ReadyPlanet.com


งานไม้... ที่เป็นเรื่องราวมาจากแรงบันดาลใจ +++ ช็อปงานไม้ในฝันของผม เริ่มแล้วที่หน้า 4
avatar
เทอดศักดิ์(M)


user image

Season 1

  Episode I:  กำเนิดงานไม้ (ของผม)

       ย้อนไปประมาณกลางเดือน มีนาคม 2553 เมื่อชีพจรลงเท้า ต้องย้ายที่อยู่ใหม่ มีเงินเก็บเล็กน้อย จึงมีความตั้งใจว่าจะสร้างโรงรถเชื่อมต่อกับบ้าน ที่สามารถเก็บของต่างๆไว้ในโรงรถและมีประตูโรงรถที่สามารถเปิดปิดให้รถเข้าออกได้ทั้งบาน (Garage Door) เมื่อเวลาทำงานในโรงรถจะได้เปิดให้แสงเข้า และลมสามารถผ่านสะดวกเพื่อลดความร้อน เวลาเลิกใช้ก็สามารถจอดรถแล้วปิดโรงรถเพื่อกันขโมยได้ด้วย
        เนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศบ่อยและช่วงที่ไปเยี่ยมลูกสาวที่เรียนอยู่ที่อเมริกาได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากเอากลับมาทำที่บ้านเราบ้าง และ
เป็นแรงบันดาลใจให้มาสนใจงานไม้ จึงได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับ DIY งานไม้  จากที่ได้ลดเวลาการเล่นกอล์ฟให้น้อยลงบ้างเพราะสังขารไม่ค่อยให้เนื่องจากเป็นโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม จึงเริ่มจากการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับ Woodworking ทางอินเตอร์เน็ต เนื่องจากอินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งความรู้ที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในยุคนี้ ค้นไปค้นมาก็ได้ข้อมูลมามากมาย ทั้งหนังสือ แมกกาซีน และวิดิโอ ให้อ่านและดู

        
*** ช็อปงานไม้ในฝันของผม (My dream works wood shop) เริ่มแล้วที่หน้า 4 ครับ ***



ผู้ตั้งกระทู้ เทอดศักดิ์(M) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-30 16:07:11


« 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 »

ความคิดเห็นที่ 801 (3006192)
avatar
ชัยฤกษ์

 ราคาที่ว่ามานี่รวมค่าขนส่งแล้วใช่ไหมครับ

แล้วส่งมาทางไหนครับ รถ/เรือ ผ่านทางเชียงของ เชียงรายหรือเปล่าครับ

พี่เอ็มพอจะมียี่ห้ออื่นแนะนำไหมครับ งานจีนสวยๆแบบนี้ที่ราคาย่อมเยาลงมาซักประมาณ1000usd

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัยฤกษ์ (chailerkb-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-24 15:08:34


ความคิดเห็นที่ 802 (3006193)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     มาทางเรือเดินทะเลครับรวมหมดแล้ว ราคาที่ว่าประมาณๆเอานะครับราคานี้ ก็กว่า 1 ปีแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง เท่าที่เคยดูมาจะมีของ UNION ONE ของไต้หวัน งานใช้ได้พอกัน แต่ไม่มีตัวแทนแล้ว ที่เหลือไม่เคยเห็นเข้าตาสักยี่ห้อ(ที่มาจากจีน)

    ที่จริงยังมีของ JET ที่เป็น Cabinet Saw อยู่อีกตัวคือ JTS-600X-M เคยไปดูตัวจริงมาแล้วที่ Thaicarpenter นครปฐม เป็นโต๊ะมาตรฐานยุโรป ใช้ได้เลยงานเนี้ยบ บึกบึน เห็นขายอยู่ 50K กว่าๆ(เดิม ต่ำกว่า 50K) ถ้าไม่คิดจะใส่ใบ Dado ตัวนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกทาง มีตัวแทน มีประกัน มีอะไหล่ คุณภาพดี คุณสมบัติเหมาะกับการตัดไม้อัดแผ่นใหญ่ด้วย เพราะมีแท่นสไลด์ .....ที่สำคัญ Thaicarpenter.com ..... ขายครับ

    http://www.thaicarpenter.com/เครื่องจักรงานไม้-JET/Table-Saw/Panel-saw-230V-แท่นเลื่อย.html

    ผมเข้าใจครับว่าเลือกยาก แต่ควรตั้งงบไว้ก่อน ไม่งั้นจะทำให้ยิ่งเลือกยากเข้าไปอีก ต้องเอางบเป็นหลักก่อนแล้วดูเฉพาะที่อยู่ในงบ แล้วค่อยๆตัดตัวที่ไม่ชอบออก วันหน้าถ้าสะสมทรัพย์ไว้ได้พอ ก็เปลี่ยนให้ดีขึ้นได้ครับ ผมก็ไม่ได้เริ่มจากฮาร์วี่ย์เลย ใช้ Makita มาเกือบ 3 ปีจนพอมีเงิน และมีช่องทางจัดหามาได้ ก็เอาตัวใหญ่ที่จบเลย แล้วก็ขายตัวเก่าให้น้องๆไป

    ถ้ามีงบเกิน 60K เอาฮาร์วี่ย์ตัวใหญ่ (ไม่แนะนำตัวเล็ก)ไปเลย แต่ถ้ามีสัก 50K ก็เชียร์ JET JTS-600X-M ครั้งเดียวจบ ถ้ามี 24K ก็น่าจะดู BOSCH GTS10xc + ขาตั้ง GTA600 อีก 9K ด้วยก็ได้

    ส่วน BOYE นี่ถ้าได้คุยกับคุณ Weerapol Tharach หรือคุณ paisal อีกท่านที่ใช้มานานแล้ว ถ้าชอบก็ฟันธงเองเลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-07-24 16:32:29


ความคิดเห็นที่ 803 (3006198)
avatar
ชัยฤกษ์

 ขอบคุณมากๆครับ

เดินตามหลังผู้ใหญ่ ...ไม่กัด  ขอเก็บเงินสักพักก่อนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัยฤกษ์ (chailerkb-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-24 17:33:06


ความคิดเห็นที่ 804 (3006199)
avatar
ชัยฤกษ์

น่าเชื่อถือขนาดไหนครับ

http://trailer.co.th/Riving-Knife-Table-Saw-HW110HB-30/AL/9599

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัยฤกษ์ (chailerkb-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-07-24 18:20:21


ความคิดเห็นที่ 805 (3006202)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

      น่าจะเป็นร้านเดียวกันกับที่ผมเคยถามราคาไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่ผมกำลังหาว่ามีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยหรือเปล่า (แต่คนละชื่อกัน) เขาเคยเสนอราคารุ่นที่ผมสั่งมาใช้ในราคา 105,000 บาท แต่ถามแล้วก็ไม่มีของให้ดู ไม่มีสต๊อค (น่าจะไม่ได้ทำธุรกิจขายเครื่องมืองานไม้โดยตรง) จึงไม่มีอะไหล่ ไม่ได้รับซ่อมแซม (น่าจะแค่รับจ้างสั่งเครื่องจักรให้อย่างเดียว แต่จะได้ของหรือเปล่าไม่ทราบนะครับ) แล้วก็ต้องจ่ายเงินก่อน 100% แล้วรอ 3 เดือนครับ ยังจำได้แม่น

      ร้านนี้เขาน่าจะมีเว็บเป็น สิบๆชื่อนะครับ ก็ไม่ทราบวัตถุประสงค์เหมือนกันว่าทำไมถึงได้มีเป็นสิบๆเว็บ (ทั้งชื่ออังกฤษและไทย) จึงคิดว่าไม่ต่างกับการสั่งเข้ามาเองคือต้องเสี่ยงเหมือนๆกัน เลยในที่สุดหาทางสั่งเข้ามาเองเลย เพราะผมสั่งของต่างประเทศเยอะอยู่แล้วโดยเฉพาะจะต้องสั่งสินค้าให้ ผบ.ทบ.เป็นประจำมีเพื่อนทางธุรกิจที่เมืองจีน จึงให้เขาช่วยเป็นธุระให้ ถามว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญานของท่านเองนะครับ คงตอบแทนไม่ได้เพราะผมก็ไม่เคยสั่งของจากเขานะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-07-24 19:23:37


ความคิดเห็นที่ 806 (3007425)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

Update ข่าวจากความเห็นที่ 796:

    จากที่ผมเคยเล่าเรื่องที่ขำไม่ออกในความเห็นดังกล่าวตอนนี้ได้คำตอบแล้ว ......เรื่องเดิมจากตอนที่แล้ว .....


   มาต่อท้ายสักนิด วันนี้มีเรื่องขำๆ แต่ก็ฝืนขำจริงๆ เพราะต้องไปเสียภาษีนำเข้าที่ ปณ. เนื่องจาผมสั่งกบ Veritas มาอีก 2 ตัวคือ 1.Bullnose Plane กับ 2.Edge-Trimming Plane (Right Hand Model)

   ท่านศุลกากรประเทศไทยคิดอัตราภาษีศุลกากรสินค้าเป็นอะไรท่านทราบไหมครับ ผมละขำทั้งน้ำตาเลย ท่านคิดภาษีในอัตรา 20% เพราะท่านแจ้งว่าภาษีสินค้าเป็น Model หรือ ของจำลองครับ แทนที่ท่านจะตีเป็น Plane คือกบ ซึ่งเป็นเครื่องมือช่างจะมีอัตราภาษีศุลกากรที่ 10% ครับ(โดยปกติศุลกากรท่านจะดูที่ Invoice/ Packing List ที่แปะมาหากส่งมาจากประเทศที่ใช้รหัส Harmonize เหมือนกันเช่นอเมริกา ซึ่งจะพิมพ์รายละเอียดและรหัสสินค้ามาชัดเจน)

    ส่วนอีกกล่องที่มาพร้อมกับกล่องแรกเป็น Lie-Nielsen 212 Scraping plane ซึ่งเป็นกบเหมือนกัน แต่ก็คิดอัตราภาษีถูกต้องคือแจ้งว่าเป็น Plane คิด 10% ผมก็เลยเสียภาษีเแค่กล่องเดียวและนำกลับมาบ้าน แต่ด้วยความอยากรู้ จึงเหลือบดูชื่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่เป็นผู้คิดภาษีทั้ง 2 กล่องเป็นคนละคนกันครับ  

   ถ้าเพื่อนๆจะหัวเราะก็ได้นะครับ แต่ผมหัวเราะไม่ออกจริงๆ  สุดท้ายผมโต้แย้งไปยังไม่ยอมจ่ายครับ แม้ว่าจะไม่ใช่เงินมากมายแค่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 950บาท แต่ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้องแม้ว่าจะต้องรออีก 3 สัปดาห์ตามที่น้องที่ ปณ.บอกมา แล้วก็อธิบายไปในคำร้องคัดค้านว่าสินค้าคือ Planeไม่ใช่ Model และคำว่า Right Hand Model ที่ Label มันหมายถึงรุ่นของกบสำหรับคนถนัดขวา ไม่ใช่ Model ที่แปลว่าของจำลองนะครับท่านศุลกากร...จบแล้วครับ


     ........ ผลปรากฏได้ข้อสรุปว่า กรมศุลกากรยอมแก้ไขอัตราภาษีศุลกากรให้ใหม่จากที่คิดเป็น model ในอัตราภาษี 20% ลงมาเป็น Plane ในอัตราภาษี 10% ตามความเป็นจริง

   แม้ว่าจะทำให้ผมต้องเสียเวลาไปบ้าง แต่เพื่อความถูกต้องและเป็นกบของผมเองไม่ได้รีบร้อนอะไรจึงรอได้ โดยใช้เวลาไปอีก 3 สัปดาห์ (ตามที่ ปณ.บอกไว้จริงๆ) ผมก็ไม่ทราบขั้นตอนว่าทำไมถึงใช้เวลาในการพิจารณานานนัก สุดท้ายเรื่องนี้ก็จบลงด้วยความถูกต้องและเป็นธรรมครับ เป็นอันว่าผมได้กบ Veritas อีก 2 ตัวมาไว้ในอ้อมกอดแล้วครับ

     พูดถึงเรื่องกบทีไรทำให้อดที่จะคิดถึงคุณ i3ird ไม่ได้จริงๆ แนะนำว่าถ้าใครยังไม่เคยไปช็อปงานไม้ของคุณ i3ird ละก็อย่าไปนะครับ(ให้ผมไปคนเดียว) เพราะเมื่อได้ไปเห็นฝูงกบ Veritas กว่า 30 ชีวิตของแกแล้ว อาจจะกระเป๋าฉีกถึงตาตุ่มเหมือนผมได้นะครับ ทั้งๆที่เลือกเอาเฉพาะที่จะมาใช้กับงานไม้ของผมในอนาคตก็ยังไม่ถึง 1 ใน 3 ของคุณi3ird เลยจริงๆนะไม่ได้พูดเล่น

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-08-21 13:59:14


ความคิดเห็นที่ 807 (3007463)
avatar
วรายุทธ

 เยี่ยมเลยครับ เผื่อมีปัญหากับสินค้าที่ผมสั่งเข้ามา จะได้จำไปใช้ครับ 

 

ขอบคุณครับ ^^

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรายุทธ (vvaravara-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-08-21 22:19:16


ความคิดเห็นที่ 808 (3007657)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     ปกติในช่วงวันหยุด ผมจะไม่ได้ทำงานไม้ด้วยเครื่องมือที่ใช้ไฟฟ้าอยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากที่ผมได้กบ Veritas มาเพิ่มอีก 2 ตัว เลยได้ฤกษ์เอาออกมาลับใบเสียใหม่ให้คมกริบถึงใจ ด้วยจิ๊กลับใบกบของ Veritas รุ่นยอดนิยม MK.II กับหินลับ Naniwa ขนาด 800 1200 และ 4000grit  รวมถึงก็ได้มีโอกาสได้ลับสิ่ว Nicholson ทั้งชุดอีก 7 เล่ม และยังได้ลับใบกบชาวบ้าน (ที่เป็นกบตัวแรกของผมด้วย) โดยใช้เวลาไปครึ่งวัน สุดท้ายก็ได้ทั้งใบกบและสิ่วที่คมกริบดังใบมีดพร้อมใช้งาน

     หลังจากที่ต้องหยุดงานไปหลายเดือนเพื่อหาเงินมาจุนเจือ ก็ได้ฤกษ์ที่ผมจะต้องเริ่มทำงานที่คั่งค้างไว้ให้เสร็จเสียที ทั้ง Greenhouse ตู้ซิ้งค์ล้างชาม เปลี่ยนขอบวงกบตู้ครัวด้านล่างทั้งหมดที่โดนปลวกมายึดครองไป ทำไปแล้ว 1 ใบ ยังเหลืออีก 2 ใบ และสุดท้ายก็คือสร้างช็อปในฝันของผมต่อให้เสร็จ เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 4 เดือน ก็จะครบกำหนดที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะทำให้เสร็จ หลังจากที่ล่าช้ามาแล้ว 6 เดือน

    ผมได้ย้อนกลับไปดูบันทึกงานสร้างช็อปที่ได้หยุดไปตั้งแต่ได้น้องฮาร์วี่ย์ และน้องเคร๊กมา ก็เกิน 1 ปีแล้ว(แต่ผมก็ยังใช้งานอยู่จนทุกวันนี้ แม้จะยังไม่ได้ปิดผิวหน้าท็อปโต๊ะและลิ้นชักก็ตาม)

    งานสร้าง Greenhouse เป็นงานแรกที่ทำต่อ หลังจากที่ได้ทำโครงไว้ด้วยเหล็ก 2 เดือนมาแล้ว เนื่องจากผมรอทำกระบะปลูกผักใน greenhouse อยู่จนแล้วจนรอดก็ยังคิดไม่ตกว่าจะใช้ไม้อะไรมาทำดี ในที่สุดผมก็เปลี่ยนใจเลือกใช้อิฐดินเผาก้อนที่ใช้ในสวนแทน เนื่องจากมันสามารถนำมาซ้อนกันและสามารถที่จะะล็อคกันไปในตัวสามารถทำเป็นกระบะเอาไว้ปลูกผักได้เป็นอย่างดี ซึ่งผมใช้งบประมาณไปประมาณ 3,000บาท ที่คิดแล้วว่าก็น่าจะดีกว่าเอาไม้ หรือแผ่นไม้เชอรามาทำ เพราะหากต้องการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ผมก็ยังสามารถที่จะรื้อเอาไปใช้งานในสวนได้ อีกทั้งอิฐดินเผานั้นน่าจะเย็นกว่าวัสดุอื่นที่เอามาทำที่ปลูกต้นไม้น่ะครับ

     หลังจากที่ได้กระบะสำหรับปลูกผักแล้ว ก็ได้ฤกษ์ที่จะคลุม greenhouse ด้วยมุ้งและหลังคาพลาสติคใสชนิดทนUV เสียที ส่วนการยึดมุ้งและหลังคาผมตัดสินใจใช้ไม้สักทั้งหมดเป็นตัวยึด และช่วยปิดขอบให้ดูสวยงามเหมือนสร้างด้วยไม้ไปด้วยในตัว เพราะคิดแล้วว่าไม้สักน่าจะทนแดดทนฝน และการผุกร่อนได้ดีที่สุดในกระบวนไม้ทั้งหมด

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-08-27 10:51:46


ความคิดเห็นที่ 809 (3007658)
avatar
paisal

 ถือว่าคุณเอ็มลับได้เร็วนะครับ ถ้าเทียบกับผม เพราะผมลับสิ่วได้เล่มหนึ่งก็มานั่งกินกาแฟอยู่ชั่วโมงแล้วไปลับต่อ...

ผมก็จะเริ่มงานไม้อีกครั้งเช่นกัน หลังจากหยุดไปปีกว่า เอาโต๊ะเลื่อยมาปัดฝุ่นปรับแต่งใหม่ เลยพบอีกว่าตัวแผ่นท้อป(เหล็กหล่อ) โก่งอยู่เป็นแนว

ยาวตามร่อง T slot  ทั้งสองร่องซ้ายขวา  ถ้าใครจะซื้อต้องเช็คจุดนี้ดีๆหน่อยครับ  

 ป.ล. คุณเอ็มยังมีตัวช่วยเจาะรูบานพับอยู่อีกบ้างมั้ยครับ (เพื่อให้ยึดตะปูเกลียวเข้ากลางรูพอดี) ผมหาลิ้งค์ที่เคยลงขายไม่เจอครับ...

