ภาพของโต๊ะช่างไม้ตัวแรกครับ

ภาพของโต๊ะตัวที่สอง ซึ่งเป็นของคุณชาญศิริ อักษรนันทน์

โต๊ะช่างไม้มีประโยชน์อย่างไร

จากประสบการณ์งานไม้ของผม โต๊ะช่างไม้ (workbench) เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้มากที่สุดอย่างหนึ่งระหว่างการทำงานไม้ โดยเฉพาะงานไม้แบบดั้งเดิมที่หนักไปทางการใช้แรงงานและฝีมือคน  หน้าที่หลักๆของโต๊ะช่างไม้คือ การยึดจับและรองรับชิ้นงานอย่างมั่นคงระหว่างการ ไส เลื่อย ตอก เจาะ และประกอบ

เมื่อครั้งเรียนมัธยมต้นผมเริ่มสนใจงานช่างไม้เฟอร์นิเจอร์อย่างจริงจังและก็ได้เริ่มหัดทำงานประเภทตู้โต๊ะด้วยเครื่องมือช่างของคุณพ่อโดยมีคุณพ่อเป็นผู้ให้คำติชมและคำแนะนำอย่างใกล้ชิด แรกๆก็หนักไปทางคำติในเรื่องของความประณีต ต่อมาจึงเริ่มได้รับคำชมเป็นลำดับ ช่วงปิดเทอมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผมได้ต่อม้าเลื่อยไม้ขึ้นตัวหนึ่งเพื่อใช้สร้างตู้หนังสือไม้สักให้พี่สาว (ตามรูปประกอบ)

ม้าเลื่อยไม้ตัวที่ว่าทำจากไม้เต็ง ขนาด 6 x 1-1/2 นิ้ว มีขา 4 ขาทำด้วยไม้หน้า 3 x 1-1/2 นิ้ว ตรงปลายด้านหนึ่งมีไม้เป็นร่องตัว V สำหรับยึดหนีบเวลาไสสันไม้ การใช้ม้าตัวที่ว่านี้รองรับชิ้นงานระหว่างการเลื่อย การไสหรือการตอกสิ่วจะใช้ได้ดีถ้าชิ้นงานมีขนาดเล็ก แต่ในกรณีที่ชิ้นงานกว้างก็จะเกิดการโยกขยับทำให้เลื่อยและไสค่อนข้างลำบาก สาเหตุก็มาจากการยึดจับที่ไม่มั่นคง และน้ำหนักของตัวม้าเลื่อยเองที่ค่อนข้างเบา เสียดายที่ไม่ได้รักษาม้าตัวนี้เอาไว้ให้ดีมันก็เลยผุพังไปก่อนหน้านี้

ระหว่างที่ผมกำลังต่อตู้หนังสือให้พี่สาวและเริ่มรู้สึกว่าม้าเลื่อยไม้ตัวที่ใช้ขาดความเหมาะสมในการจับยึดชิ้นงานอยู่นั้น วันหนึ่งคุณพ่อก็ได้จัดหาหนังสือช่างไม้ของ Charles H. Hayward มาให้ศึกษา  ผมจึงมีโอกาสเห็นรูปโต๊ะช่างไม้ของฝรั่งเป็นครั้งแรกพร้อมกับเห็นวิธีการใช้เครื่องมือช่างหลากชนิดรวมถึงวิธีการเข้าไม้แบบต่างๆ  ยิ่งดูรูป (แปลไม่ค่อยออกเพราะภาษายังไม่แข็ง) ก็ยิ่งเกิดความอยากต่อโต๊ะช่างไม้ของตัวเองขึ้นมาเป็นลำดับ  ในช่วงเวลาเดียวกันก็มีญาติมิตรขอให้ช่วยต่อตู้หลายราย ผมจึงได้สร้างโต๊ะช่างไม้ตัวแรกขึ้นเมื่อปี 2518 ระหว่างการปิดภาคเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อช่วยให้ทำงานสะดวก โชคดีที่ผมได้รับทั้งคำแนะนำเรื่องแบบและการสนับสนุนด้านกำลังทรัพย์จากคุณพ่อ ใช้เวลาสร้างโต๊ะตัวแรกนี้ประมาณ 2 เดือนก็เสร็จสมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์ ตั้งแต่นั้นผมได้ใช้โต๊ะตัวนี้ทำงานไม้และงานช่างอื่นๆจนถึงปัจจุบัน รวมเวลาแล้ว 36 ปีเศษ

โต๊ะช่างไม้ของผมยาว 183 ซม. กว้าง 66 ซม. สูง 82 ซม. ช่วงขากว้าง 122 ซม.  ไม้ที่ใช้เป็นไม้ประดู่และไม้แดง น้ำหนักโต๊ะและอุปกรณ์รวมประมาณ 175 กิโลกรัม ผมจำได้ว่าซื้อไม้จากร้านไม้ข้างวัดสระเกศและโรงไม้ย่านบางโพธิ์และต่อมาจ้างรถสองแถวขนไม้ไปอบที่โรงอบไม้อิมเป็คโก้แถวสะพานใหม่  ในช่วงปี  2517 ถึง 2518 นั้นไม้แปรรูปราคายังไม่แพง ผมได้ว่าไม้ยางขนาด 1 x 1 นิ้วราคาเมตรละ 1 บาทกว่าๆหรือ ประมาณคิวฯ (ลูกบาศก์ฟุต) ละ 50 บาท สำหรับไม้ประดู่ไม้มะค่าก็อยู่ที่คิวฯละ 200 บาทเศษส่วนไม้สักอยู่ที่ประมาณ 350 บาทต่อคิวฯ ราคาไม้ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นไม้ใหม่นะครับ ลองเปรียบเทียบกับราคาปัจจุบันดูซิครับว่าต่างกันขนาดไหน

โต๊ะช่างตัวแรกของผมมีส่วนประกอบและรายละเอียดนี้มีดังนี้ครับ

 พื้นโต๊ะ

ส่วนที่ 1 พื้นโต๊ะ

ทำด้วยไม้ประดู่ ขนาด8 x 2 นิ้ว 3 ชิ้น แต่ละชิ้นยึดกับคานขนาด4 x 2 นิ้ว โดยใช้น๊อตขนาด 4 หุนร้อยทะลุคาน เพื่อความสวยงามผมเจาะรูขนาด 1 นิ้วบนพื้นโต๊ะฝังหัวน๊อตแล้วพรางรูน๊อตด้วยเดือยกลมเรียว(Tapered Plug) ที่ทำจากเศษไม้ประดู่ โดยใช้ เลื่อย สิ่ว บุ้ง ตะไบ บวกกับเวลาและความอึด ด้านใต้คานรองแหวนอีแปะขันหัวน๊อตตัวเมีย น๊อตที่ใช้ยึดพื้นโต๊ะกับคานมีทั้งหมด 36 ตัว ผมไสชิดไม้ทุกคู่ด้วยกบบรรทัดและใช้ปากกาอัดไม้พื้นทั้งสามชิ้นเข้าด้วยกันขณะเจาะรูน๊อตเพื่อยึดพื้นเข้ากับคาน ไม้พื้นทั้งสามชิ้นเป็นอิสระจากกันไม่ได้ติดกาวหรือยึดเดือยระหว่างกัน

หลังจากโต๊ะเสร็จสมบูรณ์ไม่นานผมก็สังเกตว่า แม้จะได้อบไม้เป็นอย่างดีแล้วก็ยังเกิดการหดตัวของไม้พื้นโต๊ะจนเป็นรอบแยกที่มองเห็นได้ชัดเจนส่วนเดือยพรางหัวน๊อตหลายอันก็ยุบตัวจากการถูกกระแทกผมได้นำบทเรียนทั้งสองนี้มาประกอบการออกแบบโต๊ะตัวที่สองที่ผมจะเล่าให้ฟังภายหลังครับ

