผ่านไปกว่า 80 ชั่วโมงแล้วถุงที่ผมใส่ไว้ในถังน้ำก็ยังไม่มีรอยรั่วให้เห็นเลยครับ ถ้ากาวยางกันน้ำออกจากถุงได้มันก็น่าจะกันน้ำเข้าถุงได้เหมือนกันนะครับ ท่านผู้อ่านที่อยากจะห่อหุ้มของใช้หรือเครื่องมือให้พ้นจากน้ำ อ่านการทดลองของผมแล้วจะไปทดลองใช้ดูก็เชิญตามสะบายเลยนะครับ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่ากาวยางจะกันน้ำได้กี่วัน ทดลองแล้วได้ผลอย่างไรก็ขอให้เล่าผลให้ฟังด้วยนะครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-09 23:34:40 |
ความคิดเห็นที่ 51 (1456922) | |
<สุทิน.คลองตัน> | จาก ความเห็น ที่ 50 ของ คุณ เขมทัต " ... จึงสนใจจะลองใช้พลาสติกที่ว่าห่อหุ้มเครื่องซักผ้าแล้วใช้เทปหรือเชือกฟาง มัดรวบเหนือเครื่องเหมือนเราห่อท๊อฟฟี่ ผมติดต่อร้านวัสดุก่อสร้างที่ซื้อพลาสติกไป แต่เขาขายขนาด 4 เมตรหมดแล้วเหลือแต่ 2 เมตร ... " ... plastic ขนาด 4 เมตร ... ที่ ว่า ... "หมด ! " ... คง เพราะ ถูก นำ มา ใช้ ห่อ กัน แบบ นี้ อ่ะ ... ครับ ... ! ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ชื่น ชม คุณ เขมทัต ที่ มา แบ่ง ปัน ภูมิคุ้มกัน และ ภูมิปัญญา ... ... ใน สถานการณ์ น้ำท่วมขัง แบบ นี้ ... ! ... ใคร เข้า มา อ่าน ปุ๊บ ... สามารถ ทำ ... แล้ว ก็ นำ ... ... "สามขา สู้น้ำ" ... ไป ใช้ ต้าน ภัย น้ำ ได้ เลย ! ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... เรื่อง น้ำใต้ดิน ดัน ขึ้น มา จาก พื้น บ้าน ... ไม่ มา ตาม ท่อ ... ! ... มี ท่าน อื่น ๆ ประสบ ปัญหา นี้ มา แล้ว จริง ๆ ... ... อาจ มี ... ยก สี่ ... ยก ห้า ... ตาม มา อีก ... ... ต้น ตอ ปัญหา โผล่ ... มา พร้อม กับ น้ำ ขึ้น ... จริง ๆ ... ครับ ! ... เดี๋ยว นี้ ... น้ำ ขึ้น ... จะ ไม่ รีบ ตัก กัน แล้ว ... ! ... อพยพ ... สถาน เดียว ... ครับ ! |
ผู้แสดงความคิดเห็น <สุทิน.คลองตัน> วันที่ตอบ 2011-11-10 01:59:28 |
ความคิดเห็นที่ 52 (1456935) | |
เอ๋ เพาะช่าง | ผมยังไม่ท่วมครับพี่เขมทัต แต่ก็มีปัญหาเครียดๆนิดๆคือ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-10 06:00:59 |
ความคิดเห็นที่ 53 (1456941) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร |
เรียนคุณสุทิน กรณีน้ำซึมขึ้นมาจากพื้นบ้านนั้นผมก็ได้รับฟังมาจากเพื่อนหลายคนครับ ถ้าพื้นบ้านเป็นแบบคอนกรีตเททับดินหรือ on-ground ก็ลำบากมากที่จะป้องกันเพราะเข้าไปสำรวจและแก้ไขก่อนน้ำมาไม่ได้ แต่ในกรณีที่เป็นพื้นที่วางบนคานหรือ On-beam ที่มีช่องใต้ถุนอยู่เราก็น่าจะเข้าไปสำรวจหาช่องทางที่น้ำจะไหลขึ้นมาครับ เช่นช่องสายแอร์ สายไฟ สายก๊าซ ท่อน้ำดี-น้ำเสีย ตัวบ้านที่ผมอยู่เป็นแบบมีใต้ถุนผมจึงมีโอกาสเข้าไปสำรวจและหาทางป้องกันโดยการอุดรูต่างๆที่กล่าวมา ผมมุดเข้าไปสำรวจและทำงานอยู่ใต้บ้านสามครั้งรวมแล้วหลายชั่วโมงเลยครับ ได้พบปัญหาอื่นที่ไม่ทราบมาก่อนเลยคือท่อระบายน้ำผุครับ ผุขนาดที่ว่าใช้มือจับแล้วหลุดติดมือมาเลย ผมไม่ทราบเลยว่าน้ำทิ้งจากห้องน้ำชั้นล่างไหลลงใต้ถุนโดยตรงมานานแล้ว ตามรูปที่ 27 จะเห็นท่อผุที่ผมถอดออกมา ผมยังสงสัยอยู่ว่าเพราะอะไรท่อระบายถึงได้ผุได้ขนาดนี้ บ้านสร้างมา 20 ปี ห้องน้ำห้องนี้แทบจะไม่เคยใช้อาบน้ำเลย มีความเป็นไปได้เหมือนกันครับว่าเพราะความที่ไม่ค่อยได้ห้องน้ำห้องนี้ ท่อนี้ก็เลยเจอแต่น้ำล้างพื้นห้องน้ำที่มีส่วนผสมของน้ำยาล้างพื้นห้องน้ำไหลผ่านและอาจมีบางส่วนตกค้าง หลังล้างพื้นแล้วก็ไม่ได้มีน้ำทิ้งจากการชำระล้างมาเจือจางน้ำยาล้างพื้นที่ตกค้างทำให้น้ำยากัดเหล็ก สิ่งที่ผมต้องรีบตรวจสอบคือท่อระบายน้ำส่วนอื่นผุในลักษณะนี้บ้างหรือไม่ ถ้าท่อระบายน้ำของห้องน้ำชั้นบนผุแบบนี้ก็คงเกิดความเสียหายจากน้ำหยดลงบนฝ้าชั้นล่างแน่นอนครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-10 08:52:11 |
ความคิดเห็นที่ 54 (1456949) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | เรียนคุณเอ๋ ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณเอ๋ดีครับ ช่วงนี้ก็ลำบากกันทั่วหน้าครับ ผู้ที่จะลำบากมากก็คือผู้ที่เครื่องจักรและสถานที่ประกอบการเสียหายจากน้ำ ถ้าจะมองในแง่โอกาสผมมองว่าหลังน้ำลดจะมีงานซ่อมและติดตั้งพื้นปาร์เก้และเฟอร์นิเจอร์เข้ามาอย่างมากมายอย่างที่คุณเอ๋และพรรคพวกทำกันไม่ทันเลยครับ ผมเดาว่าคุณเอ๋ก็จะเครียดหลังน้ำลดอีกครั้งแต่จะเปลี่ยนเรื่องเครียดเป็นเรื่อง กำลังคน และวัสดุขาดแคลนครับ ถ้าพอมีกำลังแนะนำว่าควรซื้อของจำเป็นเก็บเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยครับ ถ้าเราเตรียมความพร้อมตั้งแต่ตอนนี้เมื่อโอกาสมาเราก็เลือกงานได้อย่างสบายครับ ความเดือดร้อนจากน้ำท่วมครั้งนี้จะอยู่ในใจเจ้าของบ้านไปอีกนานและผมคาดว่าเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในการเลือกของใช้รวมถึงการออกแบบบ้านด้วย เราคงจะเริ่มเห็นบ้านสร้างใหม่ที่มีใต้ถุนสูงกันบ้างซึ่งก็เหมาะกับชัยภูมิและภูมิอากาศของบ้านเราอยู่แล้ว ปัจจุบันผมคิดว่าเด็กๆหลายคนที่อยู่เขตเมืองคงแทบไม่เคยได้ยินคำว่าใต้ถุนเสียด้วยซ้ำครับ ส่วนพฤติกรรมการเลือกเครื่องเรือนผมคาดว่าเจ้าของบ้านจำนวนไม่น้อยที่ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบบิลท์อิน Built-in แล้วถูกน้ำท่วมเสียหายคงจะเปลี่ยนไปใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวและแบบน็อคดาวน์ Knock-down ด้วยเหตุที่ว่าบิล์ทอินแพงและเคลื่อนย้ายหนีน้ำไม่ได้ จะซอมแซมขึ้นมาก็ต้องใช้เวลานานและทนกับความไม่สะดวกอีก หลายคนจากบ้านไปนานคงอยากอยู่บ้านสบายๆโดยเร็วที่สุดครับ ถ้าผมคาดการถูกต้องก็ถือว่าเป็นโชคของห้าง IKEA ที่เข้าตลาดเมืองไทยได้จังหวะเวลานี้ ในระยะ 6 เดือนถึง 1 ปีมีความเป็นไปได้ที่เราอาจเห็นปริมาณงานบิลท์อินลดลงหลังหมดงานซ่อมใหญ่จากน้ำท่วมก็เป็นได้ครับ ผมเคยแสดงความเห็นเรื่องเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน และเฟอร์นิเจอร์แบบน็อคดาวน์ไปแล้วผู้สนใจอ่านได้ในความเห็นที่ 51 ของกระทู้เรื่อง"โต๊ะช่างไม้ในฝันของผม" ตามลิ๊งค์นี้ครับ http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=1&No=1405009&anspage=1 ความเห็นที่ผมเคยแสดงไว้โดยสรุปมีใจความว่า ช่างบิลท์อินทุกคนควรตระหนักว่าคู่แข่งรายใหม่กำลังจะเสนอทางเลือกใหม่เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบน็อคดาวน์คุณภาพดีให้ผู้บริโภคเลือกในราคาที่ถูกใจ ความอยู่รอดของงานบิลท์อินขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างความแตกต่างที่โดนใจของผู้บริโภคและการทำงานไม้ประณีตก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผมอยากให้ช่างบิลท์ทุกท่านได้พิจารณาและเริ่มฝึกฝีมือกันตั้งแต่ตอนนี้ครับ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-10 09:35:37 |
ความคิดเห็นที่ 55 (1456951) | |
พ.ม.วิชาญ สุขวฑฺฒโน | เจริญพรครับคุณโยมเขมทัต และทุกท่าน อาตมาขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังประสบอุทกภัยครั้งนี้ ขอให้มีความอดทน ไม่ประมาท และขอให้ผ่านพ้นไปโดยเร็วพลัน เจริญพรครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น พ.ม.วิชาญ สุขวฑฺฒโน (vichan02-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-10 09:39:26 |
ความคิดเห็นที่ 56 (1457003) | |
เทอดศักดิ์(m) | เรียนคุณเขมทัต ผมใช้พลาสติคสีดำขนาด 4 เมตร ซื้อที่ร้านขายหินปูสนามมาได้ 20 เมตรช่วงก่อนน้ำเข้า กทม. 2 อาทิตย์ เมตรละ 100 บาท และเครื่องซีลถุงพลาสติคเลือกขนาดใหญ่สุดที่หาได้จาก ร้านอมร 550 บาท วิธีของผมคือเอาสวมเข้าด้านใต้เครื่องและเอากระดาษกล่องรองใต้เครื่องก่อน หรือพวกที่มีล้อเช่นปั๊มลมก็เขนไปบนพลาสติคเหมือนที่เขาห่อรถกันเลยครับ ส่วนวิธีการผนึกก็ใช้วิธีผนึกแบบไขว้กันเป็นกากบาท xx เนื่องจากเครื่องซีลจะมีลักษณะเหมือนเครื่องเย็บกระดาษ จะไม่สามารถซีลจนสุดความยาวของหน้ากว้างของพลาสติคได้ และผมซีล 2-3 รอยกันเหนียว กะว่าหากท่วมมากก็ให้จมไปในน้ำเลยเพราะยกไม่ไหว และหากหาอะไรมารองแล้วน้ำสูงขึ้นเกินที่เรารองไว้มันก็จะท่วมเครื่องจักรเราอยู่ดีครับ ผมถ่ายรูปไว้แล้วแต่เอาขึ้นไม่ได้ครับ จะส่ง email ไปให้แล้วกันครับ นับถือ เทอดศักดิ์ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(m) (tsrisap-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-11 04:11:01 |
ความคิดเห็นที่ 57 (1457052) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | ผมได้รับอีเมล์ด้านล่างนี้จากคุณเทอดศักดิ์ครับ คุณเทอดศักดิ์ส่งรูปการห่อและซีลเครื่องจักรมาให้ชม 4 รูปครับ ขอบคุณมากครับคุณเทอดศักดิ์ ผมบรรยาย 3 รูปแรกตามความเข้าใจของผมถ้าไม่ตรงช่วยแจ้งด้วยครับจะได้แก้ไข ส่วนรูปที่ 31 ผมรอคำบรรยายจากคุณเทอดศักดิ์นะครับ ขอชมว่าชั้นวางของด้านหลังทำได้สวยงามและแข็งแรงดีครับ ผมเดาว่าคงเป็นชั้นวางใต้โต๊ะช่างไม้ ถ้ามีโอกาสขอเห็นภาพเต็มๆและวิธีการทำด้วยนะครับ :) เขมทัต