ผู้แสดงความคิดเห็น paisal วันที่ตอบ 2014-08-27 11:42:00


ความคิดเห็นที่ 810 (3007670)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

คุณpaisal

     ดีครับจะไม้ได้เรื้อเวที ส่วนผมก็ยังไม่ค่อยก้าวหน้ามากนักเพราะคิวยาว แต่ตอนนี้ก้ได้โอกาสกลับมาทำต่อ กะว่าให้เสร็จสัก 80% ของที่ตั้งใจไว้ก็พอใจแล้วครับ

     เรื่องลับใบกบและสิ่วนั้น ผมว่าจิ๊กลับใบกบ/สิ่วของ Veritas รุ่น MK.II มันดีตรงที่มีลูกกลิ้งใหญ่เต็มหน้าหินลับ และสามารถที่จะลับคมที่ 2 (2nd Bevel) ได้ง่ายแค่หมุนลูกเบี้ยวที่ลูกกลิ้งเท่านั้น ไม่ต้องเอาออกมาตั้งองศาใหม่เพื่อลับคมที่ 2 น่ะครับ  

     ก่อนหน้านี้ผมลับใบกบมาหลายอันแล้วเลยทำให้ชำนาญขึ้น เพราะกบ Veritas และ Lie Nielsen ทั้ง 10 ตัวที่ผมซื้อมาก่อนหน้านี้ ผมจัดการลับมันไปทุกใบแล้ว แม้ว่าโรงงานเขาจะลับมาแล้วด้วยเครื่อง แต่ผมก็จัดการลับเองด้วยมือเพิ่มให้มันคมยิ่งขึ้นครบทั้ง 10 ตัว ส่วนใหญ่ผมจะซื้อใบกบเป็นเหล็ก A2 มาทำให้ลับไม่ยากนัก แต่มี 2 ใบที่เป็น O2 ลับง่ายสุด และอีก 2 ใบเป็น PM-V11 ที่แข็งและลับยากที่สุด

   ส่วนหินลับผมก็ใช้ของ Naniwa ที่คุณภาพดีมาก ทำให้ลับคมได้ง่ายและเร็ว นอกจากนี้เมื่อผมลับไปสัก 2-3 ใบก็จะมาปรับผิวหน้าของหินลับทุกครั้งด้วย Flattening stone ของ Norton เพื่อที่จะทำให้หน้าหินลับเรียบเท่ากันตลอดเวลา เวลาลับมันจะลับได้คมเสมอกันเท่ากัน เนื่องจากหน้าหินจะสึกตรงกลางๆ เมื่อเราลับไปแล้วสัก 2-3 ใบ คุณpaisal ลับบ่อยๆเดี๋ยวก็ชำนาญเองแหละครับ

   เรื่องพื้นโต๊ะเลื่อยโก่งนี่มันเป็นมาตั้งแต่ตอนที่ซื้อมาหรือมันเพิ่งจะมาโก่งทีหลังล่ะครับ มันไม่น่าจะโก่งง่ายๆเพราะมันค่อนข้างหนานะครับ ส่วนดอกเจาะรูบานพับของ Snappy หมดนานแล้วครับ (ข้อมูลตามลิ้งค์ รายการที่ 25 ความเห็นที่ 114)  ผมสั่งมาแค่ 2 ชุดใช้อยู่ 1ชุดและขายไปแล้ว 1ชุด เอาไว้เดือนหน้าผมจะเอาเครื่องมือหลายอย่างเข้ามาตอนนี้สะสมไว้ให้ได้เต็มกล่องก่อนค่อยเอาเข้ามา จะสั่งมาเผื่อให้นะครับ

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=6&Category=thaicarpentercom&thispage=2&No=1448199&anspage=3

  

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-08-27 16:00:03


ความคิดเห็นที่ 811 (3007799)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

EPISODE พิเศษ: เรือนปลูกต้นไม้กันแมลง (Greenhouse) 

      เนื่องจากแปลงผักสวนครัวเดิมของผมถูกแมลงรบกวนมากจนแทบจะไม่ได้ผลผลิตเลย และผมได้ปลูกผักไร้ดินมานานพอสมควรแล้วโดยกางมุ้งให้กับแปลงผักจนได้ผลผลิตเพียงพอที่จะกินไปได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องซื้อหาเลย และก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัย เพราะผมไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลงใดๆเลย

     ทำให้ผมเริ่มคิดที่จะทำเรือนปลูกต้นไม้กันแมลง ขึ้นมาทดแทนแปลงผักสวนครัวเดิม ดังนั้นผมจึงเริ่มโครงการก่อนด้วยการปรับผิวดิน ถมทราย ปูแผ่นพลาสติคกันหญ้า และปูอิฐตัวหนอนทับแปลงผักสวนครัวเดิมไปเลย จากนั้นจึงเริ่มการออกแบบโครงสร้างและวาดแบบแปลนลงบนคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรม Sketchup ทั้งนี้การออกแบบของผมจะขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ๆมี สัมพันธ์กับขนาดหน้ากว้างของตาข่ายหรือมุ้งกันแมลง และหลังคาพลาสติคกัน UV อีกทั้งยังต้องเหมาะสมกับความยาวของเหล็กที่ยาวท่อนละ  6เมตร เพื่อที่เมื่อตัดจะได้ไม่มีเศษเหลือมากนัก เหตุที่ผมเลือกใช้เหล็กเป็นโครงสร้างแทนไม้ก็เพราะ เหล็กมีความแข็งแรงกว่าไม้ในขนาดความหนาที่เท่ากัน และไม่ผุพังหากทาสีเคลือบไว้ให้ดี

     ผมเลือกใช้เหล็กกล่องขนาด 1"x1" มาเชื่อมต่อกันเป็นโครง แทนที่จะใช้ไม้เนื่องจากว่าไม้จะผุได้ง่ายเมื่อต้องตากแดดตากฝนตลอดเวลา และราคาแพงกว่าเหล็กมากอยู่ ผมนำเหล็กมาตัดด้วยเครื่องตัดไฟเบอร์ให้ได้ขนาดต่างๆตามแบบที่คิดไว้ ทั้งนี้เนื่องจากว่า ผมเคยมีประสบการณ์ตั้งแต่ครั้งที่ทำเรือนเพาะผักไฮโดรโฟนิค หรือผักที่ปลูกโดยไม่ใช้ดินนั่นเองว่าขนาดหน้ากว้างของตาข่ายกับหลังคาพลาสติคจะเท่ากับ 3 เมตร

     โครงเหล็กที่ผมทำ (ที่จริงแล้วมีผู้ใหญ่ที่ชำนาญการเชื่อมมาช่วยผมทำด้วย ไม่ได้ทำคนเดียว) จะมีด้านยาวๆประมาณ 2.90 เมตร และมีความกว้าง 2.30 เมตร ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถที่จะกางมุ้งครอบจากพื้นด้านข้างจากด้านหนึ่งไปยังพื้นอีกด้านหนึ่งโดยครอบโครงหลังคาได้เลย เพื่อให้มันเป็นผืนเดียวกัน ลดรอยต่อให้น้อยที่สุด เนื่องจากเมื่อเป็นผืนใหญ่จะมีปัญหากับลมมากขึ้น โดยเฉพาะกับหลังคาพลาสติคด้านบนที่อาจต้านลมได้มาก

      

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-08-30 18:33:43


ความคิดเห็นที่ 812 (3007802)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      หลังจากที่เชื่อมเหล็กเป็นโครงเสร็จซึ่งผมใช้เวลาไปประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เริ่มทำการขัดเหล็กและลงสีกันสนิมไป 3 รอบเพื่อให้มันเกาะเหล็กได้ดีขึ้น เมื่อสีกันสนิมแห้งดีแล้วจึงลงสีจริงสีขาวอีก 3 รอบโดยแต่ละรอบก็ลูบด้วยกระดาษทรายน้ำทุกชั้น และตาดแดดทิ้งไว้โดยใช้เวลาไปอีกประมาณ 3 วัน

      จากนั้นก็ตากแดดตากฝนรอผมตัดสินใจเรื่องทำกระบะปลูกผักไปอีกเกือบ 2 เดือน จนได้มาเริ่มขั้นตอนการมุงตาข่ายและทำหลังคาไปพร้อมๆกัน โดยที่ผมเลือกใช้ไม้สักที่ใช้ปิดขอบไม้ขนาด 1นิ้ว มาทำเป็นตัวยึดตาข่ายและหลังคาพลาสติค โดยตั้งใจว่าจะยึดด้วยซิลิโคนใสกับสกรูเกลียวปล่อยสเตนเลสขนาด 1" เพื่อให้สามารถยึดได้ดี และไม่เป็นสนิมเมื่อต้องตากแดดตากฝนตลอดเวลา ต้องยอมรับว่ามันทนแดดทนฝนได้ดี เพราะผมใช้กับเรือนปลูกผักไฮโดรฯมาเกือบ 2 ปีแล้ว ก็ยังอยู่ในสภาพดี ไม่กรอบไม่ขาดเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-08-30 21:51:30


ความคิดเห็นที่ 813 (3008204)
avatar
เทิดศักดิ์(TA)

 นี่แหล่ะครับช่างไม้ตัวจิง.....ทำต่อไปครับ55555ชอบๆครับ นี่ก็กะลังจะไปร้านพีเคเหมือนกันครับ...ยินดีที่ได้รู้จักคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทิดศักดิ์(TA) (terdta72-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-09 10:25:40


ความคิดเห็นที่ 814 (3008209)
avatar
เทิดศักดิ์(TA)

 ขอถามหน่อยครับ เมื่อเรามีเครื่องมือเยอะๆเราต้องไปขออนุญาติกับเจ้าหน้าที่ไหม๊ครับ ......ช่วยแนะนำหน่อยครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทิดศักดิ์(TA) (terdta72-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-09 10:48:05


ความคิดเห็นที่ 815 (3008264)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

     มีเครื่องมือจะกี่ชิ้นถ้าไม่ใช่ของต้องห้ามเช่นเลื่อยโซ่เกิน 12" ก็ไม่ต้องครับ นอกจากจะเปิดเป็นโรงงานผลิตเฟอร์ ก็ต้องขออนุญาตตั้งโรงงานและก็ไม่เกี่ยวว่าเรามีเครื่องมือมากหรือน้อยครับ ที่ต้องขออนุญาตคือท่าน ผบ.ทบ.ครับ 555

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-09-10 11:48:44


ความคิดเห็นที่ 816 (3008355)
avatar
เทิดศักดิ์(TA)

 งั้นก็ลุยได้เลยล่ะครับทีนี้ ขอบคุณครับที่แนะนำค่อยสบายใจหน่อย55555

ผู้แสดงความคิดเห็น เทิดศักดิ์(TA) (terdta72-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-11 12:42:16


ความคิดเห็นที่ 817 (3008926)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

   หลังจากที่ได้ใช้ใบเลื่อย FORREST Woodworker II กับโต๊ะเลื่อยของผมกว่า1 ปีแล้วก็ได้เห็นถึงคุณภาพและประสิทธิภาพในการตัดของใบเลื่อย FORREST ที่ได้ใช้งานกับน้องฮาร์วี่ย์มาตั้งแต่ติดตั้งกับโต๊ะเลื่อยตัวนี้ ผมก็ยังไม่เคยเปลี่ยนไปใช้ใบอื่นอีกเลย (เพื่อนๆมาขอซื้อใบ FREUD ไปเกือบหมดแล้วเหลือ 2-3 ใบกับที่ได้ติดตั้งใช้งานกับเครื่องเลื่อยองศาสไลด์ 12" Makita LS1216L ของผมไปแล้วเท่านั้นเอง)

    ใบเลื่อย FORREST เป็นใบเลื่อยขั้นเทพที่เป็นที่ภูมิใจของเหล่าช่างไม้ของอเมริกาอย่างแท้จริง เพราะเป็นใบเลื่อยที่ผลิตในอเมริกา (ไม่ใช่อิตาลีเหมือน Freud) อีกทั้งราคาก็ยังแพงกว่าใบเลื่อย FREUD สัญชาติอิตาเลียนพอสมควร (ทั้งๆที่ว่า FREUD ก็แพงแล้ว) เพราะผลิตและตรวจสอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทุกใบ

    ใบเลื่อยที่ผมนำเข้ามาใช้เองและขายให้เพื่อนๆที่สนใจจะมีทั้งหมด 9 รุ่นดังนี้ครับ

    1.  FORREST Ply Veneer Worker - 10" 80T 5/8" Arbor เหมาะสำหรับการตัดไม้ด้วยไม้อัด(Plywood) กับแผ่นวีเนียร์(Veneer)โดยเฉพาะ

    2.  FORREST Chopmaster - 10" 70T 5/8" Arbor เหมาะสำหรับเครื่องเลื่อยองศาสไลด์ (Slide Miter Saw)โดยเฉพาะหรืองาน Cross Cut   ซึ่งผู้ที่ได้เคยใช้งานจริงบอกว่าตัดได้เรียบเหมือนกระจก

    3. FORREST Woodworker II - 10" x 40T 5/8" Arbor สุดยอดของใบเลื่อย สารพัดประโยชน์ (General Purpose Saw Blade)แห่งยุค ตัดได้ดีทั้งการตัดตามเสี้ยน (Rip Cut) และ ตัดขวางเสี้ยน (Cross Cut)

    4.  FORREST Woodworker II Ultra Thin Kerf (5/64") 10" x 40T 5/8" Arbor สุดยอดของใบเลื่อย สารพัดประโยชน์ที่บางที่สุดแห่งยุค ที่ตัดได้ดีทั้ง Rip Cut และ Cross Cut เสียไม้น้อยมากในการตัด

    5. FORREST Dado King 8" x24T 2-Blades and 6- Chippers 5/8" Arbor ที่สุดของที่สุดสำหรับใบเลื่อยตัดร่อง Dado หรือบังใบ (Rabbet) ได้ตั้งแต่ขนาด 1/4" จนถึง 29/32" ที่ได้รับการ Vote ให้เป็นใบเลื่อย Dado ที่ดีที่สุดจากนิตยสาร Fine Woodworking ฉบับเดือน July/ August 1991 p.59 จากการทดสอบทั้งหมด 29 รุ่นที่มีขายอยู่ในท้องตลาด

    6. FORREST Dado King - 8" Thin Kerf Dados - 3 Piece Set with 1/16" Chipper, 5/8" Arbor- เป็นใบเลื่อย Dado ชนิด 3 ใบชุดเหมาะสำหรับตัดทำกล่อง (Box Joint) โดยเฉพาะ

    7. FORREST  Thin Kerf DuraLine Hi A/T (3/32" Kerf) - 10" x 80T, 5/8" Arbor สุดยอดใบเลื่อยตัดแผ่นเมลามีน และไม้อัด สามารถตัดได้เรียบเนียนไม่ต้องใช้กระดาษทรายขัดอีกเลย

   8. FORREST Woodworker II  10" x 48T Std.(1/8" )Kerf, 5/8" Arbor สุดยอดของใบเลื่อย สารพัดประโยชน์ (General Purpose Saw Blade) ที่ตัดได้ดีทั้งการตัดตามเสี้ยน (Rip Cut) และ ตัดขวางเสี้ยน (Cross Cut)

   9. FORREST Woodworker II Thin Kerf  - 10" x 48T Thin Kerf ,5/8" Arbor สุดยอดของใบเลื่อยฟันเลื่อยบาง สารพัดประโยชน์ (Thin Kerf General Purpose Saw Blade) ที่ตัดได้ดี เสียไม้น้อย ทั้งการตัดตามเสี้ยน (Rip Cut) และ ตัดขวางเสี้ยน (Cross Cut)

วิดีโอใบเลื่อยเทพ

http://www.youtube.com/watch?v=-SgdTXphEJ4

รายละเเอียดดูได้จากลิ้งค์ข้างล่าง ความเห็นที่ 72

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=6&Category=thaicarpentercom&thispage=&No=1450677&anspage=2

    ส่วนเรื่องช็อปงานไม้ในฝันของผมช่วงนี้เองก็ยังไม่ก้าวหน้าเลย เพราะงานประจำเข้ามาเยอะต้องรีบทำให้เสร็จก่อนอาจต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 ถึง 2-1/2เดือนแน่เลยกว่าที่ผมจะกลับมาทำช็อปในฝันได้ใหม่อีกครั้งนะครับ (สงสัยจะเสร็จไม่ทันปีนี้อีกแล้ว...เฮ้อ)

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-09-23 11:01:14


ความคิดเห็นที่ 818 (3010285)
avatar
x-man

 เครื่องมือมากกว่ามากมืออาชีพเสียอีก เห็นแล้วน้ำลายหก มีความตั้งใจมาก ขอคาราวะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น x-man วันที่ตอบ 2014-10-21 13:40:59


ความคิดเห็นที่ 819 (3010286)
avatar
x-man

 เครื่องมือมากกว่ามากมืออาชีพเสียอีก เห็นแล้วน้ำลายหก มีความตั้งใจมาก ขอคาราวะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น x-man วันที่ตอบ 2014-10-21 13:41:56


ความคิดเห็นที่ 820 (3010287)
avatar
x-man

 เครื่องมือมากกว่ามากมืออาชีพเสียอีก เห็นแล้วน้ำลายหก มีความตั้งใจมาก ขอคาราวะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น x-man วันที่ตอบ 2014-10-21 13:44:04


ความคิดเห็นที่ 821 (3010295)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

คุณ X-man

   ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมชม ฝีมือน้อยต้องอาศัยตัวช่วยและผมก็สะสมไปเรื่อยๆชอบก็ซื้อมาใช้บ้างเก็บบ้างครับถือเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งครับ

  นอกจากนี้ผมก็ต้องขออภัยทุกท่านไว้ด้วยที่ผมไม่มีโอกาสได้มา update ช็อปในฝันของผมเลยช่วงนี้ เพราะยังไม่มีเวลาได้ทำต่อเลย คงต้องขอยกยอดไว้ไปเริ่มทำใหม่ปีหน้าละครับ

   ช่วงนี้งานประจำยุ่งมากๆ ไม่มีเวลาได้ทำงานไม้ที่ค้างอยู่เลย แต่ยังไม่ได้คิดจะเลิก รอกันไปก่อนนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-10-21 15:21:28


ความคิดเห็นที่ 822 (3010728)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

    ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมเริ่มการสะสมสิ่วกับ มีด(สิ่ว)กลึงไม้ หลังจากที่ได้กบมาทั้งกบไม้และกบเหล็กมาฝูงย่อมๆจนกระเป๋าฉีกไปถึงตาตุ่ม แต่ก็ยังไม่หายอยากแลยเริ่มย้ายมาเสาะแสวงหาสิ่วและมีด(สิ่ว)กลึงแทน พร้อมกันนี้ก็ได้จัดหาเครื่องกลึงขนาดเล็กของ Jet JWL-1220VS เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในช็อปผมแล้ว

   ทั้งนี้ก็เผื่อเอาไว้ว่ากลางๆเดือน ธ.ค. หากพอมีเวลาว่างทำช็อปต่อ ก็อาจได้ฝึกฝีมือการกลึงไม้ดูสักครั้ง  ทั้งๆที่จริงแล้วผมก็ไม่เคยกลึงไม้มาก่อน เคยกลึงแต่เหล็กสมัยเมื่อสักเกือบๆ 40 ปีที่แล้ว แต่ก็ได้ศึกษาจากวิดีโอ และอ่านจากหนังสือกลึงไม้มาบ้างแล้ว คงน่าจะพอทำได้

   คงจะเริ่มจากการทำด้ามสิ่วบ้องในแบบ Socket Chisel เพราะซื้อสิ่วบ้องตราตา ที่ยังไม่มีด้ามไม้มาด้วยหลายเล่ม เลยเป็นที่มาของการอยากทำงานกลึงไม้ หลังจากที่ได้ศึกษาเรื่องการกลึงไม้มาได้สักพักหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผมยังไม่มีโอกาสได้เข้าช็อปทำงานไม้ต่อเลย เพราะผมมีงานประจำเข้ามามากจนโงหัวไม่ขึ้น ทำให้ได้แต่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน ระหว่างที่ทำงานไปช่วงพักคลายเครียดก็เลยมีเวลาพักสมองไปหาความรู้เรื่องสิ่วและมีดกลึง และที่ซื้อสิ่วและมีดกลึงในอเมริกา อังกฤษ และเยอรมัน จนเป็นที่มาของการสะสมสิ่วและมีดกลึงอีกระลอก