พรางรูน๊อตด้วยเดือยกลม

ด้านใต้คานรองแหวนอีแปะขันหัวน๊อตตัวเมีย

รอยแยกจากการหดตัวของไม้ (แม้จะผ่านการอบแล้ว)

การยุบตัวของเดือยพรางรูน๊อตที่ถูกกระแทก

ขอบคุณคุณเขมทัตมากครับ ที่เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์และเป็นความรู้สำหรับผู้สนใจ ผมขออนุญาตเก็บภาพไว้เพื่อศึกษานะครับ.....ขอบคุณครับ

ชาญศักดิ์ (ระยอง)

ขอบคุณครับ ที่เข้ามาบอกเล่าให้ได้รู้กัน เป็นความรู้และอีกแนวทางหนึ่งสำหรับฅนที่อยากทำโต๊ะงานซักตัว แบบที่ว่าแข็งแรงและคงทนถาวร ใช้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเลยทีเดียวครับ

สุดยอด...ขลัง...ดังมีมนต์ พูดตามความรุ้สึกที่เห็นภาพเลยนะครับ
ขออนุญาตSave Picutre ไว้ก่อนนะครับ
ผมว่าโต๊ะตัวนี้ใช้ถึงลูกๆๆๆหลานๆๆๆเหลนๆๆๆโหลนๆๆแน่ๆครับ

ขอถามหน่อยครับราคาไม้ที่ทําโต๊ะนี้อยู่ที่เท่าไรครับ..แพงมั้ยครับ

ดูมั่งคงดีครับ น่าจะหนักน่าดู ดีใจและเป็นเกียรติครับที่คุณ เขมทัต ได้เข้ามาร่วมแสดงผลงาน ร่วมกับพี่ๆในบอร์ดแห่งนี้ครับ

เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจเลยครับ สมัยผมอยู่มัธยมต้น พ่อผมสอนให้เหลาไม้ไผ่ทำว่าวยังยากแล้วเลยครับ น่านับถือจริงๆครับ

ขอบคุณมากครับ

 ขอบคุณครับคุณ เขมทัต เล่าต่ออีกนะครับ ข้าวของเครื่องใช้แต่ละชิ้น มักมีเรื่องราวที่เป็นตำนาน และน่าศึกษาแฝงอยู่ทั้งนั้น ผมชอบอ่านครับ

Test

ขอโทษทุกท่านด้วยครับที่ไม่ได้เล่าเรื่องต่อ ผมเจอปัญหาโพสท์ไม่ได้และกำลังขอความช่วยเหลือจากเวปมาสเตอร์อยู่ครับ เนื้อเรื่องและรูปพร้อมจะลงทันที่ทีโพสท์ได้ครับ

เดือยหางเหยี่ยวที่มมุมขอบโต๊ะ

เข้าเดือนหางเหยี่ยวสุดยอดครับ งานละเอียดมาตราฐานสูง นับถือ เห็นไม้งามมันวาว สำหรับผมมันมีค่ามากกว่าทองคำ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวๆ ดีๆ นะครับ...

คุณเขมทัต เป็นอีกท่านหนึ่งที่ผมชื่นชอบผลงาน โดยเฉพาะ Workbench ที่เอาไปโชว์ที่งานรวมพลฯ ครั้งที่ 6 บอกได้คำเดียวว่า "สุดยอด!!!!"

