อ่านเพลิน และได้ความรู้ดีครับ คุณยุ่น ไว้ผมปรับปรุง shop เรียบร้อยว่าจะลองทำเครื่องมือแบบรงมร่างบ้างเหมือนกัน 

ตอนนี้เรียกช่างไปดูที่ shop แล้วคงเริ่มปรับปรุงอาทิตย์หน้า ^^

 วันไหน คุณยุ่น จะไป สยามไฮเทค อีก ฝากโทรบอกนะครับ อยากไปดูด้วย ^^

จะไปเป็นผู้ติดตาม แล้วต้องจูงมือ คุณเหลียงไปด้วยนะเนี่ย.... ^^

ราคาไม่แพงเลย เสียดายอยู่ไกลไปหน่อย ไม่งั้นได้มีโปรคเจคเพิ่ม อิอิ

 เพิ่งจะรู้  ที่แท้อยูหลังบ้านผมเอง

 ดูดีๆ นะครับ แผนที่ที่ลงไว้กับแผนที่ใน Google มันไม่ตรงกันครับ    ในGoogle  บอกว่าอยู่เส้นนิมิตรใหม่

ขอบคุณ คุณถ้ำมอง ที่ท้วงติง เดี๋ยวผมดูแผนที่ใหม่ครับ

         แผนที่ที่ถูกต้องคือฉบับนี้ครับ

ขอบคุณครับ พี่จ็อด มีโอกาสผมขออนุญาตไปเที่ยวช็อป พี่จ็อด อีกนะครับ

ถ้าผมจะไปร้านสยามไฮเทคแล้วผมชวนพี่แน่นอนครับ แต่ถ้าพี่จะไปก่อน ในวันที่ผมไม่ติดงาน ผมยินดีไปด้วยครับ  แต่ผมเข้าใจว่าคุณ อาเหลียง คงจะไปร้านนี้บ่อยนะ

ถ้าคุณ prescott มากรุงเทพเมื่อไร ก็เข้าไปชอปปิ้งที่ร้านให้หนำไปเลยซิครับ

เพิ่งจะรู้ว่า สยามไฮเทค อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเลยแค่ 4 กม.ผ่านก็บ่อยแต่ไม่เคยสังเกตุ เลยช่วยหาพิกัด GPS ให้ตามนี้ครับ

N 13.85458 E 100.73158

 อ้าว พี่ M  อยู่แถวมีนบุรีหรือครับ  แทบจะพิกัดเดียวกับผมเลย     ผมอยู่ซอยหทัยราษฎร์ 8  ครับ

คงต้องหลังจากเดือนนี้แล้วครับ คุณยุ่น ผมไม่มีรีบร้อนครับ เพราะเดือนนี้คงวุ่นวายกับการปรับปรุง shop

ไว้ถ้า shop เรียบร้อยจะเชิญมาตัดริบบิ้นเปิด shop นะครับ  ^^

ไกลโครตเลย ผมไปราชบุรีเร็วกว่า

เสียดายนิดหน่่อย

 สอบถามคุณ pakae แถวราชบุรี  มีแถวไหนครับ  ช่วยบอกพิกัดหน่อยได้ไหมครับ  ขอบคุณครับ

งั้นเดือนหน้าค่อยนัดกันครับพี่ จ็อด

ส่วนตัดริ้บบิ้นน่ะ ผมมิบังอาจหรอกครับ  แต่ถ้าต้องการอย่างนั้นจริงๆในฐานะที่เป็นช็อปงานไม้ รบกวนเตรียมของให้ผมมาตัดริ้บบิ้นประมาณนี้ก็แล้วกัน

อ้อ... ไม่จำกัดยี่ห้อนะ 55555

มาต่อกันเรื่องชุดแขนรับไม้ครับ

ถ้าผมจะประกอบโดยเริ่มจากจุดนี้ ผมคิดว่าความยาวสูงสุดที่จะตัดไม้ได้มันจะน้อยไป

เพราะอลูฯมือสองที่ผมใช้ทำคานรับยาวแค่ 1.24 เมตร (ตอนนั้นหาไซส์ยาวได้แค่นี้ครับ ) แม้จริงๆแล้วก็ยาวพอสำหรับงานทั่วไปที่ผมเคยรับ แต่มีบางครั้งที่ผมต้องตัดไม้ยาวๆ ไม้ยาวสุดที่เคยบรรทุกมาเองก็ 3 เมตร ถ้ายาวกว่านั้นก็จะให้ร้านบรรทุกมาให้ครับ