  ยิ่งอ่านมากยิ่งไอเดียบรรเจิด กิเลศเริ่มครอบงำ ดูไปดูมาชอบโน่นชอบนี่ไปเรื่อย จนทำรายการส่งไปให้น้องจัดมาให้ชุดใหญ่หลายชุด ทำไปทำมาเลยได้มาหลายชุดมากทั้งสิ่วทั้งมีดกลึง แถมรักพี่เสียดายน้อง เลยขนมาซะหลายยี่ห้อและตั้งใจจะเก็บเอาไว้ใช้เอง และเป็นของสะสมทั้งหมดเลย แต่ถ้าทำใจได้จะคัดออกมาขายบ้างนะครับ

   หมดงานนี้สงสัยคงต้องพักการซื้อเครื่องมือไปอีกหลายเดือนเพราะหมดงบ อีกทั้งเงิน US$ เกิดอาการแข็งจัดทะลุ 33บาท/US$ ไปแล้ว

   ตอนนี้เลยได้มาทั้งชุดสิ่ว Dunlap, Footprint, Marples, MHG(Messerchmidt of Germany), Kirschen(Two cherries) และ Stanley 750 Sweetheart รวมถึงมีดกลึงชุดใหญ่(Professional/ Full size) และชุดเล็ก(Mini/ Micro) สำหรับงานกลึงขนาดเล็กๆ ทั้งจาก Crown และ Robert Sorby ที่เป็นมีดกลึง HSS ส่วน Marples น่าจะเป็น HCS ส่วนของ Rockler นั้นเป็น Carbide

   มาเล่าให้ฟังแค่นี้ก่อนครับ เพราะเป็นห่วงเพื่อนๆบางท่าน เพราะท่านเล่นบอกผมว่ารออ่านเรื่องการทำช็อปของผมจนจะลงแดงแล้ว ไม่มาทำต่อซะที ผมก็จนด้วยเกล้าจริงๆครับ เพราะต้องทำงานหาเงินมาเป็นทุนก่อน เดือนพ.ย. นี่ทั้งเดือนเลยคงจะไม่มีโอกาสได้เข้าช็อปแน่นอนเลยครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-10-31 22:38:23


ความคิดเห็นที่ 823 (3011139)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

    ไม่ได้เข้าช็อปทำงานเป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็ยังแอบเข้าไปทำอะไรเล็กๆน้อยๆให้หายคิดถึงบ้าง เพราะคิดว่าจะไม่ได้ใช้น้องฮาร์วี่ย์ อีกเป็นเดือน จึงต้องชะโลมน้ำมันที่พื้นโต๊ะไว้ไม่ให้น้องหนิมเข้ามาเยือน แล้วปิดทับไว้ด้วยกระดาษเพื่อรักษาน้ำมันไว้ให้มันเคลือบที่ผิวตลอดเวลาบริเวณส่วนที่เป็นเหล็กหล่อที่ไม่ได้เคลือบสี จากนั้นจึงคลุมด้วยผ้าใบผืนใหญ่ เพื่อป้องกันฝุ่นอีกชั้นหนึ่ง

    หลังจากที่เเคลือบพื้นโต๊ะเลื่อยด้วยน้ำมันแล้วก็แถมด้วยการลับสิ่ว Dunlap ซะ 4เล่ม ด้วยจิ๊ก Veritas MK. II กับหินลับ Naniwa จนคมกริบเลย ทำให้หายอยากไปได้นิดหนึ่ง หลังจากที่ลับสิ่วอยู่พักใหญ่ทำห้รู้สึกว่า Socket Chisel ของ Dunlap นี่มันจับได้ถนัดมือดี คล่องตัว ไม่ยาวมาก แต่ก็ยังไม่ได้ลองใช้ดูแค่ได้สัมผัสตอนที่ลับ ก็รู้สึกชอบเท่านั้นครับ

   ส่วนเครื่องกลึงขนาดเล็กของ Jet JWL1220VS ก็มาถึงช็อปผมแล้วแต่ยังอยู่ในกล่องเพราะซื้อมายังไม่รู้ว่าจะวางไว้ที่ไหนเลย คงต้องรอทำโต๊ะให้ก่อน ทำให้ท่าทางจะอยู่ในกล่องไปอีกนานนน

   ผมมีเรื่องมา update ให้ฟังเรื่องหนึ่งคือตอนนี้ Makita ได้ออกโต๊ะเลื่อยรุ่นใหม่ที่เป็นประเภท Job site มารุ่นหนึ่งคือรุ่น 2712 ที่มีขายในต่างประเทศแล้ว แต่ไม่ทราบว่าบ้านเรามีขายหรือยังนะครับ แค่เอามาเล่าให้ฟังกับ เผื่อท่านใดสนใจก็สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

http://www.makitauk.com/products/saws/table-saws/2712-site-saw-315mm.html

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-11-10 05:53:40


ความคิดเห็นที่ 824 (3011340)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

    สิ่ว Two Cherries (Kirschen) ชุด 6 เล่ม ขนาด 6, 10, 12, 16, 20 และ 26 มม.. ชุดนี้เป็นสิ่วรุ่นที่ขัดเหล็กจนมันทั้งชุด ที่เห็นแล้วอยากได้เพราะดูคลาสสิคดี อีกทั้งยังได้อ่านรีวิวจากผู้ที่เคยใช้มาแล้ววิจารณ์กันว่าเยี่ยม แต่เมื่อดูราคาในอเมริกา เมื่อรวมค่าขนส่งกับภาษีแล้วอึ้งไปเลย

   แต่จากที่ค้นประวัติทำให้ได้ทราบว่าเริ่มก่อตั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1858 หรือ พ.ศ. 2401 หรือเมื่อ 156 ปีที่แล้วในประเทศเยอรมัน ผมก็เลยเปลี่ยนใจไม่ซื้อจากอเมริกา แล้วหาทางติดต่อที่เยอรมันแทนเลย แต่การติดต่อกับบริษัทในเยอรมันนั้นไม่ง่ายเลย เพราะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ต้องให้เพื่อนที่เรียนจบมาจากเยอรมันช่วย จนได้ร้านที่พอเชื่อถือได้และคุยกันรู้เรื่อง ผมเลยสั่งซื้อเข้ามาจากเยอรมันโดยตรง กะว่าจะเก็บสะสมไว้ แล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็เอามาใช้ด้วย 

   ผมคุยกับร้านจนเหนื่อยเหมือนกันกว่าจะเข้าใจกัน เพราะคนเยอรมันไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษ แต่ก็ไปได้ด้วยดีเพราะมีเพื่อนช่วยเป็นล่ามให้ ผมเลยซื้อมาแถมพ่วงมาขายให้เพื่อนๆที่สนใจได้เอาไปใช้หรือไปสะสมกันด้วยครับ

   แต่ช่วงนี้ยังไม่มีเวลาได้เอาขึ้นห้องซื้อขายเลย เพราะไม่ว่างที่จะหาข้อมูลก่อนที่จะเอาขึ้นขาย เนื่องจากต้องการที่จะขายพร้อมกับการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนด้วยน่ะครับ เลยกะว่าจะขายให้ท่านที่เป็นแฟนพันธุ์แท้กระทู้ผมก่อนใครเลยละครับ

  สิ่วชุดนี้มีทั้งรุ่นบรรจุในกล่องกระดาษแข็งสำหรับท่านที่จะเอาไปใส่ตู้เครื่องมือของท่าน หรือท่านที่ชอบสะสมผมก็มีแบบที่ใส่กล่องไม้ ที่ผมดูงานที่เขาทำแล้วน่าทึ่ง สมเป็นกับสินค้าเยอรมันขนานแท้เลย เนี้ยบอย่างหาที่ติไม่ได้เลย ไม่เหมือนกล่องที่มาจากจีนต่างกันราวฟ้ากับดินอย่างไรก็อย่างนั้นเลยเนี้ยบแม้กระทั่งบานพับและหูล็อค  ที่จริงสิ่ว Two Cherries ชุด 6 เล่มนี้ ยังมีรุ่นที่ใส่ซองหนังแบบม้วนเก็บที่ดูคลาสสิคดี แต่ผมยังไม่ได้นำเข้ามาน่ะครับแค่ดูๆไว้ก่อน เอาเข้ามาลองดูค่าใช้จ่ายก่อน กะว่าจะเอาเข้ามาสะสมอีกชุดน่ะครับพร้อมกันกับล็อตใหญ่ราคาจะได้ถูกลงอีก

  ท่านใดที่อ่านเจอความเห็นนี้ ก็แสดงว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ สนใจก็แจ้งมาได้ครับทั้งทาง Email:tsrisap(at)yahoo.com หรือ Line ID:tsrisap ผมแบ่งขายแบบกล่องกระดาษ 2 ชุด และกล่องไม้ 1 ชุด ส่วนกล่องไม้อีกชุดขอเก็บไว้ใช้เอง รับประกันของใหม่ของแท้จากเยอรมันครับ (ค่าขนส่งจากเยอรมันมาไทย ชุดเดียว กับ 4 ชุดราคาเท่ากัน แล้วผมจะสั่งกล่องเดียวทำไมล่ะครับ แต่ก็เพราะเพิ่งจะซื้อของเขาครั้งแรกก็เลยไม่กล้าซื้อหลายชุด)  

 

 รายละเอียดต่างๆตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ   

รุ่นกล่องไม้:  

http://www.amazon.com/Two-Cherries-500-1561-6-Piece-Chisel/dp/B00029LIFA/ref=sr_1_1?ie=UTF8&qid=1415794738&sr=8-1&keywords=two+cherries+chisel  

รุ่นซองหนังม้วน:  

http://www.amazon.com/Cherries-500-1575-6-Piece-Chisel-Leather/dp/B000JR9RI0/ref=sr_1_2?ie=UTF8&qid=1415794874&sr=8-2&keywords=two+cherries+chisel 

เว็บของผู้ผลิต:

http://www.kirschen.de/en/Home.html

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-11-12 18:48:01


ความคิดเห็นที่ 825 (3011474)
avatar
pakae

อยากได้สิ่วๆๆๆๆ ชอบใช้ครับ เครื่องกลึงรุ่นนี้เป็นไงครับ

แอบเล็งอยู่ ทำเองกลัวไม่ได้ใช้

ผู้แสดงความคิดเห็น pakae (iampakae-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-11-14 15:04:40


ความคิดเห็นที่ 826 (3011489)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

คุณ pakae

      เรื่องเครื่องกลึง Jet JWL-1220VS  ผมว่าก็น่าจะเป็นเครื่องกลึงไม้ขนาดเล็ก ที่ดีที่สุดมีเข้ามาขายในประเทศไทยขณะนี้ เสียอย่างเดียวที่ตัวแทนในประเทศไทย ไม่ได้สั่ง Bed Extension ที่จะทำให้สามารถกลึงไม้ได้ยาวถึง 1 เมตรเข้ามาขายด้วย นอกนั้นก็ถือว่าใช้ได้ เหมาะกับงานที่ผมจะทำ (ที่จริง JET มีรุ่นใหม่กว่าคือ JWL-1221VS ออกมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้ามาในบ้านเราสงสัยจะรอให้ขาย JWL-1220vs ให้หมดก่อนแน่เลย) แต่ผมก็ไม่รอแล้ว ถ้าท่านใดสนใจก็ถอยเลยครับ Thaicarpenter ยังมีของอยู่ในสต๊อค .... cheer!

      ที่เหลือก็เป็นมีดกลึงดีๆซึ่งก็หาไว้ครบแล้วทั้งขนาดใหญ่(Professional) ขนาดกลาง(Mini) และขนาดเล็ก (Micro)ของทั้ง Robert Sorby, Crown, Marples  ที่เป็น HSS และ Rockler ที่เป็น Carbide (ตามรูป) ที่ขาดอยู่มีอย่างเดียวก็แค่เวลาที่ยังไม่มีเลยครับช่วงนี้

http://www.rockler.com/how-to/jet-jwl-1220vs-lathe-solid-lathe-turners-lacks-tools-safety-features/ 

http://content.wmhtoolgroup.com/manuals/708375VS_man.pdf

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-11-14 21:39:06


ความคิดเห็นที่ 827 (3011495)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

    ให้ดูรูปกันชัดๆอีกครั้ง ทั้ง 3 ท่านที่รับไปเก็บไว้ให้ดีๆระวังหายโดยไม่รู้ตัวนะครับ ผมยังอยากได้อีกชุดในรูปสุดท้ายที่มีที่เก็บเป็นแบบม้วนหนังอีกชุดเลย เพราะไปได้ Stanley 750 Sweetheart ชุด 8 เล่มที่เป็สิ่วแบบ Socket หลังจากที่จดๆจ้องๆมานาน มีที่เก็บเป็นหนัง ใช้แล้วมัวนเก็บได้เลยสะดวกดี เลยชอบ

 

     

   

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-11-14 22:43:35


ความคิดเห็นที่ 828 (3011546)
avatar
pakae

ผมขอใช้สิทธิ์น่ะครับ เอากล่องไม้เลย สวยจริงๆๆ

 

ได้ขอแล้วครับ ถูกใจอย่างแรง ลูกน้องพม่าผมชอบใหญ่เลย

อยากได้กลับพม่า ผมเลยเก็บใส่ตู้เซฟเลย กลัวไปกับมัน

ผู้แสดงความคิดเห็น pakae (iampakae-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-11-17 11:18:52


ความคิดเห็นที่ 829 (3012066)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

   สิ่ว MHG จาก MHG Messerschmidt of Germany ที่เก่าแก่อีกแห่งในเยอรมัน

   ตกลงคุณเก๋ซื้อไปใข้หรือซื้อไปเก็บสะสมเหมือนผม ผมไปได้ชุดสิ่ว Dunlap มือ 2 ที่มีด้ามเป็นแบบ Socket จากงาน Garage Sales ใน San Diego มาชุดหนึ่งจับถนัดมือดีเลยเอามาใช้เป็นหลัก

    ส่วนสิ่วของ Kirschen เก็บไว้พร้อมกับชุด Stanley 750 Sweetheart และชุดสิ่วของ MHG จากโรงงาน Thüringen ในเยอรมัน(ตามรูป) ที่ได้มาอีกอย่างละชุด กะว่าจะเอาไว้ใส่ตู้เก็บเครื่องมือ Hand Tools ที่จะทำเร็วๆนี้แหละครับ 

*** MHG Firmer Chisels with Hornbeam Handle

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-11-28 06:55:56


ความคิดเห็นที่ 830 (3012235)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 

 <<<<<  เรียงตามลำดับ FESTOOL TS55REQ / TS75REQ/ MAKITA SP6000/ BOSCH GKT55GCE  >>>>>   

    หลังจากที่ศึกษาและจดๆจ้องๆจะซื้อ Track Saw หรือ Plung Saw อยู่นานเนื่องจากผมจะทำงานด้วยไม้อัดเป็นหลัก ทำให้ต้องตัดไม้อัดก่อนเอาขึ้นตัดบนโต๊ะเลื่อยไม่ว่าจะตัดตามความยาวของแผ่นหรือตัดขวางตามความกว้างของแผ่นเพื่อให้สามารถเอาขึ้นตัดบนโต๊ะเลื่อยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะไม้อัดหนาๆพวก 20 มม. หรือแผ่น MDF แค่ 15 มม. นี่ก็ไม่สามารถเอาขึ้นตัดบนโต๊ะได้ทั้งแผ่นเลย 

   หลังจากที่ได้ดูไว้ทั้งหมด 4 ยี่ห้อ 5 รุ่นได้แก้ BOSCH, DEWALT, FESTOOL และ MAKITA  ในที่สุดก็สรุปก็เหลืออยู่ในรายการแค่ 2 ยี่ห้อ(เฉพาะที่มีขายในประเทศไทย) ได้แก่ FESTOOL ที่มีขาย 2 รุ่นคือ TS55 REQ และ TS75 REQ และ MAKITA ที่มีรุ่นเดียวคือ SP6000

   เนื่องจาก Track Saw ยังไม่ค่อยแพร่หลายในประเทศไทยเพราะราคาแพง อีกครั้นที่จะสั่งซื้อมาจากต่างประเทศก็มีอุปสรรค์ในการนำเข้าจากต่างประเทศได้แก่ 1.เรื่องระบบไฟฟ้าที่จะใช้กับบ้านเรา ถ้าไม่จำเป็นจริงๆผมก็จะไม่ใช้ Power Tools ที่ใช้กับไฟฟ้า 110v และ 2. เรื่องการขนส่ง เนื่องจากความยาวของรางที่ยิ่งยาวมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งเอาเข้ามายากมากขึ้นเพราะจะมีค่าขนส่งที่สูงมากขึ้นเท่านั้น

    สุดท้ายผมก็ตัดสินใจที่จะไปกับเครื่องที่มีขายในประเทศดีกว่า และMakita ก็เป็นตัวที่เลือกที่ดี ด้วยเหตุผลที่ว่า ถูกกว่า FESTOOL เยอะ แม้จะใจจะชอบ FESTOOL อยู่ก็ตาม ข้อดีของ FESTOOL ที่ดีคือสามารถล็อคระดับความลึกในการตัดได้ มีตัวกดแผ่นไม้ระหว่างการตัดเหมือนเป็นตัว ZCI (Zero Clearance Insert) บนโต๊ะเลื่อยทำให้ลดการฉีกขาดของผิวไม้ระหว่างการตัด แถมยังมีอุปกรณ์กันไม้ดีดกลับ(Riving Knife) ด้วยที่ชอบ

 

วิดีโอประดับความรู้:

*** FESTOOL TS55REQ/ TS75REQ

*** MAKITA SP6000

*** BOSCH GKT55GCE

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-02 11:18:30


ความคิดเห็นที่ 831 (3012243)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

    เหตุผลหลักที่สำคัญที่ผมไม่ได้เลือก FESTOOL ก็เพราะมันแพงเกินไป และไม่ได้ซื้อไปทำมาหากิน หารายได้จากเครื่องมือที่จะซื้อดังกล่าว ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากราคาแล้ว FESTOOL จะแพงกว่า MAKITA อยู่ประมาณ 9,000 บาท(ราคาเลื่อย+ รางขนาด 1.4ม. Festool TS55@25,000/ Makita SP6000@16,000) รวมถึงจากที่ได้ศึกษาและดูรีวิวในต่างประเทศแล้วก็ถือว่าพอใช้ได้สำหรับ MAKITA  จึงคิดว่าจะเอา MAKITA SP6000 และเก็บเงินส่วนต่างเอาไว้ซื้อเครื่องมืออย่างอื่นดีกว่า

    ผมติดต่อถามตัวแทน MAKITA ตั้งแต่ต้นปีทราบว่าสั่งมา 1 เครื่องแต่ไม่มีรางก็เลยทำให้ผมยังไม่ได้ซื้อ พอได้ฤกษ์เอาเครื่องรุ่นนี้มาขาย กลับเอามาขายโดยไม่เอารางและอุปกรณ์ต่างๆเช่นตัวต่อรางมาขาย พอรู้ว่าต้องใช้ร่วมกับรางก็สั่งรางมา แต่ไม่ได้เอาตัวต่อรางกับแคล้มป์หรือ อุปกรณ์ประกอบต่างๆมาอีก พอมีรางก็ไม่มีเครื่อง อะไรวนเวียนอยู่ประมาณนี้ ทำให้ในที่สุดผมก็ยังไม่ได้ซื้อ Track Saw เสียทีเพราะตั้งใจจะรอซื้อทีเดียว

    แม้ว่า Track Saw ของ Makita จะสามารถใช้ร่วมกับรางและอุปกรณ์ต่อรางของ FESTOOL ได้ก็ตาม แต่ก็มีข้อแตกต่างกันอยู่นิดเดียว คือถ้านำเอา Track Saw ของ Makita ใช้กับรางของ FESTOOL จะทำให้เวลาตัดเอียง(Bevel Cut) เช่นตัดเอียง 45 องศา ตัวเลื่อยของ MAKITA จะไม่ล็อกกับราง ของ FESTOOL อาจหลุดจากรางได้ถ้าไม่ระวัง ไม่เหมือนกับการใช้ร่วมกับรางของ MAKITA โดยตรงที่จะมีตัวล็อคเข้ากับราง