เห็นแล้วผมมีแรงบันดาลใจที่จะทำ Workbench เลยครับ ^^

เหนือคำบรรยายครับ

ขอบคุณมากครับที่นำมาให้ชม

อยู่ในโปรเจคของผมอยู่เหมือนกันตอนนี้กำลังเก็บของที่รกอยู่

และขอบคุณอีกครั้งครับที่ให้คำแนะนำในงานรวมพลฯ ที่ผ่านมา

ขอบโต๊ะยึดกับส่วนหัวของขาโต๊ะโดยการบากหัวเสา (Lap Joint)

คานลอยยึดกับขอบโต๊ะโดยการเข้าเดือยสี่เหลี่ยม (Mortise and Tenon Joint) แบบไม่ทะลุ แล้วเสริมด้วยการร้อยน๊อต (Stretcher Bolt)

ขอขอบคุณความรู้ดีๆ ที่มาแบ่งปันให้ครับ

กระทู้นี้สร้างสรรค์มาก ได้ความรู้เรื่อง Joinery มากมาย

2 ขอบโต๊ะ

มีหน้าที่เป็นคานรองพื้นโต๊ะ และเป็นแผงติดตั้งปากกาหนีบไม้ ขอบโต๊ะทั้งสี่ด้านทำจากไม้ประดู่ขนาดเดียวกับพื้นโต๊ะ มุมทั้งสี่ด้านเข้าไม้ด้วยหางเหยี่ยวแบบทะลุตลอด (Through Dovetail Joint) ขอบโต๊ะยึดกับส่วนหัวของขาโต๊ะโดยการบากหัวเสา (Lap Joint) แล้วเจาะรูร้อยและฝังน๊อตขนาด 4 หุน จุดละ 2 ตัว ระหว่างช่วงยาวของขอบโต๊ะมีคานหัวเสา 2 ตัวและคานลอย 4 ตัว คานลอยมี 2 หน้าที่ครับ คือ รองรับพื้นโต๊ะและรั้งขอบโต๊ะไม่ให้ป่องออก (ตามรูปด้านบน)  คานลอยกับขอบโต๊ะยึดเข้าด้วยกันโดยการเข้าเดือยสี่เหลี่ยม (Mortice and Tenon Joint) แบบไม่ทะลุแล้วร้อยน๊อต (Stretcher Bolt) ขนาด 4 หุน เข้ายึดกับน๊อตตัวเมียที่ฝังไว้ในคานที่เซาะร่องไว้ให้ประแจปากตายขยับได้ระหว่างการขันกวด

ส่วนที่ 3 ขาโต๊ะ

ทำจากไม้แดงขนาด 4 x 4 นิ้ว ด้านบนยึดกับคานขวาง 4 x 2 นิ้วที่ยึดพื้นโต๊ะด้วยน๊อต

4 หุน ส่วนด้านล่างยึดกับพนังที่ทำจากไม้แดงขนาด 3 x 1-1/2

นิ้วด้วยการเข้าเดือยสี่เหลี่ยม แล้วเสริมด้วยน๊อตขนาด 3

หุนที่ร้อยผ่านเดือยแบบเดียวกับขอบโต๊ะ

ส่วนที่ 4 ปากกาหนีบไม้ (Bench Vise)

ที่ขอบโต๊ะด้านซ้ายและท้ายโต๊ะมีปากกา Record No. 52 ½ E อย่างละตัว (จำได้ว่าซื้อมาจากเวิ้งนาครเขษมตัวละ 650 บาทและต้องขนขึ้นรถตุ๊กตุ๊กกลับบ้านเพราะแบกขึ้นรถเมล์ไม่ไหว) ปากกาทั้งสองตัวมีไม้ประดู่ประกับขนาด 6 x 3 นิ้ว ช่วงหนีบของปากกาทั้งสองกว้างประมาณ 9 1/2 นิ้ว

ปากกาท้ายโต๊ะมีเดือยไม้สี่เหลี่ยม (Dog) ขนาด 2 x 1 นิ้วโผล่ขึ้นมาจากไม้ประกับเพื่อใช้ร่วมกับเดือยกลางโต๊ะ ในการหนีบไม้ที่จะไส เจาะหรือลงสิ่ว

