ขอเล่าตามความเข้าใจเฉพาะกับที่ผมได้ลองนะครับ  การรู้นี้ได้มาจากพี่คนหนึ่งที่ขายน้ำยารักษาเนื้อไม้ที่ผมต้องการเอามาใช้ทำงานไม้ที่บ้านครับ เรียกได้ว่าพี่เขาไม่ได้เป็นคนทำงานไม้ แต่เป็นคนที่อยู่ในด้านเคมีกับปลวกน้อยครับ ที่บังเอิญไปเจอเจ้านี้ก็เพราะต้องการหาน้ำยากันปลวกที่ค่อนข้างจะปลอดภัยกับมนุษย์ให้ได้มากๆครับ (เป็นโรคกลัวสารเคมี) หาไปหามาก็ว่าจะมาลอง Boracare, เลยลองติดต่อไปที่บริษัทที่ขายดู ปรากฏก็มีพี่คนหนึ่งติดต่อกลับมา สอบถามลักษณะความต้องการในการใช้งาน ก็เลยได้ขอความรู้กันยาว .. (ตอนจบซื้อหนึ่งแกลอนเล็กมาลอง  ) ผลิตภัณฑ์ของพี่เขามีหลายอย่าง แต่ส่วนมากขายให้กับทางอุตสาหกรรมเป็นหลัก .. 

เอาหละเข้าเรื่องดีกว่า..  งานไม้ภายในโดยเฉพาะด้านที่มีการหลบซ่อนแสงแดด ซึ่งมักจะเป็นด้านที่อยู่ติดกับตัวอาคาร สมควรที่จะมีการลงน้ำยากันปลวกในปริมาณที่มากกว่าด้านที่มีการเปิดรับแสง.. หลักการคือการทำให้น้ำยาซึมลึกเข้าไปในเนื้อไม้ให้ได้มากระดับหนึ่งก่อน แล้วจึงทำการล็อคปิดรูหายใจของไม้นั้นซะ (ด้วยขั้นตอนการทำสี หรือการเคลือบไม้) ยาจะได้ฝังตัวอยู่ข้างในได้นานๆ อย่างในกรณีของที่ผมใช้ ยาที่ฝังตัวจะหนีออกมาในกรณีที่มีความชื้นปริมาณมาก (น้ำ) ซึมเข้าไปแทนที่ยาในเนื้อไม้.. (จึงต้องปิดรูหายใจไว้)

ดังนั้นยารักษาเนื้อไม้พวกนี้นอกจากความสามารถในการต่อต้านปลวกน้อยแล้ว ก็ยังอาจมีการเสริมความสามารถในการซึมเข้าสู่เนื้อไม้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละผู้ผลิต โดยปกติถ้าเราไม่ให้ไม้กินน้ำยาเข้าไปเอง (ประมาณว่าเอาปลายเสี้ยนไม้จุ่มน้ำยาไว้แล้วไปเดินเล่น ) เราก็คงจะให้แรงดึงดูดเป็นตัวช่วย (ดังนั้นการทาไม้ที่อยู่ในแนวตั้ง น้ำยาก็อาจไหลลงพื้นแทนที่จะซึมลงไปในผิว (?) ยิ่งไม่เนื้อแข็งยิ่งไม่ค่อยซึม (?))  ดังนั้นเราจึงเห็น (พี่เอ๋) แสดงการทาด้วยการวางไม้แนวนอน แล้วเอาลูกกลิ้งละเลงน้ำยาให้ชุ่ม ก็หลักการเหมือนการทาสีสูตรน้ำครับ ละเลงสีให้ชุ่ม ปล่อยให้ซึมเข้าเนื้อไม้สักพักนึง (กระโดดหมุนตัวสามรอบ) แล้วเช็ดสีส่วนเกินที่ไม่ค่อยซึมแล้วออก.. แต่ในเรื่องน้ำยารักษาเนื้อไม้ อย่างของผม ละเลงให้ชุ่ม (ชุ่มเลย) ปล่อยให้แห้งข้ามคืนแล้วซ้ำรอบสองครับ (ตามคู่มือน้ำยาของกระผม)