   ผมจึงรอรางบ้าง รอเครื่องบ้าง รางขนาดที่ต้องการ 3ม. ไม่มีบ้าง จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ซื้อสักที ไม่ทราบเป็นเพราะอะไรเหมือนกันกับ Makita บ้านเรา

   ด้วยความบังเอิญ ในที่สุดผมก็ไปได้ Track Saw ของ BOSCH รุ่น GKT55 GCE (รุ่นนี้ Bosch ประเทศไทยยังไม่ได้นำเข้ามาจำหน่าย) มาจากน้องคนหนึ่งที่เขาซื้อมาจากเยอรมัน แต่เปลี่ยนใจที่จะไปซื้อ FESTOOL แทน ผมก็เลยขอรับซื้อต่อมา สภาพก็ใช้ไปน้อยมาก มีรางมาให้ด้วย 2 อัน ขนาด 0.8ม. กับ 1.6ม.อย่างละอัน แต่ไม่มีตัวต่อราง(เพราะน้องเขาไม่ได้ซื้อมา)

    การที่มีรางขนาด 0.8ม. + 1.6ม. และไม่มีตัวต่อราง จึงทำให้ไม่สามารถตัดไม้อัดยาวเต็มแผ่นได้ในครั้งเดียวเนื่องจากความยาวไม้อัดคือ 2.44 ม. ทำให้ผมต้องไปสั่งซื้อราง 1.6ม. อีก 2 อันกับตัวต่อรางพร้อมกระเป๋าใส่ราง มาจากอังกฤษเพิ่มเติมประมาณ 14,000 บาท เพื่อที่จะให้สามารถตัดไม้อัดแนวยาวได้เลยในการตัดครั้งเดียว เหตุที่ซื้อ 1.6ม. มาอีก 2 อันก็เพราะดูแล้วซื้อเป็นชุดที่มีทั้งราง 1.6 ม.x 2 อัน กับตัวต่อราง และกระเป๋าใส่รางและตัวต่อรางด้วย ราคาพอๆกับไปซื้อแยก ราง 1.6 ม. ตัวต่อรางและกระเป๋าอย่างละอัน เลยทำให้ตอนนี้ผมมีราง 1.6 ม. 3อัน ราง 0.8 ม. อีก 1 อันและแคล้มป์ยึดรางอีก 2 อันในราคารวมชุด Track Saw Bosch ชุดนี้ทั้งหมด 23K

ก็ถือว่าคุ้มนะครับสำหรับผม เพราะถ้าเต็มชุดแบบนี้เป็น Festoolก็ 30K up ละครับ

    ข้อดีของเครื่องตัด Bosch ตัวนี้ที่หลายท่านอาจไม่ทราบคือใบเลื่อยที่มากับเครื่องชุดนี้จะเป็นใบเลื่อยผลิตโดย Freud แล้วเนื่องจากปัจจุบัน Freud เป็นบริษัทลูกของ Bosch น่ะครับ

    ไม่มีอะไรมากเนื่องจากยังไม่ได้เข้าช็อปทำงานต่อ เลยมีเวลาได้มาupdate ให้ฟังเล็กๆน้อยๆประดับความรู้แก่ท่านที่ยังไม่รู้ ใครที่รู้แล้วก็ผ่านไปได้นะครับ หวังว่าหลังจากกลางเดือน ธ.ค. 57 ที่งานประจำลดลง จะได้มาสานต่อช็อปงานไม้ในฝันของผมเสียที่ ล่าช้าไปมากกว่า 6 เดือนแล้วครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-02 13:27:25


ความคิดเห็นที่ 832 (3012261)
avatar
pakae

ซื้อมาใช้ครับ แต่ผมพวกใช้จริงๆๆ ไม่รักษา แต่อันนี้มันสวยแล้วก้อ คมดีจริง ผมเลยเก็บก่อนกลัวหายครับ ช็อปผมเปิดครับ ลูกน้องเดินไปใช้ได้ แต่ให้เก็บที่เดิม น่ะ แต่บางที่คนมันไม่รู้คุณค่าครับ เสียของป่าวๆๆ เมียผมสั่งให้ล็อกกุญแจล่ะ ล็อกได้ค่อยให้ซื้อต่อไม่งั้นงดยาวเลย ตอนนี้ต้องหาวิธีเก็บเครื่องมือก่อนอันดับแรก แล้วก็ Track saw สวยครับ แต่ไม่อยากซื้อเลยแพงจริง ผมว่าจะทำเอง แบบ Vertical saw ข้างนึงไว้ตัดไม้แผ่นใหญ่ อีกข้างก้อเก็บไม้แผ่นได้อีก ชอบตรงที่ไม่ต้องยกไม้นี่แระ แต่แบบผมยังไม่เสร็จเลย อีกนานแน่ๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น pakae (iampakae-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-02 20:59:27


ความคิดเห็นที่ 833 (3012350)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

    ที่จริงผมก็ชอบ Panel Saw นะครับแต่มันกินเนื้อที่มากไปหน่อยและเคลื่อนย้ายลำบากต้องตั้งไว้เป็นที่เป็นทาง เลยต้องเลิกล้มความคิดไปโดยปริยายเพราะผมไม่มีที่ว่างแล้วเลยต้องตัดใจเอาTrack Saw มาใช้เนื่องจากผมทำงานไม้ ด้วยไม้อัดเป็นหลัก ถ้าPanel Saw ของคุณเก๋ทำเสร็จเมื่อไรเอาออกมาโชว์กันบ้างนะครับ

    เรื่องซื้อเครื่องมือนี่เดี๋ยวนี้ผบ.ทบ.ผมเขาไม่มายุ่งแล้ว เขาบอกแค่ให้ทำรายการและราคาไว้ด้วยถ้าผมไม่อยู่เมื่อไหร่จะได้เอาออกขายให้หมดเลย ไม่รู้ว่าถ้าเขาเห็นรายการเครื่องมือที่ผมซื้อไปทั้งหมดอาจช็อคไปเลยก็ได้ครับเลยยังไม่ให้ดู แล้วก็ตอนนี้ยอดของHand Tools แซงหน้าPower Tools ไปไกลแล้วครับคงต้องชะลอไว้แค่นี้ก่อนสำหรับปีนี้ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่

    แต่ก็ยังไม่วายที่จะส่งท้ายกะว่าจะสั่งชุดมีดกลึงไม้ของ Robert Sorby รุ่น 67HS แต่ราคาก็เอาเรื่องเหมือนกัน ราคาที่อังกฤษ 125 ปอนด์ อีกสัก 2 ชุด ส่งท้ายปี 2557  กะว่าจะเก็บไว้ใช้1ชุดและขายให้เพื่อนๆแฟนพันธุ์แท้ที่สนใจ1 ชุด คอยติดตามได้นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-04 20:57:34


ความคิดเห็นที่ 834 (3012638)
avatar
paisal

 วันนี้ได้ฤกษ์ลองใบเลื่อยfreudแล้วครับ ยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ ขนาดที่ว่าโต๊ะผมค่อนข้างสั่นนะครับ  

ผู้แสดงความคิดเห็น paisal ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-11 21:43:03


ความคิดเห็นที่ 835 (3012711)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 ยินดีด้วยครับคุณไพศาล ที่มีโอกาสได้ลองใช้ FREUD แล้วโต๊ะเลื่อยที่สั่นมันมาจากอะไรหรือครับ ได้หาสาเหตุหรือยังครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ขี้กลัวโต๊ะเลื่อยเวลามันมีเสียงหรือสั่นๆอะไรพวกนี้ คอยระแวงกลัวว่าใบเลื่อยหรือชิ้นส่วนมันจะหลุดกระเด็นออกมา ยิ่งเวลาใช้นี่ระวังมากจะใช้พวก push stick หรือpush pad ช่วยดันไม้ไม่ยอมให้มือเข้าใกล้ใบเลื่อยเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-13 09:33:18


ความคิดเห็นที่ 836 (3012836)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

    วันนี้มีโอกาสได้เอาขอขีดไม้ (Marking Gauge) ของธรรมศักดิ์การช่าง ที่น้อง กู้74 ไปสั่งทำไว้แล้วส่งมาให้ผมใช้ 1 อัน ต้องขอขอบคุณไว้ ณ. ที่นี้ ผมได้มาหลายสัปดาห์แล้วแต่ไม่มีโอกาสได้จับเอาออกมาดูอย่างชัดๆเลย วันนี้มีโอกาส เลยจับมาถ่ายรูปซะเลย

    ขอขีดไม้อันนี้เป็นขอขีดไม้ที่ทำจากไม้จริงๆ น่าจะเป็นไม้ชิงชันเช่นเดียวกับที่ใช้ทำกบธรรมศักดิ์ ทำได้ประณีตมาก พิถีพิถันเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวัสดุ การขัดลงแลคเกอร์ และลบเหลี่ยมมุมต่างๆ ส่วนที่จะต้องมีการสัมผัสกัน หรือกับไม้ที่จะไปขีดก็มีการใส่ Inlay ทองเหลืองทุกจุด ปุ่มหมุนและสกรูล็อกต่างๆก็เป็นทองเหลืองทั้งหมด ถ้าจะให้คะแนนผมคงต้องให้คะแนนเต็ม 100 เลยครับ

    สำหรับการผลิตไม่มีการละเลยส่วนหนึ่งส่วนใดเลย ส่วนราคานั้นผมไม่ทราบนะครับว่าเท่าไร หากท่านใดสนใจก็ติดต่อที่ท่าน อ.ดนัย แห่งธรรมศักดิ์การช่างได้เลยครับ ผมเองก็ต้องสารภาพท่าน อ. ดนัยด้วยครับว่ากบที่ผมไปสั่งทำมาทั้งหมด  5 ตัว ปีกว่าแล้วยังไม่กล้าเอาออกมาใช้เลยครับ ได้แค่ลองไสทดสอบดูเท่านัน้เอง ลองเสร็จเช็ดเก็บไว้ในตู้ควบคุมความชื้นอย่างดี เพราะเสียดายความงามกลัวเป็นรอย โดยเฉพาะคู่ที่เป็นรุ่นพรีเมียมนั้นงามจริงๆ ทั้งหมดก็เลยยังเก็บใส่ตู้รอวันที่ผมสร้างช็อปเสร็จคงจะได้เอาออกมาใช้งานครับ

     วันนี้ผมได้โอกาสเลยจับขอขีดของธรรมศักดิ์ การช่างมาถ่ายรูปคู่กับ ขอขีดของ Veritas รุ่น Micro-Adjust Graduated Wheel Marking Gauge (ตัวเล็กๆที่อยู่ด้านหน้า) ซะเลย ใครชอบอันไหนก็เลือกเอานะครับ แต่ผมชอบทั้งคู่เลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-15 18:57:08


ความคิดเห็นที่ 837 (3012868)
avatar
paisal

อาการสั่นของโต็ะเลื่อยผมน่าจะมาจากมอเตอร์และพูลเลย์ครับ  ผมทดลองปลดสายพานออกและเดินเครื่องดูก็มียังอาการ ว่าจะถอดพูลเลย์ออก แล้วลองอีกทีครับ  ตอนแรกผมก็แปลกใจ ที่ในเวปต่างประเทศมีชุดคิทพูลเลย์และสายพานขาย.... 

สายพาน LINK BELT ทีเคยคุยกับคุณเอ็มไว้น่าจะไม่ต้องแล้วละครับ  เพราะผมไปดูคลิปของมัสเทียส แวนเดล ทดสอบเปรียบเทียบกับสายพานธรรมดา(แต่คงดีหน่อย) ปรากฎว่าแทบไม่แตกต่างกันเลยครับ...

ผู้แสดงความคิดเห็น paisal (paisalsung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-15 22:57:02


ความคิดเห็นที่ 838 (3012880)
avatar
พล

 คุณpaisal ใช้โต็ะboye หรือเปล่าครับ ของผมตอนติดตั้งใหม่ตามแก้อาการสั่นอยู่ประมาณสองอาทิตย์ ตอนแรกใช้ยางรองเครื่องจักรหนาสักประมาณ2นิ้ว รองขาทั้ง4 ก็ไม่หายสั่น เลยเปลี่ยนเป็นไม้ ก็ไม่หายสั่น เอายางไปรองหนุนที่มอเตอร์หายสั่น แต่มีปัญหาตอนปรับระดับสูงต่ำของใบเลยเอาออก เปลี่ยนสายพานใหม่เหมือนใช้กับหม้อน้ำรถยนต์ก็ยังสั่น สุดท้ายมาเสร็จกับน็อต4ตัวใส่ทีขาทั้ง4 ตอนนี้เลยนิ่งสนิด

ผู้แสดงความคิดเห็น พล (weerapolthai-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-12-16 09:00:18


ความคิดเห็นที่ 839 (3012883)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 คุณพล

   คุณ Paisal แกใช้ Boye รุ่นแรกๆเลยครับ ข้อดีของการมีผู้ร่วมใช้รุ่นเดียวกันก็ดีอย่างนี้ละครับ ที่สามารถช่วยกันแก้ปัญหาร่วมกันได้ คุณ paisal ไปลองดูนะครับ

   ตกลงใบเลื่อย Freud ที่ส่งไปเป็นอย่างไรบ้างคุณพลได้ลองใช้หรือยัง? สงสัยอะไรเรื่องปลูกผักไฮโดรถามได้นะครับผมปลูกมา ปีกว่าแล้วได้ประสบการณ์พอสมควรไม่ต้องซื้อผักสลัดไปทั้งปี ยกเว้นช่วงที่ล้างระบบตากแดดฆ่าเชื้อโรค15 วันทุกๆการปลูก3รอบครับ

คุณ paisal 

    ผมเอารูปที่คุณพลฝากมาลงให้แล้วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-16 09:36:51


ความคิดเห็นที่ 840 (3012885)
avatar
พล

 รับของแล้วเมื่อวานเรียบร้อยดี แต่ยังไม่ได้ลองครับกำลังยุ่งอยู่กับทำโต็ะปลูกผักไฮโดรให้ ผบ.ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พล (weerapolthai-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-12-16 09:51:02


ความคิดเห็นที่ 841 (3012887)
avatar
paisal

 ขอบคุณครับคุณพล นี่ผมก็กะจะตั้งศูนย์ถ่วงล้อมอเตอร์อยู่. .

ใส่น้อตที่ขาเป็นยังไงครับ ผมยังนึกภาพไม่ออก..ใส่แทนยางรองหรือเปล่าครับ?

ผู้แสดงความคิดเห็น paisal (paisalsung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-16 10:15:21


ความคิดเห็นที่ 842 (3012888)
avatar
พล

 ที่ขาโต็ะที่ติดกับพื้นมีรูที่เจาะทั้ง4ขาครับ หาน็อตปรับระดับเหมือนที่ปรับขาโต็ะทั่วๆไปมาใส่ครับแล้วปรับระดับหน้าโต็ะด้วยระดับน้ำปกติ

ผู้แสดงความคิดเห็น พล (weerapolthai-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-12-16 10:44:30


ความคิดเห็นที่ 843 (3013277)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 แจ้งข่าว..

   ท่านใดที่ยังไม่ได้ข้ากลุ่ม Woodworking ทาง Line เชิญ Add ด้วยการใช้ Line Scan QR Code ข้างบนนี้เลยครับ 
  ข้อดีของกลุ่ม Woodworking ใน Line คือเป็นกลุ่มที่รวบรวมแต่ผู้ที่มีความรู้(น้อย) ด้านงานไม้โดยเฉพาะ เพื่อเอาไว้แลกเปลี่ยนความ(ไม่รู้)ด้วยกัน คุยกันทุกเรื่องด้านงานไม้ ไม่รู้อะไรถามได้ (แต่ไม่รู้มีคนตอบให้หรือเปล่านะ แต่ก็จะไปหาคนที่มีความรู้ตอบให้แล้วกันครับ) หรือถ้าใครรู้และมีอะไรดีๆก็มาร่วมแบ่งปันกันได้ครับ
 
   มีอีกกลุ่มที่ตั้งในเวลาใกล้เคียงกันโดยไม่ได้นัดหมายคือกลุ่ม Line: woodworkingthai มีพวกเราอยู่กันเยอะเหมือนกันแต่ดูท่าทางจะหนักไปในเรื่อง Lifestyle (เฉพาะผู้ชาย)กันมากกว่าครับ เพราะตอนหลังๆไม่เห็นสมาชิกสุภาพสตรีแล้วครับ 555 

   นอกจากนี้ยังได้เปิดกลุ่ม woodworking ใน Facebook ขึ้นมาด้วยโดยใช้ชื่อกลุ่มเช่นเดียวกับกลุ่มใน Line ท่านที่มี Facebook อยู่แล้วสามารถแวะเข้าไปเยี่ยมชม และเป็นสมาชิกกลุ่มได้นะครับ ผมเปิดไว้เพื่อช่วยเหลือมือใหม่โดยเฉพาะที่นี่ครับ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-12-24 07:47:04


ความคิดเห็นที่ 844 (3013636)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

สวัสดีปีใหม่ 2558

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-01-02 12:53:12


ความคิดเห็นที่ 845 (3013856)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

แจ้งข่าว....

