ผมใช้ปั๊มลมมาทั้งหมด6ตัว
ตัวแรกเป็นPuma ตัวถังสีเขียว(ไม่ใช้สีฟ้า)ผลิตในญี่ปุ่น

ซื้อต่อจากช่างในราคา2500 ตอนนั้นเงิน2500มันมากสําหรับผมจริงๆ
แต่พอเอามาใช้ สุดคุ้มเลยทนมาก และก็รักมาก เอาออกงานทุกงาน
แต่ตอนหลังบริจาคให้วัดกันดารที่วังนํ้าเขียวโคราช
ซึ่งวัดกําลังขาดเครื่องมือในการก่อสร้าง

ตัวที่2กับตัวที่3ซื้อพร้อมกันเพราะต้องแยกตามไซต์งาน
ตัวที่2โดนช่างด้วยกันที่รู้จักยืมไปใช้แล้วโดนคนอื่นขโมย
มันไม่ยอมรับผิดชอบ ผมก็เลิกคบเลย
 

ตัวที่4 ซื้อตอนที่ตัวที่3มอเตอร์ไหม้ที่ไซต์งานรอซ่อมไม่ไหวเลยซื้อใหม่
และตอนหลังเตี่ยผมหามอเตอร์มาเปลี่ยนให้ใหม่เป็นมอเตอร์ที่มีพัดลมในตัว
อายุมอเตอร์30ปี ก็ใช้มาทนมาก แต่เบื่อเพราะหนักมากเช่นกัน
เลยยกให้เตี่ยเอาไว้ใช้สูบยางลมไถในสวน

ตัวที่5 และตัวที่6ซื้อพร้อมกัน
ปัจจุบันยังใช้งานอยู่ทุกวันนี้ครับ

ตอนนี้ว่าจะซื้ออีกตัวอยากได้แบบเล็กๆเอาไว้ใช้ตอนไปเก็บงาน
แต่ยังเจอเล็กไม่ถูกใจ

ทุกตัวที่ซื้อมาถ้าเป็นตัวเล็กจะเปลี่ยนมอเตอร์เป็นครึ่งแรงครับ

ตัวที่5  ฝาครอบกรอบแตกเลยเอาฝาสีสเปร์ยมาครอบแทน

ส่วนตัวที่6อยู่ไซต์งานเลยไม่มีรูปมาดู

ผมติดเครื่องดักน้ำครับ คุณอนุชาก็ควรหามาติดสักตัว ของผมเป็นยี่ห้อ WL มีที่ปรับแรงดันลมด้วย ตัวนี้ราคาหน้าร้านติดไว้ 2500 ผมซื้อมาราคา 1875 บาท การใช้ลมกับพวกปืนลม สว่านลม และกาพ่นสี ต้องผ่านหรือมีเครื่องดักน้ำครับ เพราะลมที่ถูกอัดอยู่ในถังลม จะมีน้ำปนอยู่ค่อนข้างมาก

คุณเอ๋ มีเตี่ย เหมือนผมเลยครับ แต่เตี่ยผมไปสวรรค์ได้ 3 ปีแล้วครับ  

คุณ aof ครับ ตามรูปที่ส่งมามองไม่เห็นเกจ์ลมเพราะสายลมบังหมด แต่โดยปรกติเครื่องปั๊มลมทุกเครื่องต้องมีอย่างน้อยหนึ่งอันครับ เกจ์วัดแรงดันลมส่วนมากจะอยู่ติดกับสวิทควบคุมปั๊มนั่นแหละครับ ตรงที่มีสายไฟติดอยู่กับกล่องสีดำ ๆ บนปั๊ม หน้าตาเกจ์วัดลมก็คืออันที่เห็นหน้าปัทม์ทรงกลม มีเข็มหนึ่งอันเป็นเครื่องชี้บอกแรงดันลม เหมือนรูปข้างบนใน คห. ที่ 4 นะครับ

ผมถอยมาวันนี้ครับ  ขนาด 2แรง 3สูบ 148ลิตร  พูม่า...ใช้กับงานพ่น  และงานขัดได้สบายครับ...ราคา  27500 ครับ  ตัวดักลมสั่งมาจากคุณอนุชิตครับ  อุดหนุนท่าน  เพื่อจะได้มีเว็บไว้ให้เราเสวนากันต่อไป...555