เรียนคุณเขมทัต |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-11 14:39:16 |
ความคิดเห็นที่ 58 (1457055) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | รูปที่ 29 รอยตะเข็บที่ซีลด้วยเครื่องซีล |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-11 14:43:10 |
ความคิดเห็นที่ 59 (1457056) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | รูปที่ 30 ห่อหุ้มเรียบร้อย พร้อมรับมือกับน้ำ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-11 14:44:00 |
ความคิดเห็นที่ 60 (1457057) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | รูปที่ 31 รอคำบรรยายครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-11 14:44:28 |
ความคิดเห็นที่ 61 (1457067) | |
เทอดศักดิ์(M) | เรียนคุณเขมทัต ขอบคุณครับที่เอารูปลงให้ครับ บรรยายภาพที่ 31 ด้านหน้าเป็นเครื่องปั๊มลม อยู่ภายในพร้อมที่จะดำน้ำ เลยถือโอกาสเอาเครื่องตัดหญ้าไว้ข้างบนซะเลย(ยังต้องใช้อยู่) ส่วนที่อยู่ในถุงด้านหลังเป็นเครื่องดูดเศษไม้ครับ ส่วนโต๊ะที่อยู่หลังเครื่องซีลถุงพลาสติคที่ยังไม่ได้ห่อใส่ถุงเป็นโต๊ะงานไม้ครับ ไม่ได้ทำเองครับหากสวยก็ต้องยกความดีความชอบให้คุณอนุชิต แห่ง Thaicarpenter.com ที่เป็นคนทำครับไปขนใส่รถ Honda City มาเมื่อปีที่แล้ว ผมแค่ทำแผ่นไม้วางของด้านล่างเพิ่ม และทา Teak oil เท่านั้นครับ ต้องขออภัยที่รกไปหน่อยเพราะขนของหนีน้ำวางที่ไหนได้ก็วางไปทุกที่แหละครับ ว่าจะทำให้เรียบร้อยสักทีหลังน้ำลดนี่ละครับ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2011-11-11 16:10:57 |
ความคิดเห็นที่ 62 (1457083) | |
หนุ่มm100 | ขอส่งแรงใจเป็นกำลังใจให้กับทุกๆฅนที่ประสบอุทกภัยครั้งนี้ให้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยดีครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น หนุ่มm100 (m10017-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-11 18:26:10 |
ความคิดเห็นที่ 63 (1457266) | |
mole | ของผมอยู่แถวทวีวัฒนา น้ำขึ้นชั่วโมงละ 10 ซม ตั้งแต่ 6 โมงเย็น พอถึงตอนเช้าก็ประมาณ 1.2 เมตรแล้วครับ หลังจากนั้นก็ยังขึ้นเรื่อยๆ แค่ 2-3 วัน น้ำขึ้นจนถึงประมาณ 2 เมตรกว่าๆนิดนึง ก็อพยพหนีแล้วครับ ไฟไม่ได้ถูกตัดเพราะการไฟฟ้าบอกว่าต้องให้เจ้าบ้านแจ้งตัดเองเป็นรายๆไป ส่วนน้ำก็ไม่ได้ถูกตัด (มั้งครับ) แต่เผอิญเข้าสู่ช่วงที่การประปาบอกว่าจะปล่อยน้ำเป็นช่วงๆ แต่ที่น่าสนใจคือตอนที่น้ำท่วมขึ้นมาสัก 1.5-2 เมตรแล้ว ก็มีปรากฏการณ์น้ำรั่วแถมด้วยครับ แท็งน้ำที่สำรองน้ำไว้บนหลังคาก็ไม่มีน้ำเหลือภายในคืนเดียว จะไปหาว่าน้ำรั่วรอบบ้าน ก็ทำไม่ได้แล้วเพราะรอบตัวบ้านมีน้ำสูงไม่น้อยกว่า 1 