ตลอดเวลาที่ผ่านมา เวลาที่ผมเลือกซื้ออุปกรณ์,เครื่องมือแต่ละชนิด นอกจากราคา,คุณสมบัติ,รูปร่างหน้าตาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผมจะต้องพิจารณาทุกครั้งคือขนาดของเครื่องครับเพราะผมต้องใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้นเอง

แต่งานไม้ก็คืองานไม้ ไม่ว่าผมจะบริหารพื้นที่อย่างไร พื้นที่ก็ยังไม่เพียงพอกับเครื่องต่างๆที่เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น มาเรื่อยๆ ไหนจะโปรเจคเครื่องมืองานไม้ที่คิดไว้แต่ยังไม่ได้เริ่มสร้างอีก อ๊ะอ๊ะ...ผมไม่ได้บ้าอุปกรณ์นะครับ ของมันจำเป็นครับ ของมันจำเป็น  

โปรเจคที่ผมจะทำนั้นก็มี

1.แท่นวางเลื่อยตัดองศา

2.แท่นวางเครื่องรีดไม้      

3.โมดิฟายโต๊ะเลื่อย makita mlt100 

4. โต๊ะเราเตอร์

5. ดรัมแซนเดอร์

6. เครื่องกลึงไม้

7.แท่นตั้งสว่านแท่น

8. โมดิฟายเครื่องเลื่อยสายพาน

เท่าที่คิดจะทำก็ประมาณนี้ก่อนครับ ซึ่งถ้าผมทำแบบแยกเดี่ยวตัวละแท่นไป ผมคงจะมีแต่อุปกรณ์แต่ไม่ได้ทำงานไม้เป็นแน่ นี่จึงเป็นที่มาของหัวข้อกระทู้ที่ว่า "รวมร่างเพื่อความสะดวก+ประหยัด" ครับ

Power tools station transformer autobot

โปรเจคที่ 1

รวมเครื่องเลื่อยองศากับเครื่องรีดไม้

หลังจากที่ผมได้ซื้อเครื่องเลื่อยองศากับเครื่องรีดไม้มาใช้ การใช้งานและประสิทธิภาพของเครื่องนั้นถูกใจผมมากครับ แต่เครื่องทั้งสองมีน้ำหนักเครื่องละร่วม 30 ก.ก. เวลาที่ผมจะใช้แต่ละทีก็ต้องอุ้มกันไปมาทุกครั้งที่จะใช้ อุ้มเมื่อไหร่ผมก็คิดถึงโปรเจคที่ว่านี้ทุกครั้งไป แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำสักทีเป็นอยู่ครึ่งค่อนปี มาถึงช่วงปลายปีที่ผ่านมานี้แหละครับที่พอมีเวลาเหลือจากงานบ้าง ผมจึงเริ่มทำทันทีครับ

555 คุณ pakae ตั้งชื่อได้เก๋ไก๋เชียว

แบบนี้เป็นของฝรั่งทำไว้ครับ ผมเจอในเน็ท

จากแบบใน ค.ห.7 ผมเห็นเข้าท่าดี งานนี้ผมขอใช้ไอเดียฝรั่งเค้าบวกกับของผมผสมกับเศษไม้เศษวัสดุที่มีในช็อปก็แล้วกัน ทำตามความต้องการที่ผมอยากให้มีในเครื่องหลักๆคือ

1.ตัวเครื่องเลื่อยองศาและเครื่องรีดไม้ต้องมีที่ดูดฝุ่นช่วยลดการฟุ้งกระจายเวลาใช้งาน

2.มีความสะดวกในการใช้งาน ไม่ว่าจะใช้เครื่องตัดฯหรือเครื่องรีด

เครื่องรีดไม้ที่ผมใช้เป็นของ jet ครับ ที่ตัวเครื่องรีดนั้นมีฮูดกันขี้กบฟุ้งกระจายครอบใบมีดไว้ แต่ฮูดที่ให้มากับเครื่องไม่สามารถระบายขี้กบได้ทันเนื่องจากมีช่องระบายเล็กไป บวกกับมีระยะห่างระหว่างใบมีดกับช่องระบายฯที่กระชั้นสั้น ผลก็คือไสไม้ไปได้เล็กน้อยขี้กบก็อั้นอยู่ภายในฮูดและทยอยตกลงบนไม้ที่กำลังรีดอยู่ ทำให้ผิวไม้เป็นรอยแม้จะใช้เครื่องดูดฝุ่นก็ตาม เรื่องนี้ผมได้เคยคุยกับตัวแทน jet แล้ว เค้าบอกให้ผมเปลี่ยนเครื่องดูดฝุ่นที่มีกำลังสูงขึ้น แต่ผมกลับมองว่าปัญหานี้เกิดจากตัวฮูดมากกว่า สุดท้ายผมถอดฮูดออก แล้วทนใช้แบบฟุ้งๆมาเรื่อยจนมาถึงไม่นานนี้ผมถึงมีเวลาแก้ไขปัญหานี้ครับ