จากการใช้งานพบว่าปากกาชนิดนี้จะมีอาการ “ตก”  หรือ “ทรุด” เมื่อเปิดออกกว้างๆสาเหตุเกิดจากความหลวมของเพลากับตัวรูเบ้าบนตัวโครงปากกา ซึ่งเป็นข้อจำกัดจากการออกแบบ การทรุดตัวนี้ไม่ค่อยมีผลกับปากกาหัวโต๊ะนัก แต่ก่อให้เกิดปัญหากับปากกาตัวท้ายโต๊ะเวลาหนีบไม้ที่มีขนาดบางๆ เพราะจะเดือยจะสัมผัสไม้ส่วนท้ายได้ไม่เต็มหน้า นี่คืออีกหนึ่งบทเรียนที่นำไปกำหนดแบบของปากกาท้ายโต๊ะในโต๊ะตัวที่สอง

ซึ่งเป็นปากกาแบบที่มีเดือยวิ่งในโต๊ะ (Wagon Vise) และสร้างขึ้นด้วยฝีมือของช่างไทยซึ่งจะเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปครับ

บอกได้คำเดียวว่าขอบคุณอย่างมากถึงมากที่สุดครับ สำหรับกระทู้นี้ กำลังคิดจะทำโต๊ะงานอยู่เหมือนกันครับ จด ๆ จ้อง ๆ มา เกือบปีเห็นจะได้ครับ ยังไม่ลงตัวสักทีหนะครับ เห็นของพี่แล้วนับถือความมานะ จริง ๆ ครับ เป็นโต๊ะที่สวยงาม น่าใช้มากครับ จะติดตามผลงานต่อไปครับ ขอให้มาลงเป็นวิทยาทาน ให้กับน้อง ๆ เรื่อย ๆ นะครับ ขอบคุณอีกครั้ง จากใจครับ

ส่วนที่ 5 เดือยกลางโต๊ะ (Bench Dogs)

พื้นโต๊ะมีรูและเดือยสี่เหลี่ยมขนาด 1-1/4 x 1 นิ้ว รวม 5 ชุด ตามรูปด้านบนเดือยที่ใช้ทำจากไม้ประดู่ทรงสี่เหลียมผืนผ้ายาว  6 นิ้ว มีร่องร้อยน๊อตด้านล่างเป็นรูปตัว U เพื่อปรับสูงต่ำและยึดกับคานพื้นโต๊ะด้วยการกวดรัดหางปลา

ระยะจากกลางเดือยถึงขอบโต๊ะด้านหน้าถูกกำหนดด้วยระยะจากขอบโต๊ะถึงกึ่งกลางปากกาท้ายโต๊ะและอยู่ที่ 7 นิ้ว

การใช้งานมั่นคงแข็งแรงดีมากแต่ผมพบปัญหา 2 เรื่องจากแบบที่ทำนี้คือ

เรื่องที่1) ระยะ 7 นิ้วจากขอบโต๊ะห่างเกินไปทำให้ต้องเอี้ยวตัวเวลาไสไม้ ปัญหานี้จะรู้สึกมากกว่าเวลาใช้กบไม้แบบไทย/จีน เมื่อเทียบกับกบเหล็กแบบฝรั่ง

เรื่องที่ 2 )  ระยะระหว่างเดือย (12 ½ นิ้ว) กว้างกว่าระยะเคลื่อนตัวของปากกาท้ายโต๊ะ (9 ½ นิ้ว) ทำให้ไม้สามารถหนีบไม้บางขนาดและเกิด “จุดบอด” ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ไม่สามารถหนีบไม้ที่ยาวระหว่าง 23 ถึง 39 ซม., 63 ถึง 73 ซม. เป็นต้น

การแก้ปัญหาจุดบอดนี้ทำได้โดยการเสริมความยาวไม้ให้ตกอยู่ในช่วงที่หนีบสะดวกหรือโดยการเจาะรูเดือยเพิ่มเพื่อลดระยะระหว่างเดือยให้น้อยกว่าระยะเคลื่อนตัวของปากกาท้าย ท่านอ่านดูแล้วอาจคิดว่าผมสะเพร่าในการออกแบบซึ่งผมเห็นด้วย 100% ครับ แต่ก็ไม่ได้คิดมากเพราะขณะที่สร้างโต๊ะตัวนี้ผมอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น ปัญหาเรื่องตำแหน่งและระยะเดือยนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมได้นำไปแก้ไขในโต๊ะตัวที่สองครับ