  เพื่อนๆท่านใดใช้ Facebook สนใจที่จะเข้ากลุ่ม Woodworking สามารถเข้าร่วมได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ได้ครับ

    https://www.facebook.com/groups/493245727475465/

   กลุ่ม Woodworking เป็นกลุ่มปิดนะครับ ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้มีแต่เนื่อหาที่เกี่ยวข้องกับ DIY งานไม้เท่านั้นครับ สามารถแสดงผลงานของเพื่อนๆ จะฝากขายซื้อหา แลกเปลี่ยนเครื่องมือ หรือสินค้าที่เกี่ยวกับงานไม้ก็ได้ครับ 

   เพื่อนๆในกลุ่มสามารถติดต่อสอบถามพูดคุย หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานไม้กันได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ท่านที่เป็นสมาชิกกลุ่มสามารถชวนเพื่อนๆที่สนใจงานไม้มาเข้ากลุ่มได้ด้วยนะครับ

    มีเรื่องราวที่น่าสนใจหลายๆเรื่องไม่ว่าจะเป็น Dado กับ Bosch GTS10XC หรือ Router Lift เป็นต้น

  Facebook เป็นสื่อสังคมที่มีประสิทธิภาพมากและรวดเร็ว ทั้งนี้ท่านสามารถอ่านหรือใช้งานได้ตามเวลาที่ท่านว่างครับ 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-01-06 20:42:00


ความคิดเห็นที่ 846 (3015879)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

    หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนาน เพราะงานยุ่งไม่มีสมาธิมาทำช็อปงานไม้หรือโครงการใดๆเลยตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้ได้เวลาที่จะกลับมาสานฝันต่อแล้วครับ ช่วงที่ไม่ได้ทำงานไม้ก็ไม่ได้ทิ้ง ยังหาความรู้ด้วยการอ่านและดูวิดีโองานไม้ตลอด เพื่อเพิ่มพูนความรู้ไปในตัว รวมถึงก็ยังได้เปิด Woodworking Group ทั้งใน Facebook ( https://www.facebook.com/groups/493245727475465/ ) และใน Line เพื่อให้เพื่อนๆชาว DIY งานไม้ ได้มีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆ ก็สนุกดีครับ

    ช่วงระหว่างที่ไม่ได้ทำงานไม้ ว่างๆจากงาน ก็มีโอกาสได้หาซื้อสะสมเครื่องมือต่างๆได้อีกมากมาย รวมถึงสิ่ว มีดแกะสลัก และมีดกลึงต่างๆ จนเป็นที่มาของการตัดสินใจที่จะทำ Sharpening Station ขึ้นมาใช้เองในช็อปของผมในอนาคต เลือกไปเลือกมาจากการศึกษาเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับการลับคมานาน จนเป็นที่มาของการตัดสินใจลงทุนจัดหาสุดยอดของเครื่องลับคมแห่งยุคคือ TORMEK T-7 มาพร้อมกับจิ๊กอีกหลายตัว เพียงพอที่จะลับได้ทั้งสิ่ว ใบกบ มีดแกะสลัก มีดกลึงรูปทรงต่างๆ ใบมีดเครื่องรีด เครื่องไสต่างๆได้ทั้งหมด 

Sharpening Station:

   ถ้าจะหาเครื่องลับคมเครื่องมืองานไม้ในยุคนี้แล้วไม่มีใครเกิน TORMEK จากสวีเดน Tormek เป็นเครื่องลับแบบลับน้ำความเร็วต่ำ 90รอบต่อนาที ทำให้ไม่เกิดความร้อนขณะลับเนื่องจากใช้น้ำในการหล่อเย็น เพราะความร้อนจะทำให้เหล็กสูญเสียความคมไปได้หากลับด้วยเครื่องลับที่ม่ใช้น้ำ และมีความเร็วสูง

   TORMEK เป็นบริษัทชั้นนำจากประเทศสวีเดน ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการลับคมด้วยระบบลับน้ำ ได้สร้างนวัตกรรมอันล้ำหน้าในด้านการลับคมด้วยน้ำที่มีจิ๊กให้เลือกอย่างหลากหลาย และเป็นผู้สร้างมาตรฐานต่างๆมากมาย ดังนั้นไม่ว่าจะพิจารณาในแง่ไหน ทั้งประสิทธิภาพการใช้งาน ความคงทนที่รับประกันถึง 10ปี การใช้งานที่ง่ายและความสามารถหลากหลาย มีความเชื่อถือได้สูง

   TORMEK สามารถใช้ลับของมีคมที่ใช้กันในงานไม้ได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสิ่ว ใบกบ ใบมีดเครื่องรีดไม้ เครื่องไสไม้ มีดแกะสลัก รวมถึงมีดกลึงทั้งหมดทุกรูปแบบ และของมีคมอื่นๆที่ใช้กันอยู่ในงานไม้และงานทั่วไป ที่สามารถนำมาลับด้วยเครื่องลับอันทรงประสิทธิภาพของ TORMEK อย่างง่ายดายได้เกือบทั้งหมด (เพราะยังไม่เห็นว่าลับอะไรไม่ได้ เพราะลับได้แม้กระทั่งมีดกรีดยาง ใบมีดปัตตาเลี่ยน)

   เครื่องลับของ TORMEK ปัจจุบันมีด้วยกัน 3รุ่น ได้แก้รุ่น T-7 ที่เป็นเรือธงของ TORMEK ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหิน 250มม.(10") รุ่น T-3 และรุ่น T4 (ที่มาแทนที่รุ่น T-3) ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหิน 200มม. (8")

วิดีโอผลิตภัณฑ์:

วิดีโอมีหลายตอน ที่จะช่วยให้เข้าใจ Sharpening Innovation เครื่องนี้ได้ดียิ่งขึ้น
http://m.youtube.com/watch?v=-QteiDlWbSw

เว็บเจ้าของผลิตภัณฑ์:
http://www.tormek.com

รีวิวผลิตภัณฑ์:
http://www.youtube.com/watch?v=I_TWollGdb0
http://www.youtube.com/watch?v=eQEC2sXmg-k

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-02-19 20:53:50


ความคิดเห็นที่ 847 (3017617)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      ไม่ได้เข้ามา update ซะนาน ได้ฤกษ์เปิดโต๊ะเลื่อยน้องฮาร์วี่ย์เช็คความเรียบร้อย ก่อนเริ่มทำช็อปงานไม้ในฝันต่ออีกคร้งแล้วครับ ผมเริ่มงานไม้ใหม่ด้วยการตัดไม้อัดหนา 10mm วงกลมให้ผู้มีพระคุณก่อน (ที่ยก ผบ.ทบ. ให้ผมน่ะ)  2 แผ่นขนาด 34cm. กับ 36cm. ที่ติดท่านเอาไว้นานแล้ว
      แต่ผมหาจิ๊กตัดวงกลมตัวเก่า(ชั่วคราว) ไม่เจอแล้ว เลยต้องทำขึ้นมาใหม่แบบขี้เหร่ๆหน่อย เพื่อใช้งานชั่วคราวไปก่อน โดยทำใช้งานกับ Makita Trimmer 3709 และดอก Trimmer แบบ Solid Carbide Spiral bit
      จิ๊กตัดวงกลมของผมก็ทำแบบง่ายๆด้วยไม้อัดหนา 6mm. ตัดให้รูปร่างพอดูได้ด้วย Jig Saw โดยตัดแบบ freehand เลย แล้วเจาะรูยึด Trimmer ด้วย Machine screw M4x 20 เมื่อยึด Trimmer แล้วจึงดันดอก Trimmer ให้ทะลุผ่านไม้อัดที่เป็นจิ๊กก็เป็นอันเสร็จ
     เวลาที่จะใช้งานก็วัดระยะจากดอก Trimmer ไปยังปลายอีกด้านหนึ่งของจิ๊ก เมื่อได้ระยะครึ่งวงกลมที่ต้องการ ก็ตอกด้วยตะปูเข็มเลย เอาแบบง่ายๆ ยังไม่ได้เป็นแบบปรับได้  เอาดิบๆแบบนี้แหละครับ ก็ตัดได้เป็นวงกลมสวยงาม ให้เขาไปแล้วรีบๆเลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะเห็นว่าไม่ได้น่าสนใจอะไรแค่แผ่นไม้วงกลมธรรมดาๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-04-01 09:45:51


ความคิดเห็นที่ 848 (3017620)
avatar
pakae

แปลอยู่เสี้ยววินาที แม่ยายนั้นเอง โชคดีน่ะ แม่ยายไม่ชอบหน้าผมเท่าไร ไม่กล้าใช้เลย 555

ผู้แสดงความคิดเห็น pakae (iampakae-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-04-01 13:17:01


ความคิดเห็นที่ 849 (3017905)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

  จากนี้ไปคงจะเริ่มทำช็อปงานไม้ในฝันของผมต่อ โดยจะเริ่มทำโต๊ะสำหรับรองตัดแผ่นไม้อัด MDF หรือ Hardboard ทั้งแผ่นด้วย Track Saw ก่อน ตั้งใจว่าจะทำแบบ Torsion Box ที่ถอดประกอบได้ และใช้ม้างานไม้(Saw Horses) 2 ตัวที่มีอยู่เป็นฐาน เดี๋ยวทำแล้วจะมา update ต่อไป

  หน้าตาก็คล้ายๆแบบนี้ แต่จะช่องถี่กว่านี้หน่อยเพื่อความแข็งแรง เพราะจะเอาไม้อัด 20มม.มาทำจะได้ไม่หนักด้วย ส่วนม้าตัดไม้เหล็กแบบนี้ก้มีอยู่แล้วแค่ทำโครงครอบลงไปเท่านั้น เพราะเดี๋ยวนี้นั่งตัดกับพื้นไม่ไหวแล้วมันเมื่อยน่ะครับ และก็จะเอาไว้เป็นฐานของโต๊ะประกอบชิ้นงานไปด้วยในตัวครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-04-11 19:28:01


ความคิดเห็นที่ 850 (3022934)
avatar
Monster_TOP

 ผมอยากทราบราคา table saw ที่สั่งมาครับ ราคาเท่าไหร่ ต้องสั่งยังไงครับ รบกวนหน่อยนะครับ E-Mail = khathawoot1524@gmail.com

ผู้แสดงความคิดเห็น Monster_TOP (khathawoot1524-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2015-06-27 23:45:48


ความคิดเห็นที่ 851 (3022937)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

ติดต่อขอรายละเอียดและสั่งจากโรงงานเลยครับ
http://www.harveymachinery.com/about3/&FrontComContent_list01-1298358948392ContId=7&comContentId=7&comp_stats=comp-FrontComContent_list01-1298358948392.html

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-06-28 09:02:35


ความคิดเห็นที่ 852 (3023455)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

      ต้องเปลี่ยนแผนเล็กน้อย ที่ยังไม่สามารถทำโต๊ะสำหรับรองตัดแผ่นไม้อัดและ แผ่นMDFได้ เพราะไม้อัดที่จะใช้มันอยู่ด้านใน จนไม่สามารถเอาออกมาได้ จึงได้จัดทำแบบชั่วคราวไปก่อน และเบนเข็มไปทำ Sharpening Station และตู้ซิงค์ในครัวใหม่ก่อน เพื่อให้ไม้อัดกันน้ำที่อยู่ด้านนอกหมดไปก่อน 

     เริ่มจากการตัดไม้ด้วย Track saw ตัว Track Saw ที่ใช้อยู่เป็นของ Bosch ใช้ใบเลื่อยของ freud ที่ยังไม่มีขายในประเทศไทย ผมใช้ตัดไม้อัดเพื่อทำลิ้นชักก่อนอื่นใด ลิ้นชักที่จะทำมีด้วยกันทั้งหมด 4ใบ

     การตัดด้วย Track Saw ก็ค่อนข้างง่ายและมีประสิทธิภาพมาก ทำให้ชีวิตการทำงานไม้ของชาว DIY สะดวกสบายขึ้นเยอ ผมใช้รางขนาด 1.6 เมตร 2 อันมาต่อเข้าด้วยกัน เพื่อให้ยาวเพียงพอแก่การตัดไม้อัดด้านยาวทั้งแผ่นในครั้งเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-07-14 23:10:56


ความคิดเห็นที่ 853 (3023560)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       ไม้ที่ใช้ทำลิ้นชักจะเป็นไม้อัดขนาด 15มม. ส่วนการตัดด้วย Track Saw ก็ตัดเผื่อไว้เล็กน้อย เพื่อที่จะนำไปตัดละเอียดให้พอดีอีกครั้งบนโต๊ะเลื่อย สำหรับการตัดไม้ให้ได้ความยาวที่ต้องการ ผมใช้เครื่องตัดสไลด์องศาเป็นตัวตัด การทำลิ้นชักใช้เวลาพอควร เพราะลืมไปหลายอย่างไม่ได้ทำเสียนาน แต่ก็แค่เปิดตำราดูทบทวนก่อนเริ่มทำใหม่ คงไม่เหมือนกับช่างมืออาชีพที่ทำกันทุกวันย่อมชำนาญกว่าพวกเราชาว DIY น่ะครับ

       การต่อชนไม้ที่ผมใช้ในการทำลิ้นชักผมยังจะใช้แบบ Half blind dovetail อยู่เพราะมันแน่นหนาดีและเหมาะที่สุดสำหรับไม้อัด เพราะไม้อัดจะแตกง่ายโดยเฉพาะที่เป็น Tail เมื่อทำหางเหยี่ยวด้วย Router

       เนื่องจากจะต้องทำให้ขนาดภายในของลิ้นชักพอดีกับถาดใส่ Jig ต่างๆของ Tormek ทำให้ต้องวัดหลายรอบหน่อย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้พอดีเป๊ะเมื่อประกอบเป็นลิ้นชัก เวลาชักลิ้นชักเข้าออกมันจะได้ไม่เลื่อนไปเลื่อนมา

       ในที่สุดก็ทำใบต้นแบบเสร็จใช้เวลาไป 1 วัน ทำไปเดินไปเดินมา เก็บข้าวเก็บของ เก็บมะเขือเทศที่ปลูกไว้ ใน Greenhouse และเริ่มปลูกผักไฮโดรโฟนิครอบใหม่ หลังจากพักแปลงเพื่อทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค แถมได้ซ่อมรถตัดหญ้า แล้วก็ตัดหญ้าไปด้วยระหว่างรอกาวแห้งน่ะครับ ได้ทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-07-18 22:49:30


ความคิดเห็นที่ 854 (3024920)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     ผ่านไปอีก 1 เดือนกับการทำ Sharpening Station เพราะต้องทำงานอื่นนิดหน่อยทั้งที่ยังทำได้แค่ลิ้นชัก 4 ใบเท่านั้นเอง แถมยังไปได้สมาชิกใหม่มาช่วยงานอีก 2 ตัวคือ Kreg Foreman ที่เป็นเครื่องเจาะเดือยเอียงชนิดใช้มอเตอร์ กับเครื่องไสชิด(Jointer) ที่ใช้เวลาที่ยาวนานกว่า3ปีครึ่งกว่าที่จะได้มาเป็น Bigwood JP-801 นับเป็นมหากาพย์ของการจัดหาเครื่องมือของผมอีกเครื่องหนึ่ง

     เพื่อนๆที่เป็นสมาชิกกลุ่ม Woodworking ของ Facebook อยู่แล้วก็สามารถที่จะติดตามรายละเอียดได้ตามลิ้งค์นี้ครับ ส่วนท่านใดที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก ก็สามารถร้องขอเข้าเป็นสมาชิกได้ครับ

https://www.facebook.com/groups/493245727475465/search/?query=Jointer     


ส่วน กระทู้เรื่องเครื่องไสชิดของคุณเขมทัตที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปร่วมสนทนาเรื่องเครื่องไสชิดด้วยตามลิ้งค์นี้ครับ 
http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=1&No=1412652

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-08-29 04:49:25


ความคิดเห็นที่ 855 (3025919)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

    ช่วงนี้ยังไม่มีโอกาสได้ทำงานไม้เลย เพราะป่วยต้องพักรักษาตัวยาวเลยครับ หากกลับมาทำได้ต่อเมื่อใดจะมา update ให้นะครับ ช่วงที่ยังไม่ได้ทำช็อปอย่างจริงจัง ก็ยังสามารถติดต่อกันได้ทาง Facebook และ Line กลุ่ม Woodworking ที่มีเพื่อนๆชาว DIY งานไม้อยู่กับครบหน้านะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-10-06 15:13:10


ความคิดเห็นที่ 856 (3027227)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

INCRA LS Positioner Instructional Video:
แนะนำวิดีโอการใช้งาน Incra LS Positioner Instructional ใช้งานกันอย่างไร มีข้อดีที่น่าสนใจตรงไหน ใครใจไม่แข็งพออย่าดูนะครับเพราะดูแล้วอาจเสียตังค์ไดัครับ
 

https://youtu.be/n5GMGYgafCk 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2015-11-15 08:12:08


ความคิดเห็นที่ 857 (3028760)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

     ช่วงนี้เป็นช่วงที่ได้พักฟื้นยาวนานหลายเดือน และเป็นช่วงที่จัดเตรียม เครื่องไม้เครื่องมือ รวมถึง Templates ในการทำเก้าอี้ในแบบของ Sam Maloof ทั้ง Low-Back Chair, High-Back Chair รวมถึง Elegant Rocking Chair ด้วย

     เพื่อนๆที่สนใจสามารถเข้าไปดู ศึกษา หรือพูดคุยกันได้ใน Facebook Woodworking Group นะครับ
https://www.facebook.com/groups/493245727475465/search/?query=Building%20Sam%20Maloof%20Inspired%20Furniture

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-01-07 15:40:22


ความคิดเห็นที่ 858 (3029206)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

สมาชิกใหม่ INCRA LS Positioner Super System 25" รั้วโต๊ะเร้าเตอร์ตัวใหม่ที่จะติดตั้งบนโต๊ะเร้าเตอร์ขนาด 27" x 43" กับ Router และ Router Lift ของ Bosch GMF1600CE 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-01-21 23:14:24


ความคิดเห็นที่ 859 (3030719)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทดสอบการทำ ดอกเร้าเตอร์สำหรับทำ Maloof Joint เพื่อใช้สร้างก้าอี้ตามแบบของ Sam Maloof โดยเฉพาะการทำเก้าอี้โยก (Elegant Rocking Chair) ที่จำเป็นต้องใช้ดอกเร้าเตอร์ Rabbet ทั้งหมด 3แบบ ที่ผลิตโดย Whiteside ดังนี้:-

1. 5-degree Negative Rabbet Bit

2. 5-degree Positive Rabbet Bit

3. Straight Rabbet Bit

แต่เนื่องจากดอกเร้าเตอร์พวกนี้ราคาค่อนข้างแพง เนื่องจากต้องใช้ลูกปืนพิเศษที่เอียงตามใบมีดคาร์ไบด์ของดอกเร้าเตอร์ที่ 5 องศา และไม่มีขายในท้องตลาดทั้งในและต่างประเทศ จึงหาวิธีทำลูกปืน ขึ้นมาใช้เอง

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-03-18 22:03:08


ความคิดเห็นที่ 860 (3030720)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

*** รูปแบบของ Maloof Joint ***

 

จะเห็นได้ว่าเก้าอี้ที่ใช้การต่อชนไม้ ที่เรียกว่า Maloof Joint จะมีความแข็งแรงมาก และเมื่อทากาว แล้วยึดด้วยสกรูแล้วยิ่งมีความแข็งแรงมากๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-03-18 22:28:24


ความคิดเห็นที่ 861 (3030843)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

เปรียบเทียบตลับลูกปืนที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้เอง กับตลับลูกปืนจากดอกเร้าเตอร์สำหรับทำ Maloof Joint ของ Whiteside

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-03-23 10:35:33


ความคิดเห็นที่ 862 (3030844)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ตลับลูกปืนเอียง 5 องศา (5-degree Tapered Ball Bearing) ที่ทำขึ้นมาใช้เอง รูปของตลับลูกปืนเมื่อทำเสร็จแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-03-23 10:38:36


ความคิดเห็นที่ 863 (3030882)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

แนะนำดอกเร้าเตอร์สำหรับต่อชนแผ่นไม้ติดลามิเนต 45องศา
 
1.  FREUD 45-522 45-Degree Laminate Miter Joint Router Bit (1/2" Shank)
เป็นดอกเร้าเตอร์กัดมุมแผ่นลามิเนตแกน 1/2" ใช้กัดขอบลามิเนต เพื่อต่อชนกันไม่ให้เห็นขอบสีดำเวลาชนมุมแผ่นลามิเนต ดอกจะกัดที่มุมใต้แผ่นลามิเนตปิดทับไม้ที่ 45 องศา ที่ความหนาไม่เกิน 1/4" (ประมาณ ไม้อัดไทย 6 มม.)
 