ไหนๆก็พูดถึงเครื่องดูดฝุ่นแล้ว ผมขออนุญาตแนะนำตัวเครื่องฯของผมเลยก็แล้วกันนะครับ

เครื่องฯตัวนี้ผมได้ไอเดียจากคลิปวีดีโอที่คุณ อนุชิต ได้ลงไว้เป็นวิทยาทานครับ

ในวีดีโอ คุณอนุชิต บอกไว้ว่าเครื่องต้นแบบมีถุงผ้าสำหรับฝุ่นเบา เล็กไปทำให้มีกำลังในการดูดฝุ่นน้อยไปนิดนึง ผมเลยทำใหญ่ๆไปเลย   แต่ผมไม่ได้ประชดนะ คุณ อนุชิต 5555

ขอขยายความเรื่องถุงผ้านิดนึงนะครับเผื่อไว้สำหรับท่านที่จะสร้างเครื่องดูดฝุ่น คือถ้าเราสร้างเครื่องให้มีเนื้อที่ผ้ามากๆการระบายลมออกผ่านทางผ้าก็จะทำได้เร็ว ซึ่งจะส่งผลให้ลมเข้าง่าย (แรงดูดอากาศ,ดูดฝุ่นมาก ) เช่นกันครับ

อ้อ..ถุงฝุ่นเบาเป็นธงที่ระลึกจากงานแข่งขันกอล์ฟ lpga ที่สยามคันทรีคลับ ตอนสร้างเครื่องดูดฝุ่นผมหาผ้าอื่นที่มีคุณสมบัติแบบนี้ไม่ได้ คือเป็นผ้าเนื้อแน่นกันฝุ่นละอองได้ดีมากแต่ลมก็สามารถผ่านได้ดีมากเช่นกัน ก็เลยแบ่งมาใช้ก่อนน่ะครับ ( แอบเสียดายเหมือนกันอ่ะครับ T-T" ) 

ตัวเครื่อง ผมใช้เครื่องเป่าลมของ โอกูระ ข้อดีคือ ถูก ทน ลมแรง และตัวเครื่องมีท่อลมเข้ายื่นออกมาทำให้ผมสามารถดัดแปลงง่ายครับ

ท่อลมเข้าที่ว่าครับ

ท่อลมที่ตัวเครื่องเล็กกว่าท่อสีฟ้าซึ่งเป็นที่ใช้ต่อท่อเข้าหากันเล็กน้อย ผมจึงใช้ยางในมอเตอร์ไซด้หุ้มปลายท่อลมเข้าของเครื่องเป่าลมครับ

พลังการดูดไม่เลวครับ ดูดตลับเมตรติดได้ครับ

เปลี่ยนเป็นแนวนี้ก็ไม่หล่น หุหุหุ

เจริญพรครับโยมยุ่น

เป็นแนวคิดที่ดีมากครับสำหรับการรวมร่างเครื่องมือต่างๆ เพื่อความสะดวกและประหยัดพื้นที่ในการทำงานเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดและดูเรียบร้อยดีด้วยครับ 

อาตมาเห็นเครื่องดูดฝุ่นแล้วถูกใจมากครับดูง่ายๆ แต่คุณสมบัตินั้นไม่ธรรดาเลย  คงจะเป็นอีกหนึ่งรายการที่ต้องบันทึกลงในคิวต่อไป หรือไม่แน่อาจจะแซงคิวรายการอื่นก่อนก็เป็นได้  เพราะรู้สึกไม่ค่อยสนุกกับฝุ่นสักเท่าไรแล้วครับ  หากถึงเวลาคงต้องรบกวนโยมยุ่นช่วยแนะนำด้วยนะครับ  อนุโมทนาขอบคุณมากครับ

เรื่องของเครื่องดูดฝุ่นก็คงมีเท่านี้ครับ ถ้าใครมีข้อสงสัยใดก็ถามได้ครับไม่ต้องเกรงใจ

ต่อไปผมจะเข้าเรื่องโปรเจคที่ 1 ( miter saw station,miter saw stand,miter saw table ) เลยครับ 

นมัสการ ท่านพระอาจารย์วิชาญ ครับ

ขอบพระคุณท่านฯกับคำชมเรื่องแนวคิดครับ  ส่วนเรื่องเครื่องดูดฝุ่นที่ท่านคิดจะสร้างมาใช้นั้นผมมั่นใจว่าท่านฯสามารถสร้างได้สบายๆ และผมยินดีเรียนท่านฯถึงประสบการณ์การสร้าง,การใช้งานครับ

ฐานของเครื่อง ในโปรเจค 1 miter saw station

เนื่องจากตอนที่สร้างฐานนี้ผมเกิดความเมามันไปหน่อยจนลืมถ่ายรูปไปหลายขั้นตอน ขอแสดงรูปเท่าที่มีนะครับ