ตัวดักน้ำ แบบนี้..คงต้องโดนซักตัวแล้วล่ะครับ

ปล.หน้าเวปไม่เคลื่อนไหวเลย สงสัยพี่นุงานจะยุ่ง

ตัวที่6

ปั้มผมครับซื้อมาสามพันกว่า

.............ของลุงเองยี่ห้อ Tiger  ตัวเล็ก   รู้สึกว่าจะจุสามสิมลิตรหรืออะไรนี่แหละดูไม่ชัด   ตอนแรกที่ซื้อก็เพื่อเติมลมรถยนต์กับเจ้าเสือภูเขาและหมอบเท่านั้น   แต่พอคิดจะเป็นช่างไม้กับเขาบ้างรู้สึกว่าเครื่องนี้จะเล็กไปแล้ว 

.............ทีนี้ก็อยากจะถามคุณน้องปราโมทย์  พิดโลกว่า  ลุงจะซื้อที่ดักน้ำ + ปรับความดัน  จากร้านคุณอนุชิตไปติดเครื่องของลุงได้หรือไม่   ถ้าติดตั้งลุงต้องถอดเกจ์ของเดิมออกหรือไม่  แล้วเกจ์ตัวใหม่จะใส่เข้าไปได้อย่างไร  เพราะลุงเห็นทางออกของลมที่เครื่องของลุงมันขนานไปกับถังลม  และระยะถังลมกับทางออกมันห่างกันนิดเดียว  ลุงซื้อแม็กลมจากคุณอนุชิตไปสองตัว  ยังไม่ได้ใช้เลย  เพราะไม่มีที่ดักน้ำ ปรับความดันเจ้าตัวนี้แหละ  จะโทรถามคุณอนุชิตก็เกรงใจ  ไม่กล้ารบกวน..ปริวิเวกไปเสียแล้ว   แต่ไม่นานคงกลับมา .......ขอบคุณ....จากลุงจินต์   คนลานกา  อากาศดี

ซื้อได้เลยครับ ลุงจินต์ ของคุณอนุชิตดีกว่าที่ผมติดซะอีก มีกระเปาะดักน้ำและกระเปาะหล่อลื่นเครื่องมือ แจ๋วเลย 1850 บาท เสียดายตอนผมซื้อทางร้านยังไม่สั่งมาขาย ไม่งั้นผมเอาแบบนี้แน่นอน

ไม่ต้องถอดเกจ์เก่าออกเพราะเอาไว้ดูความดันลมในถัง ส่วนเกจ์ที่ติดมากับเครื่องดักน้ำจะจำกัดลมตามที่เราตั้งไว้ใช้งาน ถ้าลมมาแรงมากเกินไปครื่องนี้ก็จะปรับการจ่ายลมออกไปไมให้เกิน ป้องกันเครื่องมือเราชำรุดครับ

เมื่อเราหาที่ยึดเครื่องดักน้ำได้ดีแล้ว เราก็ตัดสายลมยางของเรานั่นแหละเอามาต่อจากก๊อกลมเดิมที่เราเคยใช้ มาเข้าที่ทางเข้าเครื่องดักน้ำ จากเครื่องดักน้ำเราก็เอาสายยางที่จะเอาไปใช้งานมาต่อกับทางลมออกของเครื่อง ก็นำไปใช้งานได้แล้วครับ ตามรูปเลยครับ 

เอาสายลมยางมาเป็นสายเชื่อมต่อเข้าเครื่องดักน้ำ อย่างนี้ครับ ลุงจินต์ 

อ้อ...ถ้าทางลมเข้าและทางลมออกของเครื่องดักน้ำเป็นรูเกลียวตัวเมีย เราต้องซื้อหัวต่อเกลียวตัวผู้มาใส่เพื้อรับสายยางในทางลมเข้า ส่วนทางลมออกเอาหัวต่อเร็ว (ค๊อปเปอร์) ตัวผู้ชนิดอีกด้านหนึ่งเป็นเกลียวมาใส่ เพื่อจะได้เอาสายหัวค๊อปเปอร์ตัวเมียมาเสียบใช้งานได้เลยก็สะดวกดีนะครับ

.

.

.