เครื่องมือที่ใช้ในการทำโต๊ะตัวแรกนี้ส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือ “แรงคน” (Handtools) ที่ผมก็ยังใช้อยู่เกือบทุกตัวในวันนี้ครับ  มีเครื่องทุ่นแรงอยู่ 3ชิ้นเท่านั้นคือ สว่านไฟฟ้า เครื่องขัดกระดาษทรายแบบสั่น และเครื่องขัดกระดาษทรายแบบสายพาน ถ้ามีโอกาสผมจะเล่าเรื่องของเครื่องมือช่างที่ใช้อยู่และสะสมไว้รวมถึงที่อยากจะผลิตขึ้นมา ให้ฟังครับ

ที่เล่ามาก็เป็นเรื่องของโต๊ะช่างไม้ตัวแรกที่ช่วยงานช่างไม้ผมด้วยดีมากว่าค่อนชีวิต ผมดีใจและภูมิใจที่ได้ใช้กำลัง ความรู้ และความสามารถที่มีอยู่ในขณะนั้นอย่างเต็มที่เพื่อสร้างเขาขึ้นมา

สำหรับท่านที่สนใจจะสร้างโต๊ะช่างไม้ไว้ใช้ผมขอแนะนำให้ศึกษาเลือกแบบให้เหมาะกับงาน สถานที่และกำลังของท่าน อินเตอร์เน็ตคือแหล่งความรู้ที่สุดยอดครับ ผมหาความรู้จากเว็ปช่างไม้ทุกวัน วันละอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงครับ เว็ปที่ผมแนะนำให้หาความรู้เรื่องโต๊ะช่างไม้คือ http://www.workbenchdesign.net  www.popularwoodworking.com และ www.finewoodworking.com ครับ

เมื่อมั่นใจแล้วว่าจะทำขอให้ท่านใส่ความตั้งใจลงไปให้เต็มร้อยเพราะไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรท่านก็คงจะต้องอยู่กับประดิษฐกรรมของท่านไปอีกนาน และผมเชื่อว่าท่านน่าจะมีความสุขกับงานประณีตที่ท่านภูมิใจทุกครั้งที่เห็นและใช้ได้ชั่วลูกชั่วหลาน มากกว่าจะทุกข์และรำคาญใจกับเศษไม้กองโตที่จะทิ้งก็เสียดายจะทำใหม่ก็ต้องลงทุนอีกก้อนใหญ่ 

ก่อนจากกันผมมีภาพโต๊ะช่างไม้ตัวที่สองให้ดูเล่นครับ  หลังจากได้ทดลองใช้งานเขามา 2 เดือนผมอยากสรุปสั้นๆเลยครับว่า “นี่คือโต๊ะช่างไม้ในฝันของผม” ผมจะจัดหาเวลามาเล่าให้ฟังครับ 

ระหว่างนี้ท่านใดมีคำถาม ความเห็นรวมทั้งคำแนะนำใดๆ ก็ลงในกระทู้ได้เลยนะครับ

 ถ้าอยากคุยยาวก็ติดต่อผมได้ที่ 081 8241784 ครับ
         เขมทัต กรัยวิเชียร

ยอดเยี่ยมและเป็นประโยชน์มากๆเลยครับ

ผมกำลังวางแผนจะทำ workbench ตัวแรกในชีวิต 

ตอนนี้อยู่ในช่วงหาข้อมูล มาเจอกระทู้นี้พอดี

ถ้าเป็นไปได้ ในเรื่อง "โต๊ะช่างไม้ในฝันของผม" 