วัสดุที่ใช้ทำ miter saw stand

ผมใช้ไม้สนนอก กับไม้ mdf เป็นวัสดุในการสร้าง เพราะประหยัดและทำง่ายครับ

เพื่อป้องกันเชื้อราและแมลงกินไม้ ผมทาทั้งกันยางและยูริเทนทั้งด้านในและด้านนอก

ทากาวที่สันโครงไม้ก่อนปิดด้านบนด้วยไม้ mdf

ใน ค.ห. 22 ผมหมายถึงทั้งไม้สนและไม้ mdf เลยนะครับ

 ฮั่นแน่ คุณยุ่นแอบมาซุ่มทำโปรเจคอยู่นี่เอง ดีครับจะได้ความคิดหลากหลายแอบเอาไปต่อยอดอีกที ผมก็ว่าจะทำโต๊ะสำหรับเครื่องรีดไม้โดยเฉพาะอีกตัวเหมือนกัน ให้มันเล็กกว่าตัวเดิมหน่อย เพราะขี้เกียจยกขึ้นยกลงจริงๆ(กลัวหลังยอก จะทำให้อดทำงานไม้อีกยาวเลย) รอดูอยู่ครับ

ครับพี่เทอดศักดิ์

ผมอาศัยเวลาที่งานซาๆหน่อยมาทำอ่ะครับ แต่ก็ยังมีงานมาให้ทำประปราย เลยเสร็จช้ากว่าที่ใจต้องการครับ

ช่วงระหว่างทำฐานเครื่องเลื่อยฯช่างเชนมาเยี่ยมผมที่ชอป เลยเป็นโอกาสที่ดีที่ผมได้แรงงานมาเสริมช่วยยกของหนักครับ

คุณเชน ช่วยเช็คไม้ที่เพิ่งตัดไป

แหม่...ช่างละเอียด..ด...ด...สมเป็นยอดฝีมือจริงจริ๊ง พ่อคุณ ( อันนี้ชมนะครับ แหะๆ )

เตรียมไม้ทำฐานเครืองตัดฯ

ดูรูปแล้วคล้ายๆจะเกิดเหตุวิวาทแล้วผมบันดานโทสะ หวดช่างเชนเข้าให้   ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ

วันนั้นช่างเชนเค้าช่วยเหลืองานผมอย่างเต็มที่ เลยรอดไปตะหาก 5555

ก่อนประกอบฐานรองเครื่องตัด ผมเกือบลืมทากันยางกับยูริเทนป้องกันเชื้อรากับแมลงกินไม้

ในรูปผมฝังน็อตสำหรับยึดเครื่องตัดฯไว้เรียบร้อยแล้วครับ

จริงๆแล้วทำไว้ 4 รู แต่ผมลืมถ่ายรูปขั้นตอนการทำรูที่ 4 ไว้ครับ สังเกตุที่ไม้ mdf จะเห็นไม้มี 2 รู รูด้านบนเป็นรูที่ไม่ตรงกับโครงไม้สนซึ่งเป็นรูที่ 4 ที่ผมเจาะไว้ตามรูยึดสกรูของฐานเครื่องตัดฯ  ที่จุดนี้ผมใช้ขี้ฝุ่นไม้พอกน็อตไว้ที่ไม้ mdf แล้วราดด้วยกาวร้อนครับ

ประกอบขาแท่นรองเครื่องตัด

ขารองแท่นวางเครื่องตัดฯของผมแต่ละขาประกอบจากไม้สามชิ้นยึดติดกันด้วยกาว+เกลียวปล่อย สาเหตุที่ใช้ไม้ 3 ชิ้นมาประกอบเป็นขาเพราะคำนวนแล้วแบ่งตามไม้ที่มีเก็บๆไว้ครับ ข้อดีที่พบคือทำง่ายไม่ต้องบากหัวไม้ ส่วนความแข็งแรงนั้นหายห่วงครับ

ไสหัวไป....

เอ่อ..หัวไม้อ่ะครับ... ไสไปไสมาน่ะ  มันสะดุดนิดๆครับ

คุณยุ่น

สบายไปเลยนะครับได้ช่างเชนไปช่วย ถ้าจะให้ดีต้องโทรตามคุณตังด้วย จะเสร็จเร็วแบบเนี๊ยบแน่ๆเลย

ผมเห็นแท่นตัดองศาแบบสไลด์ HITACHI C12RSH ที่คุณยุ่นใช้อยู่ คุณภาพเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างครับ เคยดูเทียบกับ Makita LS1216L อยู่เหมือนกันเพราะอยากได้แบบสไลด์ใบ12" ที่มีเลเซอร์ แต่ Makita แพงไปหน่อย