...........ขอบคุณ..คุณน้องปราโมทย์  พิดโลกมากๆเลยที่ช่วยบอกทั้งด้วยภาพแลคำบรรยาย   ตอนแรกลุงเข้าใจว่าเครื่องดักน้ำตัวนี้ต้องต่อจากเครื่องปั๊มลมตรงที่ติดเกจ์วัดแรงดันเท่านั้น  พอน้องบอกว่าหาที่ยึดเครื่องดักน้ำได้ดีแล้ว  ก็ตัดสายลม..และพอเห็นภาพก็ถึงบางอ้อ....ติดครงไหนก็ได้     เห็นทีจะต้องเจียดงบจากการแปรรูปไม้เทียมมาซื้อเจ้าตัวดักลมของคุณอนุชิตในเร็ววัน  ไม่อย่างนั้นเจ้าปืนลมสองตัวที่ซื้อไปก็ไม่ได้เอามาใช้ประโยชน์.....(สมัยเป็นเด็กนักเรียนครูบอกกฎทางชีววิทยาว่า....อวัยวะใดที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์  ของสิ่งนั้นจะค่อยๆฝ่อแล้วหายไป......เอ..จะเกี่ยวกับปืนลมที่ตรงไหน...... )     จากลุงจินต์  คนลานกา  อากาศดี

ไหน ๆ ก็คุยกันเรื่องปั้มลมแล้ว พอดีวันนี้หลังเลิกใช้งานปั้ม ได้เปิดก๊อกระบายน้ำในถังทิ้ง เห็นมีทั้งน้ำและน้องหนิม ออกมาแดงเถือกเลยถ่ายรูปมาฝากกัน ใครที่ไม่เคยระบายน้ำทิ้งเลย ควรระบายทิ้งบ่อย ๆ หน่อยนะครับ ไม่งั้นถังลมเราจะอายุสั้นครับ

ขอบคุณครับพี่ปราโมทย์ กำลังเล็ง ๆ จะซื้ออยู่เหมือนกันครับ ของผมถ่ายน้ำทุกสัปดาห์ กันลืม ไม่รู้เป็นเพราะถังเล็กหรือเปล่า (25L) เลยทำให้มีน้ำมาก ผมเคยเจอที่คลองถม ราคาประมาณ 500 บาท ไม่รู้จะดีหรือเปล่า

มีวิธีไม่ให้ภายในถังลมเป็นสนิม

ถังปั๊มลมมีราคาแพงมักมีปัญหาภายในถังลมเป็นสนิมและทำให้ถังลมผุเสียในที่สุดจึงคิดว่าทำไมเราไม่ทำกันสนิมในถังลมละแค่ถอดอุปกรณ์หัวปั๊มและอื่นๆออกจนเหลือแต่ถังเปล่าแล้วเอาถุงพลาสติกอุดและมัดตามรูให้แน่นจากนั้นเอาทินเนอร์ไส่และเขย่ากลิ้งไปมาเพื่อล้างภายในถังให้สะอาดสักสองครั้งปล่อยทินเนอร์ทิ้งทางก้นถังแล้วใช้สีกันสนิมสำหรับผมใช้สีกันสนิมอย่างดีเป็นแบบอีป๊อคซี่สองชนิดผสมกันและผสมทินเนอร์ด้วยให้ไหลได้พอประมาณกรอกลงไปแล้วกลิ้งให้ทั่วถังสีจะเครือบกันสนิมได้ทั่วถังเลยและถังลมเราจะไม่มีสนิมอีกต่อไปจะยืดอายุถังได้ตลอดไปทำให้คิดว่าทำไมโรงงานจึงไม่ยอมเครือบกันสนิมมาจากโรงงานคงเป็นยโยบายการตลาดไม่งั้นคงจะขายปั๊มลมไม่ได้อ้อตอนสีใก้ลแห้งไห้ถอดถุงที่จุกออกด้านบนแล้วเป่าอย่าให้รูตันจากนั้นสีแห้งประกอบเหมือนเดิม

เวลากลิ้งสีกันสนิมให้ทั่วถังก๊อกถ่ายนํ้าทิ้งให้ปิดแน่นเลยกะว่าสีใกล้แห้งค่อยหมุนออกแล้วเป่าอย่าให้รูมันตันและระวังรูที่วาวกันกลับด้วยเพราะจะเป็นเกลียวในจะถูกสีกันสนิมไหลมาเคลือบเกลียวต้องหากระดาษจุกไว้กันเกลียวเสียด้วยเดียวจะหมุนเกลียวลงไม่ได้หลังจากทำแล้วตัดปัญหาเรื่องสนิมเด็ดขาดเลยแม้จะมีนํ้าอยู่ภายในก็แค่เปิดนํ้าก้นถังทิ้งบ้างเวลาจะใช้งานถังลมผมอัดลมไว้นานๆเปิดถ่ายนํ้าไม่มีสนิมอีกต่อไปอยากจะลงรูปให้ดูบ้างแต่ยังลงไม่เป็นเพราะเพิ่งหัดเล่นอาจจะลงในเฟสบุคไว้เป็นคนค่อนข้างบ้าเครื่องมือซื้อมาเกื่อบทุกอาชีพช่างและเอามานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทนๆไม่เสียง่ายเละห่วงเครื่องมือมากไม่ให้ใครยืมง่ายๆนอกจากเสียไม่ได้จนอาจต้องไปทำให้เลยคุยกันเล่นๆนะครับ