รบกวนช่วยลงรายละเอียดขั้นตอนและเทคนิคด้วยครับ 

จะรอติดตามอ่านนะครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณ คุณเขมทัต อีกครั้งครับ ได้ความรู้เป็นอย่างมาก ผมเองสนใจ wagon vise ตัวนี้จริงๆครับ เคยเข้าไปดูของ benchcraftedแบบtail vise ผมชอบมาก พอดีเห็นคุณเขมทัตบอกไว้ใน คหที่31ว่าwagon viseตัวนี้ทำโดยช่างไทยเราเอง ก็เลยอยากรู้ว่าทำยังไง จะรอคอยอ่านต่อครับ

 ติดตามครับ ผมกำลังสนใจและวางแผนจะทำโต๊ะงานไม้โต๊ะแรกของผมอยู่ครับ อยากจะทำไม้ประดูไม่ทราบว่าจะหาซื้อไม้จากแหล่งดี wagon vise ก็สนใจอีกเช่นกันครับ

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น คำถาม และคำนิยมครับ ผมดีใจมากที่เรื่องที่เขียนเป็นประโยชน์กับท่าน

สำหรับคำถามของ คุณเอ๋ เพาะช่าง เรื่องราคาไม้ทำโต๊ะช่างตัวนี้นั้น ราคาเมื่อปี 2518 อยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ครับ
เรื่อง Wagon Vise ที่ คุณหนุ่มm100 กับ คุณ ธัญไม้ทัย ถามถึงผมเขียนเสร็จแล้วครับ กำลังเรียบเรียงเรื่องอื่นๆอยู่ครับ โดยรวมแล้วตั้งใจจะวางโครงเรื่อง "โต๊ะช่างไม้ในฝันของผม" ดังนี้ครับ:
 

1) เจ้าของ “โต๊ช่างไม้ในฝันของผม” เป็นใคร
2) แนวคิดในการออกแบบโต๊ะในฝัน การออกแบบ
3) การเลือกซื้อไม้และการเตรียมไม้
4) ปากกาท้ายโต๊ะแบบพวงมาลัย (Wagon Vise) ชุดเดือยกลม (Round Bench Dogs) และ ปากกาแบบ Quick Release
5) เสาพยุงไม้ (Sliding Deadman)
6) กระบวนการสร้างโดยละเอียด
7) การเข้าไม้แบบต่างๆ (หางเหยี่ยว เดือยเหลี่ยม ร่องลิ้น การเพลาะไม้ การอุดรูไม้ด้วยเดือย)
8) กบไสไม้ และ การใช้กบไสไม้
9) การใช้เร้าเตอร์ทำเป็นเครื่องไสไม้
10) เกร็ดความรู้ (Tips) เกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้ รวมถึงแบบยึดงาน (Jig)

11) บทเรียนที่ได้รับ และ งบประมาณที่ใช้

เรื่องข้างต้นน่าจะครอบคลุมคำขอและคำถามที่มีมานะครับ หากมีประเด็นอื่นที่อยากทราบกรุณาแจ้งผมด้วย เพื่อที่ผมจะได้นำคำถามคำตอบเข้ารวมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่จะเล่าครับ

ผมหวังว่าเมื่อท่านผู้อ่านได้ติดตามเรื่อง "โต๊ะช่างไม้ตัวแรกของผม" และเรื่อง "โต๊ะช่างไม้ในฝันของผม" แล้วท่านจะเปลี่ยนจากการ "จดๆ จ้องๆ" แบบที่เป็นอยู่ในใจของ คุณอินจำปา คุณธัญ ไม้ทัย คุณพิพัฒน์ คุณหนุ่มm100 คุณtphen คุณจักรยุทธ และท่านประธานจ๊อด ให้มาเป็น "การเข้าทำ" ครับ

ผมเชื่อว่าการลงทุนลงแรงสร้างโต๊ะช่างไม้ที่เป็นผลงานคุณภาพ จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทั้งในด้านความรู้สึกที่จะได้รับในทันทีที่สร้างเสร็จ และในด้านผลกำไรจากมูลค่าหากท่านคิดจะขายในอนาคต