จบแล้วเรอะ พี่ยุ่น 
กะลังเพลิน อิอิ ล้อเล่น รอติดตามชมตอนต่อไป

 ขอติดตามผลงานครับ

ผมว่า รวมร่างทั้งที

เอาหม้อหุงข้าว เครื่องปั่นน้ำผลไม้ เครื่องปิ้งขนมปัง และที่ชงกาแฟ เข้าไปด้วยเลยครับ

เช่น

เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ก็อยู่กับเราท์เตอร์ เวลาต้องการมะนาวปั่น ก็ใช้เราท์เตอร์หมื่นรอบ ใส่ดอกหางเหยี่ยวติดลูกปืนจัดการ

เครื่องปิ้งขนมปัง ติดกับเลื่อยองศา ปิ้งเสร็จ ก็ตัด 45 ได้ ทำเป็นแซนด์วิชสามเหลี่ยม มุมเป๊ะชัวร์ เข้าฉากได้แน่นอน

หรือใช้ดรัมแซนเดอร์ ขูดรอยไหมเกรียมหน้าขนมปังปิ้งด้วย

ทริมเมอร์ เอาใช้ปั่นนม หยอดหน้าคาปูชิโน

แล้วหม้อหุงข้าว รวมกับอะไรดี...

 เครื่องมือเยอะไป บ้านเล็กไป แขวนเลย ตัวไหนใช้ ก็กดลิฟท์เอาลงมา ดีมั้ย คุณยุ่น

ตอบพี่เทอดศักดิ์ครับ

ขออนุญาตคัดลอกคอมเม้นท์ที่ผมเคยตอบ คุณนัทคุง ไว้ในกระทู้นี้นะ

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=11&No=1426663

โดยมีเพิ่มเติมขึ้นจากเดิมเล็กน้อย

เครื่องรุ่นนี้ติดอันดับท็อปไฟว์ เครื่องเลื่อยองศาที่น่าใช้ครับ สำหรับการใช้งานก็มีจุดเด่นเช่น มีระบบช่วยปรับองศาแบบละเอียด ( มีรุ่นที่บอกองศาแบบดิจิตอลเป็นตัวท็อปขายในต่างประเทศ แต่แฟนเพื่อนที่เป็นช่างไม้ที่อเมริกาบอกว่ารุ่นดิจิตอลไม่ดีมีปัญหาที่ดิจิตอล สู้รุ่นนี้ไม่ได้ ) มีเลเซอร์ไกด์ ตัวเครื่องมั่นคงแข็งแรงดีมาก ดีไซน์ ประหลาดไปหน่อย แต่พอได้ใช้งานไปสักระยะกลับรู้สึกชอบขึ้นมาครับ เวลาเห็นยี่ห้ออื่นที่ใบขนาด 12"  เท่ากัน  ดูของยี่ห้ออื่นตัวเล็กกร็องแกร็งไปเลย ( เป็นความรู้สึกนะครับ )  อีกอย่าง คนถนัดซ้ายแบบผมใช้งานได้สะดวกเท่าคนถนัดขวาครับ 

ข้อเสียบ้างครับ การเก็บงานจากโรงงาน hitachi ไม่ค่อยเรียบร้อยนัก ไม่มีแขนรับไม้ด้านข้างมาให้ เสียงดังไปนิดเมื่อเทียบกับบางยี่ห้อ ( นิดเดียวจริงๆ ) และหลังการใช้งานไประยะนึงระบบเบรคจะทำงานไม่ค่อยทันใจนัก

โดยสรุป เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆในตลาด มีจุดเปรียบที่มีความเหนือกว่าบ้างด้อยกว่าบ้าง แต่ราคาค่าตัวของ hitachi รุ่นนี้ต่ำสุดในตลาด 12" ( ที่ยี่ห้อดัง ) แล้วครับ ซึ่งอาจเป็นเพราะรุ่นนี้ออกมานานแล้วก็เป็นได้ครับ

ยังไม่จบครับ คุณนัทคุง กระทู้นี้ยาาาววว....

ขอบคุณครับ คุณจำโบ้เอ

เจอมุกตังนี่ ผมไปไม่เป็นเลย 5555

แต่ใจผมนะตั้งใจว่าถ้าจะสอย incra มาใช้ ผมกะว่าจะเพิ่มระบบเป็นราวตากผ้าด้วยน่ะ จะได้ใช้งานได้หลากหลายหน่อย

อ่า...พี่ไพบูลย์ ครับ

ผมเกรงว่าลิฟท์จะกินพื้นที่ผมไปจนหมดน่ะซีครับ

มาต่อกันเลยครับ จาก ค.ห.แรกๆ ผมได้พูดถึงเรื่องปัญหาขี้กบในเครื่องรีดไม้ ต่อไปนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาของผมครับ

ในรูปเป็นฮูดที่มากับเครื่องรีดครับ

อันนี้เป็นข้อต่อลดขนาดที่ใช้ในงานเดินท่อประปาครับ เหตุที่เลือกใช้ข้อต่อแบบนี้เพราะผมต้องการใช้ช่วงคอดของข้อต่อนี้เป็นทางเข้าสู่ท่อลมเครื่องดูดฝุ่นครับ อีกอย่างคือข้อต่อนี้ผมมีเก็บไว้อยู่แล้วก็เลยหยิบจับมาจินตนาการดัดแปลงง่ายหน่อยครับ

ใช้ 2 อัน อันแรกตัดส่วนท่อใหญ่ เป็น 2 ส่วน ในรูปเป็นวิธีตัดท่อกลมขนาดสั้นๆที่ใช้มือจับยาก โดยผมจะใช้เศษไม้สอดทะลุท่อไว้แล้วกดที่ไม้ในการตัดครับ

วัสดุที่จะนำมาทำท่อระบายขี้กบ ผมตัดมาใช้ประมาณนี้ครับ

ชิ้นนี้อีกชิ้นครับผมลืม  ( โชคดีที่ผมถ่ายเก็บไว้ ไม่งั้นอธิบายด้วยรูปยากแน่ ) ท่อชิ้นนี้ผมได้ทำการบานหัวไว้เพื่อใช้เป็นข้อต่อในงานอื่นเมื่อปีที่แล้วครับ

เตรียมประกอบ 

ของที่ผมใช้ทำท่อระบายขี้กบ ก็มี

1.ท่อที่ตัดไว้ 3 ชิ้น

2.กาวร้อน 

3.ผงไม้ ( เอาจากถุงเครื่องขัดรถถัง )

4.ไม้แผ่นบางๆสำหรับกระทุ้งผงไม้ในร่อง

 ตามรูป ท่อที่มีส่วนคอด เป็นส่วนใน ชิ้นสีดำวางบนส่วนคอด ส่วนชิ้นที่อยู่ใต้สีดำวางล้อมสีดำอีกทีครับ จากนั้นก็กรอกผงไม้ใส่ช่องระหว่างวงสีดำกับสีฟ้า แล้วใช้ไม้บางที่เตรียมไว้กระทุ้งผงไม้โดยรอบแล้วหยอดกาวร้อนลงไป ผมทำทั้งหมด 3 ครั้งจนเกือบเต็มครับ

จากนั้นก็ตัดด้านที่กรอกผงไม้กับกาวไว้เมื่อซักครู่ จะได้ปากท่อสำหรับต่อท่อจากเครื่องดูดฝุ่นที่เรียบ,คม ครับ

ด้านในท่อครับ จะสังเกตุเห็นส่วนคอดที่ผมต้องการ

นำมาประกอบรวมกับฮูดที่ทำจากเศษไม้

ปากท่อด้านที่ใช้ต่อกับท่อเครื่องดูดฝุ่น

เมื่อประกอบเสร็จผมโป้ว,ขัดผิวจนทั่วแล้วทดลองรีดไม้ ( จำนวนมากพอสมควร ) พร้อมกับเปิดเครื่องดูดฝุ่นครับ

เนื่องจากฮูดที่ผมทำขึ้นมาใหม่ชิ้นนี้ ผมตั้งใจทำเพื่อทดลองว่าถ้าทำในแบบที่ผมจินตนาการไว้ จะให้ผลตามที่ต้องการได้จริงหรือไม่ และคาดไว้ว่าน่าจะมีการปรับปรุงในชิ้นที่ 2 หรือ 3  จึงไม่ได้ถ่ายรูปขั้นตอนการทำเก็บไว้ ผมไม่ได้คาดคิดไว้ว่าจะใช้ได้ผลดีมากๆคือไม่มีการอุดตันของขี้กบในฮูดชิ้นนี้เลย แม้จะยังพอมีหลุดออกมาทางด้านหน้าเครื่องอยู่บ้าง แต่ก็มีจำนวนน้อยมากๆเมื่อเทียบกับฮูดที่มากับเครื่อง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการเสริมฟองน้ำตามขอบครับ ( เหมือนฮูดที่มากับเครื่อง )

ในเมื่อใช้ได้ดีแล้วผมจึงทำสีซะเลย ถือเป็นการอำพรางเพื่อจบงานครับ เผื่อเวลาใครมาเห็นเข้าจะได้ไม่รู้สึกขัดตาจนเกินไป 5555

อีกมุม

จุดทีจะใส่ฮูด

ประกอบเข้ากับเครื่อง

อีกมุม

ต่อเข้ากับเครื่องดูดฝุ่น

วันนี้ช่างเชนได้มาเยี่ยมอีกครั้งผมจึงได้โอกาสโชว์ผลงานการสร้าง โปรเจค 1 กับช่างเชน และผมยังได้สาธิตการกำจัดขี้กบด้วยฮูดชิ้นนี้ด้วย เห็นช่างเชนบอกว่าจะสร้างขึ้นมาใช้บ้าง....แหม่ มันช่างน่าปลื้มใจผมซะจริงๆครับ 

ไม่รู้ชาตินี้จะได้มีห้องทํางานแบบนี้หรือเปล่า
ผมว่าไม้สนนิวซีแลนด์สวยดี ฝรั่งก็ชอบใช้ทําที่เก็บเครื่องมือ
HI...YUN   U   OK   GOODๆๆๆๆๆ

 โอ้โหเหะ........