เมตร จะมองจะคลำอะไรที่พื้นก็ทำไม่ค่อยได้แล้วครับ หลังจากนั้นน้ำก็ยังคงขึ้นอีกต่อไปจนมิดมิเตอร์การไฟฟ้าที่ติดอยู่กับเสาไฟหน้าบ้าน ซึ่งก็สูงประมาณ 2.2 เมตรจากถนนในหมู่บ้าน ประมาณว่าหมู่บ้านอยู่ต่ำกว่าถนนใหญเสียเหลือเกิน และเมื่อถีงจุดหนึ่งก็เกิดเหตุไฟช็อต และทำให้เบรกเกอร์ตัดไฟทั้งบ้านโดยปริยาย (ไฟชั้งหนึ่งถูกตัดออกไปก่อนแล้ว) พอน้ำที่สะสมหมด ไฟหมด (ประมาณว่าท่านแม่เปิดแอร์ไม่ได้ ดูหนังเกาหลีตอนกลางคืนก็ไม่ได้) ท่านจึงได้อนุมัติให้เริ่มทำการอพยพในทันที ฮุ ฮุ
งานทดลองอันหนึ่งที่ทำทิ้งเอาไว้คือ ผมได้ห่อรถด้วยพลาสติก (ที่ใช้ปูพื้นบ่อกุ้ง) 6x7 เมตร แล้วจอดรถไว้บนบ้านซึ่งสูงจาก ถนนหน้าบ้าน ประมาณ 1 เมตร (ด้วยการคาดเดาว่าน้ำคงสูงไม่เกิน 1.5 เมตรมั้ง) และเนื่องด้วยการรู้ว่าถ้าน้ำท่วมประมาณ 50 ซมของตัวรถ จะทำให้รถลอยขึ้น จึงได้ทำไม้มายึดเข้ากับกำแพงบ้านเอาไว้คล้องเชือกเพื่อไม่ให้รถน้อยลอยหนีไปเข้าบ้านข้างเคียง (ได้ข่าวในภายหลังว่ามีรถบ้านอื่น ลอยไปทั่วหมู่บ้าน ลอยไปชนสิ่งอื่นตามทางด้วย) การปูพลาสติกก็เผื่อเนื้อพลาสติกให้เหลือใต้ท้องรถเอาไว้ พอสมควร เพราะเห็นมีผู้บอกว่าอาจเกิดแรงดันที่ล้อรถจนทำให้พลาสติกที่ปูไว้ตึงขาด
หลังจากน้ำเริ่มท่วมได้ 2-3 วันก็ได้ยินเสียง อะไรมาอย่างชนหรือตก ก็ยังไม่ได้เอะใจ แต่ก็เป็นช่วงที่เริ่มถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ รถน้อยจะเริ่มลอยซะที คืนนั้นเปิดประตูไปสำรวจที่จอดรถก็เจอว่ารถน้อยเริ่มลอยแล้ว และทีมุมหนึ่งของรถไปชนกับกำแพงบ้าน ก็ได้ผลสรุปเรื่องรถลอยน้ำไปสมใจ
หลังจากนั้นผมก็ได้อพยพออกมาจากเขต และได้มีการถามคนสวนของหมู่บ้าน ผู้ซึ่งภายเรือเข้าไปชมวิวหมู่บ้านอยู่เป็นประจำ ก็พบว่ารถน้อยยังลอยอยู่ อย่างปกติสุข รู้สึกเสียวไส้มากเลยครับตอนที่ยังไม่อพยพออก และมีคนเอาเรือยนต์มาซิ่งเล่นในหมู่บ้าน แล้วคลื่นมันพุ่งมาหารถน้อยที่ลอยตุบป่องอยู่ ก็คิดในใจว่ารถผมจะจมก็เพราะเจ้าคลื่นนี้แหละ ขอบอกว่าถ้าน้ำนิ่ง ไม่มีแววว่าจะจมเลยครับ
ณ วันนี้โทรกลับไปถามระดับน้ำแถวบ้าน ได้ยินว่ามีลดลงสัก นิดหนึ่ง จากที่มิเตอร์การไฟฟ้าจมน้ำอยู่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้น้ำก็อยู่ประมาณกลางตัวมิเตอร์แล้ว ยังไงก็ยังรอดูต่อไปอีกนานครับว่ารถน้อยของผมจะรอดมาดีแค่ไหน
หมายเหตุ ก่อนห่อปิดรถ ก็ได้แอบเอากล่อง ecu และแบ็ตเตอร์รี่ออกมาแล้ว ประมาณว่ามีเวลาปกป้องแต่รถครับ (ท่านแม่ไม่อนุญาติให้นำรถไปจอด ในที่อื่น เลยต้องสู้ยิบตาในบ้านครับ ขนาดน้ำเริ่มเข้าท่อของหมู่บ้านแล้วยังไม่ยอมให้ห่อรถเลยครับ เนื่องด้วยท่านคิดว่าบ้านสูงและน้ำคงไม่ท่วมสูงเกิน 1 เมตร) เริ่มห่อตอน 15:00 น้ำเริ่มออกจากท่อตอน 17:00 แกะนู่นนี่นั่นรวมห่อพร้อมกับทอดสมอเสร็จก็ 19:00 น้ำขึ้นมาทั่วถนนทั้งหมู่บ้านแล้วครับ โชคดีไป) พอถึงเช้าอีกวันน้ำก็แตะระดับล้อรถแล้ว :))
จึงขอมาเล่าสู่กันฟังครับ ....