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่มีด้านที่อยู่ในแนวตั้งแล้ว (อาจติดตั้งไปแล้ว) ได้รับคำแนะนำว่า (เอาเจ้างานไม้ชิ้นนั้นออกมาดิ(?)) ต้องใช้การพ่นแบบโฟม (Foam applicator).. เพื่อให้น้ำยา+โฟมไปเกาะกับผิวไม้แล้วค่อยๆซึมเข้าไป แต่อุปกรณ์รวมน้ำยาระบบโฟมก็อีกหลายบาท (เลยมิกล้าลอง)

น้ำยาที่ผมใช้มาเป็นแบบน้ำหนืดๆ ต้องผสมกับน้ำ ด้วยอัตราส่วนตามความต้องการในการใช้งานต่อต้านการก่อการร้าย (ชนิดของแมลงที่ต้องการต่อต้าน) รวมถึงลักษณะความล่อแหลมสุ่มเสี่ยงในแต่ละพื้นที่ที่ต่างกันไป สำหรับด้านที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันก็ใช้ยาเข้มๆหน่อย เช่น 1:3 .. ส่วนที่พอจะปล่อยให้มีอิสระภาพเห็นแสงตะวันก็ 1:5 .. อันนี้ตามคู่มือของยาที่ผมใช้ครับ

เรื่องระยะเวลาที่น้ำยาจะป้องกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละผู้ผลิตครับ ของผมเขาเคลมว่า 12 ปี (ถ้าจำมิผิด) แต่ยังไงก็ตามผมยังไม่ได้ทดลองเป็นจริงเป็นจังซะที (เช่นเอาไม้อาบน้ำยา ปักดิน..) ดังนั้นก็บอกได้ว่าแค่รู้จำมาครับ ยังไม่รู้จริง

ส่วนน้ำยาจากผู้ผลิตอื่นๆคงต้องรอความเห็นจากท่านอื่นๆครับ ยังมิเคยลองเสียที

ตัวอย่างข้อมูลเพิ่มเติม เป็นคู่มือการใช้ Boracare, ให้รายละเอียดลึกลงไปสำหรับการใช้งานในแต่ละกรณี (กำจัด หรือ ป้องกัน) ชนิดของแมลง ลักษณะไม้ที่จะนำไปใช้งาน... เอาไว้เปรียบเทียบกันกับยาชนิดอื่นที่เราสนใจ..

www.boracaretermitecontrol.com/pdfs/boracaremsds.pdf

เคยรู้จักช่างคนหนึ่งที่ไซต์งานโดยบังเอิญ
เขาบอกเขาใช้เทคนิคเอานํ้าเปล่าผสมกับสีฝุ่นให้ออกโทนนํ้าตาล
เหมือนสีนํ้ายากันปลวก แล้วเอาใส่ในแกลนลอนเปล่าของนํ้ายากันปลวก
แล้วทาเพื่อตบตาเจ้าของงาน
ผมเลยบอกไปว่า....โห....ช่างนี่สุดยอด(ในเรื่องเหี้...ๆ)จริงๆ
ในวงเล็บพูดในใจ.......

ขอขอบใจข้อมูลดีดีจากคุณ moleครับ

 ณัชชา เพสท์ รับกำจัดปลวก การันตีผล 100%

บริษัทกำจัดปลวก เราให้บริการกำจัดปลวก มด หนู แมลงสาบ ตัวเรือด และสัตว์รบกวนอื่นๆ ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี กับลูกค้าชั้นนำมากมาย 

เราบริการวางท่อกำจัดปลวก ในบ้าน และโครงการต่างๆ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในเวลานี้ 

ณัชชา เพสท์ เรามั่นใจในบริการของเรา เห็นผล 100% เพราะทุกความใส่ใจของเรา ในการบริการทุกขั้นตอน เราพร้อมให้คำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง 

สำรวจและปรึกษาฟรี โทร. 086-3968103 , 089-8957806

http://www.natchapest.co.th/

http://www.facebook.com/Natcha.2555