ที่ทำงานของ พี่เอ๋ ย้ายไปตามไซด์งานลูกค้าก็ดีเหมือนกันนะครับ เปลี่ยนบรรยากาศไปด้วย

ส่วนไม้สนที่ว่าผมก็คิดจะใช้แต่งช็อป แต่คงทำแบบค่อยเป็นค่อยไปตามโอกาสที่หาได้ครับ

 ขอบคุณ พี่เอ๋

ขอบคุณ พี่เสริฐ ครับ

เครื่องดูดฝุ่นและแท่นในโปรเจค 1 มีล้อแบบล็อคได้ ( เครื่องดูดฝุ่นใช้ล้อแบบธรรมดาล็อคไม่ได้ ผมใช้แบบนี้เพราะไม่จำเป็นต้องล็อคครับ ราคาล้อถูกกว่าด้วย ) สำหรับย้ายที่ไปมาได้สะดวก เมื่อจะใช้งานผมก็ลากมาใช้ในที่ว่างส่วนกลาง พอใช้เสร็จก็เข็นเก็บเข้าที่ที่จัดไว้

เลื่อยตัดองศาและเครื่องรีดเข้าประจำตำแหน่งบนแท่นวาง

ป้อนไม้เข้าเครื่องรีดทางนี้

ที่ทางออกของเครื่องรีดไม้ ผมทำชั้นรับไม้ไว้ให้ต่ำกว่าประมาณ 1 ม.ม.เป็นจุดรับและพักไม้ที่ออกจากเครื่องรีด เวลาทำงานจะได้ไม่ต้องรีบอ้อมไปรับ และยังช่วยป้องกันไม่ให้ไม้กระดกด้านท้ายจนใบมีดกินไม้เป็นรอนลึกจากการที่ไม้กระดกด้วยครับ ส่วนด้านล่างของชั้นรับไม้ ผมเอาไว้ทำลิ้นชักเก็บจิ๊กเสริมของเครื่องเลื่อยองศา

 พี่ยุ่น เวลาใช้เลื่อยตัดองศา เอาไม้วางบนแท่นตัด ไม้มันวางพอดีกับระดับบนแท่นเครื่องรีดหรือเปล่า

ลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์,เครื่องมือใต้เครื่องรีดไม้ ฮูดที่มากับเครื่องโดนเก็บก่อนเลย 55555

ตอบคุณ นัทคุง

เครื่องเลื่อยฯผมทำไว้ให้ต่ำกว่าลูกกลิ้งบนเครื่องรีดไม้ 10 ม.ม.ครับ ที่ทำต่ำกว่าเพราะผมใช้ไม้ mdf มาทำ zero clearance กันไม้ฉีกครับ ไม้ mdf ที่ใช้ผมใช้แบบหนา 9 ม.ม. การตัดไม้ยาวๆผมก็เอาไม้พาดบนลูกกลิ้งบนเครื่องรีดไม้ ลากตัดลากตัด ลื่น,เบาสบายเลยครับ เดี๋ยวว่างจากงานผมจะถ่ายรูปให้ดู

ของที่ผมเตรียมไว้แล้วรอประกอบเข้ากันสำหรับโปรเจคนี้ยังมี

1.แขนรับไม้เครื่องเลื่อย

2.ฮูดแบบดูดฝุ่นเครื่องเลื่อยองศา

ฝุ่นจากเครื่องเลื่อยฯกระจายออกก่อนที่จะเข้าช่องถุงดักฝุ่นเครื่องเลื่อยฯมากพอดูครับ แม้ว่าผมจะต่อท่อดูดฝุ่นเข้าเครื่องเลื่อยแล้วก็ยังฟุ้งมากอยู่ดี

3.zero clearance หลายๆชิ้น สำหรับหลายๆองศา

4.ลิ้นชักใต้เครื่องตัด

5.แคล็มป์กดไม้เครื่องเลื่อยแบบใหม่

ทั้งหมดนี้ผมจะทยอยลงรูปให้ได้ดูกันครับ

เพิ่มเติมครับ

ความสูงของเครื่องรีดไม้ ผมทำความสูงไว้ 59 ซ.ม. โดยวัดจากพื้นช็อปถึงถาดรับไม้เครื่องรีด (ประมาณระดับเหนือหัวเข่าผมเล็กน้อย) ที่ความสูงนี้ ผมรู้สึกสบาย,คล่องต้วตอนทำงาน 