ขอบคุณนะครับ คุณพันศักดิ์ สำหรับข้อเสนอแนะดี ๆ 

ขอบคุณที่ให้ความรู้ดีๆ ครับ

ขอบคุณคุณปราโมทย์สำหรับรูปและคำอธิบาย

ขอบคุณไอเดียดีๆของคุณPHANSAK มากๆเลย ไม่ทันคิดเรื่องป้องกันแต่เนิ่นๆ

 ถามปัญหาเครื่องรุ่น Puma-TPP50

คือ ผม มีปัญหา เวลาเปิด 3 ลูกสูบ เนี่ย มันตั้งดูดลมเข้าใช่ไหมครับ แต่ปัญหา ของผมคือ 2 ลูกสูบ ซ้าย-ขวา มันดูด ลมเข้า แต่ ลูกสูบตรงกลาง มัน เป่าลมออก แล้วมันก็ร้อนผิกปกติครับ คือ ร้อนไวมากๆ ผมอยากทราบการแก้ปัญหา ไม่ทราบว่า เป็นที่อะไร รบกวน ตอบหน่อยนะครับ 

ปล. ขอบพระคุณมากครับ

 ขอขอบคุณทุกๆท่านสำหรับความรู้ดีๆเรื่องปั๊มลมครับ ของผมซื้อมาเมื่อต้นปีราคา 4,500บาท ก็คอยถ่ายน้ำเป็นประจำเช่นกัน ออกมาสีเดียวกับคุณปราโมทย์เลยที่เดียว ปั๊มตัวเล็กๆอย่างของผมใส่อุปกรณ์ดักน้ำได้มั้ยเนี่ย ราคาซักเท่าไร  

ปั๊มขนาดไหนก็ใส่ดักน้ำได้ครับ ดักน้ำมีหลายขนาด แบบราคาพันต้นๆก็มี

ดักน้ำควรใส่ใกล้ให้มากที่สุดกับอุปกรณ์ที่ใช้ลม ไม่ควรใส่ไกล้ปั๊มถ้ามีสายยาวๆ

เพราะเมื่อลมผ่านสายหรือท่อยาวๆไปหาอุปกรณ์ ลมก็จะเย็นลงจนเป็นน้ำค้าง

อุปกรณ์ดักน้ำจะไม่ดักน้ำที่เป็นแก๊ส ดังนั้นจะดักน้ำได้น้อยเมื่อต่อใกล้กับปั๊ม

อุปกรณ์ที่ฝรั่งใช้กันคือกรองแบบ dessicant ซึ่งจะดูดน้ำได้ดี

แต่ในไทยผมยังไม่เคยเห็นที่ไหนขาย

ถึงคุณ ปราโมทย์ พิดโลก

พอดีผมใช้ยี่ห้อเดวและขนาดเดียวกันกับของคุณเลยครับ  เลยอยากจะถามเรื่องการถนอมปั๊มลมครับ

1.ผมไช้งาน ตั้งแต่ เช้ายันเย็น  เป็นงานพ่นสี ลมจะปั๊มเกือบทุกๆ 10 นาที  แบบนี้ทั้งวัน ถือว่าใช้งานหนักไปมั้ยครับ

2.ตอนที่มันปั๊มยุแล้วเราพ่นสีไปด้วยได้มั้ยครับ

ขอบคุณมากครับ

ตอบแทนนะครับ เท่าที่ผมรู้:

งานพ่นสีเป็นงานที่ต้องใช้ปริมาณลมสูงมาก ประมาณ 8 CFM (cubic feet/min) ขึ้นไป

ควรใช้ปั๊มสายพานขนาด 2 แรงขึ้น และควรมีถังเก็บลมขนาดใหญ่

ไม่ควรใช้ปั๊มโรตารี่ขนาดเล็กสำหรับงานพ่นสีต่อเนื่อง เพราะมันเกินความสามารถของมันพอสมควร