ตัวช่วยเพิ่มความยาว

                               รางสไลด์ลิ้นชักครับ

การยืดรางฯกับคานจะยึดที่ด้านล่างของคาน

การกำหนดระยะยึด

ผมใช้วิธีการนำอลูฯขนาด 3 x 3 ซ.ม.มาแคล็มป์กับรั้วของเครื่องเลื่อยฯ โดยรองอลูฯด้วยไม้หนา 10 ม.ม. ( ไม้นี้ใช้แทนความหนาของ แผ่นไม้ที่ผมจะทำ zero clearance )  เมื่อกำหนดจุด,จัดการระยะที่จะยึดคานกับรางสไลด์ได้แล้ว ก็แคล็มป์กับอลูฯตัวแอลที่จะไว้ใช้ชนหัวไม้ครับ

เมื่อยึดที่จุดนี้ ความยาวสูงสุดที่ผมจะตัดได้โดยใช้แขนรับไม้ชุดนี้คือ 177.5 ซ.ม.ครับ ( หักความหนาของอลูฯตัวแอลสำหรับชนหัวไม้ไป 3 ซ.ม.)

ต่อไปจะเป็นวิธีการที่ผมใช้ยึดคานกับรางครับ

จากรูปใน ค.ห.120 จะเห็นช่องห่างระหว่างคานกับรางฯ ( ช่องกว้างเกือบๆ 1.5 ซ.ม.) จุดนี้ผมเสริมด้วยไม้เมเปิ้ลเพราะมีความแข็งใช้ได้ครับ โดยใช้ไม้ 2 ชิ้นประกบกัน 1 ชิ้นหนา 1 ชิ้นบาง ชิ้นหนาผมเลือกใช้แบบหนากว่าหัวสกรูเล็กน้อยตามรูปครับ

ของที่เตรียมไว้สำหรับใช้ยึดคานกับราง

ผมตัดไม้ให้ได้ความกว้างเท่ากับเหล็กชิ้นในสุดของชุดรางสไลด์ฯ แคล็มป์แล้วก็เจาะรูสำหรับยึดน็อต,สกรู ตามรูเหล็กครับ

ทดลองขันสรูเพื่อตรวจเช็ค

อีกด้าน

จากนั้นก็เจาะรูที่เหลือคือรูสำหรับชุดฟิตติ้งอลูฯ โดยผมเจาะรูทะลุที่ไม้ชิ้นหนา ให้ใหญ่กว่าหัวสกรูฟิตติ้งเล็กน้อย (ในรูปคือรูใหญ่) เพื่อให้หัวสกรูฟิ้ตติ้งจมลงต่ำกว่าผิวไม้ เพราะเมื่อจะประกอบยึด หัวสกรูจะไม่ได้โผล่ออกมาค้ำครับ

ทดลองใส่สกรูอีกครั้ง

ใส่ชุดฟิตติ้ง

ประกอบจริง

ช่องระหว่างอลูฯกับไม้ ( รูอลูฯทรงคางหมู ) จะเห็นเหล็ก นั่นคือสกรูฟิตติ้ง

ประกอบเสร็จ งานก็เลยครึ่งทางแล้วครับ ^_^

ตั้งระยะห่างระหว่างรั้วเครื่องเลื่อยฯกับชุดรางสไลด์ส่วนที่เหลือทั้งด้านซ้ายและขวา เมื่อขนานกันแล้วผมก็ยึดเกลียวปล่อยชุดรางฯกับพื้นแท่นครับ

เวลาถอดออกจากกันเพื่อเก็บ จะถอดได้แบบนี้ครับ

อ้อ....จริงๆแล้ว อลูฯตัวแอลสำหรับชนหัวไม้ก็รูดออกเพื่อเก็บได้ ส่วนที่เหลือผมไม่ได้ถอดครับ