เมื่อยกไม้มาเข้าเครื่องรีดแผ่นหลังของผมจะเหยียดตรง ตอนวางไม้ส่งไม้บนถาดจะก้มลงนิดๆ  ความสูงนี้ท่านใดจะทำแท่นวางใช้ก็พิจารณาจากสรีระของตัวเองเป็นหลักนะครับ 

ส่วนความสูงของแท่นวางเครื่องเลื่อยฯก็คำนวนบวกลบจากเครื่องรีดเป็นหลักครับ

ยอดๆๆๆๆเยี่ยมๆๆๆๆไว้ให้ผมแวะไปดูบ้างนะคุณยุ่นจะได้เอาไว้มาปรับปรุงช็อปผมแต่ช่วงนี้กำลังอยู่ระหว่างขยายเนื้อที่ของยังรกไปหมด

ก็ของในช็อปพี่เบิร์ดเยอะเหลือเกินนิ
น่าจะปล่อยของให้น้อง ๆ มาครอบครองบ้างก็ได้ อิอิ

 พี่เบิร์ด ช็อปน้อยๆของผมยินดีต้อนรับพี่เสมอครับ ^_^ 

ตัวเป่าลมซื้อมาราคาเท่าไหร่ครับ แรงดูดขี้เลื่อยจริงๆเป็นไงครับ ถ่ายคลิปมาให้ชมหน่อยครับคุณยุ่น

โต๊ะตั้งเลื่อยองศา+รีดไม้ทำได้ลงตัวมากครับ  ผลงานแต่ละชิ้นดูดีมากครับเรียบง่ายใช้ได้จริง สวยด้วยครับ

แหมเป็นshopที่มีเนื้อที่กว้างขวางมาก  แต่อบอุ่นครับ(ด้วยอุปกรณ์มันเต็มพื้นที่ไปหมด) ฮิฮิ  เอาเรื่องจริงละเป็นShopที่ผมขอใช้คำว่า Less is More  พี่ยุ่นสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่จำกัดได้  พอเห็นworkbenchของพี่ยุ่นครั้งแรก ตัวพี่เค้าเองถามผมว่าไม่รู้จะเรียกว่า Workbench ได้หรือเปล่า แต่ผมมองว่ามันเป็นworkbenchโดยสมบรูณ์ เพราะเป็นโต๊ะที่ตอบสนองการทำงานของพี่เค้าได้ทุกอย่าง สัดส่วน ความสูงของโต๊ะที่ไปสัมพันธ์อุปกรณ์อื่น ทุกอย่างคิดออกแบบเรื่องหน้าที่การใช้งานมาก่อน      ได้ไปหาพี่ยุ่นแต่ละครั้งผมได้ความรู้ แนวคิดที่ดีๆๆ กลับมามากมายเลยครับ  แล้วเชนจะไปอีกนะครับพี่ ขอบคุณครับ

      พี่ยุ่นเห็นที่ทำงานแล้วอยากไปเยี่ยมจังเลย

ตอบคุณ prescott ครับ

ผมซื้อเครื่องเป่าลมตัวนี้จากคลองถมในราคา 650 บ.ครับ แต่เป็นราคาเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ส่วนแรงดูดของเครื่องนั้นแรงครับ รูปใน ค.ห. 14 และ 15 นั้น ผมใช้ดูดตลับเมตรขนาด 5 เมตร เมื่อสักครู่ผมลองชั่ง น.น.ของตลับเมตร ได้ น.น.ที่ 195 กรัม ( 2 ขีด ในภาษาผมน่ะครับ แหะๆ )

ส่วนเรื่องคลิปฯน่ะผมชอบดูมากกว่า   อุ๊บ.บ...เผลอบอกไปได้ไงเนี่ยะ   เอาเป็นว่าถ้าผมมีเวลาว่างเมื่อไรจะลองถ่ายวีดีโอฝึกทำคลิป สำเร็จวิชาเมื่อไรจะจัดให้ครับ

อะโห..คุณช่างเชน เล่นชมกันขนาดนี้เลย

แต่พูดจริงๆนะผมไม่เขินหรอกครับ เรื่องความอายความเขินนี่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นมายี่สิบหรือสามสิบปีได้แล้วมั๊ง (หน้าด้านมานาน.น..มว๊ากแล้ว ว่างั้นเถอะ 5555)

อืม.ม...ถ้าผมเอาแต่พูดเล่น เดี๋ยวเพื่อนๆในเวบนี้จะรำคาญ   

ขอบคุณ ช่างเชน เช่นกันครับ ผมกับเปิ้ลยินดีต้อนรับเสมอครับ แต่จะมาอีกเมื่อไรแจ้งล่วงหน้าด้วยนะ ผมจะได้เตรียมงานหนักให้ช่วยอีก  ( เลิกไม่ได้จริงๆไอ้นิสัยชอบเล่นเนี่ยะ ขอโทษนะครับ  )

ครับคุณ pop

ยินดีครับ มาครับมา จะต้อนรับให้สาสม...เชียว   เอ๊ะ...  ผมใช้คำถูกต้องป่าวครับเนี่ยะ