2.  FREUD 45-502 45-Degree Laminate Miter Joint Router Bit (1/4" Shank)
เป็นดอกทริมเมอร์กัดมุมแผ่นลามิเนตแกน 1/4" ใช้กัดขอบลามิเนต เพื่อต่อชนกันไม่ให้เห็นขอบสีดำเวลาชนมุมแผ่นลามิเนต ดอกจะกัดที่มุมใต้แผ่นลามิเนตปิดทับไม้ที่ 45 องศา ที่ความหนาไม่เกิน 1/4" (ประมาณ ไม้อัดไทย 6 มม.)
http://www.toolmarts.com/freud-45-522-46-degree-laminate-miter-joint-router-bit-with-1-2-inch-shank
.
ดอกเร้าเตอร์ดอกนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เอาไว้กัดแผ่นลามิเนตเปล่าๆให้มีมุม 45องศานะครับ เพราะแผ่นลามิเนตมันบางแค่ 0.6-1.0 มม.เท่านั้นจำเป็นต้องติดบนไม้บนโต๊ะหรือตู้ก่อน ส่วนแผ่นลามิเนตด้านข้างที่จะเอามาประกบ เพื่อชนกับท็อปโต๊ะหรือตู้ก็ต้องติดกับแผ่นไม้ข้างตู้และกัด 45 องศาด้วยดอกเร้าเตอร์ เพื่อให้ต่อชนได้กับแผ่นหลังตู้หรือโต๊ะได้พอดีที่มุม 45 องศานะครับ หากสงสัยลองดูรูปแบบ (Profile) ของ Amana ที่ลงไว้ให้ด้านบนๆก่อนนะครับ
 
เพื่อให้ได้ราคาที่เพื่อนๆทุกท่านสามารถซื้อหากันได้ จึงผลิตออกมาจำหน่ายให้เพื่อนๆได้มีโอกาสได้ใช้กัน ดอกแบบนี้จะมีฟันคาร์ไบด์ 4 ฟัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถกัดออกมาได้เรียบสนิทซึ่งจะให้รอยกัดที่เรียบกว่าดอกที่มี 2หรือ 3 ฟัน ดอกที่จำหน่ายจะมีให้เลือกทั้งแกน 1/2" และ 1/4" สนใจติดต่อที่ Facebook กลุ่ม Woodworking ได้ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-03-23 21:33:02


ความคิดเห็นที่ 864 (3031178)
avatar
หมู

 พี่เทอดศักดิ์คับถ้าอ่านความคิดเห็นนี้รบกวนติดต่อกลับหน่อยได้รึป่าวคับ 0868841288 ผมหมูคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมู วันที่ตอบ 2016-04-03 09:44:06


ความคิดเห็นที่ 865 (3031399)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 ติดต่อทาง Line ID:tsrisap ได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-04-13 20:23:46


ความคิดเห็นที่ 866 (3032861)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ปลวกกับงานไม้ ของคู่กัน:

วันนี้โดนปลวกมาขออยู่อาศัย กินกล่องกระดาษและไม้อัด ต้องเรียกบริษัทกำจัดปลวกมาจัดการ สงสัยจะเสียหายเยอะ โทษฐานไม่ได้ทำงานไม้เสีย 9 เดือนเต็มๆ ไม่ได้รื้ออกมาดูเลย

ทั้งๆที่อัดน้ำยาลงดินตลอดมา 6 ปีแล้วทำให้เราประมาทไม่ดูแลไปด้วย เพราะคิดว่าอัดน้ำยาแล้วทุกปี มันเก่งจริงๆ สันนิษฐานว่าน่าจะเพราะย้ายกองไม้ครั้งล่าสุดเพื่อตรวจกองไม้ทุกๆ 6 เดือนเมื่อ 10-11 เดือนที่แล้วก่อนป่วย ทำให้ไปบังรูที่อัดน้ำยาลงดินแล้วผมก็จำไม่ได้ เลยไม่ได้อัดน้ำยาที่เสานี้ ซึ่งเป็นบริเวณช่วงริมกำแพงกลางช็อป แล้วก็ไม่มีโอกาสได้ดูแลมา 9 เดือนเต็มๆเลยอพยพมากันเพียบเลย

 

 

 

คงจะได้เริ่มงานไม้ใหม่อีกครั้งหลังจากที่อาการดีขึ้นเรื่อย สามารถยืนได้นานขึ้น และพอเดินได้สะดวก แต่ก็ยังมีอาการปวดอยู่บ้าง ต้องทำไปพักไป ไม่หักโหม หรือยกของหนักเกินไป ไม้หนักๆต้องอาศัย รปภ.หมู่บ้านมาช่วยยก ติดตามกันต่อไปนะครับ สำหรับเพื่อนๆที่ใช้ Facebook สามารถติดตามได้ที่กลุ่ม Woodworking นะครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-06-02 11:40:22


ความคิดเห็นที่ 867 (3033263)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ดอกเร้าเตอร์ชุดสำหรับทำ Maloof Joint Rocking Chair ผลิตในประเทศ เสร็จแล้ว 2 ชุดๆละ3 ดอก ตามแบบของ Whiteside ที่ต้องใช้ลูกปืนเอียง 5 องศาที่ทำขึ้นมาเอง เทียบกับ P/N ของ Whiteside ได้ดังนี้:-
105257 Straight Rabbet bit
105253 5-degree Negative Rabbet bit
105252 5-degree Positive Rabbet bit
ทำให้สามารถหาซื้อใช้กันได้ในราคาแค่ 30% ของราคาดอก Whiteside ที่สั่งมาจากต่างประเทศ
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-06-15 20:18:24


ความคิดเห็นที่ 868 (3036850)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

23 ก.ค. 2559 เช้าวันนี้ตื่นมา รู้สึกว่าขามันไม่ค่อยเจ็บมากเหมือนทุกวัน สบายๆ นาทีทองแล้วเลยกะว่าจะหาอะไรทำซะหน่อย มองไปมองมาเห็นโต๊ะงานไม้ (Workbench)ซื้อมาจาก Thaicarpenter.com ที่ใช้งานมา 6ปี แล้วตั้งแต่สมัยที่ยังทำอะไรไม่เป็นเลย ใช้งานมานานแต่ก็ยังไม่เคยได้ทำการบำรุงรักษาอะไรเลย ใช้อย่างเดียว เห็นมันดูโทรมๆเลยคิดว่า จะจัดการกับผิวหน้าโต๊ะซะหน่อย

คิดได้ดังนั้น เลยจัดการเอาเครื่องขัดออกมา 2ตัว คือเครื่องขัดกลมของ Dewalt และเครื่องขัดสี่เหลี่ยมผืนผ้าของ Makita ขัดเสร็จหน้าตาออกมาดูดีเลย หลังจากที่ใช้ อย่างเดียวจนโทรม ข้อดีของไม้ก็อย่างนี้ละครับ ไม้เก่าจับมาขัดหรือไสสักหน่อยความสวยงามที่ซ่อนอยู่ก็จะปรากฏให้เห็นแล้วละ ครับ

ผมใช้เครื่องขัดกลม Dewalt ก่อน ในรอบแรก เนื่องจากเครื่องขัดกลมจะเป็นเครื่องขัดแบบที่สั่นและหมุนไปด้วย เป็นวงแบบไม่สมมาตร( Orbital) ที่จะให้ประสิทธิภาพในการขัดไม้ได้ดีกว่าเครื่องขัดแบบสี่เหลี่ยม ที่เหมาะเอาไว้ขัดตามเสี้ยนและเก็บงาน

หลังจากขัดเสร็จก็ตั้งใจว่าจะลอง ย้อมสี Walnut ด้วยสีย้อม A380 ดู  หรือจะลง Wax เฉยๆรอตัดสินใจอีกครั้งครับ หลังจากนี้ก็จะค่อยๆ ทยอยทำ Shop และโครงการสารพัดโครงการต่อเสียที แต่ก็คงต้องทำไปพักไปเพราะเป็นห่วงร่างกายเหมือนกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-07-28 03:12:15


ความคิดเห็นที่ 869 (3038310)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

Table Saw Spline Miter Joint  Jig for Stronger Boxes Plan by Woodsmith Magazine:

การต่อชนไม้แบบ  45 องศา (Miter joints) นั้นสวยงามน่ามอง แต่ผิวหน้า ปลายไม้ที่นำมาต่อชนกัน ก็มีพื้นที่น้อยสำหรับกาวที่จะยึดเกาะ  ทำให้สูญเสียความแข็งแรงไป 
 
แต่ก็มีวิธีแก้ไขเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวการยึดเกาะของกาวไม้ ซึ่งวิธีหนึ่งก็คือการทำร่องที่มุมชนของไม้ ตามแนวเสี้ยนไม้ แล้วใส่ลิ่มไม้ เข้าไป จะเป็นการช่วยเพิ่มความแข็งแรงแถมยังทำให้ดูสวยงามอีกด้วย
 
แต่ว่าการตัดร่องที่มุมไม้ก็ไม่ง่าย ถ้าเราไม่มีจิ๊กช่วยจับที่ดี เนื่องจากเราต้องจับไม้ให้เอียง 45 องศา ตลอดเวลาที่ทำการตัดด้วยโต๊ะเลื่อย หรือโต๊ะเร้าตอร์ 
 
วันนี้จึงมาแนะนำการทำจิ๊กสำหรับการตัดร่องที่มุมต่อชนไม้กันโดย นิตยสาร Woodsmith
 
* สามารถใช้ดอกกัดร่องทำ T-Track ได้โดยไม่ต้องใช้แผ่น Hardboard (กระดาษอัดแข็ง) แบบเรียบ 2 หน้าที่บ้านเราไม่มีขาย มาทำเป็นร่อง T-Slot
 
ส่วน Bolt ที่ใช้ตามแบบ (1/4"-20 Flange Bolt) ก็เปลี่ยนให้เท่ากับ T-Slot ที่ใช้ จะเป็นสกรูมิลหัวหกเหลื่ยมเกลียวครึ่งขนาด M6 หรือ M8 ก็ตาม โดยให้มีความยาวพอที่จะขันดอกจอก หรือลูกบิดหัวทะลุได้ (ประมาณ 50 มม.)
 
สำหรับ Backer Board ที่เอาไว้ทำหน้าที่เป็น ZCI (Zero Clearance Insert) ที่ช่วยไม่ให้ไม้ฉีกขณะตัดก็สามารถใช้ แผ่น MDF แทนได้ แล้วติดกับจิ๊กด้วยเทปติดพรม (Carpet Tape)
 
แบบและรายละเอียดการทำ:
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-08-22 21:12:56


ความคิดเห็นที่ 870 (3038312)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

16-8-2559 : วันนี้มีเวลาครึ่งวัน อุปกรณ์มีครบ ลองเริ่มทำงานเล็กๆก่อน เพื่อเรียกความฟิตร่างกาย เริ่มตัดไม้ซ้อมมือ เพื่อทำจิ๊กตัวนี้เลย จะได้เก็บไว้ใช้ในอนาคตด้วย

ทำไปได้นิดหน่อยก็ต้องพักเป็นระยะ พรุ่งนี้อีก 1/2 วันน่าจะเสร็จ วันนี้ต้องพักแล้วครับ
หยุดไปอีก 1 วัน วันนี้ได้กลับมาทำอีกครั้งช่วงบ่าย หลังจากออกไปธุระช่วงเช้า เสร็จไปแล้วน่าจะ 90 % เพราะมัวไปเสียเวลาตัด และต๊าปเกลียว M8 Bolt เกลียวครึ่ง เพราะมีแต่ขนาด 75 มม. อยู่ไม่มีขนาดที่จะใช้ และก็ขี้เกียจออกไปซื้อ Bolt แค่ตัวเดียวเลยตัดสินใจ ตัดเเอง แล้วต๊าปเกลียวใหม่ (สรุปว่ากสรูเกลียวครึ่งใช้ขนาดความยาว 50 มม. จะพอดีนะครับ)

ลูกบิดตัวนี้ทำให้เสียเวลาไปเยอะ แถมต้องไปรื้อแผ่น MDF 4 มม. เพื่อเอาาทำ ZCI (Zero Clearance Insert) ตัดหยาบด้วย Track Saw ก่อนเอาไปตัดขนาดที่โต๊ะเลื่อยกับ เลื่อยตัดองศา ก็เลยทำแผ่น ZCI สำรองไว้ 3-4 ชุดด้วยเลย

แผ่น MDF ที่ใส่ไว้จะทำหน้าที่เป็น Zero Clearance Insert (ZCI) กันไม้ฉีกขณะตัดครับ จะทำให้รอยตัดเรียบสวย หน้าที่เหมือน ZCI บนโต๊ะเลื่อยครับ

ฝรั่งเขาจะใช้ Tempered Hardboard หนา 1/4" ที่เรียบทั้ง 2 หน้าซึ่งจะแข็งกว่า Hardboard ธรรมดา รวมถึง Hardboard หน้าเดียวแบบบ้านเรา แต่ Tempered Hardboard ดังกล่าว บ้านเราไม่มีผลิตจำหน่าย จึงต้องใช้ MDF แทน

ส่วนร่อง T-Slot ก็ใช้ดอกเร้าเตอร์ทำ T-Slot ขนาด M8 ที่โต๊ะเร้าเตอร์ เพื่อใส่ Bolt และลูกบิด สำหรับยึดClamp Base

เหลืองานติด Clamp Jaw กับ Support อีก 4 อัน ขัดกระดาษทราย และลงแลคเกอร์
ตัว ZCI ที่เป็นMDF ติดไว้ด้วยเทปติดพรม (Carpet Tape) สามารถงัดออกเปลี่ยนอันใหม่ได้เมื่ออันเก่าหมดสภาพ ติดClamp Base และ Support เรียบร้อย รอกาวแห้งที่เหลือก็ขัด และลงแลคเกอร์ เก็บไว้ใช้งานได้

โครงสร้างเสร็จแล้ว เหลือขัดนิดหน่อย และลง แลคเกอร์ สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ ทำไว้ใช้ได้ไม่ยากมากเกินไปสำหรับ DIY มือใหม่

ทิป: ส่วนที่เอียงชนกัน 45องศาใต้จิ๊ก ผมใช้วิธีตัดด้วยโต๊ะเลื่อย แล้วเอามาชนกัน มีวิธีที่ง่ายกว่าหากมีเครื่องไสชิด คือประกอบโดยเอาขอบปลายชนกันที่ 90 องศา แล้วค่อยเอาไปเข้าเครื่องไสชิด ไสจนได้45 องศา ก็จะง่ายและตรง พอดีเครื่องไสชิดผมอยู่ลึกขี้เกียจลากออกมาใช้งานเท่านั้นเอง

เสร็จเรียบร้อย ลง Sanding Sealer และแลคเกอร์ ทิ้งไว้ให้แห้ง เก็บไว้ใช้งานต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-08-22 21:29:02


ความคิดเห็นที่ 871 (3047144)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ทดสอบกาวยางแบบบ้านๆ กับ Dunlop ชนิดพ่น (กระป๋องสีฟ้า) เทียบกับ Wilsonart 500 และ 3M No.20

ด้วยความอยากรู้ว่า Dunlop ชนิดพ่น (กระป๋องสีฟ้า) มันจะสามารถใช้ลูกกลิ้งๆได้ไหม เพราะเป็นสิ่งที่คาใจผมมานานมาก นับปี ไม่มีโอกาสได้ลองสักที ในใจคิดว่ามันพ่นได้ก็น่าจะเหลวพอที่จะกลิ้ง หรือทาด้วยแปรงได้นะ

กาวยางแบบสเปรย์ของ 3M No.20 ได้ใช้มาน่าจะ 2ปีแล้ว สามารถทดแทนกาวยางที่ต้องปาดได้ดี ทำให้ผมไม่ได้ใช้กาวยางแบบปาดอีกเลย

ส่วน Wilsonart 500 แบบกลิ้งด้วยลูกกลิ้งหรือทาด้วยแปรงได้ เพื่อนๆหลายท่านก็คงได้ใช้กันไปเยอะพอสมควรแล้ว แต่ก็อยากที่จะทดสอบเองบ้าง เพื่อหาความชอบเป็นส่วนตัว เอาไว้ใช้เป็นหลักต่อไปสำหรับโปรเจ็คต่างๆของผมในอนาคต

ตัดแผ่น MDF ไม้อัด และแผ่นลามิเนต แล้วขัดเตรียมไว้เรียบร้อย ตั้งใจว่าจะทดสอบดู

การทดสอบการติดแผ่นลามิเนตด้วย กาวยางสเปรย์ 3M No.20 เพื่อเทียบกับ กาวยางชนิดใช้ลูกกลิ้งหรือทาด้วยแปรง Wilsonart 500 และ กาวยาง Dunlop ชนิดพ่น (กระป๋องสีฟ้า) ที่นำมาทดสอบด้วยการใช้ลูกกลิ้ง (หลังจากที่คาใจผมมากว่า 1 ปี ว่ามันจะใช้ได้หรือไม่)
เริ่มยกแรก จากการทดสอบติดแผ่นลามิเนต กับแผ่นไม้อัดยางทดสอบ ขนาด 14" x 8" ด้วยกาวทั้ง 3 ชนิด
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-09 09:11:46


ความคิดเห็นที่ 872 (3047149)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 กาวยาง WilsonArt 500 ใช้งานกับลูกกลิ้งได้ดี กลิ้งเรียบง่าย เพราะค่อนข้างเหลว กลิ้งซ้ำได้ไม่เหนียว ซึ่งหลายๆท่านก็ได้ใช้กันมาแล้ว เมื่อแห้งแล้วก็ติดแผ่นลิมิเนตได้ดี ใช้ลูกกลิ้งรีดอากาศออก ติดได้สนิทไม่มีส่วนเผยอออก

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-09 10:05:12


ความคิดเห็นที่ 873 (3047150)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

การทดสอบกาวยาง Dunlop ชนิดพ่น (กระป๋องสีฟ้า) เหมือนกับการทดสอบกาวยาง Wilsonart 500 ด้วยการใช้ลูกกลิ้งเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากกาวยาง Dunlop กระป๋องฟ้ากระป๋องนี้ ผมซื้อมานานมากเกือบ 2 ปี แต่เนื่องจากยังไม่เคยเปิดกระป๋องจึงยังคงสภาพใช้ได้ดีอยู่ แม้จะสังเกตว่ามันจะข้นกว่า Wilsonart เล็กน้อย
ผมทดสอบกาวยาง Dunlop กระป๋องสีฟ้า โดยไม่ได้เติม Thinner สำหรับกาวยางของ Dunlop โดยเฉพาะเบอร์ CT02010 Thinner -T559 ก็สามารถทาด้วยลูกกลิ้งได้ได้ดี
เดิมคิดว่าทิ้งไว้เกือบ 2 ปี มันอาจข้น และอาจต้องเติมทินเนอร์ แต่เมื่อเปิดเทออกมาใช้ แม้ว่าจะข้นกว่า Wilsonart เล็กน้อยก็ตาม แต่ก็ยังสามารถใช้กับลูกกลิ้งได้ไม่มีปัญหา (หากเป็นกาวใหม่ ความข้นน่าจะใกล้เคียงกับ Wilsonart 500)

 
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-09 10:08:55


ความคิดเห็นที่ 874 (3047156)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 กาวยางแบบสเปรย์ของ 3M No.20 นั้นก็ใช้ง่ายมาก เพราะมาเป็น กระป๋องสเปรย์ มีหัวพ่นขนิดปรับรูปแบบการพ่นได้ที่หัวมาพร้อม
การใช้งานก็แค่พ่นให้ทั่วแผ่น ทั้งลามิเนต และวัสดุที่จะติด เหมือนการพ่นสีทั่วไป รอแห้งหมาดๆก็ติดเข้าด้วยกันเหมือนกาวยางปกติ

แผ่นทดสอบกาวสเปรย์ 3M No.20 ผมได้ทำการทดสอบมาก่อนหน้านี้แล้วการติดก็แน่นหนาดี หากเรารีดด้วยลุกกลิ้งยาง ให้ไม่มีฟองอากาศหลงเหลืออยู่
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-09 10:21:18