|
ผู้แสดงความคิดเห็น mole วันที่ตอบ 2011-11-13 17:15:58 |
ความคิดเห็นที่ 64 (1457278) | |
shane guitarmaker | ฟังแล้วน่าตกใจครับพี่ mole หน้าบ้านเชนตอนนี้น้ำสูง 55ซม.แล้วครับ ยังไม่ท่วมเข้าบ้านครับเลยโชคยังดีหน่อย รวมเวลา1สัปดาห์พอดีครับ ส่วนพ่อ แม่ ภรรยา ลูกๆ และรถคันเก่ง อพยพไปแล้วครับ ส่วนเชนก็ นอนอาบแดดอยู่ที่บ้านไปตามระเบียบครับผม สู้ๆๆๆครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น shane guitarmaker วันที่ตอบ 2011-11-13 21:18:28 |
ความคิดเห็นที่ 65 (1457292) | |
mole | ตอนนี้เชนก็ทำงานไม้เสียงดังได้แล้วดิ ฮุ ฮุ แล้วไหงโดนปล่อยให้เฝ้าบ้านคนเดียวหละ? เรื่องน้ำท่วมไม่ค่อยน่าตกใจเท่าไหร่หรอก พอเห็นความเร็วที่น้ำมันขึ้นแล้ว คนแถวบ้านก็เปลี่ยนใจ จากเตรียมสู้ซักตั้ง เป็นอพยพภายในวันรุ่งขึ้นเลย สำหรับผมพอน้ำขึ้นเกิน 1.5 เมตรที่คาดไว้ ก็เริ่มปล่อยวาง พอเห็นรถที่หุ้มไว้เริ่มลอยได้ก็สบายใจไปเปลาะนึง พอน้ำขึ้น 2 เมตรก็ไม่ค่อยแปลกใจ น้ำหยุดอยู่ที่ 2 เมตรพักหนึ่ง จนทำให้หลงดีใจว่าสูงสุดแล้วมั้ง แต่แล้วมันก็ขยับขึ้นได้อีก ถึงจุดนี้ก็เลยคิดว่าจะขึ้นอีกเท่าไหร่ก็เชิญ แต่ตอนนั้นก็เสียวอยู่เหมือนกันว่าเป็นไปได้ที่น้ำจะขึ้นสูงจนรถลอยขึ้นชนเพดานแล้วหนีไปไหนไม่ได้จนจมลงแทน บทเรียนนี้เลยบอกว่า ต้องระวังพลาสติกแตก ระวังน้ำฝนเข้าไปในพลาสติกที่หุ้มรถ ระวังรถลอยหนีหายไป ระวังคลื่นของเรือที่จะผ่านมา และเพิ่มระวังรถลอยจนชนเพดานแล้วไปไหนไม่ได้อีกอันหนึ่งมั้ง
โชคดีไปอุปกรณ์งานไม้ไปซ่อนตัวอยู่บนบ้านชั้นสามแล้วครับ :))) รอดแน่
|
ผู้แสดงความคิดเห็น mole วันที่ตอบ 2011-11-14 00:02:11 |
ความคิดเห็นที่ 66 (1457631) | |
shane guitarmaker | เชนไม่ได้ลอยคออยู่คนเดียวครับฮิฮิ พี่ต้อมมาลอยคออยู่ด้วยกันเกือบ 2 อาทิตย์แล้วครับพี่mole |
ผู้แสดงความคิดเห็น shane guitarmaker วันที่ตอบ 2011-11-16 22:25:37 |
ความคิดเห็นที่ 67 (1457634) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | เรียนคุณ mole ขอแสดงความชื่นชมครับที่ได้พยามสู้อย่างเต็มที่แล้ว เรื่องการห่อรถก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่ดีนะครับว่าห่ออย่างเดียวไม่พอ ต้องผูกด้วย ฟังเรื่องไฟช๊อตแล้วน่ากลัวมาก เป็นภัยร้ายแรงที่มองไม่เห็นและมากับน้ำจริงๆ ขอให้ได้กลับบ้านเร็วๆนะครับ