เขมทัต
 

 สนใจเรื่อง Wagon Vise มากครับ รออ่านบทความของคุณเขมทัตอยู่นะครับ เอาใจช่วยครับ

    สนับสนุนด้วยคนครับ

เป็นประโยช์นต่อคนรักงานช่างไม้มาก

ผมนึกว่าคนไทยจะทำโต๊ะงานแบบฝรั่งไม่เป็น

(อาจเพราะคิดว่าไม่สำคัญ  แต่ผมคนนึ่งเหลาะที่คิดว่ามันสำคัญมาก)

รอรับชมครับ ผมเปิดหัวข้อ โต๊ะช่างไม้ตัวแรกของผม นี้ทุกวัน

อยากไปดูให้เห็นกะตา พอจะเป็นไปได้มัยพี่

ยินดีครับ ติดต่อผมได้ที่ 081 8241784 ครับ

 สุดยอดครับ

ขอบคุณครับ คุณนฤพล

มีอีก 2 เรื่องที่อยากให้คุฯนฤพลอ่านครับ

เรื่องแรกคือเรื่อง "โต๊ะช่างไม้ในฝันของผม" ซึ่งเป็นเรื่องที่ต่อจาก โต๊ะช่างไม้ตัวแรก

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=1&No=1405009

เรื่องที่สองคือเรื่อง "งานไม้ประณีต จะเริ่มอย่างไร?" เหมาะสำหรับมือใหม่ทุกท่านที่อยากหัดทำงานไม้ประณีต และเหมาะสำหรับผู้ที่อยากได้โต๊ะช่างไม้ที่ใช้ได้จริง ราคาไม่แพง ใช้เวลาทำไม่มาก ครับ

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=1&No=1429630

 สวัสดีครับคุณเขมทัต

โชคดีจริง ๆ ที่ได้เห็นผลงานคุณเขมทัตในเวบนี้  ต้องขอ copy ไว้เป็นแบบด้วยครับ  เพิ่งทราบว่าคุณเขมทัตเป็นช่างไม้ตั้งแต่อายุุ 14  ส่วนผมเพิ่งมาเิริ่มเอาตอน 54 - 55  (2-3 ปีนี้เอง)

ยังได้เล่นบิลเลียร์ดบ้างหรือไม่ครับ

เรียนคุณชาญชัย

ดีใจที่คุณชาญชัยสนใจงานไม้ครับ มีอะไรที่อยากจะให้ผมช่วย ติดต่อมาได้ที่ 081 8241784 ทันทีเลยนะครับ

เรื่องโต๊ะช่างไม้ที่ผมเขียนมีอีกสองเรื่องคือเรื่อง "โต๊ะช่างไม้ในฝันของผม" ตามลิงค์นี้ 

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=1&No=1405009   

และเรื่อง "โต๊ะช่างไม้ใกล้เอื้อม" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระทู้เรื่อง "ทำงานไม้ประณีต จะเริ่มอย่างไร?" ตามลิงค์นี้ครับ

http://www.thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=thaicarpentercom&thispage=1&No=1429630

ผมไม่ได้เล่นบิลเลียด และสนุกเกอร์ มา 5 ปีกว่าแล้วครับ

     สวยๆทุกตัวเลยครับ ของผมทุกอย่ลางพร้อมแล้ว ไม้เครื่องไม้เครื่องมือ ขาดอย่างเดียวคือฝีมือรอสะสมจากข้อมูลจากทุกๆท่่านก่อนครับ

 ขอบคุณครับ

ที่จุดประกาย ให้ผม

ขอบคุณครับ

 ..มือใหม่ต้องมาอ่านครับ ความรู้เยอะดี..

                                       ขอขอบคุณในความเมตตาสำหรับความรู้ครับ "ครู"

ขอบคุณครับ

 Why couldn"t I have the same or similar opinions as you?   T^T I hope you also visit my blog and give us a good opinion. casino online