ความคิดเห็นที่ 875 (3047157)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ได้ผลสรุป การทดสอบกาวยาง Dunlop(กระป๋องสีฟ้า) ชนิดพ่น ด้วยลูกกลิ้ง เมื่อเทียบกับ กาวสเปรย์ 3M No.20 และกาวยางชนิดใช้ได้กับลูกกลิ้งและทาด้วยแปรงแล้ว ก่อนเอาไปเก็บขอบด้วยทริมเมอร์
การมีกาวยางที่สามารถใช้ลูกกลิ้งทาได้ทำให้มือ DIY อย่างผมสามารถติดแผ่นลามิเนตได้ง่าย และเรียบมากขึ้น จากเดิมที่ยากมากที่มือใหม่ๆ จะสามารถปาดกาวยางได้เรียบเหมือนมืออาชีพ 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-09 10:26:12


ความคิดเห็นที่ 876 (3047158)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

จากการทดสอบ กาวยางทั้ง 3 ชนิด สามารถติดได้แน่นและเรียบดี รวมถึงบริเวณขอบด้วย จนหาความแตกต่างไม่พบ Wilsonart 500, Dunlop ชนิดพ่น และ 3M No.20 ชนิดสเปรย์ (จากซ้ายไปวา)
อาจมีแค่ Dunlop กระป๋องฟ้า ข้นกว่า แต่อาจเพราะเป็นกาวยางที่ผมซื้อมานานเก็บไว้เกือบ 2 ปี แล้ว
 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-09 10:37:32


ความคิดเห็นที่ 877 (3047159)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ลูกกลิ้งที่สามารถใช้ทากาวยางได้บ้านเรา คงยังต้องใช้ลูกกลิ้งขนสังเคราะห์สั้นขนาดเล็กจะสะดวกกว่า เนื่องจากลูกกลิ้งโฟมที่มีขายในบ้านเราไม่สามารถใช้กับกาวยางได้ เนื่องจากลูกกลิ้งโฟมจะพองเมื่อโดนกาวยาง ทำให้หลุดจากแกน 
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-09 10:42:51


ความคิดเห็นที่ 878 (3047161)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

สรุปได้ว่า กาวยางชนิดพ่น Dunlop กระป๋องสีฟ้าสามารถนำมาใช้กับลูกกลิ้งได้ ทำให้มีทางเลือกในการใช้งานกาวยาง (Contact Cement) ได้มากขึ้น ส่วนราคาจำไม่ค่อยได้ เพราะแต่ละอย่างซื้อมานานมากแล้ว
- Dunlop กระป๋องสีฟ้า ประมาณ 500 กว่าบาท /ปี๊บ 3kg.
- Wilsonart 500 ประมาณ 590 หรือ 950บาท/แกลลอน (จำไม่ได้แน่ครับ)
- 3M No.20 น่าจะแพงสุดเมื่อเทียบตามปริมาตร กระป๋องขนาด 390g ราคาประมาณ 230 บาท
 
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-09 10:49:13


ความคิดเห็นที่ 879 (3047165)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 ลูกกลิ้งสักหลาดขนสั้นสำหรับงานเรซิ่น (Blue Stripe Resin Roller) ขนาดเล็ก ที่ใช้ในการทากาวยาง ซื้อได้ทั่วไป Global ไทวัสดุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-09 10:53:04


ความคิดเห็นที่ 880 (3047378)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหนืดของกาวยาง หน่วยวัดเป็น Centipoise (cP)
1. Dunlop LP (Red) = 3,000- 4,500 cP
2. Dunlop GP (Green) = 2,800- 6,000 cP
3. Dunlop CA (Orange) = 4,000-9,000 cP
4. Dunlop SP (Blue) = 200-400 cP
5. Wilsonart 500 = 600 cP
6. DAP Weldwood = 1,100 cP
ทำให้เห็นได้ว่าหาก กาวยาง (Contact Cement ) ที่จะสามารถใช้กับลูกกลิ้ง หรือแปรงในการทาได้ จะต้องมีความหนืดในช่วง 200- 1,100 หรือมากกว่านั้นนิดหน่อย ส่วนพวก Dunlop กระป๋องแดง กระป๋องเขียว และกระป๋องส้มใช้ไม่ได้แน่ เพราะสูงมากตั้งแต่ 2,800 จนถึงระดับ 9,000 กันเลย

จากการค้นข้อมูล ทำให้ทราบว่ากาวยางชนิดพ่นจะมีค่าความหนืดต่ำสุด (Dunlop กระป๋องสีฟ้าที่ 200-400 cP) เพื่อให้ง่ายต่อการพ่น
ส่วนกาวยางที่ใช้กับลูกกลิ้งและแปรง จะมีค่าความหนืดสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อให้กาวเกาะแปรงหรือลูกกลิ้งได้ดีขึ้นไม่เหลวเป็นน้ำจนเกินไป ซึ่งก็สัมพันธ์กับค่าความหนืดของ กาวยาวชนิดใช้กับลูกกลิ้งของ DAP Weldwood ที่ 1,100 cP และ Wilsonart 500 ที่ 600 cP 
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-10 08:22:58


ความคิดเห็นที่ 881 (3048086)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

จากการทดสอบ กาวยาง Dunlop ชนิดพ่นกระป๋องสีฟ้า กับพื้นที่ขนาดใหญ่เช่นพื้นโต๊ะ ขนาด 120x80 ซม. รอกาวแห้งก่อน เดี๋ยวค่อยเก็บขอบเพื่อดูว่าติดแนบสนิทดีไหม

การทดสอบยังใช้ ลูกกลิ้งสักหลาดขนสั้นขนาดเล็กของ Stanley อยู่เพื่อดูว่าจะสามารถใช้ได้กี่ครั้ง ส่วนลูกกลิ้งสำหรับเรซิน หรือ epoxy ที่คุณ เดชา ชอบทำ บุตรพรหม แนะนำ สุดสัปดาห์นี้จะไปราชบุรี มีโอกาสจะลองไปดูที่ Global นครปฐม ที่เป็นทางผ่าน

การกลิ้งกาวยาง ไม่ควรรีดกาวจนติดผิวเกินไป เนื่องจากสามารถกลิ้งซ้ำได้ ทั้งนี้เพื่อให้มีเนื้อกาวติดที่แผ่น ลามิเนตและพื้นผิวที่จะติดพอสมควรจะทำให้ติดแน่นดี ติดเสร็จก็รีดด้วย J Roller ไล่อากาศออกให้หมด ผลของการติดหลังจากเก็บขอบดูแล้วก็แนบสนิทดีครับ

ผลการทดสอบสรุปได้ว่า กาวยาง Dunlop ชนิดพ่นกระป๋องสีฟ้า สามารถทาด้วยลูกกลิ้งได้ ไม่ต่างจากกาวยาง Wilsonart 500 ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-13 20:28:07


ความคิดเห็นที่ 882 (3048835)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

ลูกกลิ้งขนาดเล็ก สำหรับงานเคมีไฟเบอร์กลาส ซื้อมาจากไทวัสดุ ยี่ห้อ Somic ราคา 99 บาท ว่างๆจะลองดูว่า แตกต่างกับ Stanley อย่างไรบ้างนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-17 21:48:21


ความคิดเห็นที่ 883 (3049071)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

สมาชิกใหม่ Veritas ® Bench Chisels:

สิ่วงานไม้ระดับเทพ Veritas ที่ผลิตออกขายมี 2รุ่น คือรุ่นที่ทำจากเหล็ก O1 และเหล็ก PM-V11 มีทั้งหมด 5 ขนาดได้แก่ 1/4", 3/8", 1/2", 3/4" และ 1" ในภายหลัง Veritas ได้เพิ่มขนาด สำหรับชุดเหล็ก PM-V11 มาอีก 2 ขนาดคือ 1/8" และ 3/16"

สิ่วรุ่นที่ทำจากเหล็ก O1 จะมีความแข็งที่ Rc58-60 ส่วนสิ่วที่ทำจากเหล็ก PM-V11 จะมีความแข็งมากที่ Rc61-63

สิ่วแต่ละเล่มจะถูกลับที่มุมเอียงหลัก (Primary Bevel) ที่ 30° องศา สำหรับสิ่วขนาด 1/8", 3/16", 1/4" และ 3/8" และมุมเอียงหลักที่ 25° องศา สำหรับสิ่วขนาด 1/2", 3/4" และ 1" ส่วนคมที่ 2(Secondary Bevel) จะลับเพิ่มอีก 2° องศา

สำหรับสิ่วที่ทำจากเหล็ก PM-V11 จะมีความแข็งแกร่ง คมทนนาน เกือบ 2 เท่าของเหล็ก A2 ทนต่อการทื่อหรือบิ่นได้ดี แม้กระทั่งการลับคมถึง 20° องศาก็ตาม แต่สามารถลับได้ง่ายด้วยหินน้ำใกล้เคียงกับเหล็ก A2

ใบสิ่วตั้งแต่ที่โคนจะค่อยๆเอียง (Taper) ไปจนถึงปลายเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ส่วนด้านข้างสิ่วจะตรงตลอแนว แต่ที่ความหนาของสิ่วจะเอียงเพื่อหลบไม้บริเวณด้านข้างไม้ขณะใช้งาน เพื่อลดการเสียดสีด้านข้างใบสิ่วให้น้อยลง และช่วยในการคายขี้ไม้ให้ดียิ่งขึ้นขณะใช้งาน

ส่วนโคนสิ่วกับด้ามสิ่วจะเสียบกันเป็นแบบลิ่ม(tang) และ ปลอก (Socket) คือแบบที่มีเดือยแบนทิ่มเข้าไปในด้ามไม้ ที่ทำจากไม้เมเปิ้ลแข็งผ่านกรรมวิธี ส่วนปลอกรัดด้ามไม้ทำจาก Stainless

ความยาวของสิ่วเริ่มตั้งแต่ 3-5/8" จนถึง 5-1/8" ตามแต่ขนาดของสิ่ว  $$$ เหล็ก O1 ชุด 5เล่ม ราคา $369 

เหล็ก PM-V11 ชุด 5เล่ม ราคา $399 
เหล็ก PM-V11 ชุด7 เล่ม ราคา $529

https://www.youtube.com/watch?v=2ehuu5wrNYQ

การทดสอบสิ่วที่ทำด้วยเหล็ก 4 ชนืดได้แก่ PM-V11, A2, White Steel และ O1/HCS 

http://www.inthewoodshop.com/…/FourChiselSteelsCompared.html
ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-19 01:23:29


ความคิดเห็นที่ 884 (3049103)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 Veritas Mortise Chisel - สิ่วเจาะเดือยเหลี่ยม:

Veritas ได้ออกสิ่วสําหรับเจาะเดือยเหลี่ยมแล้ว หลังจากที่รอกันมานาน
สิ่วเจาะเดือยเหลี่ยมของ Veritas ที่นำออกขายมี2รุ่น คือรุ่นที่ทำจากเหล็ก A2 และเหล็ก PM-V11 มีทั้งหมด 5 ขนาดได้แก่ 1/8" 1/4" 5/16" 3/8" และ1/2"

ใบของสิ่วมีความหนามากกว่า 1/2" และมีความหนาที่เท่ากันตั้งแต่ปลายจนถึงโคนสิ่ว ส่วนด้านข้างสิ่วมีความเอียงเล็กน้อยเพื่อลดแรงเสียดทานด้านข้างสิ่ว ระหว่างที่เจาะเดือยเหลี่ยม

สิ่วแต่ละเล่มจะถูกลับที่มุมเอียงหลักที่ 25° องศา เพื่อให้คมสิ่วกัดลึกได้ง่ายขึ้น ส่วนคมที่สองจะลับที่ 35° องศาเพื่อช่วยเพิ่มความคมในการตัดยิ่งขึ้น

ที่โคนของสิ่วจะเป็นทรงกลมเพื่อช่วยในการบิดสิ่วได้ราบรื่นขึ้น ส่วนโคนสิ่วกับด้ามสิ่วจะเสียบกันเป็นแบบ flat tang คือแบบที่มีเดือยแบนทิ่มเข้าไปในด้ามไม้ ที่ทำจากไม้เมเปิ้ล

ความยาวของสิ่วเริ่มตั้งแต่ 11-5/8" จนถึง 12-1/4" ตามแต่ขนาดของสิ่ว ส่วนตัวใบสิ่วจะมีความยาวตั้งแต่ 5-5/8" จนถึง 6-1/4"

แต่ออกมาปุ๊บ สำหรับ PM-V11 ขายหมดปั๊บจนของขาดตลาด แต่ผมก็ได้มา 1 ชุด
$$$ ราคาชุดเหล็ก A2 ชุดละ $299 ส่วน PM-V11 ชุดละ $399

http://www.leevalley.com/US/wood/page.aspx…

อ่านการทดสอบเหล็ก PM-V11 โดยนิตยสารFine Woodworking 
http://www.finewoodworking.com/…/veritas-pm-v11-tool-steel.…

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2016-10-19 07:03:38


ความคิดเห็นที่ 885 (3609017)
avatar
Joe

 ขอขอบคุณมากครับ สำหรับการแชร์ประสบการณ์ และ ข้อมูลเยี่ยมเลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Joe (joebangjak-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2016-11-21 10:44:24


ความคิดเห็นที่ 886 (4029267)
avatar
นรินทร์

 เข้ามากี่ครั้งก็สนุกตื่นเต้นและสำคัญสุดได้ความรู้ตลอด

ผู้แสดงความคิดเห็น นรินทร์ วันที่ตอบ 2017-01-07 02:33:52


ความคิดเห็นที่ 887 (4036253)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

       อยู่ว่างๆยังไม่ได้ทำงานไม้ มีเวลาเลยทำดอกเร้าเตอร์สำหรับปรับหน้าไม้โดยเฉพาะ ให้เพื่อนๆได้ใช้กัน
เพราะบ้านเราไม่มีดอกปรับหน้าไม้ว่วนใหญ่ก็ใช้ดอกกัดตรงดอกใหญ่ๆ หรือบางคนก็ไปใช้ดอกกงจักร
      ดอกเร้าเตอร์ปรับหน้าไม้ - Surfacing, Rabbeting, Flycutter, Leveler & Surface Planer Bit มี
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-1/2  ขนาดแกน 1/2" 

      เป็นดอกเร้าเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้ปรับผิวหน้า หรือทำ บังใบ โดยเฉพาะ เหมาะแก่การใช้ในการปรับผิวหน้าไม้ หรือการไสหน้าไม้แผ่น ใช้ในการปรับระนาบหน้าไม้ Spoilboard ของเครื่อง CNC และสามารถใช้ได้กับเครื่องเร้าเตอร์กับจิ๊กเพื่อปรับหน้าไม้ด้วยมือได้ สามารถใช้งานได้ดีกับ ไม้จริง ไม้อัด และ แผ่น MDF

คุณสมบัติทั่วไป:
- เป็นดอกใช้ปรับผิวหน้าไม้สำหรับเครื่อง Router และเครื่อง CNC 
- มีลักษณะการใช้งานได้เทียบเท่าดอก Amana RC-2257
- มีประสิทธิภาพในการกัดผืวงานออกสูง
- สามารถคายขี้ไม้ออกได้อย่างรวดเร็ว
- ออกแบบมาให้เหมาะกับงานไม้
- สามารถส่งมาเปลี่ยนใบมีดคาร์ไบด์ใหม่ได้ในราคาไม่แพง เมื่อใบทื่อ

ขนาดโดยประมาณ:
- ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-1/2"
- ความสูงใบมีดคาร์ไบด์ 1/2" จำนวน 2 ใบ
- ขนาดแกน 1/2"
- แกนดอกยาว 2-1/4" ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
- ความยาวทั้งดอก 3"
- ความเร็วสูงสุดที่ใช้ได้ 19,000 รอบ/นาที (RPM)
(แนะนำให้ใช้งานที่ความเร็วรอบ 12,000-16,000 รอบ/นาที
- ควรใช้ร่วมกับ Router Collet Extension ในการต่อแกนให้ยาวขึ้น

ลักษณะการทำงานคล้ายกับในวิดีโอนี้ที่เป็น Amana RC-2251*:
* (แต่ RC-2251 จะมีใบกัดด้านใต้อีก 2 ใบ ทำให้กัดได้รวดเร็วกว่า)
https://youtu.be/arenVQMHNuA

ราคา Amana RC-2257 ที่ขายใน US $230.85
https://www.amazon.com/Amana-RC-2257-SURFACING…/…/B000P4ONE0
(ต่างกันแค่ดอกที่ทำมาขายจะเปลี่ยนใบมีดคาร์ไบด์ด้วยตนเองไม่ได้ ต้องส่งไปเปลี่ยนที่โรงงานเท่านั้น)

รายละเอียดดอก Amana RC-2257:
https://www.facebook.com/groups/493245727475465/search/…

*** ส
นใจไปสั่งซื้อกันได้ที่นี่ครับ
https://www.facebook.com/groups/475143126005852/permalink/556405811212916/?sale_post_id=556405811212916

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2017-02-09 21:14:07


ความคิดเห็นที่ 888 (4041005)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

แนะนำดอกทริมเมอร์กัดขอบลามิเนต 8 องศา รุ่น 47210

ดอกทริมเมอร์กัดขอบลามิเนต 8 องศา รุ่น 47210 ออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีช่วงแกนเรียว มีความลาดเอียง 2 ชั้นอยู่ระหว่างคมมีดกัดที่เอียง 8 องศาและลูกปืนนำทาง ( Pilot Ball Bearing)

- ดอก 47210 ออกแบบให้มีช่อว่างระหว่างคมตัดคาร์ไบด์ กับลูกปืนขนาด 0.287” เพื่อช่วยลดการก่อตัวของกาวยาง ที่จะไปติดกับลูกปืน

- ร่องดักกาวที่ทำเป็นเป็น 2 ระดับจะช่วยไม่ให้กาวยางเคลื่อนที่ไปยังลูกปืนได้ง่าย

-มีแหวนกันกาวยางที่ปืดลูกปืนอีกชั้น กันกาวยางที่อาจเล็ดลอดเข้าไปในลูกปืนได้

- ลูกปืนมีขนาดใหญ่ 5/8" ทำให้มั่นคงในการกลิ้งไปตามขอบไม้

- ใบคาร์ไบด์มีขนาดเอียง -5 องศา ทำให้มีลักษณะการทำงานเป็นแบบเฉือน(Shear) ลามิเนต ไม่ใช่การฟัน (Chop) ไปที่ลามิเนต แบบใบคาร์ไบด์ตั้งตรง

ดอกทริมเมอร์กัดขอบลามิเนต 47210 มีขนาดดังนี้
- แกน (Shaft Diameter) (d)¼” 
- ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางดอก (Cutting Height) (D) 5/8”
- มุมเอียงใบคาร์ไบด์ (Angle) (a) 8 องศา
- คมตัดสูง (Cutting Height) (B) 15/32”
- ความยาวทั้งดอก (Overall Length) (L) 2-1/4”
- คมตัดคาร์ไบด์ (Flute) 2 คม
- มุมเฉือนของใบ(ShearAngle) -5 องศา
- ขนาดลูกปืน 5/8"

* ผลิตออกจำหน่าย หลังปรับปรุงแบบ และกระบวนการผลิตอยู่นานพอสมควร สนใจสั่งซื้อได้นะครับ
https://www.facebook.com/groups/475143126005852/permalink/611928792327284/?sale_post_id=611928792327284

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2017-03-03 17:24:00


ความคิดเห็นที่ 889 (4058201)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 การเลือกใช้ค้อน (Mallet)ให้เหมาะกับสิ่วด้ามไม้ :

เพื่อนๆหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่าจะเลือกใช้ค้อนแบบไหน กับสิ่วด้ามไม้ที่เรามีอยู่ หรือที่ซื้อมาใหม่ เพราะทั้งสิ่ว และค้อนต่างก็มีหลายแบบ ทั้ง หัวเหลี่ยม หัวกลม ทั้งเป็นที่เป็นโลหะ เช่นเหล็ก ทองเหลือง เป็นต้น แต่ละแบบก็ยังมีหลายขนาดอีก