รูปตอนถอดชุดแขนรับไม้ออกเพื่อเก็บแท่นเข้าที่ครับ

จะสังเกตุเห็นว่าชุดรางจะยาวพอๆกับหน้าแท่นวาง ด้านขวาเสมอขอบแท่น ด้านซ้ายยาวเกินขอบไป 6 .ม.ม ส่วนที่เกินนี้ผมจะทำสลักล็อคชุดรางฯกันรางเลื่อนเข้าเลื่อนออกตอนใช้งานมาสวม และแท่นทั้งชุดนี้ไม่มีส่วนใดยื่นเกินขอบฐานแท่นครับ เวลาเข็นเข้าเก็บจะได้ชิดผนัง ^_^

การประกอบเพื่อใช้งาน

ดึงเหล็กชิ้นกลางของชุดรางฯออกมาก่อน

เสียบเหล็กชิ้นในของชุดรางฯที่ยึดกับคานไว้แล้ว เข้าไปในร่องชุดรางฯจนสุด

พร้อมแล้วครับ

จากรูป

จะเห็นขาชุดรับไม้มีขาเดียว จริงๆแล้วจะมีสองขาครับ

สังเกตุอลูฯตัวแอลสำหรับชนหัวไม้ ค.ห.นี้ กับ ค.ห. 141 ครับ เวลาใช้งานก็เลื่อนไปที่ระยะที่ต้องการแล้วล็อคก็ใช้ได้แล้วครับ

อีกมุม

ไกสำหรับถอดชุดแขนรับไม้ (ชุดรางฯ) ออกจากกัน

ขารับ

แล้วผมจะลงรูปแผ่นรองตัด zero clearance  ของโปรเจค 1  นี้ในครั้งต่อไปครับ ^_^"

 ชอรมต่อ เหมือนดูงานประกอบหุ่นยนต์เลยครับ 

 รอชมครับ

ขอบคุณครับ คุณ toon

โปรเจค 1 นี้เหมือนหุ่นยนต์จริงเหรอ autobot หรือ decepticon ละครับ ^_^

อันนั้นคงไม่ได้ตัดริบบิ้นแล้วละ คงจะเอาไปตัดคนตัดริบบิ้นแทน ฮ่าๆๆๆ

เดี๋ยววันเปิดตัวเป็นเรื่องเป็นราวจะเชิญพวกเพื่อนมาเยี่ยมชม แล้วกันนะครับ.....

มารอชมผลงานต่อนะครับ คุณยุ่นนะครับ...

ก็ประมาณ เจสัน เรื่อง ศุกร์ 13 ฯ ไงครับพี่จ็อด 5555

มีคำถามถามผมเป็นการส่วนตัวมาหลายข้อ ผมเห็นว่าท่านที่ถามก็ถามมาเพราะจะสร้างเลย และท่านอื่นน่าจะได้รับทราบเผื่อเป็นประโยชน์ครับ

งบประมาณในการสร้างเครื่องดูดฝุ่น

เครื่องเป่าลม 650 บ. ไม้ mdf ที่ประกอบเป็นตู้ผมใช้ไม้ 20 ม.ม. แต่จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ไม้หนาขนาดนี้จะหนักซะเปล่าๆ ที่ผมใช้เพราะเป็นเศษไม้เหลือมาครับ ผมแนะนำว่า ใช้ 10 ม.ม. ก็พอ ราคาก็แผ่นละแค่ 205 บ. ( บางโพ ) ไม้โครงทำโครงถุงฝุ่นเบามัดละ 10 ตัว 270 บ. ผมใช้ไป 2-3 ตัว ตีเผื่อไปเลยว่าใช้ไป 100 บ. ไม้ที่เหลือในมัดก็เก็บไว้ใช้อย่างอื่นหรือจะแบ่งไม้ mdf มาตีเป็นโครงก็ได้ครับ ประหยัดดีด้วย ล้อ 4 ล้อ  ล้อละ 45 บ. รวม 180 บ. ส่วนผ้าทำถุงฝุ่นเบา ผมแนะนำว่าให้เลือกซื้อผ้าที่เหมือนธงตามปั๊มน้ำมัน ( ไม่ทราบชื่อเรียกเหมือนกันครับ ) ข้อต่อท่อประปาผมซื้อมานานมากๆแล้ว จำราคาไม่ได้ครับ  ส่วนท่อดูดฝุ่นผมซื้อแบบแพงเพราะเข้าใจเอาเองว่าแพงแล้วดี พอเอามาใช้ถึงได้รู้ว่ามันขาดง่าย  ความยาวตอนที่ซื้อ 4 เมตร มันขาดไปเรื่อยตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้างกลางเส้นก็เคย พันเทปจนอ่อนใจสุดท้ายก็เหลือตามที่เห็นในบางรูปนั่นแหละครับ เข้าใจว่าผมซื้อท่อมาใช้งานผิดประเภท ท่อที่ผมใช้มีเนื้อคล้ายซิลิโคนแกนในเป็นพลาสติกแข็ง ถ้าเจอก็เลี่ยงซะจะดีกว่าครับ