เรียนคุณต้อมและคุณเชน ตามข่าวน้ำท่วมย่านบางบอนก็รู้สึกเป็นห่วงทั้งสองท่านครับ ถ้าจำไม่ผิดพื้นบ้านคุณเชนสูงกว่าถนนหน้าบ้านเกือบ 1 เมตร ไม่ทราบว่าระดับน้ำขึ้นไปถึงพื้นบ้านไหมครับ ผมเองอยู่บ้านแต่ก็ออกไปไหนไม่ได้มา 13 วันแล้วครับ ในบ้านไม่ท่วม ในซอยน้ำลดแล้วแต่ปากซอยยังท่วมอยู่รถเล็กยังเข้าออกไม้ได้ ระยะนี้ก็เลยมีเวลาทำ 5ส ห้องช่างไม้และได้โอกาสทำงานไม้ที่อยากทำมานานแล้ว ถ้าเสร็จแล้วจะนำรูปมาให้ดูครับ วันก่อนผมได้มีโอกาสดูคลิปของคุณสรยุทธกับด.ร.เสรีเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้ (ตามลิ๊งค์ http://www.youtube.com/watch?v=UdNJmNaokBA&feature=related) ฟังแล้วก็รูสึกคล้อยตามกับเหตุผลของด.ร.เสรีครับ ฟังจบแล้วก็คิดว่าถ้าตัวผมเองอยากใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ผมคงจะต้องเตรียมรับน้ำให้ถาวรเป็นกิจลักษณะมากกว่าปีนี้แล้วครับ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-16 22:59:39 |
ความคิดเห็นที่ 68 (1457741) | |
เอ๋ เพาะช่าง | วันเสาร์นี้ก็จะลุยเข้าไปติดตั้งงานแล้วครับพี่เขมทัต |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-17 21:09:43 |
ความคิดเห็นที่ 69 (1457746) | |
เขมทัต กรัยวิเชียร | คุณเอ๋ครับ ต้องคิดซะว่าได้ทำงานดีกว่านั่งรองานครับ แนะนำเวลาเข้ากรุงเทพฯควรพิจารณามาทางธรรมดาเพราะทุกคนบ่นว่าทางด่วนรถติดมากครับ ของไม่น่าจะขาดนานครับเพราะคนขายก็อยากขายของ อีกซักพักคุณเอ๋คงมีงานเข้ามาแบบไม่เคยเห็นเลยครับ แค่เมืองเอกรังสิตที่พีเติมอยู่หมู่บ้านเดียวก็คงมีเจ้าของบ้านเป็นร้อยๆรายที่ต้องการช่างฝีมือไปซ่อมเครื่องเรือนและอุปกรณ์แต่งบ้านที่เสียหายจากน้ำท่วม ผมดูรายการโทรทัศน์เมื่อ 3-4 ก่อนได้ยินว่าเมืองเอกระดับน้ำที่ท่วมสูงถึง 2.5 เมตร เรียกว่าท่วมทุกหลังอย่างน้อยระดับหน้าต่างชั้นล่างครับ ขอให้สนุกกับงานครับ :)
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เขมทัต กรัยวิเชียร (kematat_k-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-17 21:48:27 |
ความคิดเห็นที่ 70 (1457951) | |
เอ๋ เพาะช่าง | ภาพการติดตั้งงานที่ขนไปวันนี้ รวมเวลาไปกลับอยู่บนรถรวม6ชั่วโมง ขับรถอ้อมโลกเลยผม |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-19 21:21:23 |
ความคิดเห็นที่ 71 (1457955) | |