มีคำแนะนำดังนี้คือต้องดูลักษณะของด้ามสิ่วที่มีเป็นหลักก่อน หากแบ่งคร่าวๆ ด้ามสิ่วหลักๆจะมีอยู่ 3 แบบคือ
1. แบบด้ามไม้ หัวกลม หรือมน สิ่ว Premium Bench Chisels จะมีลักษณะนี้หมดไม่ว่าจะเป็น Lie-Nielsen, Veritas, Stanley Sweetheart, Blue Spruce หรือ Narex เป็นต้น
2. แบบด้ามไม้ หัวแบน เช่น Aldi, Ashley Iles รุ่นเก่า เป็นต้น
3. แบบด้ามไม้มีปลอกกันแตก (ferrule) เช่นสิ่วญี่ปุ่น สิ่วจากเยอรมัน พวก Two Cherries, Dunlap หรือสิ่วจากสวีเดนเช่น E.A. Berg Eskilstuna เป็นต้น จะใช้แบบนี้ หรือสิ่วพวกที่ใช้เจาะเดือยเหลี่ยม (Mortise Chisel) ที่ต้องการๆเจาะที่รุนแรงลงไปในเนื้อไม้ก็จะมีด้ามแบบนี้

เนื่องจากด้ามสิ่ว Bench Chisel ของทางตะวันตกเช่นของอังกฤษ หรือ อเมริกาจะเป็นสิ่วที่มีด้ามแบบที่ 1 และ 2 เป็นหลัก (ส่วนรูปแบบก็จะมีย่อยไปอีกเช่นแบบ Socket หรือ Tang เป็นต้น ซึ่งจะไม่ลงรายละเอียดในการแนะนำครั้งนี้) ซึ่งเป็นแบบที่ใช้กันมานาน ตั้งแต่ครั้งโบราณ 
สิ่วทั้ง 2 ประเภทแรกจะใช้ค้อนไม้ในการตอกสิ่ว จะไม่ใช้ค้อนที่ทำด้วยโลหะ เพราะโลหะเมื่อกระทบไม้ ไม้ก็มีโอกาสจะแตกหรือฉีกได้เมื่อใช้ไปนานๆโดยธรรมขาติของไม้ที่อ่อนกว่าโลหะเช่นเหล็ก หรือทองเหลือง

แล้วค้อนแบบไหน จะเหมาะแก่ด้ามสิ่วแบบไหนกัน จากคำแนะนำจากช่างโบราณ ซึ่งเหตุผลที่อธิบายไว้คือมันจะช่วยให้ควบคุมมุมในการตอกได้ดี และไม่ลื่นไถลระหว่างที่ค้อนกระทบสิ่ว ทั้ง3 แบบมีดังนี้
1. ให้ใช้ค้อนผิวหน้าแบนกับสิ่วที่มีปลายด้ามมน หรือมีรูปโค้ง (แบบที่ 1 - รูปบน)
2. ให้ใช้ค้อนผิวหน้าโค้งกับสิ้วที่มีปลายด้ามแบนตรง (แบบที่ 2-รูปกลาง)
3. ให้ใช้ค้อนโลหะเช่นค้อนเหล็กหรือทองเหลือง* กับสิ่วที่มีปลอกโลหะรัดที่ปลายด้าม ไม่ว่าจะเป็นสิ่วญี่ปุ่นหรือสิ่วตะวันตกที่มีปลอกรัดด้าม (แบบที่ 3 -รูปล่าง) เพราะมีปลอก (Ferrule) ป้องกันการฉึกของด้ามไม้อยู่แล้ว

ง่ายๆแค่นี้ มื่อเข้าใจแล้วจะได้เลือกใช้ค้อนให้ถูกกับสิ่วที่เพื่อนๆมีกันอยู่ให้สนุกและไม่ต้องกลัวมันแตกเสียหายเพราะสิ่วมีไว้ตอก จะด้วยฝ่ามือหรือค้อน แต่ต้องเลือกใช้งานให้ถูก ส่วนขนาดและน้ำหนักต้องลองใช้ดู เนื่องจากน้ำหนักของค้อนก็จะมีส่วนสำคัญในการเลือกให้เหมาะกับงาน ซึ้งจะนำมาเล่าให้กันฟังเพื่อเป็นความรู้ในโอกาสหน้า

* ค้อนตอกสิ่วญี่ปุ่นเรียก Genno

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2017-06-06 17:06:10


ความคิดเห็นที่ 890 (4069143)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 ระบบกรองฝุ่นไม้ในอากาศ สำหรับช็อปงานไม้ - Woodworking Air Filtration System

ระบบกรองฝุ่นในอากาสสำหรับช็อปงานไม้โดยเฉพาะกับระบบปิด ที่ไม่ต้องการให้มีฝุ่นไม้ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อระบบหายใจทั้งต่อตัวเอง สมาชิกในครอบครัว รวมถึงเพื่อนบ้าน จำเป็นที่จะต้องมีระบบกรองฝุ่นไม้ขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศให้หมด

จึงขอแนะนำระบบกรองฝุ่นไม้ในอากาศ ที่นิยมใช้กันในช็อปงานไม้ในอเมริกา หรือ ยุโรป จะมีชื่อเรียกว่า Air Filtration System ที่จะประกอบไปด้วย ระบบกรองฝุ่น 3 ชั้น ระบบกรองฝุ่นทั้ง 3 ชั้นจะประกอบไปด้วย ตัวกรอง แผ่นกรอง หรือถุงกรอง 3 แบบด้วยกัน ดังนี้

ตัวกรองชั้นแรก จะเป็นแผ่นกรองแบบไฟฟ้าสถิต ที่สามารถถอดออกไปล้างทำความสะอาดได้ จะอาศัยหลักการของไฟฟ้าสถิตย์ในการดูดฝุ่นให้มาติดแผ่นกรอง ที่จะอยู่ด้านหน้าสุดของระบบกรองฝุ่นไม้ในอากาศ

ตัวกรองขั้นที่ 2 เรียก Outer Filter จะเป็นตัวกรองที่มีลักษณะเป็นถุงหลายๆใบ (multi-pocket bag-filter) สามารถกรองฝุ่นไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก สามารถที่จะกรองฝุ่นไม้ที่ลอยอยู่ในอากาศขนาดเล็กขนาด 5 ไมครอน ได้ถึง 99% และขั้นที่ 3 ที่เรียกว่า Inner Filter จะกรองฝุ่นขนาด 1 ไมครอน ได้ถึง 91%

ความเร็วในการกรองฝุ่นไม้ออกจากอากาศ จะวัดเป็น CFM (ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที) หรือ m3/min (ลูกบาศก์เมตรต่อนาที) ยิ่งมากก็จะกรองได้เร็ว แต่ก็ราคาแพงขึ้น หรืออาจติดตั้งมากกว่า 1 ชุด หากช็อปมีขนาดใหญ่

ระบบกรองฝุ่นไม้ออกจากอากาศเป็นระบบที่ทำงานโดยใช้มอเตอร์ในการดูดฝุ่นไม้ที่ลอยอยู่ในอากาศผ่านตัวกรองต่างๆ แล้วปล่อยอากาศที่ไร้ฝุ่นไม้ออกมาด้านหลัง การติดตั้งใช้งานสามารถตืดตั้งได้ทั้งการแขวนเพดาน ติดข้างฝา หรือวางที่โต๊ะก็ได้ แต่วิธีที่ให้ประสิทธิภาพมากที่สุดคิอการแขวนไว้ที่เพดานห้อง สามารถเปิดปิด เร่งหรือลดความเร็วด้วยรีโมทได้

หากจะขจัดฝุ่นไม้ให้หมดไป หลังจากมีระบบเก็บฝุ่น ((Dust Collection) จะด้วยระบบใดก็ตาม ก็ต้องไม่ลืมที่จะติดตั้งระบบกรองฝุ่นไม้ที่ลอยอยู่ในอากาศออกด้วยนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2017-07-31 23:39:11


ความคิดเห็นที่ 891 (4092192)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 # การเลือกขนาดของเครื่องกรองฝุ่นในอากาศ

การเลือกขนาดของเครื่องกรองฝุ่นไม้ในอากาศ ก็เหมือนกับการเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศในการติดตั้งในห้องใดห้องหนึ่ง หากเล็กเกินไปก็จะใช้เวลานาน ในการดูดฝุ่นไม้ออกจากอากาศ ทำให้กรองไม่ทันกับฝุ่นที่จะมีออกมาจากการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฝุ่นก็ยังลอยอยู่ในอากาศ และสะสมปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆสุดท้ายก็จะไม่ได้ช่วยอะไรมากในการติดตั้ง เพราะกรองไม่ทัน ทำให้ต้องเพิ่มเป็น 2-3 เครื่อง ยิ่งจะแพงกว่าทั้งค่าเครื่อง ค่าชุดกรอง และค่าพลังงานไฟฟ้า
หรือถ้ามีขนาดใหญ่เกินไป ก็กินกระแสไฟฟ้ามากเกินความจำเป็น เสียงดัง และสิ้นเปลืองทั้งค่าเครื่อง และค่าพลังงานไฟฟ้า
ทั้งนี้การคำนวนก็ยังต้องขึ้นอยู่กับช็อปของเพื่อนๆว่า มีเครื่องมืออะไรอยู่ในช็อปด้วย ใช้งานกี่คน เป็นต้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ต้องนำม่พิจารณาในการคำนวนขนาดของเครื่องที่จะเลือกใช้

# วิธีการคำนวนหาขนาดของเครื่องฯ
การคำนวนโดยปกติ จะเอาปริมาตรของอากาศที่ต้องไหลผ่านเครื่องเพื่อกรองฝุ่นไม้ออก คูณด้วย จำนวนรอบของอากาศที่ต้องการกรองหมุนเวียน สู่เครื่องกรองต่อชั่วโมง (แนะนำใช้จำนวน 6 รอบ
หากเป็นช็อปที่ใช้งานคนเดียว และไม่มีเครื่องขัดกระดาษทรายขนาดใหญ่ หรือหัวขัดงานแกะสลักไม้ด้วยกระดาษทราย หรือ หัวคาร์ไบด์ หากมีให้ใช้จำนวน 8 รอบ) แล้วหารจำนวนที่ได้ด้วย 60 เพื่อให้ได้ปริมาตรอากาศที่ต้องการกรอง ออกเป็นลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM)
# สูตรในการคำนวนหาขนาดเครื่องฯ
Necessary air moving capacity (cfm) = volume x cycles / 60
- Necessary air moving capacity (cfm) = ขนาดของเครื่องกรอง
- Volume = ปริมาตรของห้อง (กว้าง x ยาว x สูง) เป็นลูกบาศก์ฟุต
- Cycle = จำนวนรอบที่ต้องการกรอง 6 รอบสำหรับช็อปทั่วไป 
และ 8 รอบสำหรับช็อปที่มีการขัดปริมาณมากๆ
ตัวอย่าง 1: ช็อปที่ไม่มีเครื่องขัดกระดาษทรายเพิ่มและใช้งานคนเดียว
ช็อปขนาด ก30" xย30" x ส10" จะเท่ากับ (30x30x10x6)/60 = 900 CFM
ตัวอย่าง 2: ช็อปที่มีเครื่องขัดกระดาษทรายเพิ่มและใช้งานคนเดียว
ช็อปขนาด ก30" xย30" x ส10" จะเท่ากับ (30x30x10x8)/60 = 1,200 CFM

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2017-12-07 20:05:53


ความคิดเห็นที่ 892 (4093040)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 เพื่อนๆที่จะเข้ากลุ่ม DIY งานไม้ Facebook สามารถเข้าร่วมได้ที่กลุ่ม Woodworking ตามลิ้งค์นี้ครับ

https://web.facebook.com/groups/493245727475465/

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2017-12-13 16:50:00


ความคิดเห็นที่ 893 (4103142)
avatar
เทอดศักดิ์(M)
image

 เริ่มโปรเจ็คใหม่ในการทำโต๊ะ Sculpted Table ในแบบของ Sam Maloof โดย Scott Morrison - Fine Woodworker

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2018-02-14 04:28:18


ความคิดเห็นที่ 894 (4113819)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

+++ มาชวนเพื่อนๆทำ Sculpted Table ตามแบบของ Sam Maloof +++

หลังจากห่างเหินการทำงานไม้ที่เป็นเรื่องเป็นราวไปเสียนาน กลับมาเคาะสนิมด้วยการเริ่มทำโต๊ะที่มันมีทรวดทรงองค์เอว ที่มีชื่อเรียกว่า Sculpted Table ตามแบบฉบับของ Sam Maloof สักตัว จะได้เอาไว้ทดลอง A380 Oil ของพี่เบิร์ดแห่ง ไทยวาชิน http://www.a380shop.com ไปด้วยพร้อมๆกัน

ที่จริงก็เริ่มงานมาตั้งแต่หลังจากที่ทำ Moxon Vise เสร็จแล้ว แต่ก็ทำได้ค่อนข้างช้า ตามเวลา และวัสดุที่อำนวย

โต๊ะตัวนี้ก็มีเพื่อนๆได้ทำกันไปแล้วหลายท่าน ใช้ไม้ต่างๆกันตามชอบ หรือที่มีอยู่ เท่าที่ทราบก็มีคุณ จ๊อด Kompetch George Maijaturas คุณ Weerapol Thairach และน้อง Tanachat Kai Kwaenthanyakorn อีกคน

การทำก็ทำตามแบบในวิดีโอ ของ Scott Morrison ที่เคยลงไว้ให้

# วิดีโอการสร้าง Sculpted Table ชุดนี้เป็นกาสร้างโดย Computer Animation พากย์โดย Scott Morrison เพื่อนๆสนใจก็เข้าไปดูเป็นความรู้กัน พร้อมเมื่อใดค่อยทำก็ได้
https://goo.gl/rcZqLf

ส่วนเพื่อนๆที่สนใจการทำเฟอร์นิเจอร์งานไม้ในแบบของ Sam Maloof สามารถดูรายละเอียดได้จากที่นี่ครับ https://www.facebook.com/groups/493245727475465/search/…

หมายเหตุ: รูปโต๊ะที่นำมาประกอบเรื่อง ยังไม่ใช่โต๊ะตัวจริงที่ทำนะครับ ขอยืมรูปโต๊ะของ Scott Morrrison ที่ทำไว้มาประกอบเรื่อง ทำเสร็จเมื่อไหร่ก็จะเอามาเปลี่ยนแทนรูปนี้ต่อไปนะครับ ไปเริ่มกันเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2018-05-01 20:17:00


ความคิดเห็นที่ 895 (4113821)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 ต๊ะที่ทำก็ก้าวหน้าไป 70% แล้ววันนี้ไม่ได้ทำเพราะป่วยเลยมีเวลามานั่งเขียนไว้ก่อน เพื่อนๆที่สนใจจะได้ติดตามได้

โต๊ะที่ผมทำจะใช้ไม้ที่มีอยู่แบบประหยัดที่สุด ซึ่งไม้ที่ผมมีอยู่จะเป็นไม้แอชประมาณหน้า 6 นิ้ว หนา 3/4" เมื่อไสแล้ว


แต่เนื่องจากโต๊ะตัวนี้จะต้องใช้ไม้หนา 1-1/2" ทุกแผ่น ทำให้ต้องมีการเพลาะไม้เป็นจำนวนมากพอสมควร ซึงก็ต้องตัดให้เหลือเศษน้อยที่สุด และลายไม้ก็ให้เป็นทิศทางเดียวกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เริ่มจากการเพลาะไม้ทำขาก่อนเลย ด้วยการตัดไม้ Ash หนาประมาณ 1" ขณะที่ยังไม่ได้ไส สำหรับขาโต๊ะผมต้องเพลาะไม้ ทั้งหมด 3 แผ่นเข้าด้วยกัน เพื่อให้เพลาะและซอยแล้ว จะได้ขนาด 2-1/4" x 2-1/4"ซึ่งจะหนากว่าแบบ 1/4" 

ด้วยความเสียดายไม้ เพราะชิ้นส่วนไม้หลัก ต้องรีดและเพลาะกันแล้วมันจะมีความหนา 1-3/4" แทนขนาด 1-1/2" จึงใช้ขนาด 1-3/4" ​ในการทำโต๊ะครั้งนี้ ซึ่งการทำก็จะต้องปรับแบบให้ไปได้กับไม้ที่เตรียมไว้
ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2018-05-01 20:18:36


ความคิดเห็นที่ 896 (4113822)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

ชิ้นแรกที่ทำจะเป็น การทำแกนกลางขาโต๊ะ (Center Post) ซึ่งตามแบบจะมีขนาด 2"x2" แต่ผมจะทำขนาดใหญ่กว่านิดหน่อยคือ 2-1/4" x2-1/4"

กาวที่ใช้ก็เป็นกาว Mitsui D3 ของพี่มิท ติดแน่นสนิทดี แถมราคาถูกอีกต่างหาก ขวดนี้เก็บไว้เกิน 2 ปีแล้วยังใช้ได้ดีอยู่ เพราะยังไม่เคยเปิดขวดเลยไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2018-05-01 20:20:11


ความคิดเห็นที่ 897 (4113823)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 หน้าตาของ แกนกลางขาโต๊ะ (Center Post) ที่จะต้องทำ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2018-05-01 20:21:02


ความคิดเห็นที่ 898 (4113824)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 ขนาดของไม้ที่นำมาทำแกนกลางขาโต๊ะตามแบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2018-05-01 20:21:40


ความคิดเห็นที่ 899 (4113825)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

 ส่วนแกนกลางขาโต๊ะที่ทำ ผมทำแค่ตัดให้ได้ขนาดที่ต้องการคือ 2-1/4" x 2-1/4" x 18-1/8" เท่านั้นยังไม่ได้เซาะร่องด้วยใบ Dado และทำร่องโค้ง (Cove) ที่มุมทั้ง 4 ของแกนกลางขาโต๊ะก็ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากเปลี่ยนใบเลื่อยสลับไปมา ระหว่างใบเลื่อยธรรมดา กับใบเลื่อยเซาะร่อง (Dado) 

จึงเก็บเอาไว้ทำทีเดียวพร้อมๆกับกับชิ้นส่วนอื่นๆ

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2018-05-01 20:22:23


ความคิดเห็นที่ 900 (4113826)
avatar
เทอดศักดิ์(M)

ขั้นต่อไปผมก็ไม่ได้ทำตามขั้นตอนในวิดีโอนะครับ เนื่องจากต้องเพลาะไม้จำนวนเแยะ ทำให้ต้องทยอยเพลาะทิ้งไว้ เพลาะแล้วนำมาไสชิด รีด และตัดขนาด ซึ่งขั้นตอนนี้ ผมก็ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ แต่โดดไปทำท็อปหน้าโต๊ะก่อนเลย ระหว่างรอไม้ที่เพลาะ ตามแบบใช้ไม้หน้า 8" 3 แผ่น

ส่วนท็อปของผมจะใช้ไม้ หน้า 6" จำนวน 4 แผ่น เมื่อเพลาะแล้วก็จะเกิน 24" อยู่นิดหน่อยกำลังพอดี สำหรับท็อปจะใช้บิสกิต (Biscuit) ช่วยในการปรับระดับพื้นโต๊ะให้ได้ระนาบ จะได้ไม่ต้องปรับหน้าโต๊ะกันเยอะในภายหลัง

ผู้แสดงความคิดเห็น เทอดศักดิ์(M) (tsrisap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2018-05-01 20:23:14



« 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 »


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.