โครงสร้างภายในถังเก็บ

เรื่องนี้ผมจะถ่ายรูปมาลงเพื่ออธิบายในภายหลังครับ

ระบบดูดฝุ่นแจ๋วดีครับคุณยุ่น ผมว่าจะทำไซโคลนมาใช้ ยังไม้ได้ทำซักที ตอนนี้ใช้ระบบนี้อยู่ ดูดดีมากเสียแต่ว่าถอดไส้กรองไปล้างยากครับ

ระบบดูดฝุ่นแจ๋วดีครับคุณยุ่น ผมว่าจะทำไซโคลนมาใช้ ยังไม่ได้ทำซักที ตอนนี้ใช้ระบบนี้อยู่ ดูดดีมากเสียแต่ว่าถอดไส้กรองไปล้างยากครับ

ผมยังไม่เคยไปสยามไฮเทคเลยครับคุณยุ่น เพราะผมมันพวกโลว์เทค ถ้าจะไปอย่าลืมขวนกันนะ อลูมิเนียมโปรไฟล์ของใหม่ราคาเท่าไรครับ ท่าจะแพงน่าดู ขนาดของเก่ายังโลละ 190 บาทแน่ะ  ขนาด 30 x 30 มม.ที่คุณยุ่นใช้ถ้าคิดเป็นเมตรตกเมตรละเท่าไรครับ อลูมิเนียมที่ใช้งานกั้นห้องทั่วไป ของใหม่ราคาประมาณ 130-150 บาท/กก. เอง ถ้าเป็นของเก่าไม่น่าเกินโลละ 100 บาทครับ 

คุณจ๊อดปรับปรุง shop เสร็จต้องขอไปชมบ้างนะครับ 

5555 คุณ อาเหลียง นี่อารมณ์ขันดีจริงๆครับ

เครื่องดูดฝุ่นที่ผมทำมาใช้เป็นระบบ ใส่โคลน ไม่ใช่ ไซโคลน เหมือนที่คุณ อาเหลียง จะทำ ระบบไซโคลนที่ว่าผมไม่ไหวจะทำอ่ะครับ เลยทำแบบง่ายๆตามที่เห็น

ส่วน สยามไฮเทค ไว้ผมจะไปอีกเมื่อไหร่จะชวนคุณ อาเหลียง ไปด้วย เผื่อจะเป็นการช่วยอัพเกรดให้พวกเราไฮเทคขี้นครับ

อลูฯมือหนึ่งที่ผมเคยเช็คราคา ขนาด 30 x 60 ม.ม. ความยาว 4 เมตร ราคาประมาณ 4,000 ครับ  ราคาต่อเมตรระหว่างมือหนึ่งกับมือสองผมเคยเปรียบเทียบแล้วและก็ลืมไปเรียบร้อยแล้วเช่นกันแหะๆ  เอาไว้ผมจะจับชั่ง น.น. คำนวนราคาอีกเที่ยวแล้วค่อยกลับมาแจ้งให้ทราบนะครับ

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ทุกๆท่านครับ

มีอีกที่ๆผมเคยเห็นขาย อลูมิเนี่ยมโปรไฟล์ กับอะไหล่เครื่องมืออุสาหกรรม และ CNC มือ 2 ในเมืองแถวเลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทราที่นี่ครับ 

ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอ-รีไซเคิล กรุ๊ป

ที่อยู่  :  22,24,26 หมู่ที่ 1 ซอยรามอินทรา 34 (ถนนอยู่เย็น) แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230

http://www.po-recycle.com/product_303000_th

ขอบคุณครับ พี่เทอดศักดิ์

ไว้ผมตัองแวะเข้าไปดูที่ เอ-รีไซเคิล บ้าง เผื่อเจออะไรเด็ดๆครับ ^_^

มาต่อกันในเรื่อง zero clearance ครับ

ในรูปผมทำจุดนี้ไว้รอรับขาสำหรับแผ่น mdf ที่จะทำ zero clearance ครับ

ขารับแผ่น mdf ผมใช้เศษไม้สนมาตัดๆต่อๆเอาโดยแอบหวังว่ามันจะสวย คือสวยด้วยเศษ ก็คล้ายๆสวยด้วยแพทย์ ประมาณนั้นอ่ะครับ ^_^ ( ศัลยกรรมพลาสติก ) ผลที่ได้มันเลยออกมาแบบ.....สวยแปลกๆ

ด้านล่างของขารับ

ยึดเข้ากับฐานเครื่องเลื่อยฯ

มองจากด้านนอกครับ

ขารับฯอีกด้าน

ตัวหมุนล็อคองศาผ่านได้อย่างฉิวเฉียดเลยครับ

เอาแผ่น mdf ที่ตัดเตรียมไว้ลองพาดดูโอเคเลยครับ ได้ความแข็งแรงมั่นคงตามที่หวังไว้

ขอขยายควาจาก ค.ห. 167 ก่อนครับ

เนื่องจากฐานของเครื่องเลื่อย hitachi ตัวนี้มีความกว้างน้อยครับ ( ดูรูปที่ ค.ห. 121 ประกอบครับ ) ผมจึงจำเป็นต้องเสริมขารับแผ่น mdf ซึ่งกว้างกว่ามากไว้ ไม่เช่นนั้นเวลาที่ตัดไม้ที่มีหน้ากว้างมากๆ (เท่าที่เครื่องเลื่อยรองรับได้) ไม้ mdf ที่รองไม้อยู่จะยุบตัวบริเวณขอบที่ห่างจากแขนที่มีร่องรับใบเลื่อยครับ

แผ่น mdf ผมใช้ขนาด 40 x 120 ซ.ม.ครับ ที่ใช้ขนาดนี้เพื่อเตรียมไว้ใช้กับอุปกรณ์เสริมที่จะทำตามมาในภายหลังครับ

ครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องการประกอบแผ่น mdf ครับ

ต่อจากเมื่อวาน

ผมใช้ไม้ mdf  หนา 9 ม.ม. เป็นไม้รองตัด ซีโร่ฯ การตัดผมไม่ได้ตัดจน mdf ทะลุครับ โดยผมตั้งความลึก (ตัวตั้งความลึกการตัดตามรูป) ให้ใบกินลึกประมาณครึ่งนึงของแผ่นรองฯ

ปลายแผ่นรองฯด้านซ้ายกับคานรับฯมีความห่างกันเล็กน้อย ผมเสริมด้วยไม้เมเปิ้ลโดยเจาะรูสำหรับยึดด้วยฟิ้ตติ้งของอลูฯไว้ทั้งสองชิ้น เผื่อไว้สำหรับเลื่อนไปมาหรือถอดออกได้ครับ

มาถึงเรื่องการทำแผ่นรองตัด ซีโร่ฯ แผ่นรองฯนี้มีส่วนประกอบหลักๆอยู่ 2 ชิ้นครับ คือ แผ่นไม้ mdf ที่วางในแนวราบ กับ ไม้ที่วางในแนวดิ่งใช้เป็นรั้ว การทำไม้รั้วนี้ผมไสขอบไม้ไว้ด้านหนึ่ง เพื่อป้องกันว่าเมื่อผมประกอบเสร็จแล้วทำการเคลือบไม้ ยูริเทนที่เคลือบไม้รั้วในแนวดิ่งจะไหลลงมากองที่มุมฉากกับไม้ในแนวราบทำให้เมื่อเวลาจะตัดไม้ที่มีสันเหลี่ยมคมๆ ไม้ทีตัดจะไม่ชิดรั้วครับ 