ปั๊มโรตารี่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อปั๊มทุกๆ 10 นาทีทั้งวัน เพราะมีโอกาสเสียหรือเกิดเหตุระเบิดอย่างที่กล่าวมา

ปั๊มสายพานออกแบบมาเพื่อทำงานได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องซื้อให้ใหญ่พอที่ปั๊มปริมาณลมให้เหมาะสม

ถ้ายิงตะปู สูบลมยาง เจียร พ่นสีเล็กน้อย หรือเป่าลม ปั๊มโรตารี่ทำได้ ถ้าใช้เครื่องขัด หรือพ่นสีปานกลาง ต้องสายพานขนาดกลาง 2 แรงขึ้น

ตอนปั๊มถ้าเราพ่นต่อปั๊มก็จะไม่สามารถเติมลมให้เต็มจนปั๊มตัด มันก็จะปั๊มต่อเนื่อง ยิ่งมีโอกาสเสียเยอะ แรงดันก็ตก

ไม่ควรทำอย่างยิ่ง

 ถ้าเราใช้งานทั้งวัน จนถังมันเกิดมีอาการ ร้อนมากถึงมากที่สุด มันมีสิทจะระเบิดด้ายมั้ยครับ

 คือ ผมใช้ถังลมมา 2 ปี ใช้บ้างหยุดไปนานบ้าง แต่ไม่นานมานี้ผมอัดลมไว้เต็มถัง แต่พออีก 2 วันมาดูใหม่ปรากฏว่า ลมหายไปครึ่งถัง ทั่งที่ปิดหมดทุกอย่างแล้ว ผมก็เลยงง ไม่รู้ว่ามันจะรั่วตรงไหน ลองเช็คดูหมดแล้วแต่ก็ไม่พบ จึงอยากจะรู้ว่าลมที่มีอยู่เต็มถึงมันหายไปไหน

ขออนุญาตนะค่ะ เราเป็นโรงงานผลิตปั๊มลมลูกสูบ ผลิตในเมืองไทยค่ะ

ถ้ามีการใช้งานต่อเนื่อง ไม่มีทางระเบิดได้แน่นอนครับ ในกรณีระเบิด คือ 1.เพรสเชอร์สวิทช์ไม่ตัดการทำงาน (ปั๊มลมจนเต็มถังแต่ไม่ตัดการทำงาน)  2. เซฟตี้วาล์ว(โปโลวาล์ว) ไม่มี หรือเซฟตี้วาล์วเสีย

 ผมต้องขออนุญาติ เจ้าของเว็บหรือเจ้าของกระทู้ในการบอกข้อมูลที่ถูกต้องด้วยนะครับ

ใครอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับปั๊มลม 1.แบบสายพาน

                                                 2. แบบโรตารี่ (แบบขับตรง)

                                                 3. แบบ Oil Free (ปั๊มลมแบบไม่ใช้น้ำมัน)

ติดต่อได้ที่ ID Line : t9773

ผมคนเดียวกับคนชื่อ ที นะครับ

ขอตอบคุณ aon ใช้งานจนร้อนมากถึงมากที่สุด ปั๊มลมจะหยุดทำงานเองครับ ที่มอเตอร์จะมีตัวรีเซ็ทมอเตอร์ (มีชื่อเรียกอีกชื่อแต่ผมชื่อจำไม่ได้) เมื่อมีการทำงานจนร้อนมาก ๆ จะหยุดทำงานเองครับ แต่ถ้าน้ำมันเครื่องแห้งลูกสูบก็จะติดด้วยครับ

ส่วนเรื่องถังระเบิดดูด้านบน ผมได้ตอบไปแล้วครับ

ขอตอบคุณ wat อาการลมหาย คือ มีการรั่วของลม จุดที่รั่วจะมี 1.บริเวณข้อต่อต่าง ๆ 2. ตัวระบายน้ำใต้ถัง 3. ถังลม แต่โอกาสรั่วน้อยมาก ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้ยินเสียง หรือมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น  บางคนปั๊มลมไว้เต็มถังพอมาดูอีกครั้งแรงดันลมลดลงหรือลมหมดถัง เป็นอาการเดียวกันนะครับ

วิธีการตรวจเช็ค คือ ให้เอาฟองน้ำกับน้ำสบู่หรือน้ำผสมน้ำยาล้างจาน หรือน้ำผสมผงซักฟอก เอาฟองน้ำจุ่มน้ำสบู่แล้วเอาไปจี้ตรงข้อต่อทุก ๆ จุด จะมีฟองอากาศออกมาครับ แล้วค่อยถอดออกมา 