mole | สวัสดีครับพี่เขมทัต ผมโชคดีครับที่มีคนเตือนและอ่านเจอเรื่องรถลอยน้ำก่อนหุ้มจริง จริงๆแล้วก็ไม่ได้คาดว่าน้ำจะท่วมถึงจุดที่ทำให้ลอยครับ มาตอนนี้ก็เริ่มอยากใส่โฟมหรืออะไรบางอย่างระหว่างด้านข้างตัวรถกับกำแพงที่รถลอยไปติดครับ ตอนแรกก็ไม่สนใจเรื่องว่า รถจะไปขูดกับกำแพงแต่ตอนนี้สนใสตอนที่น้ำแห้งแล้วลงจอดครับ ว่าถ้ารถร่อนลงจอดซะแบบติดกำแพงเหมือนที่ลอยอยู่ทุกวันนี้ ก็จะไม่สามารถถอยรถออกได้อย่างเป็นปรกติสุขครับ
สถานะการณ์น้ำฝั่งตะวันตกตอนนี้ เข้าใจว่าระดับน้ำที่ถนนใหญ่กำลังจะลดลงจนแห้งหมดก่อน คงประมาณสิ้นเดือนครับ แต่น้ำบนถนนในหมู่บ้านจะยังคงมีน้ำท่วมสูง (1-2 เมตร+) ไปอีกนานครับ มีคนในเขตรายงานว่าน้ำลดลงวันละ 3 ซม ติดต่อกันมา 4-5 วันแล้วครับ ถ้ายังคงความความเร็วแบบนี้ ก็คงอีกนานกว่าน้ำจะแห้งครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น mole วันที่ตอบ 2011-11-19 21:44:49 |
ความคิดเห็นที่ 72 (1458022) | |
ช่างเชนและช่างต้อม |
วันนี้มีภาพบรรยากาศ lake หน้าบ้านมาให้ชมกัน
เรือยนต์ที่มี สี่ล้อแล่นผ่านหน้าบ้านไป
มุมนี้ก็ดูดีนะบรรยากาศริมแม่น้ำ
แต่ที่พอใจที่สุดก็คือได้เจอกับ ส.ส.เขตผม พร้อมกับได้รับอาหารเย็นสุดหรู
ตอนนี้ที่ซอยเอกชัย น้ำเริ่มทรงตัวและลดลงทุกวัน คาดว่าสิ้นเดือนน่าจะแห้ง ขอให้น้องน้ำไปแล้วไปลับไม่ต้องกับมาอีกนะปีหน้าหนะ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น ช่างเชนและช่างต้อม วันที่ตอบ 2011-11-20 21:26:22 |
ความคิดเห็นที่ 73 (1458025) | |
เอ๋ เพาะช่าง | น้องนํ้าได้ยืมกีต้าร์ไปบ้างเปล่าครับ ช่างเชนและช่างต้อม |
ผู้แสดงความคิดเห็น เอ๋ เพาะช่าง (hometist-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-20 21:33:59 |
ความคิดเห็นที่ 74 (1460701) | |
เทอดศักดิ์(m) | เรียนคุณเขมทัต และเพื่อนๆผู้ประสบภัยทุกท่าน ตกลงผมเลยไม่ได้ทดสอบว่าเครื่องมือที่ห่อและผนึกไว้จะกันน้ำได้หรือเปล่าเพราะน้ำเข้าไม่ถึงในหมู่บ้าน อยู่แต่รอบๆหมู่บ้าน ติดเกาะอยู่ 3 อาทิตย์ หมดเงินไปหลายหมื่นกับของที่ไม่ได้ใช้แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เตรียมความพร้อม และดีกว่าหลายๆท่านที่ถูกน้ำท่วมบ้านะครับ ต้องเสียเงินซ่อมแซมบ้านและซื้อหรือซ่อมเฟอร์นิเจอร์อีกเยอะ ตอนนี้รื้อหมดแล้วครับ ทั้งบังเกอร์ เครื่องสูบและเครื่องมือต่างๆ กำลังจะทำ workshop ใหม่ให้เสร็จตามที่ตั้งใจไว้คงใช้เวลาอีก 3-4 เดือนตามเวลาที่ว่างครับ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(m) วันที่ตอบ 2011-12-13 10:41:34 |
1 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 9840147 |