ผมทำแผ่นรองฯ ทั้งหมดสองชุด จากไม้เต็มไซส์ 4 x 8 ฟุต เหลือสำรองไว้ 4 ชุด ไม้ที่ใช้ทำรั้วผมใช้ไม้หนา 15 ม.ม. ( ไม้เหลือในช็อป ) ซึ่งจริงๆแล้วจะใช้ไม้ 9 ม.ม. ก็ได้ครับ แต่ผมต้องใช้แผ่นที่สำรองไว้มาซอย นึกเสียดายเลยใช้ 15 ม.ม.แทน

การประกอบ ผมใช้กาวลาเท็กซ์กับแม็กซ์ลม

เมื่อไม้ยึดกันดีแล้ว ผมเจาะรูสำหรับยึดแผ่นรองตัดฯโดยใช้รูที่มีอยู่ที่รั้วเครื่องเลื่อยฯเป็นจุดอ้างอิง ในการนี้ผมเจาะไว้ 2 รู ซ้ายกับขวาครับ

อุปกรณ์สำหรับยึด ผมใช้สกรู + น็อตตัวหนอนฝังไม้ครับ

ตัวหนอนฯที่ผมมีเก็บไว้เป็นแบบมีบ่ากันจมเนื้อไม้ ผมเจียรบ่าออกเพื่อให้ฝังตัวหนอนให้จมพ้นผิวไม้ไป เวลาใช้งานจะได้ไม่มีการสะดุดที่จุดนี้ครับ

เมื่อยึดแล้วก็ทดลองตัดไม้ดูครับ

ร่องตัดซีโร่ฯที่ต้องการใช้

ผลการตัดครับ

ปกติไม้สนที่เห็นในรูปนี้เป็นไม้ที่ตัดแล้วจะมีการฉีกที่ด้านล่างของใบเลื่อยที่ตัด แต่เมื่อมีการรองไม้ไว้ด้วยปัญหาการฉีกของไม้ก็จะหมดไปตามที่เห็นในรูปครับ

ประโยชน์อีกอย่างของแผ่นรองตัดฯนี้คือการวัดระยะเพื่อตัดครับ เมื่อจะทำการหาระยะตั้งรั้วชนหัวไม้ก็ใช้ตลับเมตรวัดจากรั้วฯมาที่ร่องใบเลื่อยได้เลย ที่ร่องใบเลื่อยมีเส้นสองเส้นถ้ารั้วอยู่ทางซ้ายก็วัดจากรั้วฯมาที่เส้นทางซ้าย ถ้ารั้วอยู่ทางขวาก็วัดเส้นขวาครับ

หลังจากทดสอบแล้วผมเคลือบผิวด้วยยูริเทนครับ

การเคลือบฯนอกจากป้องกันแมลงและเชื้อราแล้ว ประโยชน์อีกอย่างสำหรับผมคือกันหยดเหงื่อได้ดีมากครับ

เมื่อแห้งดีแล้วก็จัดการทำจิ๊กฯสำหรับล็อคตำแหน่งวางแผ่นรองตัดฯ ผมใช้ด้านในของไม้ที่เป็นขารับแผ่นรองตัดฯเป็นตำแหน่งวางจิ๊กฯครับ

จิ๊กไม้ที่เพิ่มเข้าไป

จิ๊กไม้ที่เพิ่มเข้าไป

จิ๊กไม้ที่เพิ่มเข้าไป

จิ๊กไม้ที่เพิ่มเข้าไปทั้งหมดเป็นการยึดกับแผ่นรองตัดฯนะครับ

การติดจิ๊กฯผมใช้กาวร้อนหยดที่จิ๊กเล็กน้อยแล้วค่อยไปติดตามตำแหน่งต่างๆ จากนั้นก็ยึดด้วยเกลียวปล่อยจากด้านบนอีกทีครับ

อีกด้าน

เพราะไม้ mdf หนาเพียง 9 ม.ม. แล้วยังมีรอยผ่าอีก ผมจึงเสริมความแข็งแรงด้านบนด้วยไม้ mdf ซ้อนๆกันเป็นก้อน 4 เหลี่ยม