ผมต้องการสื่อว่า ต้อนรับอย่างดีอ่ะครับ แหะๆ

แขนรับไม้เครื่องตัดองศา

แรกสุด (เมื่อปีก่อน) ผมตั้งใจจะทำแขนรับไม้แนวทางประมาณนี้ครับ ( ในเวบฯฝรั่งเค้าทำไว้ ) คือแบบนี้ผมรู้สึกว่าสวยถูกใจมากๆ แต่เมื่อถึงเวลาทำจริง เมื่อผมพิจารณาถึงสภาพพื้นที่จัดเก็บแท่นใน โปรเจค 1 นี้ที่ลดน้อยลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไป ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว  จึงจำใจต้องเปลี่ยนความตั้งใจ ทั้งที่บางชิ้นส่วนผมได้ให้พี่ปีเตอร์ช่วยทำ cnc จนมีมาเก็บไว้รอวันสร้างงานนี้นานแล้วครับ

เมื่อแบบที่อยากได้เป็นหมันไปเสียแล้ว ผมคิดอยู่หลายๆแนวทางที่ทำได้จนกระทั่งในที่สุดก็กลับไปคิดถึงแขนแบบแรกสุด ( แบบนี้เคยคิดไว้เป็นแบบแรกสุดจริงๆนะครับ  ไม่ได้พูดกลับไปกลับมา แหะๆ ) นั่นคือ

อลูมิเนียมโปรไฟล์

สาเหตุที่ถึงแม้ว่าผมจะคิดถึงอลูฯนี้เป็นแบบแรก แต่ต้องเปลี่ยนความตั้งใจไป ก็เพราะราคาค่าตัวของมันครับ

ราคาของมันนั้น สำหรับหลายๆท่านคงจะไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับผมแล้วราคามัน...

เป็นยอดฝีมือจริงๆ จอมยุทธยุ่น กะ แม่นางแอปเปิ้ล

แต่โชคยังดีครับ ผมได้รับการชี้เป้าร้านขายของมือสองจาก พี่เขมทัต พี่เค้าแนะนำให้ไปที่ร้าน สยามไฮเทค ซึ่งเป็นร้านขายของมือสองประเภทนี้ในราคาที่พอทำใจซื้อได้ง่ายขึ้นเยอะครับ ถ้าเทียบกับมือหนึ่ง

ซือเฮียไพบูลย์ ผู้นัองละอายมิกล้ารับ 

ขออนุญาตพากลับไปเที่ยวชม ค.ห.ที่ 88, 89, 90 และ 92 ก่อนครับ

ใน รูปที่ ค.ห. 88 เป็น อลูฯทรงตัว แอล ผมใช้เป็นรั้วไว้ชนหัวไม้ครับ

รูปใน ค.ห. 89 การยึด อลูฯ ทรงตัวแอลเข้ากับคาน อลูฯ ขนาด 3 x 6 ซ.ม.

รูปใน ค.ห. 90 เป็นอุปกรณ์ฟิตติ้งอีกแบบ ผมใช้ยึดอลูฯขนาด 3 x 6 ซ.ม.เข้ากับขาอลูฯขนาด 3 x 3 ซ.ม. ที่ใช้รับ น.น. ในชุดแขนรับไม้นี้

ส่วนรูปใน ค.ห. 92 ผมใช้ อลูฯขนาด 3 x 3 ซ.ม. ยึดกันเป็นตัว T โดยใช้เป็นชุดขารับแขน ( ตัวหนังสือสีแดงอ่านแล้วจะงงไม๊ครับ  เพราะผมอ่านแล้วจินตนาการไปถึงโยคีดัดตนอ่ะครับ  )

ตามรูปผมยังไม่ได้ประกอบจุดรับชุดแขนอลูฯที่แท่นวางเครื่องเลื่อยองศาครับ

การใช้งานชุดแขนรับไม้ผมจะวางประมาณนี้ครับ

ชุดแขนรับไม้ผมจะทำเพียงชุดเดียว เพื่อใช้ทางด้านซ้ายของเครื่องเลื่อยฯ ส่วนทางขวาผมใช้ลูกกลิ้งบนเครื่องรีดไม้เป็นตัวรับครับ

อลูมิเนียมแบบนี้เค้าขายราคาเท่าไหร่ครับความยาวกี่เมตรครับ

เค้าขายให้แบบชั่งกิโลครับ คุณ prescott ราคากิโลละ 190 บ. ส่วนความยาวนั้นที่ร้านมีหลายขนาดเพราะเป็นของมือสอง ไม่ว่าจะยาวเท่าไรก็ขายในราคานี้ครับ

แผนที่ร้านที่ผมลงไว้ใน ค.ห.นี้ผิดพลาด

ดูแผนที่ที่ถูกต้องที่หน้า 2 ค.ห. 107 ครับ