ส่วนวิธีการถอด คือ ถ้าตรงข้อต่อมีคราบแดง ๆ หรือออกเหลือง ๆ ให้ใช้ปืนเป่าลมร้อน เป่าละลายน้ำยาประสานเกลียว (บางคนเรียกน้ำยาล็อกเกลียว) แล้วค่อยใช้ประแจคลายออก ถ้ามีน้ำยาประสานเกลียวแล้วไม่เป่าลมร้อน จุดที่ไขออกจะแดกครับ แต่ถ้าข้อต่อไม่่มีน้ำยาประสานเกลียว ก็ไขออกได้ครับ

ส่วนวิธีการประกอบ คือ ใช้น้ำยาประสานเกลียว ทาเกลียวแล้วประกอบได้เลยครับ แต่ถ้าไม่มีน้ำยาประสานเกลียว ก็ใช้เทปพันเกลียว(สีขาว) พันเกลียว โดยการพันให้พันตามเกลียว อย่าพันย้อนเกลียว เวลาไขเข้าเกลียวจะแน่นสนิท

 ขอความรู้ปั๊มลมแบบ Oil Free ครับ

ผมต้องการซื้อเพื่อนำมาใช้กับปืนยิงตะปู f30 งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ชิ้นเล็กๆ ไว้ใช้งานในบ้าน

ควรใช้ปั๊มขนาด/ยี่ห้อไหนดี ต้องการแบบ Oil Free และในระยะยาวปั๊ม os มีข้อเสียอะไรบ้างครับ

 ตอบคุณโต้งนะครับ

ปั๊มลม Oil Free ข้อดี คือ เสียงเงียบมาก(แต่บางยี่ห้อไม่เงียบ ไม่ขอระบุชื่อยี่ห้อนะครับ) ไม่ต้องใช้น้ำมันในการหล่อลื่น ลมสะอาด(มีใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยา) และการดูแลรักษาไม่ยุ่งยากครับ

ถ้ามีงบก็ยี่ห้อ PUMA รุ่น OS-50 แต่ถ้างบมากหน่อยก็เพิ่มความใหญ่ของถังเป็น 90 ลิตร เพราะเผื่อไว้ใช้งานอื่นด้วย และถังยิ่งใหญ่ยิ่งดี ที่แนะนำยี่ห้อ PUMA เพราะมีการรับประกันที่แท้จริง เคลมง่ายไม่เรื่องมาก อะไหล่หาง่าย หาได้ยันชาติหน้า อุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบเป็นวัสดุที่มีคุณภาพดี (ผมถอดดูเทียบอะไหล่กับยี่ห้ออื่น ๆ ทุกชิ้นส่วน ดูภายนอกจะดูไม่ออก)

สนใจสอบถาม

ก็ติดต่อที่เบอร์ 098-3722809 หรือ ID Line t9773

เอาให้ตรงจุดที่สุดสำหรับปั๊มแบบ Oil Free ส่วนที่ต้องคอยสังเกตุ คือ  ตัว Solenoid Valve ครับ แม้แต่ของ PUMA เองก็ใช่ว่าจะทน อยากแนะนำที่ซื้อให้เหมือนกัน แต่เดี๋ยวจะหาว่าเป็นหน้าม้าอีก ลองหาจาก Google ดูละกัน 

ลองติดต่อคุณกั้งดูซิครับ ของดีแกมีเยอะ

ต้องการหาซื้อ ปั้มลม ขนาดไม่น้อยกว่า 148 ลิตร

- ปั้มแบบลูกสูบขนาดไม่น้อยกว่า 2 แรงม้า

- ใช้สายพาน

- ระบายความร้อนด้วยครีบระบายอากาศ

-แรงดันลมไม่น้อยกว่า 8-10 บาร์ หรือ 116-145 ปอนนด์

- มีอัตราการผลิตลมไม่น้อยกว่า 330.0 ลิตร/นาที

-มอเตอร์ปั๊มขนาดไม่น้อยกว่า 2แรงม้า

- ใช้แรงดันไฟฟ้า 380 โวลต์

- ความเร็วรอบของปั๊มลมไม่น้อยกว่า 650 รอบ/นาที

พอแนะนำได้ไหมคะ ว่าซื้อ ยี่ห้อไหนดี