ด้านล่างของแผ่นรองตัดฯ

พร้อมใช้งานได้ในระดับนึงแล้วครับ ^_^"

ครั้งต่อไปจะเป็นเรื่อง อุปกรณ์เสริมของแผ่นรองตัด,ฮูดดูดฝุ่นเครื่องเลื่อยฯครับ

ชอบไอเดีย ที่ทำ Zero Clearance จัง เด๋วผมจะไปทำบ้าง 
ขอบคุณพี่ยุ่น ที่แบ่งปัน ไม่ได้ก๊อปนะ
แค่นำไปเป็นแนวทางเฉย ๆ ฮี่ ๆๆๆๆ

ดีครับ คุณนัทคุง ทำใช้เลย ผมโชว์เพื่อยั่วยวนให้ทำอยู่แล้วครับ  (ทำซีโร่น่ะ5555)

คุณ นัทคุง ใช้เครื่องเลื่อยฯยี่ห้อ ม.ก.ต.  ผมไม่แน่ใจว่ามีจุดสำหรับยึดจิ๊กฯแบบเป็นรูๆที่ฐานเครื่องเลื่อยฯหรือไม่ ถ้าไม่มีคงต้องสร้างจุดฯในแบบที่เหมาะกับเครื่องเลื่อยฯของคุณเองเหมือนที่ผมก็ต้องสร้างเหมือนกันครับ

ปล.คำว่า ก๊อป,ก๊อป***,ลอกเลียน,เลียนแบบ ถือเป็นคำไม่สุภาพของนัก diy เราใช้คำว่าต่อยอดกันจะดูดีกว่าเนอะๆ...ผมใช้บ่อยๆน่ะ

ขอเสริมเรื่องประโยชน์ของ ซีโร่ฯอีกข้อครับ

ในกรณีที่วาดเส้นที่จะตัดบนไม้ เราสามารถใช้เส้น ซีโร่ฯแทน เลเซอร์ไกด์ ได้เหมือนกันครับ

ซีโร่ฯเทียบกับเลเซอร์ไกด์

ดีทั้งคู่ครับแต่โดยส่วนตัวผมชอบซีโร่ฯมากกว่าเพราะผมสามารถดูและเล็งง่ายกว่า คงเพราะตามอายุมังครับ

รั้วชนหัวไม้อันนี้ผมใช้ชั่วคราวไปก่อนครับเพราะมีงานตัดที่จะใช้ทันที เดี๋ยวว่างจากงานผมค่อยทำรั้วดีๆใช้ครับ

ต่อไปเป็นเครื่องดูดฝุ่นตามที่เคยบอกไว้ว่าจะนำรูปภายในมาลง เพราะมีผู้สนใจทำใช้หลายท่านผมขออนุญาตนำมาขั้นรายการก่อนที่จะไปถึงเรื่องฮูดเครื่องเลื่อยฯกับอุปกรณ์เสริมแผ่นรองตัดฯนะครับ

เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้ผมทำไว้ใช้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ครั้งนี้ผมจึงขออนุญาตบรรยายสิ่งที่ควรจะเป็นในการสร้างถังเครื่องนะครับ ถือเสียว่าเป็นแนวทางเพราะในการประกอบถังและถุงฝุ่นเบานั้นง่ายมากๆครับ

ตามรูปจะเห็นว่าผมได้ใช้ถุงดำรับขี้เลื่อยไว้

ถุงดำยังมีประโยชน์ในการเป็นตัวกันอากาศเข้ามาอีกชั้นหนึ่ง แต่การประกอบถังเก็บเศษขี้เลื่อยรอยต่อไม้ก็ควรจะสนิทกันพอสมควรนะครับ เผื่อไว้ว่าถ้าถุงดำรั่วตัวถังเก็บขี้เลื่อยก็ยังสามารถกันอากาศเข้าได้ดีครับ สาเหตุที่ผมต้องกันไว้ถึงสองอย่าง เนื่องจากถ้าอากาศสามารถเข้าจากทางอื่นได้นอกเหนือจากทางท่อแล้ว แรงดูดจะหายไปตามขนาดของรอยรั่ว รอยรั่วยิ่งมากแรงดูดยิ่งน้อยครับ

                                        ต่อหน้า 3